xs
xsm
sm
md
lg

วิทยุพม่าเผยนายกฯ‘โซ วิน’สิ้นชีพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สื่อของรัฐบาลทหารพม่าเผย พลเอกโซ วิน นายกรัฐมนตรี วัย 59 ปี เสียชีวิตที่โรงพยาบาลทหารในกรุงย่างกุ้ง หลังป่วยเป็นโรคลูคิเมียมาเป็นเวลานานแล้ว

สถานีวิทยุของรัฐบาลทหารพม่าแถลงเมื่อวันศุกร์(12 ต.ค.) ว่าพล.อ. โซวิน ถึงแก่กรรมในโรงพยาบาลทหารในย่างกุ้ง เมื่อเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา

พล.อ.โซวิน เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในสิงคโปร์ตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา โดยข่าวรายงานว่าผู้นำระดับสูงในรัฐพม่า ซึ่งได้ชื่อว่า “มือเปื้อนเลือดมากที่สุด” อีกคนหนึ่งผู้นี้ ป่วยเป็นโรคลูคิเมีย ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีได้รายงานว่า พล.อ.โซวิน เดินทางกลับย่างกุ้งเมื่อสองสามสัปดาห์ที่แล้ว แต่อาการป่วยยังคงเหมือนเดิม

เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.โซวินได้แต่งตั้ง พล.ท.เต็งเส่ง ผู้นำหมายเลข 5 ในรัฐบาลทหารพม่า ขึ้นรักษาการตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ พล.อ.โซวิน เป็น “หมายเลข 4” ในองค์กรบริหารสูงสุดของฝ่ายทหารที่เรียกว่า “สภาเพื่อสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ (State Peace and Development Council : SPDC)” ถัดจาก พลเอกอาวุโส ตานฉ่วย พล.อ.หม่องเอ กับ พล.อ.ตูระฉ่วยมาน

คาดกันว่าการเสียชีวิตของ พล.อ. โซวินไม่น่าจะส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อรัฐบาลพม่า เนื่องจากอำนาจการปกครองอันแท้จริงอยู่ในกำมือของ พลเอกอาวุโส ตานฉ่วย ผู้นำสูงสุดของรัฐบาลทหารพม่า ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ใช้มาตรการขั้นรุนแรงปราบปรามพระสงฆ์ และนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน ในจำนวนนี้รวมถึงช่างภาพชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง ขณะที่พระสงฆ์และประชาชนกว่า 2,000 คนถูกจับกุม กระตุ้นให้นานาชาติแสดงความไม่พอใจอย่างหนัก

เมื่อวันพฤหัสบดี คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติออกคำแถลง ตำหนิการใช้ความรุนแรงปราบกลุ่มผู้ประท้วงในพม่า เรียกร้องให้ปล่อยตัวนักโทษการเมือง และขอให้มีการพูดคุยกับนางอองซาน ซูจี หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ผู้เคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ

สำหรับเส้นทางขึ้นสู่อำนาจของ พล.อ. โซวินนั้น เขาขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีพม่า ต่อจาก พล.อ.ขิ่นยุ้นต์ ที่ถูกปลดในเดือนต.ค.ปี 2004 ทั้งนี้ สำนักข่าวตะวันตกเชื่อว่า นั่นเป็นการปูนบำเหน็จให้แก่อดีตนายทหารผู้บัญชาการกองทัพภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ที่อยู่เบื้องหลังแผนการโจมตีขบวนรถปราศรัยของนางอองซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งให้เกิดความวุ่นวายเมื่อปี 2003

ในเหตุการณ์ครั้งนั้น ฝ่ายนายทหารได้ใช้วิธีส่งฝูงชนปะทะกับฝูงชน สร้างเงื่อนไขการปราบปราม ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน ขณะที่ทางการแจ้งว่ามีคนตายเพียง 80 เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เหตุจลาจลครั้งนั้นได้ถูกใช้เป็นข้ออ้างในการกักบริเวณนางซูจี อีกรอบหนึ่ง เรื่อยมาจนกระทั่งทุกวันนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น