อนุ กมธ.ยุติธรรมและการตำรวจ สนช. เปิดข้อมูลใหม่ นายกฯโอนที่ดินเขายายเที่ยงให้ลูกชายถือแทน ตั้งแต่ 7 พ.ย. 49 แต่หมกเม็ดไม่แจ้งป.ป.ช. "ประสงค์"ส่งทีมงานบุก 3 หน่วยงานคุ้ยข้อมูลเพิ่มเติม คาดได้ข้อสรุปสัปดาห์หน้า โยนลูกให้ผู้ร้องทุกข์ยื่นฟ้อง ป.ป.ช ต่อ พร้อมจี้รัฐปฎิรูปที่ดินทั้งระบบทั่วประเทศ
หลังจากที่ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาและส่งเสริมการสร้างคุณธรรม และจริยธรรมแก่นักการเมืองข้าราชการและประชาชน สนช. ได้นำทีมเปิดอภิปรายจริยธรรมของรัฐบาลไปเมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา และได้มีการอภิปรายกรณีบ้านพักของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ที่เขายายเที่ยง จ.นครราชสีมา ว่าเป็นการบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติไปแล้วนั้น
เมื่อวานนี้ (16 ต.ค.) น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการการยุติธรรมและการตำรวจ สนช. ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ตรวจสอบการครอบครองที่ดินเขายายเที่ยง ของพล.อ.สุรยุทธ์ ว่า วันนี้คณะทำงานของคณะอนุกรรมาธิการ การยุติธรรมและการตำรวจ สนช.ได้รายงานการลงพื้นที่ไปตรวจสอบ โดยมีทั้งภาพถ่าย แผนที่ กฎหมายป่าไม้ กฎหมายที่ดิน พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ รวมทั้งคำพิพากษาของศาลที่เคยตัดสินคดีในการบุกรุกป่ามาพิจารณาด้วย ซึ่งการดำเนินการต่อไป คือ จะไปหาข้อเท็จจริงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วย เช่น กรมที่ดิน กรมป่าไม้ กรมแผนที่ทหารบก เพื่อซักถามเรื่องราวบางประเด็น ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ การขอข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ ดังกล่าวนี้ ก็เพื่อจะดูว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการอย่างไร แค่ไหน เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นนานแล้ว และมีการเสียภาษีบำรุงท้องที่มาเป็นปีแล้ว ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการไปถึงไหน
น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ปัญหารุกที่ป่าสงวนที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ เนื่องจากประชาชนที่เข้าไปในพื้นที่ป่าสงวน เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุมก็ลำบาก ดังนั้นจะทำอย่างไรที่จะสามารถแก้ไขได้ทั้งระบบโดยฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร จะต้องแก้ไขระบบปฎิรูปที่ดินกันใหม่ทั้งประเทศ ว่าตรงไหนจะให้ประชาชนทำมาหากินได้ เพื่อความยุติธรรม และความเสมอภาคได้ ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดปัญหาขึ้นที่โน่นที่นี่อีก
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการร้องเรียนการบุกรุกที่ป่า ที่จ.กระบี่ เหมือนกัน โดยเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาความขัดแย้งของ 2 หน่วยราชการ ทั้งนี้ ในวันอังคารที่ 23 ต.ค. คงจะได้ข้อสรุปกรณีเขายายเที่ยง เมื่อถามว่าจะส่งเรื่องให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และ ป.ป.ช. ด้วย น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า จะให้ผู้ที่ร้องทุกข์กล่าวโทษ ที่เคยไปร้องเรียนยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มายื่นต่อ ป.ป.ช. ด้วย เพราะเป็นประเด็นใหม่ เมื่อถามว่าเคยยื่นไปแล้วแต่ ป.ป.ช.ไม่รับฟ้อง น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังสอบ พล.อ.สุรฤทธิ์ จันทราทิพย์ ซึ่งเป็นกระบวนการต่อเนื่องกันอยู่ และเป็นเรื่องใหม่
นายกฤษศักดา วัฒนพงษ์ เลขานุการอนุกรรมาธิการการตำรวจ และสิทธิมนุษยชน สนช. ร่วมแถลงภายหลังการประชุมว่า ได้รับมอบหมายจาก คณะอนุกรรมาธิการฯ ให้ไปศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมจากหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นกรมทรัพยากรป่าไม้ กรมที่ดิน และกรมแผนที่ทหาร ในวันศุกร์ที่ 19 ต.ค.นี้ เวลา 10.00 น. จ ะไปที่กรมแผนที่ทหาร และเวลา 14.00 น.จะไปที่กรมทรัพยากรป่าไม้ เพราะจากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า บ้านพักของนายกรัฐมนตรี อยู่ในพื้นที่ป่าสงวน แต่ต้องรอการชี้ชัดจากเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานดังกล่าวว่าเป็นป่าในลักษณะใด โดยมีข้อสังเกตว่า นอกจากเป็นป่าสงวนแล้ว บริเวณโดยรอบของป่านั้น เป็นเขตหวงห้ามของกระทรวงกลาโหมด้วย
นายกฤษศักดา กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางกรมป่าไม้ได้นำพื้นที่ป่าในหลายพื้นที่ไปออกเป็น สปก. และกันพื้นที่ที่มีสภาพป่าหรือไม่มีศักยภาพทางการเกษตร พื้นที่อนุรักษ์ พื้นที่ต้นน้ำลำธาร ซึ่งเขายายเที่ยงอยู่ในโซน ซี ซึ่งเป็นเขตป่าอนุรักษ์เขตลุ่มน้ำชั้น 1 หรือ 2 เพราะเป็นต้นน้ำของห้วยน้ำขาว ที่ไหลลงลำตะคอง ซึ่งตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 54 จะบุว่าผู้บุกรุกจะมีโทษจำคุก 5 ปี หรือ ปรับ 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำและปรับ
ด้าน นายชุมพล สังข์ทอง คณะอนุกรรมาธิการฯ กล่าวว่า คณะอนุกรรมาธิการฯได้พบประเด็นใหม่ คือ การแจ้งบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สินของนายกรัฐมนตรี อาจเป็นเท็จ เนื่องจากมีการตรวจสอบพบว่า มีการเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครอง บ้านเลขที่ 10 หมู่ 6 เขายายเที่ยง จากพล.อ.สุรฤทธิ์ จันทราทิพย์ มาเป็นนายจุล จุลานนท์ เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 49 ซึ่งการเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรี แจ้งบัญญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อ ป.ป.ช. หลังการเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และไม่ได้มีการแจ้งการถือครองที่ดินดังกล่าวต่อ ป.ป.ช. แต่ในภายหลังเมื่อมีการตรวจสอบ นายกรัฐมนตรี กลับยืนยันว่าได้เข้าไปถือครองตั้งแต่ปี 35 จึงเชื่อว่า น่าจะมีการปกปิด และแจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ ซึ่งประเด็นนี้สามารถส่งให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบเพิ่มเติมได้ และหากไม่ดำเนินการ จะถือว่าเข้าข่ายละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ตาม มาตรา 157
ด้านนายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้เป็นผู้ชี้แจงกรณีที่ดินเขายายเที่ยงในการอภิปรายของสนช.เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา กล่าวว่า จากที่ได้รับมอบหมายให้เป็นคนชี้แจงถึงเรื่องนี้ ไม่พบว่ามีข้อมูลดังกล่าว และไม่เชื่อว่าจะเป็นจริง เพราะตนไม่พบว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
หลังจากที่ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาและส่งเสริมการสร้างคุณธรรม และจริยธรรมแก่นักการเมืองข้าราชการและประชาชน สนช. ได้นำทีมเปิดอภิปรายจริยธรรมของรัฐบาลไปเมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา และได้มีการอภิปรายกรณีบ้านพักของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ที่เขายายเที่ยง จ.นครราชสีมา ว่าเป็นการบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติไปแล้วนั้น
เมื่อวานนี้ (16 ต.ค.) น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการการยุติธรรมและการตำรวจ สนช. ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ตรวจสอบการครอบครองที่ดินเขายายเที่ยง ของพล.อ.สุรยุทธ์ ว่า วันนี้คณะทำงานของคณะอนุกรรมาธิการ การยุติธรรมและการตำรวจ สนช.ได้รายงานการลงพื้นที่ไปตรวจสอบ โดยมีทั้งภาพถ่าย แผนที่ กฎหมายป่าไม้ กฎหมายที่ดิน พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ รวมทั้งคำพิพากษาของศาลที่เคยตัดสินคดีในการบุกรุกป่ามาพิจารณาด้วย ซึ่งการดำเนินการต่อไป คือ จะไปหาข้อเท็จจริงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วย เช่น กรมที่ดิน กรมป่าไม้ กรมแผนที่ทหารบก เพื่อซักถามเรื่องราวบางประเด็น ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ การขอข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ ดังกล่าวนี้ ก็เพื่อจะดูว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการอย่างไร แค่ไหน เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นนานแล้ว และมีการเสียภาษีบำรุงท้องที่มาเป็นปีแล้ว ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการไปถึงไหน
น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ปัญหารุกที่ป่าสงวนที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ เนื่องจากประชาชนที่เข้าไปในพื้นที่ป่าสงวน เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุมก็ลำบาก ดังนั้นจะทำอย่างไรที่จะสามารถแก้ไขได้ทั้งระบบโดยฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร จะต้องแก้ไขระบบปฎิรูปที่ดินกันใหม่ทั้งประเทศ ว่าตรงไหนจะให้ประชาชนทำมาหากินได้ เพื่อความยุติธรรม และความเสมอภาคได้ ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดปัญหาขึ้นที่โน่นที่นี่อีก
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการร้องเรียนการบุกรุกที่ป่า ที่จ.กระบี่ เหมือนกัน โดยเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาความขัดแย้งของ 2 หน่วยราชการ ทั้งนี้ ในวันอังคารที่ 23 ต.ค. คงจะได้ข้อสรุปกรณีเขายายเที่ยง เมื่อถามว่าจะส่งเรื่องให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และ ป.ป.ช. ด้วย น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า จะให้ผู้ที่ร้องทุกข์กล่าวโทษ ที่เคยไปร้องเรียนยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มายื่นต่อ ป.ป.ช. ด้วย เพราะเป็นประเด็นใหม่ เมื่อถามว่าเคยยื่นไปแล้วแต่ ป.ป.ช.ไม่รับฟ้อง น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังสอบ พล.อ.สุรฤทธิ์ จันทราทิพย์ ซึ่งเป็นกระบวนการต่อเนื่องกันอยู่ และเป็นเรื่องใหม่
นายกฤษศักดา วัฒนพงษ์ เลขานุการอนุกรรมาธิการการตำรวจ และสิทธิมนุษยชน สนช. ร่วมแถลงภายหลังการประชุมว่า ได้รับมอบหมายจาก คณะอนุกรรมาธิการฯ ให้ไปศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมจากหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นกรมทรัพยากรป่าไม้ กรมที่ดิน และกรมแผนที่ทหาร ในวันศุกร์ที่ 19 ต.ค.นี้ เวลา 10.00 น. จ ะไปที่กรมแผนที่ทหาร และเวลา 14.00 น.จะไปที่กรมทรัพยากรป่าไม้ เพราะจากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า บ้านพักของนายกรัฐมนตรี อยู่ในพื้นที่ป่าสงวน แต่ต้องรอการชี้ชัดจากเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานดังกล่าวว่าเป็นป่าในลักษณะใด โดยมีข้อสังเกตว่า นอกจากเป็นป่าสงวนแล้ว บริเวณโดยรอบของป่านั้น เป็นเขตหวงห้ามของกระทรวงกลาโหมด้วย
นายกฤษศักดา กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางกรมป่าไม้ได้นำพื้นที่ป่าในหลายพื้นที่ไปออกเป็น สปก. และกันพื้นที่ที่มีสภาพป่าหรือไม่มีศักยภาพทางการเกษตร พื้นที่อนุรักษ์ พื้นที่ต้นน้ำลำธาร ซึ่งเขายายเที่ยงอยู่ในโซน ซี ซึ่งเป็นเขตป่าอนุรักษ์เขตลุ่มน้ำชั้น 1 หรือ 2 เพราะเป็นต้นน้ำของห้วยน้ำขาว ที่ไหลลงลำตะคอง ซึ่งตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 54 จะบุว่าผู้บุกรุกจะมีโทษจำคุก 5 ปี หรือ ปรับ 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำและปรับ
ด้าน นายชุมพล สังข์ทอง คณะอนุกรรมาธิการฯ กล่าวว่า คณะอนุกรรมาธิการฯได้พบประเด็นใหม่ คือ การแจ้งบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สินของนายกรัฐมนตรี อาจเป็นเท็จ เนื่องจากมีการตรวจสอบพบว่า มีการเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครอง บ้านเลขที่ 10 หมู่ 6 เขายายเที่ยง จากพล.อ.สุรฤทธิ์ จันทราทิพย์ มาเป็นนายจุล จุลานนท์ เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 49 ซึ่งการเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรี แจ้งบัญญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อ ป.ป.ช. หลังการเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และไม่ได้มีการแจ้งการถือครองที่ดินดังกล่าวต่อ ป.ป.ช. แต่ในภายหลังเมื่อมีการตรวจสอบ นายกรัฐมนตรี กลับยืนยันว่าได้เข้าไปถือครองตั้งแต่ปี 35 จึงเชื่อว่า น่าจะมีการปกปิด และแจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ ซึ่งประเด็นนี้สามารถส่งให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบเพิ่มเติมได้ และหากไม่ดำเนินการ จะถือว่าเข้าข่ายละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ตาม มาตรา 157
ด้านนายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้เป็นผู้ชี้แจงกรณีที่ดินเขายายเที่ยงในการอภิปรายของสนช.เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา กล่าวว่า จากที่ได้รับมอบหมายให้เป็นคนชี้แจงถึงเรื่องนี้ ไม่พบว่ามีข้อมูลดังกล่าว และไม่เชื่อว่าจะเป็นจริง เพราะตนไม่พบว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น