แบรนด์เป่า ยิ้ง ฉุบ ก้มหน้ารับปีนี้ลดกำลังผลิตลงเหลือ 20% ลดความเสี่ยง ระบุการแข่งขันสูงขึ้น ผู้ประกอบการรายเล็ก – ใหญ่ แห่ทำตลาดหลังพบกว่า 60% นิยมใส่เสื้อเหลือง
นายชาลี รัตนวชิรินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำหนึ่งการตลาด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเสื้อแบรนด์เป่า ยิ้ง ฉุบ เสื้อยืดครอบครัวอบอุ่น เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในขณะนี้ของบริษัทฯจะลดกำลังการผลิตเสื้อเหลืองลงให้เหลือประมาณ 20% เท่านั้น เพื่อป้องกันปัญหาสินค้าล้นตลาดและค้างสต๊อก
เนื่องจากที่ผ่านมาจากภาพรวมของตลาดเสื้อเหลืองในปี 2550 บริษัทฯต้องยอมรับว่าตลาดมีการแข่งขันที่สูงมาก ผู้ประกอบการรายใหม่ทั้งรายเล็กและรายใหญ่ จำพวกเสื้อผ้าแบรนด์เนมเข้ามาทำตลาดมากขึ้น เพราะปัจจุบันเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่มีเสื้อเหลืองและเสื้อเหลืองที่มีตราสัญลักษณ์ไว้ใส่มากกว่า 60% ของประชากรทั้งประเทศ ดังนั้นการที่คู่แข่งจะเข้ามาจับตลาดตรงนี้ เพิ่มมากขึ้นส่งผลให้บริษัทฯต้องปรับตัวในการดำเนินงานเพื่อสอดรับกับการแข่งขัน
ขณะเดียวกันแผนการทำตลาด สำหรับเสื้อเหลืองตราสัญลักษณ์ 80 พรรษา จะเน้นคอนเซ็ปต์ ร่มโพธิ์ของพ่อ ที่เป็นแนวคิดที่ต้องการให้พ่ออยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงชนชาวไทยตลอดไป ซึ่งประชาชนก็ให้การตอบรับเป็นอย่างดี
สำหรับภาพรวมของตลาดเสื้อเหลืองในปีนี้ มีการเติบโตในระดับทรงตัว แต่ยอมรับว่าผู้บริโภคมีการใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อเสื้อเหลืองและเสื้อตราสัญลักษณ์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2549 ที่กระแสความนิยมการซื้อเสื้อเหลือเริ่มมีขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายน
นายชาลี กล่าวต่อว่า ปีนี้ตลาดเสื้อเหลืองน่าจะมีการเติบโตในทิศทางที่ดีขึ้น โดยแนวโน้มของผู้บริโภคยังคงมีการซื้อเสื้อเหลืองโดยเฉพาะเสื้อตราสัญลักษณ์ 80 พรรษา ยังมีอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อว่าช่วงเวลาในการขายปีนี้น่าจะยาวต่อเนื่องทั้งปีไม่กระจุกตัวในช่วงสั้นๆเหมือนปีก่อน
สำหรับภาพรวม 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯมีการเติบโตในระดับที่ทรงตัวจากปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ภายในสิ้นปี 2550 บริษัทฯตั้งเป้ารายได้เติบโต 20% จากปี 2549 ที่มีรายได้กว่า 100 ล้านบาท
นายชาลี รัตนวชิรินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำหนึ่งการตลาด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเสื้อแบรนด์เป่า ยิ้ง ฉุบ เสื้อยืดครอบครัวอบอุ่น เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในขณะนี้ของบริษัทฯจะลดกำลังการผลิตเสื้อเหลืองลงให้เหลือประมาณ 20% เท่านั้น เพื่อป้องกันปัญหาสินค้าล้นตลาดและค้างสต๊อก
เนื่องจากที่ผ่านมาจากภาพรวมของตลาดเสื้อเหลืองในปี 2550 บริษัทฯต้องยอมรับว่าตลาดมีการแข่งขันที่สูงมาก ผู้ประกอบการรายใหม่ทั้งรายเล็กและรายใหญ่ จำพวกเสื้อผ้าแบรนด์เนมเข้ามาทำตลาดมากขึ้น เพราะปัจจุบันเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่มีเสื้อเหลืองและเสื้อเหลืองที่มีตราสัญลักษณ์ไว้ใส่มากกว่า 60% ของประชากรทั้งประเทศ ดังนั้นการที่คู่แข่งจะเข้ามาจับตลาดตรงนี้ เพิ่มมากขึ้นส่งผลให้บริษัทฯต้องปรับตัวในการดำเนินงานเพื่อสอดรับกับการแข่งขัน
ขณะเดียวกันแผนการทำตลาด สำหรับเสื้อเหลืองตราสัญลักษณ์ 80 พรรษา จะเน้นคอนเซ็ปต์ ร่มโพธิ์ของพ่อ ที่เป็นแนวคิดที่ต้องการให้พ่ออยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงชนชาวไทยตลอดไป ซึ่งประชาชนก็ให้การตอบรับเป็นอย่างดี
สำหรับภาพรวมของตลาดเสื้อเหลืองในปีนี้ มีการเติบโตในระดับทรงตัว แต่ยอมรับว่าผู้บริโภคมีการใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อเสื้อเหลืองและเสื้อตราสัญลักษณ์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2549 ที่กระแสความนิยมการซื้อเสื้อเหลือเริ่มมีขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายน
นายชาลี กล่าวต่อว่า ปีนี้ตลาดเสื้อเหลืองน่าจะมีการเติบโตในทิศทางที่ดีขึ้น โดยแนวโน้มของผู้บริโภคยังคงมีการซื้อเสื้อเหลืองโดยเฉพาะเสื้อตราสัญลักษณ์ 80 พรรษา ยังมีอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อว่าช่วงเวลาในการขายปีนี้น่าจะยาวต่อเนื่องทั้งปีไม่กระจุกตัวในช่วงสั้นๆเหมือนปีก่อน
สำหรับภาพรวม 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯมีการเติบโตในระดับที่ทรงตัวจากปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ภายในสิ้นปี 2550 บริษัทฯตั้งเป้ารายได้เติบโต 20% จากปี 2549 ที่มีรายได้กว่า 100 ล้านบาท