xs
xsm
sm
md
lg

"ฟังก์ชันนัลฟู้ด-ดริงก์"จ่อบุกไทยรับเอฟทีเอไทย-ญี่ปุ่น"ซีพี-เมจิ"ชูบิวติไบรตต์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน –  ซีพี–เมจิ ประกาศรุกโฟกัสฟังก์ชันนัลโปรดักส์เต็มสูบ รับเทรนด์ปี 2551 ฟังก์ชันนัล ฟูดส์-ดริงก์แจ้งเกิด ทัพสินค้าไทย ญี่ปุ่นอาศัยเอฟทีเอ เฮโรส่งสินค้ายึดหัวหาด “ซีพีฯ” นำร่องปั้น บิวติ ไบรตต์ คัพโยเกิร์ตโคลีน คอลลาเจน รับมือจุดเปลี่ยนสมรภูมิโยเกิร์ต สร้างพฤติกรรมกินเพื่อประโยชน์มากกว่ากินเล่น ปีแรกหวังแชร์ 5% ตั้งเป้า 3-5 ปี รั้งอันดับสองแทนที่บีทาเก้น      

แหล่งข่าวจากบริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายคัพโยเกิร์ตซีพี-เมจิ เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า นโยบายของบริษัทฯหันมามุ่งเน้นสินค้ากลุ่มฟังก์ชันนัลหรือสินค้าที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเฉพาะด้านในเชิงรุกมากขึ้น โดยภาพลักษณ์ดังกล่าวจะเริ่มเห็นอย่างชัดเจนในปีหน้านี้ เนื่องจากมองว่าเทรนด์ฟังก์ชันนัลดริงก์และฟู้ดเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และกำลังแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในปีหน้านี้ โดยจะมีสินค้าเปิดตัวหลากหลายยี่ห้อ หลังจากในช่วง 2-3 ปี มีเพียงเครื่องดื่มไม่กี่แบรนด์ อาทิ ไอเฟิร์ม และอะมิโน โอเค เป็นผู้สร้างตลาด ทั้งนี้เป็นเพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป เริ่มมองสินค้าเพื่อสุขภาพ มีประโยชน์ต่อร่างกาย คุ้มค่ากับค่าเม็ดที่จ่ายไป
สำหรับความเคลื่อนไหวในปลายนี้ มีสินค้าเป็นจำนวนมากเริ่มเปิดตัว อาทิ โออิชิ คลอลาฟิลล์ ,เปปทีน 4000  ของค่ายโอสถสภา จากข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ระหว่างไทยกับญี่ปุ่นซึ่งได้เริ่มแล้ว จะส่งผลให้เครื่องดื่มและอาหารโดยเฉพาะกลุ่มฟังก์ชันนัลเข้ามาทำตลาดมากขึ้น เนื่องจากเป็นประเทศที่มีสินค้ากลุ่มฟังก์ชันนัลที่หลากหลาย ในเรื่องดังกล่าวมองว่าผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัว เพื่อเตรียมรับมือกับการแข่งขัน  สำหรับบริษัทติดตามความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นสถานการณ์ที่ต้องเฝ้าระวัง อย่างไรก็ตามการทำตลาดเกี่ยวกับอาหารหรือเครื่องดื่มก็ตาม สิ่งสำคัญคือรสชาติต้องนำก่อน ซึ่งในส่วนนี้เชื่อว่าผู้ประกอบการไทยมีความได้เปรียบกว่าต่างประเทศ

**ระเบิดสินค้าฟังก์ชันนัลคัพโยเกิร์ต**
แหล่งข่าวบริษัท ซีพี-เมจิ กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำตลาดสินค้ากลุ่มฟังก์ชันนัล บริษัทฯได้เปิดตัวคัพโยเกิร์ต “บิวติ ไบรตต์" ด้วยนวัตกรรมใหม่ 2 รสชาติ ได้แก่ คอลลาเจนบีท มีคุณค่าเกี่ยวกับผิวพรรณ  และโคลีน บีท ให้คุณค่าทางสมอง ขนาด 90 กรัม ราคา 10 บาท ราคาแพงกว่าคัพโยเกิร์ต ปกติ ขนาด 140-150 กรัม ราคา 11 บาท  เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยทำงานที่ใส่ใจสุขภาพ และกลุ่มนักศึกษา  นำร่องจำหน่ายผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น ทั้งนี้หากได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีวางแผนจะส่งขนาด 140-150 กรัม ราคา 15 บาท วางจำหน่าย  
แนวโน้มตลาดคัพโยเกิร์ตมูลค่า 2,000 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 25% และในปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 15-20% ซึ่งพฤติกรรมการกินโยเกิร์ตของคนไทย ยังเป็นลักษณะของการกินเล่นเป็นของว่างระหว่างมื้อ  อีกทั้งยังติดที่ว่ารสชาติต้องนำมากกว่าที่กินเพื่อสุขภาพ คัพโยเกิร์ตเป็นสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพอยู่แล้ว แต่ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดทำตลาดอย่างจริงจัง ซึ่งที่ผ่านมาการแข่งขันมักจะเน้นในเรื่องของรสชาติ และตัวผลไม้ ตลอดจนโยเกิร์ตโลว์แฟต ซีโร่แฟต เป็นต้น ดังนั้นคาดว่าการแข่งขันจึงมาในรูปแบบฟังก์ชันนัลมากขึ้น เพื่อขยายฐานลูกค้าและสร้างตลาดให้เติบโต
การทำตลาดฟังก์ชันนัลคัพโยเกิร์ต ต้องใช้เวลาให้ข้อมูลความรู้ผ่านการสื่อสารแมกกาซีน เพราะสามารถกล่าวถึงคุณประโยชน์ได้อย่างเต็มรูปแบบ ส่วนในสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์จะออกมาในรูปแบบอีโมชันนัลและฟังก์ชันนัลผสมผสานกัน เนื่องจากติดข้อจำกัดจากคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. หรือกระทั่งการจัดกิจกรรมเพื่อสะท้อนถึงความเป็นแบรนด์ สำหรับงบการตลาดของบริษัทวางไว้ 10 ล้านบาท ในรูปแบบอะโบฟเดอะไลน์ และบีโลว์เดอะไลน์ โดยช่วงแรกเน้นการแจกสินค้าตัวอย่างให้ผู้บริโภคทดลองชิม
สำหรับในปีแรกของการเปิดตัวกลุ่มฟังก์ชันนัลคัพโยเกิร์ตบิวติ ไบรตต์ ตั้งเป้ามีส่วนแบ่ง 5%  โดยปัจจุบันซีพี เมจิมีส่วนแบ่งโดยรวม 10% เป็นอันดับ 3 ของตลาด ตั้งเป้า 3-5 ปีจะขึ้นเป็นอันดับ 2 แทนที่บีทาเก้นซึ่งมีส่วนแบ่งมากกว่า 10% ส่วนผู้นำตลาดดัชชี่ ครองส่วนแบ่ง 65-70%
กำลังโหลดความคิดเห็น