มารผจญ! ลิ่วล้อแม้วยกขบวนกว่าร้อยคนบุกวัดชนะสงคราม ขวาง “สนธิ ลิ้ทองกุล” บวช 7 พ.ย. นี้ อ้างมั่วขาดคุณสมบัติ แถมด่าทอด้วยถ้อยคำที่หยาบคายจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นชาวพุทธ เผยบางคนก็สวมเสื้อยืดปักสัญลักษณ์พีทีวี คาดผ้าโพกศีรษะที่มีข้อความว่า "คมช.ออกไป" แถมจำนวนมากมีสภาพผมเผ้าหนวดเครารุงรัง และมีท่าทางน่ากลัว
จากการกรณีที่ "นายสนธิ ลิ้มทองกุล" ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน และสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ได้แสดงเจตนารมณ์ที่จะอุปสมบทในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2550 ที่พระอุโบสถวัดชนะสงครามฯ นั้น
วานนี้ (30 ต.ค.) เวลาประมาณ 12.45 น. สภาเครือข่ายชาวพุทธแห่งชาติ (สพช.) ประมาณ 100 คน นำโดยนายสุเวส อันตรี ประธานสภาเครือข่ายชาวพุทธแห่งชาติ (สพช.) ได้เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณวัดชนะสงครามฯ เพื่อยื่นหนังสือต่อสมเด็จพระมหาธีราจารย์ คัดค้านการบวชของนายสนธิ โดยในหนังสือดังกล่าวระบุว่า
ด้วยนายสนธิ ลิ้มทองกุลได้แถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 27 ต.ค.50 ว่าจะอุปสมบท ณ วัดชนะสงคราม โดยมีเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม เป็นพระอุปปัชฌาย์ ในวันพุธที่ 7 พ.ย. เวลา 09.00 น. สภาเครือข่ายชาวพุทธแห่งชาติจะชุมนุมคัดค้านการอุปสมบทของนายสนธิ เนื่องจากเป็นบุคคลที่ขัดต่อพระธรรมวินัย และเป็นอันตรายต่อพระพุทธศาสนาอย่างร้ายแรง ดังนี้
1.นายสนธิ เป็นบุคคลที่มีคดีความเข้าสู่การพิจารณาในขั้นศาลหลายคดี 2. นายสนธิ เป็นบุคคลที่มีหนี้สิ้นล้นพ้นตัว 3. นายสนธิ เป็นบุคคลที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดความแตกแยกขึ้นในสังฆมณฑล อันเป็นฉายาแห่งสังฆเภท จึงเป็นบุคคลต้องห้ามอุปสมทบตามพระธรรมวินัยอย่างเด็ดขาด หากให้การอุปสมบทให้แก่นายสนธิ ก็จะนำมาซึ่งความร้าวฉานในสังฆมณฑลอย่างไม่เคยมีมาก่อน 4.หากให้การอุปสมบทแก่นายสนธิ นอกจากจะไม่ทำให้สำเร็จความเป็นพระภิกษุแล้ว ยังจะเป็นเหตุให้พระอุปัชฌาย์ต้องอาบัติ เพราะให้การอุปสมบทต่อบุคคลต้องห้ามอีกด้วย
ทั้งนี้ สภาเครือข่ายชาวพุทธแห่งชาติ จะเคลื่อนไหวให้ถึงที่สุดจนกว่าจะได้รับคำตอบที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้บุคคลดังกล่าวเข้ามาทำความมัวหมองให้แก่พระพุทธศาสนาอีกต่อไป
จากนั้น นายสุเวส ได้ยื่นหนังสือคัดค้านการบวชของนายสนธิ โดยมี นายสมพร นิยมวานิช เจ้าหน้าที่วัดชนะสงคราม เป็นผู้รับหนังสือแทน นายสุเวส กล่าวภายหลังยื่นหนังสือว่า นายสนธิ ขาดคุณสมบัติกล่าวคือเมื่อวันที่ 29 มี.ค. ศาลได้มีคำสั่งจำคุก นายสนธิเป็นเวลา 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา แต่นายสนธิ ได้ขอประกันตัว ดังนั้นจึงอยู่ระหว่างพิจารณา แค่นี้ก็นับได้ว่าขาดคุณสมบัติที่จะบวช
ด้าน นายสมพร กล่าวว่า เมื่อเดือนพ.ค. นายสนธิ มาขออุปสมบทกับเจ้าอาวาส ซึ่งกำหนดวันที่ 7 พ.ย. แต่โดยตามหลักพระพุทธศาสนา บุคคลใดที่จะขอบวชได้นั้น ต้องผ่านการรับรองจากสำนักงานเขตท้องที่ และสถานีตำรวจ โดยจะต้องตรวจสอบคุณสมบัติว่า เป็นบุคคลต้องห้าม ดังนี้หรือไม่
ทั้งนี้ ทางวัดชนะสงคราม ทราบมาว่า นายสนธิ อยู่ระหว่างการประกันตัวและการพิจารณายังไม่ถือว่าสิ้นสุด ประกอบกับยังไม่มีการรับรองจากสำนักงานเขต และสถานีตำรวจ ดังนั้นนายสนธิ จึงไม่สามารถบวชได้ จนกว่าจะมีการเซ็นรับรอง เจ้าอาวาสถึงจะอุปสมบทได้
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า การออกมาให้สัมภาษณ์ของ นายสมพรในครั้งนี้นั้น มีความผิดปกติ เนื่องจากมีแนวโน้มว่าน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันกับนายสุเวส หรือไม่ เพราะนายสมพร ไม่น่าจะมีสิทธิที่จะออกมาแสดงความคิดเห็นได้
สำหรับบรรดามารผจญที่เดินทางมาขวางการบวชในครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ใช้ถ้อยคำที่หยาบคาบด่าทอนายสนธิอย่างที่ไม่น่าจะเป็นชาวพุทธได้ หนำซ้ำบางคนก็สวมเสื้อยืดปักสัญลักษณ์ พีทีวี และแกนนำบางคนก็คาดผ้าโพกศีรษะที่มีข้อความว่า "คมช.ออกไป" และอีกจำนวนมาก มีสภาพผมเผ้าหนวดเครารุงรัง และมีท่าทางน่ากลัว
จากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า กลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มเดียวกับเครือข่ายภาคประชาชนพิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ผู้ซึ่งเคยไปเคลื่อนไหวด่าทอศาล กรณีตัดสินจำคุกอดีต 3 กกต. จนโดนข้อหาหมิ่นศาลไปแล้ว และขณะนี้กำลังขะมักเขม้นกับผลงานชิ้นใหม่ คือเคลื่อนไหวคัดค้านภาพภิกษุสันดานกา โดยอ้างว่าเป็นภาพที่ดูหมิ่นสงฆ์ และทำลายพระพุทธศาสนา
อนึ่ง หลังจากที่ข่าวนี้เผยแพร่ทางเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ ปรากฏว่า ชุมชนชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการกระทำของกลุ่ม สพช. เป็นจำนวนมาก เช่น
คุณแจวที่บอกว่า “อะไรกันเนี่ย ทำไมมันเลวทรามต่ำช้าแบบนี้ ไม่เคยพบเคยเห็น อ้างข้างๆ คู ก็ทำได้ เฮ้อ มันเลวหาที่เปรียบไม่ได้จริงๆ พวกเราไปส่งคุณสนธิกันดีกว่า” ขณะที่คุณคนกลาง บอกว่า “ขออนุโมทนาบุญด้วยใจจริงค่ะ เป็นธรรมดาหากจะทำดีมักจะมีมารผจญ พวกนี้บาปอยู่แล้ว สักวันนรกจะมารับตัวไป ที่จริงบวชไม่ต้องบอกว่าบวชที่ไหนก็ได้ เสร็จแล้วค่อยแจ้งให้ญาติสนิทมิตรสหายอนุโมทนาบุญ บอกไปแก๊งมารรู้หมด พวกมารจัดตั้งยกเอาองค์กรนั้นองค์กรนี้มาอ้าง
หรือคุณพันธมิตร ที่บอกว่า “วันที่ 7 จะไปปราบไอ้พวกมารผจญ ลิ่วล้อเหลี่ยมทั้งหลาย เห็นคุณสนธิ ถอยหน่อยเดียว ทำเป็นเหิมเกริม ไม่กลัวบาปกลัวกรรม จิตใจของคุณสนธิสงบอยู่แล้วไม่ต้อสนใจทางโลกครับ เข้าสู่ทางธรรมเถิด ส่วนทางโลกให้พวกเราจัดการเอง เดรัจฉานพวกนี้ไม่คณามือพวกเราพันธมิตรหรอก ขออนุโมทนาคุณสนธิครับ พวกเราพันธมิตรจะไปร่วมงานเยอะๆ”
จากการกรณีที่ "นายสนธิ ลิ้มทองกุล" ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน และสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ได้แสดงเจตนารมณ์ที่จะอุปสมบทในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2550 ที่พระอุโบสถวัดชนะสงครามฯ นั้น
วานนี้ (30 ต.ค.) เวลาประมาณ 12.45 น. สภาเครือข่ายชาวพุทธแห่งชาติ (สพช.) ประมาณ 100 คน นำโดยนายสุเวส อันตรี ประธานสภาเครือข่ายชาวพุทธแห่งชาติ (สพช.) ได้เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณวัดชนะสงครามฯ เพื่อยื่นหนังสือต่อสมเด็จพระมหาธีราจารย์ คัดค้านการบวชของนายสนธิ โดยในหนังสือดังกล่าวระบุว่า
ด้วยนายสนธิ ลิ้มทองกุลได้แถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 27 ต.ค.50 ว่าจะอุปสมบท ณ วัดชนะสงคราม โดยมีเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม เป็นพระอุปปัชฌาย์ ในวันพุธที่ 7 พ.ย. เวลา 09.00 น. สภาเครือข่ายชาวพุทธแห่งชาติจะชุมนุมคัดค้านการอุปสมบทของนายสนธิ เนื่องจากเป็นบุคคลที่ขัดต่อพระธรรมวินัย และเป็นอันตรายต่อพระพุทธศาสนาอย่างร้ายแรง ดังนี้
1.นายสนธิ เป็นบุคคลที่มีคดีความเข้าสู่การพิจารณาในขั้นศาลหลายคดี 2. นายสนธิ เป็นบุคคลที่มีหนี้สิ้นล้นพ้นตัว 3. นายสนธิ เป็นบุคคลที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดความแตกแยกขึ้นในสังฆมณฑล อันเป็นฉายาแห่งสังฆเภท จึงเป็นบุคคลต้องห้ามอุปสมทบตามพระธรรมวินัยอย่างเด็ดขาด หากให้การอุปสมบทให้แก่นายสนธิ ก็จะนำมาซึ่งความร้าวฉานในสังฆมณฑลอย่างไม่เคยมีมาก่อน 4.หากให้การอุปสมบทแก่นายสนธิ นอกจากจะไม่ทำให้สำเร็จความเป็นพระภิกษุแล้ว ยังจะเป็นเหตุให้พระอุปัชฌาย์ต้องอาบัติ เพราะให้การอุปสมบทต่อบุคคลต้องห้ามอีกด้วย
ทั้งนี้ สภาเครือข่ายชาวพุทธแห่งชาติ จะเคลื่อนไหวให้ถึงที่สุดจนกว่าจะได้รับคำตอบที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้บุคคลดังกล่าวเข้ามาทำความมัวหมองให้แก่พระพุทธศาสนาอีกต่อไป
จากนั้น นายสุเวส ได้ยื่นหนังสือคัดค้านการบวชของนายสนธิ โดยมี นายสมพร นิยมวานิช เจ้าหน้าที่วัดชนะสงคราม เป็นผู้รับหนังสือแทน นายสุเวส กล่าวภายหลังยื่นหนังสือว่า นายสนธิ ขาดคุณสมบัติกล่าวคือเมื่อวันที่ 29 มี.ค. ศาลได้มีคำสั่งจำคุก นายสนธิเป็นเวลา 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา แต่นายสนธิ ได้ขอประกันตัว ดังนั้นจึงอยู่ระหว่างพิจารณา แค่นี้ก็นับได้ว่าขาดคุณสมบัติที่จะบวช
ด้าน นายสมพร กล่าวว่า เมื่อเดือนพ.ค. นายสนธิ มาขออุปสมบทกับเจ้าอาวาส ซึ่งกำหนดวันที่ 7 พ.ย. แต่โดยตามหลักพระพุทธศาสนา บุคคลใดที่จะขอบวชได้นั้น ต้องผ่านการรับรองจากสำนักงานเขตท้องที่ และสถานีตำรวจ โดยจะต้องตรวจสอบคุณสมบัติว่า เป็นบุคคลต้องห้าม ดังนี้หรือไม่
ทั้งนี้ ทางวัดชนะสงคราม ทราบมาว่า นายสนธิ อยู่ระหว่างการประกันตัวและการพิจารณายังไม่ถือว่าสิ้นสุด ประกอบกับยังไม่มีการรับรองจากสำนักงานเขต และสถานีตำรวจ ดังนั้นนายสนธิ จึงไม่สามารถบวชได้ จนกว่าจะมีการเซ็นรับรอง เจ้าอาวาสถึงจะอุปสมบทได้
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า การออกมาให้สัมภาษณ์ของ นายสมพรในครั้งนี้นั้น มีความผิดปกติ เนื่องจากมีแนวโน้มว่าน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันกับนายสุเวส หรือไม่ เพราะนายสมพร ไม่น่าจะมีสิทธิที่จะออกมาแสดงความคิดเห็นได้
สำหรับบรรดามารผจญที่เดินทางมาขวางการบวชในครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ใช้ถ้อยคำที่หยาบคาบด่าทอนายสนธิอย่างที่ไม่น่าจะเป็นชาวพุทธได้ หนำซ้ำบางคนก็สวมเสื้อยืดปักสัญลักษณ์ พีทีวี และแกนนำบางคนก็คาดผ้าโพกศีรษะที่มีข้อความว่า "คมช.ออกไป" และอีกจำนวนมาก มีสภาพผมเผ้าหนวดเครารุงรัง และมีท่าทางน่ากลัว
จากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า กลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มเดียวกับเครือข่ายภาคประชาชนพิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ผู้ซึ่งเคยไปเคลื่อนไหวด่าทอศาล กรณีตัดสินจำคุกอดีต 3 กกต. จนโดนข้อหาหมิ่นศาลไปแล้ว และขณะนี้กำลังขะมักเขม้นกับผลงานชิ้นใหม่ คือเคลื่อนไหวคัดค้านภาพภิกษุสันดานกา โดยอ้างว่าเป็นภาพที่ดูหมิ่นสงฆ์ และทำลายพระพุทธศาสนา
อนึ่ง หลังจากที่ข่าวนี้เผยแพร่ทางเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ ปรากฏว่า ชุมชนชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการกระทำของกลุ่ม สพช. เป็นจำนวนมาก เช่น
คุณแจวที่บอกว่า “อะไรกันเนี่ย ทำไมมันเลวทรามต่ำช้าแบบนี้ ไม่เคยพบเคยเห็น อ้างข้างๆ คู ก็ทำได้ เฮ้อ มันเลวหาที่เปรียบไม่ได้จริงๆ พวกเราไปส่งคุณสนธิกันดีกว่า” ขณะที่คุณคนกลาง บอกว่า “ขออนุโมทนาบุญด้วยใจจริงค่ะ เป็นธรรมดาหากจะทำดีมักจะมีมารผจญ พวกนี้บาปอยู่แล้ว สักวันนรกจะมารับตัวไป ที่จริงบวชไม่ต้องบอกว่าบวชที่ไหนก็ได้ เสร็จแล้วค่อยแจ้งให้ญาติสนิทมิตรสหายอนุโมทนาบุญ บอกไปแก๊งมารรู้หมด พวกมารจัดตั้งยกเอาองค์กรนั้นองค์กรนี้มาอ้าง
หรือคุณพันธมิตร ที่บอกว่า “วันที่ 7 จะไปปราบไอ้พวกมารผจญ ลิ่วล้อเหลี่ยมทั้งหลาย เห็นคุณสนธิ ถอยหน่อยเดียว ทำเป็นเหิมเกริม ไม่กลัวบาปกลัวกรรม จิตใจของคุณสนธิสงบอยู่แล้วไม่ต้อสนใจทางโลกครับ เข้าสู่ทางธรรมเถิด ส่วนทางโลกให้พวกเราจัดการเอง เดรัจฉานพวกนี้ไม่คณามือพวกเราพันธมิตรหรอก ขออนุโมทนาคุณสนธิครับ พวกเราพันธมิตรจะไปร่วมงานเยอะๆ”