ตำรวจไทยโชว์จับ “คริสโตเฟอร์ พอล นีล” ชาวแคนนาดา ผู้ต้องหาอนาจารเด็กชาย ขณะพักกับเพื่อนชายชาวไทย ในพื้นที่อำเภอเมืองนครราชสีมา พบพฤติกรรมทางเพศผิดปกติ กักขังหน่วงเหนี่ยวเหยื่อ ทำวิตถารร่วมเพศกับเด็กชายคราวละ 6-7 คนก่อนนำภาพการร่วมเพศ เผยแพร่มางอินเตอร์เน็ต
วานนี้(19 ต.ค.)เวลา 15.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร. ) พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผูบัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผช.ผบ.ตร.)พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(ผบช.ก.)พล.ต.ต.จรัมพร สุระมณี พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รองผบช.ก.และ พ.ต.อ.อภิชาติ สุริบุญญา ผกก.ตำรวจสากล กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจสากล และสถานทูตแคนนาดา ประจำประเทศไทย ร่วมแถลงข่าว จับกุมตัว นายคริสโตเฟอร์ พอล นีล (Mr.Christopher Paul Neil) อายุ 32 ปี สัญชาติ แคนนาดา เกิดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2518 ผู้ต้องหาพรากผู้เยาว์ และเป็นบุคคลที่ตำรวจสากลต้องการตัว หลังเผยแพร่ภาพตัวเองขณะล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายทางอินเตอร์เน็ต โดยตำรวจท่องเที่ยวจับกุมได้ที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา
รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ตำรวจสากล ได้ประสานมายังตำรวจไทย ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมา ว่านายคริสโตเฟอร์ ได้หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย หลังจากนั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สนธิกำลังในหลายส่วนทั้ง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กองปราบปราม กองบังคับการปราบปรามการกระผิดต่อเด็ก เยาวชน และสตรี และตำรวจท่องเที่ยว โดยสืบสวนติดตามตั้งแต่เข้ามาในประเทศไทย จนทราบว่า ไปพักกับเพื่อนชาย ชาวไทยชื่อโอม อายุ 25 ปี ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ในนิคมอุตสาหกรรม หมู่ 5 ต.หนองละเวียง .อ.เมือง จ.นครราชสีมา จึงตามจับกุม ได้เมื่อเวลา 11.00 น.หลังจากที่ศาลอาญาอนุมัติหมายจับนายคริสโตเฟอร์ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยตำรวจไทยใช้เวลาเพียง 8 วันเท่านั้นในการจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้
“ขณะตำรวจเข้าไปจับกุม ก็ได้สอบถามว่า คือนายคริสโตเฟอร์ พอล นีล ชาวแคนนาดา หรือไม่ เขาก็ยอมรับว่าใช่ จึงจับกุมทันที แต่เขายังไม่ยอมให้การใดๆนอกเหนือจากการยอมรับ เป็นนายคริสโตเฟอร์เท่านั้น โดยจะขอรอปรึกษาบุคคลที่เชื่อถือได้เสียก่อน”
พล.ต.อ.วงกต กล่าวอีกว่า ข้อมูลเชิงลึกที่เราได้มาชัดเจนว่านายคริสโตเฟอร์ ได้กระทำความผิดจริง และมีพฤติกรรมทางเพศแบบผิดปกติ กักขังหน่วงเหนี่ยวเหยื่อ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กชายชาวเอเซีย ทั้งเวียดนาม ลาว เขมร พม่า โดยมักทำวิตถาร ร่วมเพศกับเด็กชายคราวละ 6-7 คนพร้อมกัน และยังพบว่านอกจากเด็กผู้ชายแล้วยังมีผู้หญิงรวมไปด้วย และนำภาพการร่วมเพศ ไปเผยแพร่มางอินเตอร์เน็ต แต่จะใช้เทคนิคพิเศษอำพรางใบหน้าตัวเองไม่ให้รู้ว่าเป็นใคร แต่ตำรวจสากล ก็ใช้ความสามารถในการปรับภาพจนรู้ว่าเป็นใคร และประสานทั่วโลกจนตามจับกุมได้ในประเทศไทย
พล.ต.อ.วงกต กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ จะส่งตัวนายคริสโตเฟอร์ ให้ บก.ปดส. นำไปสอบสวนดำเนินคดี ซึ่งตำรวจไทยจะให้สิทธิผู้ต้องหาอย่างเต็มที่ โดย ปดส.มีอำนาจควบคุมตัวเพียยง 48 ชั่วโมง จากนั้นจะต้องนำตัวไปฝากขัง ส่วนจะให้ประกันตัวหรือไม่ ต้องพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งหลังจากดำเนินคดีในประเทศเสร็จสิ้นก็จะส่งตัวให้ตำรวจในประเทศอื่นรับไปดำเนินการต่อ นอกจากนี้ก็ต้องมีการตรวจสอบต่อไปว่านายคริสโตเฟอร์ มีเชื้อเอชไอวีหรือไม่ ตามที่หลายฝ่ายออกมาแสดงความกังวล แต่ก็ต้องขึ้นกับเจ้าตัวว่าจะยินดีหรือไม่
ขณะที่มีรายงานว่า นายคริสโตเฟอร์ เดินทางเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม โดยเดินทางไปเที่ยว ในพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จากนั้นก็เดินทางไปยังบ้านเพื่อนชายคนสนิทที่เคยติดต่อกันตั้งแต่สมัยที่นายคริสโตเฟอร์อยู่ในประเทศไทย ชื่อนายโอม ใน.จ.ชัยภูมิ ก่อนที่ จะเดินทางมายัง จ.นครราชสีมา และเข้าเช่าพักในบ้านหลังดังกล่าวที่นายโอมเป็นคนติดต่อเช่าให้ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา และถูกจับกุมได้ โดยตำรวจแกะรอยจากการใช้โทรศัพท์มือถือของนายโอม จนเจอตัวและจับกุมได้
ผู้สื่อข่าวรายงานรายงานด้วยว่า ก่อนจะนำตัวมาแถลงข่าว ตำรวจท่องเที่ยว ควบคุมตัวนายคริสโตเฟอร์มาโดยรถตู้ของตำรวจท่องเที่ยว ทันทีที่ลงจากรถนายคริสโตเฟอร์ใช้เสื้อสีฟ้าคลุมศีรษะปิดบังใบหน้าไว้ตลอด ก่อนตำรวจจะนำตัวฝ่ากลุ่มสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศที่รอทำข่าวกว่า 100 คน ขึ้นไปยัง ห้องสำนักงาน ชั้น 5 อาคาร 1 ตร.ของ พล.ต.อ.วงกต เพื่อให้ซักถามเบื้องต้นก่อนนำตัวมาแถลงข่าวที่ ห้องประชุม 1 ตร. โดยระหว่างแถลงข่าวนายคริสโตเฟอร์ สวมแว่นกันแดดสีดำ มีสีหน้าเรียบเฉย และไม่ตอบคำถามใดๆ
วานนี้(19 ต.ค.)เวลา 15.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร. ) พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผูบัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผช.ผบ.ตร.)พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(ผบช.ก.)พล.ต.ต.จรัมพร สุระมณี พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รองผบช.ก.และ พ.ต.อ.อภิชาติ สุริบุญญา ผกก.ตำรวจสากล กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจสากล และสถานทูตแคนนาดา ประจำประเทศไทย ร่วมแถลงข่าว จับกุมตัว นายคริสโตเฟอร์ พอล นีล (Mr.Christopher Paul Neil) อายุ 32 ปี สัญชาติ แคนนาดา เกิดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2518 ผู้ต้องหาพรากผู้เยาว์ และเป็นบุคคลที่ตำรวจสากลต้องการตัว หลังเผยแพร่ภาพตัวเองขณะล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายทางอินเตอร์เน็ต โดยตำรวจท่องเที่ยวจับกุมได้ที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา
รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ตำรวจสากล ได้ประสานมายังตำรวจไทย ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมา ว่านายคริสโตเฟอร์ ได้หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย หลังจากนั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สนธิกำลังในหลายส่วนทั้ง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กองปราบปราม กองบังคับการปราบปรามการกระผิดต่อเด็ก เยาวชน และสตรี และตำรวจท่องเที่ยว โดยสืบสวนติดตามตั้งแต่เข้ามาในประเทศไทย จนทราบว่า ไปพักกับเพื่อนชาย ชาวไทยชื่อโอม อายุ 25 ปี ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ในนิคมอุตสาหกรรม หมู่ 5 ต.หนองละเวียง .อ.เมือง จ.นครราชสีมา จึงตามจับกุม ได้เมื่อเวลา 11.00 น.หลังจากที่ศาลอาญาอนุมัติหมายจับนายคริสโตเฟอร์ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยตำรวจไทยใช้เวลาเพียง 8 วันเท่านั้นในการจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้
“ขณะตำรวจเข้าไปจับกุม ก็ได้สอบถามว่า คือนายคริสโตเฟอร์ พอล นีล ชาวแคนนาดา หรือไม่ เขาก็ยอมรับว่าใช่ จึงจับกุมทันที แต่เขายังไม่ยอมให้การใดๆนอกเหนือจากการยอมรับ เป็นนายคริสโตเฟอร์เท่านั้น โดยจะขอรอปรึกษาบุคคลที่เชื่อถือได้เสียก่อน”
พล.ต.อ.วงกต กล่าวอีกว่า ข้อมูลเชิงลึกที่เราได้มาชัดเจนว่านายคริสโตเฟอร์ ได้กระทำความผิดจริง และมีพฤติกรรมทางเพศแบบผิดปกติ กักขังหน่วงเหนี่ยวเหยื่อ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กชายชาวเอเซีย ทั้งเวียดนาม ลาว เขมร พม่า โดยมักทำวิตถาร ร่วมเพศกับเด็กชายคราวละ 6-7 คนพร้อมกัน และยังพบว่านอกจากเด็กผู้ชายแล้วยังมีผู้หญิงรวมไปด้วย และนำภาพการร่วมเพศ ไปเผยแพร่มางอินเตอร์เน็ต แต่จะใช้เทคนิคพิเศษอำพรางใบหน้าตัวเองไม่ให้รู้ว่าเป็นใคร แต่ตำรวจสากล ก็ใช้ความสามารถในการปรับภาพจนรู้ว่าเป็นใคร และประสานทั่วโลกจนตามจับกุมได้ในประเทศไทย
พล.ต.อ.วงกต กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ จะส่งตัวนายคริสโตเฟอร์ ให้ บก.ปดส. นำไปสอบสวนดำเนินคดี ซึ่งตำรวจไทยจะให้สิทธิผู้ต้องหาอย่างเต็มที่ โดย ปดส.มีอำนาจควบคุมตัวเพียยง 48 ชั่วโมง จากนั้นจะต้องนำตัวไปฝากขัง ส่วนจะให้ประกันตัวหรือไม่ ต้องพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งหลังจากดำเนินคดีในประเทศเสร็จสิ้นก็จะส่งตัวให้ตำรวจในประเทศอื่นรับไปดำเนินการต่อ นอกจากนี้ก็ต้องมีการตรวจสอบต่อไปว่านายคริสโตเฟอร์ มีเชื้อเอชไอวีหรือไม่ ตามที่หลายฝ่ายออกมาแสดงความกังวล แต่ก็ต้องขึ้นกับเจ้าตัวว่าจะยินดีหรือไม่
ขณะที่มีรายงานว่า นายคริสโตเฟอร์ เดินทางเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม โดยเดินทางไปเที่ยว ในพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จากนั้นก็เดินทางไปยังบ้านเพื่อนชายคนสนิทที่เคยติดต่อกันตั้งแต่สมัยที่นายคริสโตเฟอร์อยู่ในประเทศไทย ชื่อนายโอม ใน.จ.ชัยภูมิ ก่อนที่ จะเดินทางมายัง จ.นครราชสีมา และเข้าเช่าพักในบ้านหลังดังกล่าวที่นายโอมเป็นคนติดต่อเช่าให้ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา และถูกจับกุมได้ โดยตำรวจแกะรอยจากการใช้โทรศัพท์มือถือของนายโอม จนเจอตัวและจับกุมได้
ผู้สื่อข่าวรายงานรายงานด้วยว่า ก่อนจะนำตัวมาแถลงข่าว ตำรวจท่องเที่ยว ควบคุมตัวนายคริสโตเฟอร์มาโดยรถตู้ของตำรวจท่องเที่ยว ทันทีที่ลงจากรถนายคริสโตเฟอร์ใช้เสื้อสีฟ้าคลุมศีรษะปิดบังใบหน้าไว้ตลอด ก่อนตำรวจจะนำตัวฝ่ากลุ่มสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศที่รอทำข่าวกว่า 100 คน ขึ้นไปยัง ห้องสำนักงาน ชั้น 5 อาคาร 1 ตร.ของ พล.ต.อ.วงกต เพื่อให้ซักถามเบื้องต้นก่อนนำตัวมาแถลงข่าวที่ ห้องประชุม 1 ตร. โดยระหว่างแถลงข่าวนายคริสโตเฟอร์ สวมแว่นกันแดดสีดำ มีสีหน้าเรียบเฉย และไม่ตอบคำถามใดๆ