ผู้จัดการรายวัน – ผู้บริหารแบงก์ธนชาตประเมินภาพรวมธุรกิจธนาคารพาณิชย์ปีหน้าอนาคตยังอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ยังต้องจับตาการหาพันธมิตรร่วมทุนของธนาคารบางแห่ง ยันพรบ.คุ้มครองเงินฝากคลอดกระทบแค่ช่วงสั้นและเป็นผลดีในระยะยาว แนะต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค เชื่อพันธมิตรต่างชาติช่วยหนุนธุรกิจของธนาคารได้ดี
นายบันเทิง ตันติวิท ประธานกรรมการ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจธนาคาพาณิชย์ในปีหน้านั้นยังเป็นไปในทิศทางที่ดีทั้งในแง่ของกำไรที่จะได้ประโยชน์จากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในเกณฑ์ดี รวมถึงสภาพคล่องจะยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงและอัตราหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) จะอยู่ในระดับที่คงที่ แต่ประเด็นที่น่าจับตามองการหาผู้ร่วมทุนของธนาคารบางแห่งว่าจะเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ ในส่วนการออกพรบ.คุ้มครองเงินฝาก เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของธนาคารพาณิชย์ โดยในช่วงแรกตลาดอาจมีการตื่นตระหนกบ้าง แต่ระยะต่อไปก็จะเริ่มมีการปรับตัวที่ดีขึ้น ซึ่งทางธนาคารจะต้องทำการบริหารจัดการเรื่องดังกล่าวให้เหมาะสม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ซึ่งในส่วนของธนาคารธนชาตได้มีการเตรียมพร้อมกับเรื่องดังกล่าวไว้แล้ว และเชื่อว่าจะมีไหลเข้าออกของเงินซึ่งในที่สุดแล้วเชื่อว่าจะเป็นผลบวกกับธนาคาร
ส่วนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในระบบนั้น หากพิจารณาจากสภาพคล่องที่ล้นระบบคงจะยังไม่เห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแน่นอนน่าจะอยู่ในภาวะที่ทรงตัวมากกว่า แต่ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ หากมองจากต้นทุนทางการเงินเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แล้วจะเห็นว่ามีช่วงห่างกันค่อนข้างมาก ทำให้โอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยังคงมีความเป็นไปได้ ซึ่งที่ผ่านในส่วนของธนาคารธนชาตได้ทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงไปบ้างแล้ว
"ธุรกิจแบงก์ปีหน้ายังกำไรดีเพราะส่วนต่างดอกเบี้ยดี อะไรไม่ดีจะหมดแค่ปีนี้ สภาพคล่องของระบบก็ยังล้นอยู่ ส่วนเรื่องของการคุ้มครองเงินฝากนั้นไม่ได้มีอะไรที่น่าเป็นห่วง และไม่กระทบธุรกิจ แค่ช่วงแรกอาจตกใจกันไปบ้าง แต่พอปรับตัวได้ก็จะดี ส่วนของเราเองก็มีการเตรียมพร้อมอยู่แล้ว คงกระทบบ้างและมีทั้งเงินไหลเข้าและไหลออก แต่โดยรวมจะเป็นบวกมากกว่า ส่วนอัตราดอกเบี้ยหากยังไม่มีการลดก็จะทำให้แบงก์มีกำไรดี"นายบันเทิง กล่าว
พอใจผลประกอบการแบงก์
นายบันเทิง กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของธนาคารในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีจากปีก่อนมาก เนื่องจากในปีก่อนธนาคารได้มีการลงทุนเพื่อการขยายธุรกิจค่อนข้างมาก ซึ่งทำให้เกิดค่าใช้จ่ายทั้งจากการดำเนินงานรวมถึงการเพิ่มบุคลากร ส่วนในปีนี้อัตราดอกเบี้ยมีการปรับลดลงทำให้ธนาคารมีต้นทุนที่ถูกลงประกอบกับไม่ได้มีการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจเท่ากับปีก่อนทำให้ผลประกอบการโดยรวมดีขึ้น ซึ่งเชื่อว่าผลการดำเนินงานทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ โดยในช่วงต่อจากนี้ธนาคารจะมุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อรายใหญ่ให้มากขึ้นจากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ประมาณ 10-20%เท่านั้น และเป็นสินเชื่อรายย่อย 80-90%
ทั้งนี้ จากการมีธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย(Scotiabank) เป็นพันธมิตรทางธุรกิจนั้นจะเป็นส่วนที่เป็นประโยชน์กับธนาคารมากขึ้นในแง่ของประสบการณ์ในการทำธุรกิจ รวมถึงระบบเทคโนโลยีและการบริหารข้อมูล ซึ่งธนาคารมีความสนใจในระบบดังกล่าวของธนาคารแห่งโนวาสโกเทียเป็นพิเศษ หลังจากได้เยี่ยมชมธนาคารแห่งโนวาสโกเทียเมื่อ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
แนะอย่าพึ่งต่างชาติมากไป
นายบันเทิง กล่าวอีกว่า สิ่งที่เราต้องระวังคือเรื่องของเงินต่างชาติที่เข้ามาเยอะเกินไป หากไม่ระวังปล่อยให้เงินต่างชาติเข้ามาและเมื่อต่างชาติดึงเงินกลับไปก็จะทำให้เกิดปัญหาได้ ดังนั้นจึงไม่ควรจะพึงเงินทุนจากต่างประเทศมากไป เพราะในความเป็นจริงเงินทุนภายในประเทศไทยมีอยู่เป็นจำนวนมหาศาล จึงควรจะกระตุ้นให้มีการลงทุนให้มากแทนการกระตุ้นให้นักลงทุนไปลงทุนในต่างประเทศ และควรจะยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง
"หากพึ่งในต่างประเทศมากไป พอเขาทำอะไรไม่ได้ก็จะดึงเงินกลับไปตลาดเราก็จะมีปัญหา ดังนั้น เราควรพึงพาภายในประเทศดีกว่า แม้ว่าเราจะเคยพึงเขามาก่อนก็ต้องค่อยๆปรับตัวกันไป โดยกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวไม่ต้องเปลี่ยนก็ได้ แต่ก็ต้องยังมีบทลงโทษอย่าให้มีการมีการหลบเลี่ยง ตอนนี้การจะเป็นเมืองขึ้นไม่ต้องมีเรือรบขนปืนใหญ่มาแล้ว แค่ขนเงินเข้ามาก็พอ"นายบันเทิงกล่าว
นายบันเทิง ตันติวิท ประธานกรรมการ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจธนาคาพาณิชย์ในปีหน้านั้นยังเป็นไปในทิศทางที่ดีทั้งในแง่ของกำไรที่จะได้ประโยชน์จากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในเกณฑ์ดี รวมถึงสภาพคล่องจะยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงและอัตราหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) จะอยู่ในระดับที่คงที่ แต่ประเด็นที่น่าจับตามองการหาผู้ร่วมทุนของธนาคารบางแห่งว่าจะเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ ในส่วนการออกพรบ.คุ้มครองเงินฝาก เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของธนาคารพาณิชย์ โดยในช่วงแรกตลาดอาจมีการตื่นตระหนกบ้าง แต่ระยะต่อไปก็จะเริ่มมีการปรับตัวที่ดีขึ้น ซึ่งทางธนาคารจะต้องทำการบริหารจัดการเรื่องดังกล่าวให้เหมาะสม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ซึ่งในส่วนของธนาคารธนชาตได้มีการเตรียมพร้อมกับเรื่องดังกล่าวไว้แล้ว และเชื่อว่าจะมีไหลเข้าออกของเงินซึ่งในที่สุดแล้วเชื่อว่าจะเป็นผลบวกกับธนาคาร
ส่วนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในระบบนั้น หากพิจารณาจากสภาพคล่องที่ล้นระบบคงจะยังไม่เห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแน่นอนน่าจะอยู่ในภาวะที่ทรงตัวมากกว่า แต่ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ หากมองจากต้นทุนทางการเงินเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แล้วจะเห็นว่ามีช่วงห่างกันค่อนข้างมาก ทำให้โอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยังคงมีความเป็นไปได้ ซึ่งที่ผ่านในส่วนของธนาคารธนชาตได้ทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงไปบ้างแล้ว
"ธุรกิจแบงก์ปีหน้ายังกำไรดีเพราะส่วนต่างดอกเบี้ยดี อะไรไม่ดีจะหมดแค่ปีนี้ สภาพคล่องของระบบก็ยังล้นอยู่ ส่วนเรื่องของการคุ้มครองเงินฝากนั้นไม่ได้มีอะไรที่น่าเป็นห่วง และไม่กระทบธุรกิจ แค่ช่วงแรกอาจตกใจกันไปบ้าง แต่พอปรับตัวได้ก็จะดี ส่วนของเราเองก็มีการเตรียมพร้อมอยู่แล้ว คงกระทบบ้างและมีทั้งเงินไหลเข้าและไหลออก แต่โดยรวมจะเป็นบวกมากกว่า ส่วนอัตราดอกเบี้ยหากยังไม่มีการลดก็จะทำให้แบงก์มีกำไรดี"นายบันเทิง กล่าว
พอใจผลประกอบการแบงก์
นายบันเทิง กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของธนาคารในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีจากปีก่อนมาก เนื่องจากในปีก่อนธนาคารได้มีการลงทุนเพื่อการขยายธุรกิจค่อนข้างมาก ซึ่งทำให้เกิดค่าใช้จ่ายทั้งจากการดำเนินงานรวมถึงการเพิ่มบุคลากร ส่วนในปีนี้อัตราดอกเบี้ยมีการปรับลดลงทำให้ธนาคารมีต้นทุนที่ถูกลงประกอบกับไม่ได้มีการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจเท่ากับปีก่อนทำให้ผลประกอบการโดยรวมดีขึ้น ซึ่งเชื่อว่าผลการดำเนินงานทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ โดยในช่วงต่อจากนี้ธนาคารจะมุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อรายใหญ่ให้มากขึ้นจากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ประมาณ 10-20%เท่านั้น และเป็นสินเชื่อรายย่อย 80-90%
ทั้งนี้ จากการมีธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย(Scotiabank) เป็นพันธมิตรทางธุรกิจนั้นจะเป็นส่วนที่เป็นประโยชน์กับธนาคารมากขึ้นในแง่ของประสบการณ์ในการทำธุรกิจ รวมถึงระบบเทคโนโลยีและการบริหารข้อมูล ซึ่งธนาคารมีความสนใจในระบบดังกล่าวของธนาคารแห่งโนวาสโกเทียเป็นพิเศษ หลังจากได้เยี่ยมชมธนาคารแห่งโนวาสโกเทียเมื่อ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
แนะอย่าพึ่งต่างชาติมากไป
นายบันเทิง กล่าวอีกว่า สิ่งที่เราต้องระวังคือเรื่องของเงินต่างชาติที่เข้ามาเยอะเกินไป หากไม่ระวังปล่อยให้เงินต่างชาติเข้ามาและเมื่อต่างชาติดึงเงินกลับไปก็จะทำให้เกิดปัญหาได้ ดังนั้นจึงไม่ควรจะพึงเงินทุนจากต่างประเทศมากไป เพราะในความเป็นจริงเงินทุนภายในประเทศไทยมีอยู่เป็นจำนวนมหาศาล จึงควรจะกระตุ้นให้มีการลงทุนให้มากแทนการกระตุ้นให้นักลงทุนไปลงทุนในต่างประเทศ และควรจะยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง
"หากพึ่งในต่างประเทศมากไป พอเขาทำอะไรไม่ได้ก็จะดึงเงินกลับไปตลาดเราก็จะมีปัญหา ดังนั้น เราควรพึงพาภายในประเทศดีกว่า แม้ว่าเราจะเคยพึงเขามาก่อนก็ต้องค่อยๆปรับตัวกันไป โดยกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวไม่ต้องเปลี่ยนก็ได้ แต่ก็ต้องยังมีบทลงโทษอย่าให้มีการมีการหลบเลี่ยง ตอนนี้การจะเป็นเมืองขึ้นไม่ต้องมีเรือรบขนปืนใหญ่มาแล้ว แค่ขนเงินเข้ามาก็พอ"นายบันเทิงกล่าว