ผู้จัดการรายวัน – วัยรุ่นไทยติดเทรนด์แฟชั่นหนัก ชลาชลเดินหน้าเซท แบรนด์ โพซิชั่นนิ่งร้าน “คิว คัท” ใหม่ ฉลองก้าวขึ้นปีที่ 5 ในปีหน้า ผ่านโลเกชั่นเป็นหลัก จับกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใหญ่ที่ใจเป็นเด็ก พร้อมทุ่มเงินกว่า 10 ล้าน อัดกิจกรรมทางการตลาดต่อเนื่องตลอดปี มั่นใจล้วงกระเป๋าวัยซนเพิ่มขึ้นอีก 20-30% ส่วนปีนี้รายได้แตะ 60 ล้านบาท
นายสมศักดิ์ ชลาชล ประธานกรรมการ บริษัท คิวคัท จำกัด เจ้าของธุรกิจร้านทำผม คิวคัท ในเครือชลาชล กรุ๊ป เปิดเผยว่า วัยรุ่นไทยในปัจจุบันมีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น มีอำนาจในการใช้จ่ายค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในเรื่องของแฟชั่นที่ตามกระแสตลอดเวลา โดยเฉพาะในเรื่องของทรงผมจะเห็นว่ากระแสทรงเกาหลีจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ส่งผลให้ปีนี้ร้าน คิวคัท ซึ่งเป็นร้านในเครือชลาชลสำหรับกลุ่มวัยรุ่นมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 20-30% หรือคาดว่าปีนี้จะมีรายได้กว่า 60 ล้านบาท ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่ยังคงทรงตัว
ส่วนหนึ่งมาจากการที่บริษัทฯมีการทำกิจกรรมทางการตลาดอยู่ตลอดเวลาเฉลี่ย 3 เดือนครั้ง ทั้งในลักษณะของการประกวด คิวบอย และคิวเกิร์ล รวมถึงการจัดเที่ยวต่างประเทศ อย่างประเทศเกาหลีที่ผ่านมา ส่งผลให้มียอดลูกค้าเข้ามาใช้บริการจากเดิมในช่วงเวลาปกติ 100 กว่าคน เพิ่มขึ้นอีก 25% จนในขณะนี้มีฐานลูกค้าที่เป็นสมาชิกแล้วกว่า 5,000 ราย อายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป
ขณะที่กลุ่มลูกค้าหลักจะมีอายุระหว่าง 17-22 ปี จากทั้งหมด 6 สาขาในกรุงเทพ ซึ่งสาขาหลักอย่างสยามสแควร์ เป็นสาขาที่สร้างรายได้สูงสุด คิดเป็นสัดส่วนกว่า 50% ของร้านคิวคัททั้งหมด โดยในปีหน้าบริษัทฯจะยังคงเน้นการทำการตลาดในลักษณะดังกล่าวอยู่ เพราะมั่นใจว่าเป็นการทำตลาดที่ได้ผล ขณะเดียวกันจะยังคงมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ คาดว่าไม่ต่ำกว่า 5 สาขา ในลักษณะของการขายแฟรนไชส์
นายชลาชล กล่าวว่า อย่างไรก็ตามบริษัทฯพบว่า สำหรับร้านคิวคัทในย่านชานเมืองอย่างแจ้งวัฒนะ หรือซอยลาซาล จะมีลูกค้าที่เป็นผู้ใหญ่เข้ามาใช้บริการเป็นหลัก เนื่องจากเข้าใจว่าเป็นร้านชลาชล จึงทำให้บริษัทฯมองว่าในปีหน้า จากการที่ร้านคิวคัทจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 จึงน่าที่จะต้องมีการเซท แบรนด์ โพซิชั่นนิ่งใหม่ เป็น “Click the Young”โดยจะดูจากโลเกชั่นเป็นหลัก เช่น สยามสแควร์ จะจับกลุ่ม Young at Age คือ วัยรุ่น นักเรียน นักศึกษาทั่วไป ส่วนสาขาแจ้งวัฒนะหรือซอยลาซาล จะจับกลุ่ม Young at Heart หรือผู้ใหญ่ที่มีหัวใจเป็นเด็ก ซึ่งความแตกต่างของร้านคิวคัทที่จับกลุ่มลูกค้า 2 กลุ่มนี้ จะอยู่ที่ 1. ช่างทำผม และ2.รูปแบบการตกแต่งร้านที่อาจจะมีความแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย
อีกทั้งในปีหน้าคาดว่าจะใช้เงินไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ในการทำกิจกรรมทางการตลาดเช่นเดียวกับในปีนี้ เพื่อทำให้ร้านคิวคัทเป็นร้านทำผมสำหรับกลุ่มวัยรุ่นอย่างแท้จริงนอกจากนี้บริษัทฯยังได้ลงทุนกว่า 1 ล้านบาทในการปรับปรุงระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับการรวบรวมข้อมูลฐานลูกค้าใหม่ จากเดิมที่ใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือ มาเป็นบัตรสมาชิกแทน ยังได้ร่วมกับพันธมิตรของทาง Schwarzkopf Professional ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เซทผลสำหรับวัยรุ่นในแบรนด์O sis ในการทำตลาดร่วมกันด้วย
นายสมศักดิ์ ชลาชล ประธานกรรมการ บริษัท คิวคัท จำกัด เจ้าของธุรกิจร้านทำผม คิวคัท ในเครือชลาชล กรุ๊ป เปิดเผยว่า วัยรุ่นไทยในปัจจุบันมีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น มีอำนาจในการใช้จ่ายค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในเรื่องของแฟชั่นที่ตามกระแสตลอดเวลา โดยเฉพาะในเรื่องของทรงผมจะเห็นว่ากระแสทรงเกาหลีจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ส่งผลให้ปีนี้ร้าน คิวคัท ซึ่งเป็นร้านในเครือชลาชลสำหรับกลุ่มวัยรุ่นมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 20-30% หรือคาดว่าปีนี้จะมีรายได้กว่า 60 ล้านบาท ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่ยังคงทรงตัว
ส่วนหนึ่งมาจากการที่บริษัทฯมีการทำกิจกรรมทางการตลาดอยู่ตลอดเวลาเฉลี่ย 3 เดือนครั้ง ทั้งในลักษณะของการประกวด คิวบอย และคิวเกิร์ล รวมถึงการจัดเที่ยวต่างประเทศ อย่างประเทศเกาหลีที่ผ่านมา ส่งผลให้มียอดลูกค้าเข้ามาใช้บริการจากเดิมในช่วงเวลาปกติ 100 กว่าคน เพิ่มขึ้นอีก 25% จนในขณะนี้มีฐานลูกค้าที่เป็นสมาชิกแล้วกว่า 5,000 ราย อายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป
ขณะที่กลุ่มลูกค้าหลักจะมีอายุระหว่าง 17-22 ปี จากทั้งหมด 6 สาขาในกรุงเทพ ซึ่งสาขาหลักอย่างสยามสแควร์ เป็นสาขาที่สร้างรายได้สูงสุด คิดเป็นสัดส่วนกว่า 50% ของร้านคิวคัททั้งหมด โดยในปีหน้าบริษัทฯจะยังคงเน้นการทำการตลาดในลักษณะดังกล่าวอยู่ เพราะมั่นใจว่าเป็นการทำตลาดที่ได้ผล ขณะเดียวกันจะยังคงมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ คาดว่าไม่ต่ำกว่า 5 สาขา ในลักษณะของการขายแฟรนไชส์
นายชลาชล กล่าวว่า อย่างไรก็ตามบริษัทฯพบว่า สำหรับร้านคิวคัทในย่านชานเมืองอย่างแจ้งวัฒนะ หรือซอยลาซาล จะมีลูกค้าที่เป็นผู้ใหญ่เข้ามาใช้บริการเป็นหลัก เนื่องจากเข้าใจว่าเป็นร้านชลาชล จึงทำให้บริษัทฯมองว่าในปีหน้า จากการที่ร้านคิวคัทจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 จึงน่าที่จะต้องมีการเซท แบรนด์ โพซิชั่นนิ่งใหม่ เป็น “Click the Young”โดยจะดูจากโลเกชั่นเป็นหลัก เช่น สยามสแควร์ จะจับกลุ่ม Young at Age คือ วัยรุ่น นักเรียน นักศึกษาทั่วไป ส่วนสาขาแจ้งวัฒนะหรือซอยลาซาล จะจับกลุ่ม Young at Heart หรือผู้ใหญ่ที่มีหัวใจเป็นเด็ก ซึ่งความแตกต่างของร้านคิวคัทที่จับกลุ่มลูกค้า 2 กลุ่มนี้ จะอยู่ที่ 1. ช่างทำผม และ2.รูปแบบการตกแต่งร้านที่อาจจะมีความแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย
อีกทั้งในปีหน้าคาดว่าจะใช้เงินไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ในการทำกิจกรรมทางการตลาดเช่นเดียวกับในปีนี้ เพื่อทำให้ร้านคิวคัทเป็นร้านทำผมสำหรับกลุ่มวัยรุ่นอย่างแท้จริงนอกจากนี้บริษัทฯยังได้ลงทุนกว่า 1 ล้านบาทในการปรับปรุงระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับการรวบรวมข้อมูลฐานลูกค้าใหม่ จากเดิมที่ใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือ มาเป็นบัตรสมาชิกแทน ยังได้ร่วมกับพันธมิตรของทาง Schwarzkopf Professional ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เซทผลสำหรับวัยรุ่นในแบรนด์O sis ในการทำตลาดร่วมกันด้วย