"บิ๊กบัง" ยอมรับสั่งดำเนินการด้านความมั่นคง แต่ไม่ได้สั่งสกัด พปช. อ้างทำกันทั่วโลก โยนกองทัพตรวจสอบเอกสารจริงหรือปลอม "สุรยุทธ์"เผยเห็นสำเนาเอกสารลับแล้ว ไม่มีข้อมูลใดส่อความรุนแรงตามที่"สมัคร"อ้าง ยันคมช.-รัฐบาล มุ่งให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ ส่วนใครจะมาเป็นรัฐบาลประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน "สุริยะใส"ระบุเอกสารลับโผล่เพราะความไม่เป็นเอกภาพในคมช. เตือน"สมัคร"อย่าใส่ไข่หวังคะแนนเห็นใจ เผยแผนประเมินงาน 1 ปี คมช.ล้ม เพราะผบ.ทบ.คนใหม่สั่งระงับ จับตาชนชั้นกุมอำนาจจัดฉากเลือกตั้ง รัฐบาลหน้าแค่หุ่นเชิด
หลังจากที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ออกมาเปิดเผยถึงเอกสารลับ ที่อ้างว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) สั่งให้สกัดพรรคพลังประชาชน ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เพื่อไม่ให้อำนาจเก่าหวนคืน และอาจมีความรุนแรงถึงขั้นเด็ดหัวผู้นำพรรคนั้น
วานนี้ (24 ต.ค.) พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีตประธาน คมช. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ยังไม่เห็นเอกสารดังกล่าว จึงขอให้ทางกองทัพบกเป็นผู้ชี้แจงในรายละเอียดดีกว่า อย่างไรก็ตาม ปกติแล้วเรื่องคำสั่งต่างๆ กองทัพบกก็ทำมาเยอะแล้ว ทั้งนี้ เพื่อความมั่นคงของประเทศ ฉะนั้นเอกสารจะเป็นอย่างไร ก็ตรวจสอบได้อยู่แล้ว
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่า สมัยดำรงตำแหน่งประธาน คมช. มีการสั่งการในลักษณะนี้จริง ใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ทุกประเทศทั่วโลก ก็ทำอย่างนี้ เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ของกองทัพบกต้องตรวจสอบเอง เมื่อถามว่า เห็นว่ามีการระบุว่าเป็นเอกสารปลอม ตรงนี้มีการสอบถามหรือไม่ พล.อ. สนธิ ย้อนถามว่า แล้วปลอม หรือเปล่า ตรงนี้แล้วแต่ทางกองทัพ เราไม่รู้ เมื่อถามถึงเหตุผลในการสั่งการในลักษณะดังกล่าว รองนายกฯ กล่าวว่า มันเป็นเรื่องของความมั่นคงของประเทศ ทุกเรื่องที่ไม่เรียบร้อยเราจะทำเป็นมาตรการในลักษณะการแก้ไขปัญหา เป็นอย่างนี้ทุกเรื่องไม่เฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แม้กระทั่งแผนปฐพี 149 อยากให้ลองไปเปิดดู เพราะเรื่องความมั่นคงของประเทศเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตนได้รับข้อมูลดังกล่าวแล้ว เอกสารไม่ได้มีการพูดถึงการดำเนินการใดๆ ที่จะทำให้ใช้ความรุนแรง หรือใช้วิธีการอื่นใดที่นอกเหนือจากการดำเนินการตามปกติ
พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า เอกสารที่ตนได้รับ เป็นการถ่ายสำเนา มีการลงชื่อ ซึ่งตนไม่ได้ตรวจสอบว่าเป็นเอกสารของ คมช. หรือไม่ เพียงอ่านดูข้อความในเอกสารไม่ได้มีการระบุ ถึงการใช้ความรุนแรงต่างๆ
"เป็นเรื่องที่พูดโดยรวม ว่า เป็นแนวคิดของ คมช.ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เป็นลักษณะอย่างนั้น ส่วนการที่ คมช.จะสกัดกั้นพรรคใดพรรคหนึ่งหรือไม่นั้น ก็จะหารือกันในส่วนเหล่านี้ว่า สิ่งที่เราพยามจะทำโดยการสนับสนุนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คือการจะทำให้เกิดความโปร่งใส และเป็นธรรมขึ้น"พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องสกัดกั้นพรรคพลังประชาชนหรือไม่ เพราะป้องกันการสืบทอดอำนาจจากรัฐบาลที่ผ่านมา พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า พี่น้องประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินว่าจะเลือกใคร
นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต. ฝ่ายสืบสวนสอบสวน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องวางตัวเป็นกลาง เราในฐานะที่เป็นกกต. ต้องพยายามที่จะตรวจสอบว่า อำนาจรัฐทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นกลาง ไม่สุจริตเที่ยงธรรมหรือไม่
"ในชั้นแรกเพียงแต่เป็นข่าวทางหนังสือพิพม์เท่านั้น ก็จะตรวจสอบ แล้วจะประชุมปรึกษาหารือกันว่า จะดำเนินการอย่างไร แต่อยากจะให้ความมั่นใจต่อพรรคการเมืองทั้งหลายว่า เรามีรัฐธรรมนูญแล้ว เราจะต้องเข้าสู่เวทีการเลือกตั้งให้สุจริต และเที่ยงธรรม ต้องไม่มีอำนาจรัฐเข้าไปทำให้การเลือกตั้งนั้นไม่เป็นไปโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ท่านนายกรัฐมนตรีให้คำมั่นอยู่เสมอว่า รัฐบาลจะให้การสนับสนุนการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริต และเที่ยงธรรม พร้อมกันนี้ขอให้สื่อ ช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับ กกต.ด้วย เพื่อให้ได้คนดีเข้ามาบริหารบ้านเมือง"นายสมชัย กล่าว
นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณี นายสมัคร เกรงจะถูกปองร้ายว่า คงไม่ถึงขนาดจะเอาชีวิตกัน เชื่อว่าท่านสมัคร คงปลอดภัย เพราะมีของดี มีพระคุ้มครองอยู่ คงไม่เป็นอะไร "ผมว่าปองร้ายหัวหน้าพรรคคงไม่มี แต่เรื่องหัวคะแนน อาจต้องระมัดระวัง" นายบรรหาร กล่าว
นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการ ครป. กล่าวว่า เอกสารลับที่นายสมัคร นำมาเปิดเผยนั้นน่าจะเป็นของจริง เพราะถ้าดูเนื้อหาแล้วก็เป็นแผนปฏิบัติการสลายขั้วอำนาจเก่า ที่เป็นผลพวงจากการรัฐประหาร ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับคณะรัฐประหาร แม้แต่ในสมัยรัฐบาลทักษิณ ที่มาจากการเลือกตั้ง ก็มีเอกสารเปิดโปงแผนสกัดเอ็นจีโอ และการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน โดยสกัดเงินสนับสนุน และเงินบริจาคจากแหล่งทุนต่างประเทศ
ส่วนที่เอกสารถูกเปิดเผยออกมาในช่วงนี้ อาจเป็นไปได้ว่า คนวงใน คมช. เป็นคนปล่อยออกมา เพื่อยืมปากนายสมัคร ฟัดกันเอง และก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่นายสมัคร จะนำเอกสารไปขยายผล เพื่อเรียกคะแนนเห็นใจ แต่อยากเตือนนายสมัครว่า อย่าใส่ไข่เลยเถิดไปถึงขั้นแผนเอาชีวิต หรือใช้ความรุนแรง
นายสุริยะใส กล่าวว่า เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นความไม่เป็นเอกภาพใน คมช.โดยเฉพาะหลังการปรับย้ายประจำปีกองทัพ มีรอยร้าวภายในเกิดขึ้นอย่างรุนแรง อำนาจในกองทัพบกที่เป็นกำลังสำคัญอาจแปรรูปไปอยู่ที่เตรียมทหารรุ่น 10 พล.อ.สนธิ ก็รู้เรื่องนี้ดี โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ต่อการสลายขั้วอำนาจเก่า อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง หรือปรับท่าทีบางอย่างไป หลังการแต่งตั้ง ผบ.ทบ.คนใหม่
และเท่าที่ทราบก่อนหน้านี้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.ในขณะนั้น ได้เตรียมแถลงผลงานครบรอบ 1 ปี ของการยึดอำนาจ โดยตั้งคณะทำงานดำเนินการประเมินผลงาน และเตรียมแผนเปิดโปงความผิดของกลุ่มอำนาจเก่า แต่ ผบ.ทบ. คนปัจจุบัน กลับระงับเรื่องไว้ทั้งหมด จนป่านนี้จึงยังไม่เห็นการแถลงผลงาน 1 ปี ของ คมช. อย่างที่ พล.อ.สนธิ เคยประกาศไว้
"ผมเป็นห่วงว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ อาจเป็นเพียงการจัดฉากทางการเมืองของชนชั้นนำทางอำนาจ ที่สังคมกลัวกันนักหนาว่าจะเป็นการเผชิญหน้าระหว่างอำนาจเก่า กับอำนาจใหม่นั้นอาจเป็นเพียงภาพลวงตา ซึ่งรัฐบาลหน้า ไม่ว่าจะเป็นพรรคใด อาจเป็นเพียงหุ่นเชิดของทหารในที่สุด"นายสุริยะใส กล่าว
แหล่งข่าวด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า เอกสารลับที่นายสมัคร นำมาเปิดเผยนั้นเป็นเอกสารราชการ ที่ คมช.ทำขึ้นมาจริง เพื่อนำมาหารือในที่ประชุม คมช.ในแต่ละสัปดาห์ แต่ข้อมูลที่ นายสมัคร พูดนั้น ไม่ตรงกับเนื้อหาที่มีอยู่ในเอกสาร
"เอกสารฉบับนี้ มีเนื้อหาเพียงการสรุปสถานการณ์ความเคลื่อนไหวทางการเมืองของแต่ละพรรค ว่ามีการดำเนินกิจกรรมอะไรบ้าง ซึ่งภายในเอกสารอาจจะมีการจับตาพรรคพลังประชาชนมากเป็นพิเศษ และวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองล่วงหน้าก่อนการเลือกตั้งว่า จะเป็นอย่างไรเท่านั้น ซึ่งเป็นเอกสารที่ คมช.แจกจ่ายให้กับสมาชิก ไม่ได้เป็นเอกสารลับแต่อย่างใด ทั้งนี้เอกสารดังกล่าว ไม่มีการระบุว่านำกำลังไปกีดกัน หรือขัดขวางพรรคพลังประชาชนแต่อย่างใด"แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าว กล่าวด้วยว่า หน่วยงานความมั่นคงมีการวิเคราะห์ว่า การกระทำของนายสมัคร เพียงเพื่อต้องการเบี่ยงเบนประเด็น และดูท่าทีตอบสนองของ คมช. ที่มีต่อเอกสารดังกล่าว ซึ่งสังเกตได้ชัดเจนว่า เนื้อหาที่นายสมัครพูดนั้น มีการเสริมเติมแต่งเกินจริง เพราะนายสมัครไม่กล้าที่จะเปิดเผยเอกสารนั้นให้สื่อมวลชนได้รับทราบ ส่วนกรณีที่ นายสมัคร ระบุว่ามีทหารลอบวางแผนสังหารนายสมัครนั้น เป็นเพียงการคาดเดา และวิเคราะห์ของทีมรักษาความปลอดภัยของนายสมัคร ยืนยันได้ว่า ทางคมช.ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อจะสังหารใครทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม ทางกองทัพบกจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบว่า ใครเป็นผู้ปล่อยเอกสารดังกล่าวให้กับพรรคพลังประชาชน
หลังจากที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ออกมาเปิดเผยถึงเอกสารลับ ที่อ้างว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) สั่งให้สกัดพรรคพลังประชาชน ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เพื่อไม่ให้อำนาจเก่าหวนคืน และอาจมีความรุนแรงถึงขั้นเด็ดหัวผู้นำพรรคนั้น
วานนี้ (24 ต.ค.) พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีตประธาน คมช. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ยังไม่เห็นเอกสารดังกล่าว จึงขอให้ทางกองทัพบกเป็นผู้ชี้แจงในรายละเอียดดีกว่า อย่างไรก็ตาม ปกติแล้วเรื่องคำสั่งต่างๆ กองทัพบกก็ทำมาเยอะแล้ว ทั้งนี้ เพื่อความมั่นคงของประเทศ ฉะนั้นเอกสารจะเป็นอย่างไร ก็ตรวจสอบได้อยู่แล้ว
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่า สมัยดำรงตำแหน่งประธาน คมช. มีการสั่งการในลักษณะนี้จริง ใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ทุกประเทศทั่วโลก ก็ทำอย่างนี้ เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ของกองทัพบกต้องตรวจสอบเอง เมื่อถามว่า เห็นว่ามีการระบุว่าเป็นเอกสารปลอม ตรงนี้มีการสอบถามหรือไม่ พล.อ. สนธิ ย้อนถามว่า แล้วปลอม หรือเปล่า ตรงนี้แล้วแต่ทางกองทัพ เราไม่รู้ เมื่อถามถึงเหตุผลในการสั่งการในลักษณะดังกล่าว รองนายกฯ กล่าวว่า มันเป็นเรื่องของความมั่นคงของประเทศ ทุกเรื่องที่ไม่เรียบร้อยเราจะทำเป็นมาตรการในลักษณะการแก้ไขปัญหา เป็นอย่างนี้ทุกเรื่องไม่เฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แม้กระทั่งแผนปฐพี 149 อยากให้ลองไปเปิดดู เพราะเรื่องความมั่นคงของประเทศเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตนได้รับข้อมูลดังกล่าวแล้ว เอกสารไม่ได้มีการพูดถึงการดำเนินการใดๆ ที่จะทำให้ใช้ความรุนแรง หรือใช้วิธีการอื่นใดที่นอกเหนือจากการดำเนินการตามปกติ
พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า เอกสารที่ตนได้รับ เป็นการถ่ายสำเนา มีการลงชื่อ ซึ่งตนไม่ได้ตรวจสอบว่าเป็นเอกสารของ คมช. หรือไม่ เพียงอ่านดูข้อความในเอกสารไม่ได้มีการระบุ ถึงการใช้ความรุนแรงต่างๆ
"เป็นเรื่องที่พูดโดยรวม ว่า เป็นแนวคิดของ คมช.ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เป็นลักษณะอย่างนั้น ส่วนการที่ คมช.จะสกัดกั้นพรรคใดพรรคหนึ่งหรือไม่นั้น ก็จะหารือกันในส่วนเหล่านี้ว่า สิ่งที่เราพยามจะทำโดยการสนับสนุนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คือการจะทำให้เกิดความโปร่งใส และเป็นธรรมขึ้น"พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องสกัดกั้นพรรคพลังประชาชนหรือไม่ เพราะป้องกันการสืบทอดอำนาจจากรัฐบาลที่ผ่านมา พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า พี่น้องประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินว่าจะเลือกใคร
นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต. ฝ่ายสืบสวนสอบสวน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องวางตัวเป็นกลาง เราในฐานะที่เป็นกกต. ต้องพยายามที่จะตรวจสอบว่า อำนาจรัฐทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นกลาง ไม่สุจริตเที่ยงธรรมหรือไม่
"ในชั้นแรกเพียงแต่เป็นข่าวทางหนังสือพิพม์เท่านั้น ก็จะตรวจสอบ แล้วจะประชุมปรึกษาหารือกันว่า จะดำเนินการอย่างไร แต่อยากจะให้ความมั่นใจต่อพรรคการเมืองทั้งหลายว่า เรามีรัฐธรรมนูญแล้ว เราจะต้องเข้าสู่เวทีการเลือกตั้งให้สุจริต และเที่ยงธรรม ต้องไม่มีอำนาจรัฐเข้าไปทำให้การเลือกตั้งนั้นไม่เป็นไปโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ท่านนายกรัฐมนตรีให้คำมั่นอยู่เสมอว่า รัฐบาลจะให้การสนับสนุนการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริต และเที่ยงธรรม พร้อมกันนี้ขอให้สื่อ ช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับ กกต.ด้วย เพื่อให้ได้คนดีเข้ามาบริหารบ้านเมือง"นายสมชัย กล่าว
นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณี นายสมัคร เกรงจะถูกปองร้ายว่า คงไม่ถึงขนาดจะเอาชีวิตกัน เชื่อว่าท่านสมัคร คงปลอดภัย เพราะมีของดี มีพระคุ้มครองอยู่ คงไม่เป็นอะไร "ผมว่าปองร้ายหัวหน้าพรรคคงไม่มี แต่เรื่องหัวคะแนน อาจต้องระมัดระวัง" นายบรรหาร กล่าว
นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการ ครป. กล่าวว่า เอกสารลับที่นายสมัคร นำมาเปิดเผยนั้นน่าจะเป็นของจริง เพราะถ้าดูเนื้อหาแล้วก็เป็นแผนปฏิบัติการสลายขั้วอำนาจเก่า ที่เป็นผลพวงจากการรัฐประหาร ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับคณะรัฐประหาร แม้แต่ในสมัยรัฐบาลทักษิณ ที่มาจากการเลือกตั้ง ก็มีเอกสารเปิดโปงแผนสกัดเอ็นจีโอ และการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน โดยสกัดเงินสนับสนุน และเงินบริจาคจากแหล่งทุนต่างประเทศ
ส่วนที่เอกสารถูกเปิดเผยออกมาในช่วงนี้ อาจเป็นไปได้ว่า คนวงใน คมช. เป็นคนปล่อยออกมา เพื่อยืมปากนายสมัคร ฟัดกันเอง และก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่นายสมัคร จะนำเอกสารไปขยายผล เพื่อเรียกคะแนนเห็นใจ แต่อยากเตือนนายสมัครว่า อย่าใส่ไข่เลยเถิดไปถึงขั้นแผนเอาชีวิต หรือใช้ความรุนแรง
นายสุริยะใส กล่าวว่า เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นความไม่เป็นเอกภาพใน คมช.โดยเฉพาะหลังการปรับย้ายประจำปีกองทัพ มีรอยร้าวภายในเกิดขึ้นอย่างรุนแรง อำนาจในกองทัพบกที่เป็นกำลังสำคัญอาจแปรรูปไปอยู่ที่เตรียมทหารรุ่น 10 พล.อ.สนธิ ก็รู้เรื่องนี้ดี โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ต่อการสลายขั้วอำนาจเก่า อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง หรือปรับท่าทีบางอย่างไป หลังการแต่งตั้ง ผบ.ทบ.คนใหม่
และเท่าที่ทราบก่อนหน้านี้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.ในขณะนั้น ได้เตรียมแถลงผลงานครบรอบ 1 ปี ของการยึดอำนาจ โดยตั้งคณะทำงานดำเนินการประเมินผลงาน และเตรียมแผนเปิดโปงความผิดของกลุ่มอำนาจเก่า แต่ ผบ.ทบ. คนปัจจุบัน กลับระงับเรื่องไว้ทั้งหมด จนป่านนี้จึงยังไม่เห็นการแถลงผลงาน 1 ปี ของ คมช. อย่างที่ พล.อ.สนธิ เคยประกาศไว้
"ผมเป็นห่วงว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ อาจเป็นเพียงการจัดฉากทางการเมืองของชนชั้นนำทางอำนาจ ที่สังคมกลัวกันนักหนาว่าจะเป็นการเผชิญหน้าระหว่างอำนาจเก่า กับอำนาจใหม่นั้นอาจเป็นเพียงภาพลวงตา ซึ่งรัฐบาลหน้า ไม่ว่าจะเป็นพรรคใด อาจเป็นเพียงหุ่นเชิดของทหารในที่สุด"นายสุริยะใส กล่าว
แหล่งข่าวด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า เอกสารลับที่นายสมัคร นำมาเปิดเผยนั้นเป็นเอกสารราชการ ที่ คมช.ทำขึ้นมาจริง เพื่อนำมาหารือในที่ประชุม คมช.ในแต่ละสัปดาห์ แต่ข้อมูลที่ นายสมัคร พูดนั้น ไม่ตรงกับเนื้อหาที่มีอยู่ในเอกสาร
"เอกสารฉบับนี้ มีเนื้อหาเพียงการสรุปสถานการณ์ความเคลื่อนไหวทางการเมืองของแต่ละพรรค ว่ามีการดำเนินกิจกรรมอะไรบ้าง ซึ่งภายในเอกสารอาจจะมีการจับตาพรรคพลังประชาชนมากเป็นพิเศษ และวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองล่วงหน้าก่อนการเลือกตั้งว่า จะเป็นอย่างไรเท่านั้น ซึ่งเป็นเอกสารที่ คมช.แจกจ่ายให้กับสมาชิก ไม่ได้เป็นเอกสารลับแต่อย่างใด ทั้งนี้เอกสารดังกล่าว ไม่มีการระบุว่านำกำลังไปกีดกัน หรือขัดขวางพรรคพลังประชาชนแต่อย่างใด"แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าว กล่าวด้วยว่า หน่วยงานความมั่นคงมีการวิเคราะห์ว่า การกระทำของนายสมัคร เพียงเพื่อต้องการเบี่ยงเบนประเด็น และดูท่าทีตอบสนองของ คมช. ที่มีต่อเอกสารดังกล่าว ซึ่งสังเกตได้ชัดเจนว่า เนื้อหาที่นายสมัครพูดนั้น มีการเสริมเติมแต่งเกินจริง เพราะนายสมัครไม่กล้าที่จะเปิดเผยเอกสารนั้นให้สื่อมวลชนได้รับทราบ ส่วนกรณีที่ นายสมัคร ระบุว่ามีทหารลอบวางแผนสังหารนายสมัครนั้น เป็นเพียงการคาดเดา และวิเคราะห์ของทีมรักษาความปลอดภัยของนายสมัคร ยืนยันได้ว่า ทางคมช.ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อจะสังหารใครทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม ทางกองทัพบกจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบว่า ใครเป็นผู้ปล่อยเอกสารดังกล่าวให้กับพรรคพลังประชาชน