สำนักพระราชวังแถลงการณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงบริหารพระวรกาย พละกำลังพระวรกายแข็งแรงขึ้น และทรงพระดำเนินโดยไม่ต้องใช้เครื่องช่วยพยุงในระยะใกล้ได้ เสวยพระกระยาหารได้เป็นปกติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถมีพระราชปฏิสันถารกับประชาชนที่รอรับเสด็จ “"พ่อหลวงหายแล้ว สุขภาพแข็งแรง” ยายวัย 72 เผยดีใจหากเสด็จกลับในเร็ววัน ขณะที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ พระอาการไข้ลดลง ทรงรู้พระองค์มากขึ้น และประทับรถเข็นได้บ้าง
วานนี้ (6 พ.ย.) สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 25 ความว่า คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงบริหารพระวรกาย พละกำลังพระวรกายแข็งแรงขึ้น และทรงพระดำเนินโดยไม่ต้องใช้เครื่องช่วยพยุงในระยะใกล้ได้ เสวยพระกระยาหารได้เป็นปกติ
วันเดียวกัน สำนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์เรื่อง สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระประชวร ฉบับที่ 13 ความว่า คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ รายงานว่าพระอาการไข้ลดลง ทรงรู้พระองค์มากขึ้น ประทับ(นั่ง)บนพระแท่น(เตียง) และประทับรถเข็นได้บ้าง คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาได้ถวายพระโอสถปฏิชีวนะและกายภาพบำบัดต่อไป
พระราชินีตรัสในหลวงหายแล้ว
นางสมจิต พานทอง อายุ 51 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 5 พ.ย.ท่ผ่านมา สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเพื่อเข้าเฝ้าละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ และเสด็จลงมาจากชั้น 16 เวลาประมาณ 02.00 น.ซึ่งตนเอฝได้เฝ้ารอรับเสด็จฯ อยู่บริเวณใต้อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช โดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชปฏิสันถารประชาชนที่รอรับเสด็จว่า "พ่อหลวงหายแล้ว สุขภาพแข็งแรง ขอบใจทุกๆ คนนะ" ซึ่งประชาชนที่เฝ้ารอรับเสด็จอยู่บริเวณดังกล่าว ต่างพร้อมใจกันเปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ"
"รู้สึกปลาบปลื้มดีใจ เป็นบุญบารมีที่ได้มารอรับเสด็จฯ พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เมื่อทราบว่าพระอาการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวดีขึ้น จนหายเป็นปกติก็รู้สึกดีใจ เพราะพระองค์เปรียบเสมือนร่มโพธิ์ ร่มไทรของประชาชนชาวไทยทุกคน"
รพ.ศิริราชขออย่าเสียงดัง
บรรยากาศการลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่ศาลาศิราช 100 ปี ยังคงมีประชาชนเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้นำสิ่งของต่างๆ ทูลเกล้าฯ ถวายทั้ง 2 พระองค์
นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการงดใช้เสียงตั้งช่วงเวลา 20.00 น.เป็นต้นไปเป็นอย่างดี แต่ในช่วงเวลากลางวัน ซึ่งประชาชนอาจจัดการแสดงมาถวายพระพร หากมีการใช้เสียงดังตนเองก็จะลงมาตักเตือน ส่วนบริเวณศาลาศิริราช 100 ปี มอบให้ทางสำนักพระราชวังดูแลความเรียบร้อยในการใช้เสียง
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนอย่าใช้เครื่องขยายเสียงทั้งในบริเวณอาคารศิริราช 100 ปี และบริเวณลานพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ป่วยของทางโรงพยาบาล
ต่อมา ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.เหลือพร ปุณณกัณต์ กรรมการผู้จัดการศิริราชมูลนิธิ นำปฏิทินปี 2551 พระบรมฉายาลักษณ์ พระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และพระบรมฉายาลักษณ์ครั้งทรงพระเยาว์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทูลเกล้าฯ ถวาย จำนวน 5,000 แผ่น
ส่วนบุคคล และคณะบุคคลต่างๆ ที่เดินทางมาลงนามถวายพระพรนอกเหนือจากนี้ ได้แก่ นายประวิทย์ มาลีนนท์ และคณะดารา-ผู้จัดสถานีโทรทัศน์สีช่อง 3,นางมยุรี ศรีนาค ผอ.ร.ร.วัดสระแก้ว ต.บางเสด็จ อ.ป่าโมกข์ จ.อ่างทองและคณะนักเรียน,นายฉาย ขวัญเต่า ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน จ.สมุทรสาคร, พระครูสังฆรักษ์ ณัฐกรณ์ ผอ.สถานีวิทยุพุทธศาสนา เอฟเอ็ม 96 เมกะเฮิรตซ์ จ.เชียงใหม่และคณะ, นางพรรณี นิลสิทธิ์ รอง ผอ.ร.ร.วัดแจงร้อนและคณะ,คณะนักเรียน ร.ร.ปัญญาวุฒิกร มูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทยและคณะ,กองลูกเสือสมุทร ร.ร.สุวรรณารามวิทยาคม กทม. เป็นต้น
พระบรมฯ พระราชทานขนมเปี๊ยะ
เวลาประมาณ 15.00 น.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ โปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ท.ภักดี แสงชูโต ผู้แทนพระองค์กองกิจการในพระองค์ฯ นำขนมเปี๊ยะพระราชทาน จำนวน 4,000 ถุง บรรจุถุงละ 4 ชิ้น มาแจกจ่ายประชาชน โดยมีประชาชนต่อแถวเพื่อรอรับขนมพระราชทานยาวเหยียด
ต่อมา พระมหาบุญถึง ชุตินธโร เจ้าอาวาสวัดตะล่อม นำพระสงฆ์ที่เข้ามาศึกษาที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จำนวน 44 รูปจาก 8 ประเทศ ได้แก่ ศรีลังกา อินเดีย บังคลาเทศ เวิยดนาม ลาว กัมพูชา เนปาล และพม่ามาลงนามถวายพระพร
สำรับบุคคลสำคัญที่เดินทางมาลงนามถวายพระพร ในช่วงบ่าย ได้แก่ รศ.นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ผอ.รพ.จุฬาลงกรณ์, นพ.หม่อมหลวงสมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่สภากาชาดไทย, พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี,นายเชาว์ ณ ศีลวันต์ องคมนตรี,อาสาสมัครทหารพราน ค่ายปักธงชัย ,คณะกรรมการรางวัลนานาชาติ มูลนิธิรางวัลเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์
ยายวัย 72 เผยดีใจหากเสด็จกลับในเร็ววัน
นางสมหมาย จุฑางกูร อายุ 72 ปี ชาว กทม.กล่าวว่า นับตั้งแต่ได้รับทราบพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ได้เดินทางมาลงนามถวายพระพร ที่ รพ.ศิริราช 7 ครั้งแล้ว แต่ละครั้งก็จะเดินทางมาตั้งแต่เช้าถึง 17.00 น. เพราะหากไม่ได้มาอยู่ที่บ้านก็จะรู้สึกกระวนกระวายใจ ขอเพียงได้มาอยู่ที่ศิริราชก็มีความสุขแล้ว
“ยายสงสารในหลวง และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ที่ทรงมีพระอาการประชวร หากพระองค์เสด็จฯ กลับก็ดีใจ และหากกลับจากโรงพยาบาลได้ในวัน สองวันนี้ก็ดีใจมาก เพราะนั่นแสดงว่าทรงมีพระสุขภาพที่แข็งแรง ที่ผ่านมาภาวนาให้ในหลวง และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงมีอายุยิ่งยืนนานเป็นหมื่นๆ ปี ถึงแม้ว่าในหลวงจะเสด็จฯ กลับ แต่หากสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ยังคงพำนักรักษาพระวรกายที่ รพ.ศิริราช ยายก็จะมาที่ศิริราชเพื่อติดตามพระอาการประชวรของพระองค์ต่อไป”
4 องค์กรจัดงานเฉลิมพระเกียรติยิ่งใหญ่
วันเดียวกันที่ รร.ปริ๊นซ์พาเลซ มหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) พร้อมด้วยนายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา นายเฉลิมเกียรติ แสนวิเศษ เลขาธิการ กปร.นายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ได้จัดให้มีการแถลงข่าวโครงการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ปวงประชาเป็นสุขศานต์ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550
นายเฉลิมเกียรติกล่าวว่า นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ปวงประชาเป็นสุขศานต์ กำหนดจัดขึ้นเป็นเวลา 7 วัน ระหว่างวันที่ 29 พ.ย.-5 ธ.ค. ณ HALL 9 อาคารคอนเวนชั่น ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี โดยจะเป็นการแสดงเนื้อหาข้อมูลที่ได้จำแนกเป็น 8 ทศวรรษ เริ่มตั้งแต่ทศวรรษที่ 1 พระบรมราชสมภพ ทศวรรษที่ 2 นพมหาจักรี ทรงพระปรีชาชาญเพิ่มพูน ทศวรรษที่ 3 แรกเริ่มทรงเรียนรู้เพื่อประชาชน ทศวรรษที่ 4 ทรงคิดค้นส่งเสริมการศึกษา และพัฒนางานส่วนพระองค์ ทศวรรษที่ 5 กษัตริย์ผู้ทรงงานหนักในการสร้างรากฐานพัฒนาคน ทศวรรษที่ 6 ทรงค้นคว้ารูปแบบการบริหารจัดการแนวใหม่ศูนย์ศึกษาการพัฒนา : พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต ทศวรรษที่ 7 ทรงสาธิตการแก้ไขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติน้ำ ดิน ป่า และทศวรรษที่ 8 80 พรรษา ปวงประชาเป็นสุขศานต์
นอกจากนี้ยังมีการแสดงของมูลนิชัยพัฒนา เป็นการแสดงอุโมงค์เวลาซึ่งจะได้พบกับระบบแสงสีอันทันสมัย จอม่านน้ำฉายวีดีทัศน์ ด้านการพัฒนาและพระมหากรุณาธิคุณ การแสดงหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงและวิถีชีวิตจาก 4 ภาคทั่วประเทศ รวมทั้งการแสดงต้นแบบการพัฒนาและผลสำเร็จจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้ง 6 ศูนย์ ด้านพลังงานทดแทน ตลอดจนการบรรยายพิเศษโดยองคมนตรีและผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่านที่ได้ทำงานถวายในหลายยุคหลายสมัย
ทั้งนี้ ผู้เข้าชมงานจะได้รับของที่ระลึก เช่น หนังสือประมวลภาพเฉลิมพระเกียรติ 8 ทศวรรษแห่งการพัฒนา แผ่นภาพชุด 80 พรรษา ปวงประชาเป็นสุขศานต์ หนังสือตามรอยเบื้องพระยุคลบาทหลักการทรงงาน เป็นต้น
วานนี้ (6 พ.ย.) สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 25 ความว่า คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงบริหารพระวรกาย พละกำลังพระวรกายแข็งแรงขึ้น และทรงพระดำเนินโดยไม่ต้องใช้เครื่องช่วยพยุงในระยะใกล้ได้ เสวยพระกระยาหารได้เป็นปกติ
วันเดียวกัน สำนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์เรื่อง สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระประชวร ฉบับที่ 13 ความว่า คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ รายงานว่าพระอาการไข้ลดลง ทรงรู้พระองค์มากขึ้น ประทับ(นั่ง)บนพระแท่น(เตียง) และประทับรถเข็นได้บ้าง คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาได้ถวายพระโอสถปฏิชีวนะและกายภาพบำบัดต่อไป
พระราชินีตรัสในหลวงหายแล้ว
นางสมจิต พานทอง อายุ 51 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 5 พ.ย.ท่ผ่านมา สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเพื่อเข้าเฝ้าละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ และเสด็จลงมาจากชั้น 16 เวลาประมาณ 02.00 น.ซึ่งตนเอฝได้เฝ้ารอรับเสด็จฯ อยู่บริเวณใต้อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช โดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชปฏิสันถารประชาชนที่รอรับเสด็จว่า "พ่อหลวงหายแล้ว สุขภาพแข็งแรง ขอบใจทุกๆ คนนะ" ซึ่งประชาชนที่เฝ้ารอรับเสด็จอยู่บริเวณดังกล่าว ต่างพร้อมใจกันเปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ"
"รู้สึกปลาบปลื้มดีใจ เป็นบุญบารมีที่ได้มารอรับเสด็จฯ พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เมื่อทราบว่าพระอาการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวดีขึ้น จนหายเป็นปกติก็รู้สึกดีใจ เพราะพระองค์เปรียบเสมือนร่มโพธิ์ ร่มไทรของประชาชนชาวไทยทุกคน"
รพ.ศิริราชขออย่าเสียงดัง
บรรยากาศการลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่ศาลาศิราช 100 ปี ยังคงมีประชาชนเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้นำสิ่งของต่างๆ ทูลเกล้าฯ ถวายทั้ง 2 พระองค์
นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการงดใช้เสียงตั้งช่วงเวลา 20.00 น.เป็นต้นไปเป็นอย่างดี แต่ในช่วงเวลากลางวัน ซึ่งประชาชนอาจจัดการแสดงมาถวายพระพร หากมีการใช้เสียงดังตนเองก็จะลงมาตักเตือน ส่วนบริเวณศาลาศิริราช 100 ปี มอบให้ทางสำนักพระราชวังดูแลความเรียบร้อยในการใช้เสียง
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนอย่าใช้เครื่องขยายเสียงทั้งในบริเวณอาคารศิริราช 100 ปี และบริเวณลานพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ป่วยของทางโรงพยาบาล
ต่อมา ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.เหลือพร ปุณณกัณต์ กรรมการผู้จัดการศิริราชมูลนิธิ นำปฏิทินปี 2551 พระบรมฉายาลักษณ์ พระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และพระบรมฉายาลักษณ์ครั้งทรงพระเยาว์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทูลเกล้าฯ ถวาย จำนวน 5,000 แผ่น
ส่วนบุคคล และคณะบุคคลต่างๆ ที่เดินทางมาลงนามถวายพระพรนอกเหนือจากนี้ ได้แก่ นายประวิทย์ มาลีนนท์ และคณะดารา-ผู้จัดสถานีโทรทัศน์สีช่อง 3,นางมยุรี ศรีนาค ผอ.ร.ร.วัดสระแก้ว ต.บางเสด็จ อ.ป่าโมกข์ จ.อ่างทองและคณะนักเรียน,นายฉาย ขวัญเต่า ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน จ.สมุทรสาคร, พระครูสังฆรักษ์ ณัฐกรณ์ ผอ.สถานีวิทยุพุทธศาสนา เอฟเอ็ม 96 เมกะเฮิรตซ์ จ.เชียงใหม่และคณะ, นางพรรณี นิลสิทธิ์ รอง ผอ.ร.ร.วัดแจงร้อนและคณะ,คณะนักเรียน ร.ร.ปัญญาวุฒิกร มูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทยและคณะ,กองลูกเสือสมุทร ร.ร.สุวรรณารามวิทยาคม กทม. เป็นต้น
พระบรมฯ พระราชทานขนมเปี๊ยะ
เวลาประมาณ 15.00 น.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ โปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ท.ภักดี แสงชูโต ผู้แทนพระองค์กองกิจการในพระองค์ฯ นำขนมเปี๊ยะพระราชทาน จำนวน 4,000 ถุง บรรจุถุงละ 4 ชิ้น มาแจกจ่ายประชาชน โดยมีประชาชนต่อแถวเพื่อรอรับขนมพระราชทานยาวเหยียด
ต่อมา พระมหาบุญถึง ชุตินธโร เจ้าอาวาสวัดตะล่อม นำพระสงฆ์ที่เข้ามาศึกษาที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จำนวน 44 รูปจาก 8 ประเทศ ได้แก่ ศรีลังกา อินเดีย บังคลาเทศ เวิยดนาม ลาว กัมพูชา เนปาล และพม่ามาลงนามถวายพระพร
สำรับบุคคลสำคัญที่เดินทางมาลงนามถวายพระพร ในช่วงบ่าย ได้แก่ รศ.นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ผอ.รพ.จุฬาลงกรณ์, นพ.หม่อมหลวงสมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่สภากาชาดไทย, พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี,นายเชาว์ ณ ศีลวันต์ องคมนตรี,อาสาสมัครทหารพราน ค่ายปักธงชัย ,คณะกรรมการรางวัลนานาชาติ มูลนิธิรางวัลเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์
ยายวัย 72 เผยดีใจหากเสด็จกลับในเร็ววัน
นางสมหมาย จุฑางกูร อายุ 72 ปี ชาว กทม.กล่าวว่า นับตั้งแต่ได้รับทราบพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ได้เดินทางมาลงนามถวายพระพร ที่ รพ.ศิริราช 7 ครั้งแล้ว แต่ละครั้งก็จะเดินทางมาตั้งแต่เช้าถึง 17.00 น. เพราะหากไม่ได้มาอยู่ที่บ้านก็จะรู้สึกกระวนกระวายใจ ขอเพียงได้มาอยู่ที่ศิริราชก็มีความสุขแล้ว
“ยายสงสารในหลวง และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ที่ทรงมีพระอาการประชวร หากพระองค์เสด็จฯ กลับก็ดีใจ และหากกลับจากโรงพยาบาลได้ในวัน สองวันนี้ก็ดีใจมาก เพราะนั่นแสดงว่าทรงมีพระสุขภาพที่แข็งแรง ที่ผ่านมาภาวนาให้ในหลวง และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงมีอายุยิ่งยืนนานเป็นหมื่นๆ ปี ถึงแม้ว่าในหลวงจะเสด็จฯ กลับ แต่หากสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ยังคงพำนักรักษาพระวรกายที่ รพ.ศิริราช ยายก็จะมาที่ศิริราชเพื่อติดตามพระอาการประชวรของพระองค์ต่อไป”
4 องค์กรจัดงานเฉลิมพระเกียรติยิ่งใหญ่
วันเดียวกันที่ รร.ปริ๊นซ์พาเลซ มหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) พร้อมด้วยนายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา นายเฉลิมเกียรติ แสนวิเศษ เลขาธิการ กปร.นายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ได้จัดให้มีการแถลงข่าวโครงการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ปวงประชาเป็นสุขศานต์ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550
นายเฉลิมเกียรติกล่าวว่า นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ปวงประชาเป็นสุขศานต์ กำหนดจัดขึ้นเป็นเวลา 7 วัน ระหว่างวันที่ 29 พ.ย.-5 ธ.ค. ณ HALL 9 อาคารคอนเวนชั่น ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี โดยจะเป็นการแสดงเนื้อหาข้อมูลที่ได้จำแนกเป็น 8 ทศวรรษ เริ่มตั้งแต่ทศวรรษที่ 1 พระบรมราชสมภพ ทศวรรษที่ 2 นพมหาจักรี ทรงพระปรีชาชาญเพิ่มพูน ทศวรรษที่ 3 แรกเริ่มทรงเรียนรู้เพื่อประชาชน ทศวรรษที่ 4 ทรงคิดค้นส่งเสริมการศึกษา และพัฒนางานส่วนพระองค์ ทศวรรษที่ 5 กษัตริย์ผู้ทรงงานหนักในการสร้างรากฐานพัฒนาคน ทศวรรษที่ 6 ทรงค้นคว้ารูปแบบการบริหารจัดการแนวใหม่ศูนย์ศึกษาการพัฒนา : พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต ทศวรรษที่ 7 ทรงสาธิตการแก้ไขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติน้ำ ดิน ป่า และทศวรรษที่ 8 80 พรรษา ปวงประชาเป็นสุขศานต์
นอกจากนี้ยังมีการแสดงของมูลนิชัยพัฒนา เป็นการแสดงอุโมงค์เวลาซึ่งจะได้พบกับระบบแสงสีอันทันสมัย จอม่านน้ำฉายวีดีทัศน์ ด้านการพัฒนาและพระมหากรุณาธิคุณ การแสดงหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงและวิถีชีวิตจาก 4 ภาคทั่วประเทศ รวมทั้งการแสดงต้นแบบการพัฒนาและผลสำเร็จจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้ง 6 ศูนย์ ด้านพลังงานทดแทน ตลอดจนการบรรยายพิเศษโดยองคมนตรีและผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่านที่ได้ทำงานถวายในหลายยุคหลายสมัย
ทั้งนี้ ผู้เข้าชมงานจะได้รับของที่ระลึก เช่น หนังสือประมวลภาพเฉลิมพระเกียรติ 8 ทศวรรษแห่งการพัฒนา แผ่นภาพชุด 80 พรรษา ปวงประชาเป็นสุขศานต์ หนังสือตามรอยเบื้องพระยุคลบาทหลักการทรงงาน เป็นต้น