กกต.เปิดโมเดลโปสเตอร์หาเสียง พรรคเศรษฐีหมดสิทธิติดบิลบอร์ด ใช้ได้แค่ ขนาดเท่ากระดาษ A 3 และ 80 ซม.คูณ1.50 เมตร แถมพิมได้แค่ 10 เท่าของหน่วยเลือกตั้งแต่ละเขต พร้อมให้องค์กรปกครองส่วยนท้องถิ่น หน่วยงานรัฐ เป็นผู้กำหนดสถานที่ป้ายหาเสียงมั่วต้อง ขณะเดียวกันคุมการโฆษณาออกทีวี ได้วันละ 3 ครั้ง เว้นเสาร์-อาทิตย์ “พลังประชาชน” เปิดปราศรัยนัดแรก “ยงยุทธ์” จวกไอ้แว่นที่เป็นซาร์เศรษฐกิจยุค “ทักษิณ” หักหลังลูกพี่กล่าวโจมตีหลังตกกระป๋อง กกต.สั่งจับตา ฮึมทำผิดกม.เจอดีแน่ “เสนาะ” ชู “กร” นั่งนายกฯ
วานนี้ (12 ต.ค.) นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต. ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวภายหลังการประชุม กับผู้แทนกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ผู้แทนบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด ผู้แทนสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครองกระทรวงมหาดไทยถึง การเตรียมการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร และการเตรียมการเลือกตั้งล่วงหน้าว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.ได้กำหนดระยะเวลาให้ประชาชนทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดและคนไทยในต่างประเทศลงทะเบียนขอใช้สิทธินอกราชอาณาจักรระหว่างวันที่ 22 ต.ค- 22 พ.ย. นี้
โดยขณะนี้ กกต.ได้เสนอร่างพ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้งไปยังรัฐบาลแล้ว และทราบว่าได้มีการส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบร่างเสร็จสิ้นแล้ว คาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีได้ในวันที่ 16 ต.ต. นี้ และพระราชกฤษฎีกา กำหนดวันเลือกตั้ง 23 ธ.ค. น่าจะประกาศในราชกิจจานุเบกษามีผลบังคับใช้ในช่วงป ลายเดือน ต.ค.นี้
นายประพันธ์ กล่าวว่าในการประชุม กกต.สัปดาห์หน้า จะมีการพิจารณา ร่างระเบียบต่างๆ ที่จะใช้ในการเลือกตั้ง รวมถึงการแบ่งเขตส.ส.ในระบบสัดส่วนและระบบเขตเลือกตั้ง 157 เขต ที่จะต้องมีการแบ่งเขตใหม่ใน 45 จังหวัด หลังจากนั้นจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการเพื่อให้ผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งได้เตรียมตัว
เผยโมเดลแผ่นป้ายหาเสียง
รายงานข่าวแจ้งว่า ตาม พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว. มาตรา 59 บัญญัติให้ กกต.เป็นผู้กำหนดสถานที่ปิดประกาศ และแผ่นป้ายหาเสียงเกี่ยวกับการเลือกตั้ง รวมถึงกำหนดขนาด และจำนวนของโปสเตอร์ แผ่นป้ายที่ผู้สมัคร และพรรคการเมืองที่จะใช้หาเสียง และจัดสรรเวลาในการรออกอากาศหาเสียง ให้พรรคการเมืองนั้น ขณะนี้คณะอนุกรรมการของกกต.ที่มีนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. เป็นประธาน ไดวางหลักเกณฑ์ และยกร่างระเบียบเบื้องต้นแล้ว โดยเตรียมที่จะเสนอให้ที่ประชุม กกต.พิจารณา ก่อนที่จะนำเข้ารับฟังความคิดเห็นจากที่ประชุมพรรคการเมืองอีกครั้งในวันที่ 22 ต.ค.นี้
สำหรับโปสเตอร์แนะนำตัวที่จะนำมาติดนั้นกำหนดให้ทั้งพรรคการเมือง ผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขตเลือกตั้ง และระบบสัดส่วน 8 กลุ่มจังหวัด จัดพิมพ์ได้ขนาดไม่เกิน12 X 17 นิ้ว หรือ เท่ากับกระดาษ A3 ซึ่งแต่ละเขตเลือกตั้งจะพิมพ์โปสเตอร์ไดังกล่าว ได้ไม่เกิน 10 เท่าของหน่วยเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น หรือกลุ่มจังหวัดนั้น
ขณะที่ป้ายหาเสียงนั้น กำหนดให้ทั้งพรรคการเมือง และผู้สมัครส.ส.แบบ แบ่งเขตเลือกตั้ง และระบบสัดส่วน 8 กลุ่มจังหวัด จัดพิมพ์ได้ขนาดไม่เกิน 80 ซ.ม. X 1.50 เมตร โดยจะติดได้เพียง 3 เท่าของหน่วยเลือกตั้งที่มีในเขตนั้น หรือกลุ่มจังหวัดนั้น
สำหรับสถานที่ติดป้ายหาเสียง ให้หน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ออกประกาศกำหนดซึ่งอาจจะเป็น ริมถนน ฟุต บาทพื้นที่สาธารณะอื่นที่เป็นของรัฐ
ส่วนการจัดสรรเวลาออกอากาศ เพื่อแถลงนโยบายของแต่ละพรรคนั้นทางคณะอนุกรรมการเห็นว่าจะให้เวลาที่สั้นกว่าในอดีต แต่มีจำนวนครั้งในการเผยแพร่มากขึ้น เบื้องต้นตั้งเกณฑ์ไว้วันละไม่น้อยกว่า 3 ครั้งต่อพรรค โดยออกอากาศครั้งละไม่เกิน 10 นาที ส่วนสปอตหาเสียง กำหนดความยาวไม่เกิน 30 วินาที เผยแพร่วันละไม่น้อย 3 ครั้งต่อพรรค โดยจะออกอากาศวันจันทร์-ศุกร์ ยกเว้น เสาร์-อาทิตย์ เนื่องจากคณะอนุกรรมการฯเห็นว่า เป็นวันที่คนดูมาก ทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ
สำหรับสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เคเบิ้ลทวี สื่ออินเตอร์เนตต่างๆ แม้ทาง คณะอนุกรรมการฯ เห็นว่า กกต.ควรออกประกาศห้ามมิให้พรรค ผู้สมัคร ซื้อเวลา หรือ พื้นที่ในสื่อเหล่านี้เพื่อหาเสียง เพราะจะทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบแต่ก็มีการ โต้แย้งว่าน่าจะสามารถทำได้ โดยให้นำมาคิดเป็นค่าใช้จ่าย จึงจะเสนอให้เป็นดุลยพินิจ ของ กกต.
ดังนั้นการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้จะแตกต่างจากในอดีตที่ผ่านมา โดยจะไม่มีภาพการขึ้นคัดเอาท์ขนาดใหญ่บนหลังคาตึกของพรรคการเมือง การติดป้ายหาเสียงซ้อน ๆ กันของผู้สมัครตามเสาไฟฟ้า ตามสี่แยกถนน หรือ การซื้อเวลาสื่อโทรทัศน์ วิทยุ สิ่งพิมพ์ เพื่อเผยสปอตโฆษณาพรรค ซึ่งเรื่องติดป้าย หาเสียงตามสถานที่รัฐจัดสรรให้นั้นเป็นการเอารูปแบบของประเทศญี่ปุ่นมาใช้ รวมทั้งกฎหมายมีเจตนาต้องการให้การหาเสียงของพรรคการเมืองเป็นไปอย่างเท่าเทียม ไม่ใช่พรรคใดมีเงินมากก็สามารถซื้อสื่อโฆษณาพรรค ผู้สมัคร ได้เข้าถึงประชาชนมากกว่า
กกต.จับตา พปช.หาเสียง
นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ฝ่ายพรรคการเมือง กล่าวว่า ขณะนี้ กกต. ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนบันทึกถ้อยคำการปราศรัยของพรรคพลังประชาชน ที่ท้องสนามหลวง ในวันเดียวกันนี้ เพื่อจะนำมาตรวจสอบว่า เนื้อหาการปราศรัยผิดกฎหมาย เลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งฝ่ายสืบสวนจะสรุปว่า อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย สามารถขึ้นปราศรัยให้พรรคพลังประชาชนได้ แต่จะพิจารณารายละเอียดว่า มีการพาดพิงถึงพรรคการเมืองอื่นหรือก่อให้เกิดความไม่สงบหรือไม่ ทั้งนี้สอดคล้องกับมาตรา 53 ของกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2550 ที่ระบุห้ามมิให้ผู้สมัคร หรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อจูงใจ ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ตนเองหรือผู้สมัครอื่น หรือพรรคการเมืองใด หรือ งดเว้นการลงคะแนน
อดีตบิ๊ก ทรท.ร่วมงานปราศรัย พปช.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วันเดียวกันที่ท้องสนามหลวง พรรคพลังประชาชนได้จัดปราศรัยใหญ่ โดยมีแกนนำพรรค อาทิ นายสมัคร สุนทรเวช หัวหหน้าพรรค นายยงยุทธ ติยะไพรัช พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ รองหัวหน้าพรรค นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค มาร่วมปราศรัย นอกจากนี้ยังมีอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิ์การเมือง 5 ปีมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย อาทิ คุณหญิงสุดรัตน์ เกยุราพันธุ์ นายเนวิน ชิดชอบ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ นายสมชาย สุนทรวัฒน์ เป็นที่น่าสังเกตุว่า พ.อ.สมคิด ศรีสังคม อดีต ส.ว.อุดรธานี ร่วมขึ้นเวทีปราศรัยด้วย
ขณะเดียวกันยังมีดารานักร้อง เช่น สายัณห์ สัญญา นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง กรุง ศรีวิไล นักแสดง สำหรับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มพีทีวี และนายสุรชัย แซ่ด่าน 1 ในแกนนำนปก. ได้เดินทางมาร่วมการปราศรัยครั้งนี้ด้วย ท่ามกลางประชาชน ที่ให้ความสนใจกว่า 1 หมื่นคน โดยมีการแจกซีดีพรรค และใบปลิวโจมตี พล.อ.เปรม ติณนสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ของกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ ให้กับประชาชนที่เดินทางมาฟังการปราศรัยด้วย
นายสมัคร ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นการปราศรัยเปิดตัวของพรรคพลังประชาชน จะพูดคุยถึงปัญหาตลอด 1 ปีที่ผ่านมามีอะไรบ้าง และ 5 ปีที่ผ่านมาภายใต้การบริหารงาน ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีมีอะไรบ้าง ส่วน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุ่งนั้นจะไม่มาร่วมปราศรัย แต่ในวันข้างหน้า ร.ต.อ.เฉลิมจะมาร่วมแน่นอน
"ยงยุทธ์"ซัด"ไอ้แว่น"หักหลัง"ทักษิณ"
นายยงยุทธ์ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนขึ้นปราศัยตอนหนึ่งว่า ตนขอพูดว่าคนที่ยอมให้กับอำนาจเผด็จการทหารเข้ามาครอบงำตัวเอง คือคนที่กินฉี่ทหาร ที่ผ่านมาคนที่เกี่ยวข้องกับตนและอดีตพรรคเก่าหลายคน ก็ถูกโจมตีและกล่าวหาว่าชั่วร้าย ตนก็บอกไปว่า ไม่เป็นไรเพราะความยุติธรรม ไม่ได้เกิดจากปากกระบอกปืน
“ที่ผมและคุณเนวินถูกควบคุมตัวนั้นนอกจากขัดสิทธิขั้นพื้นฐานแล้ว ยังมีประเด็นที่หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งไประบุว่า ผมไปอยู่ที่บ้านพักหลังหนึ่งซึ่งเป็นของญาติ ขณะนั้นมี ตชด. 2 นายมานอนที่บ้านผมซึ่งเขาไม่เกี่ยวข้องเลย กลับถูกกระทำการ เช่นเหยียบหัว จับมือไขว้หลัง โดยไอ้โม่งที่เข้าไปตะโกนเรียกชื่อผมยงยุทธ คนใกล้บ้านรับรู้กันหมด จนไม่กี่วัน ตชด. 2 นายก็ถูกย้าย ไปอยู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และก็ถูกฆ่าตาย อยากถามประชาชนว่า เขาตายด้วยโจรใต้หรือใคร”
นายยงยุทธ กล่าวอีกว่า สมัยที่พ.ต.ท.ทักษิณบริหารงานพูดอะไรก็ดีหมด แต่พอถูกยึดอำนาจ พวกที่กินฉี่ทหารก็เอาตัวออกห่าง คนที่ใส่แว่นที่ได้ชื่อว่า ซาร์เศรษฐกิจออกมาบอกว่าไม่เห็นด้วยกับพ.ต.ท.ทักษิณมาเป็นปีๆ แล้ว ยังสงสัยว่าแล้วมาอยู่ด้วยทำไม ทำไมไม่รีบลาออกไป คนแบบนี้สมควรที่จะสนับสนุนหรือ ตนบอกกับครอบครัวว่า ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณไม่กลับประเทศไทยตนก็จะไม่กลับด้วย เพราะจะพิสูจน์ให้เห็นว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนดี ก่อนที่ตนจะกลับประเทศไทยได้แวะไปหาพ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังถูกกระแนะกระแหนว่าไปรับใบสั่ง วันนี้มีผู้คุมอำนาจสั่งกระบวนการสอบสวนให้ไปดูว่าตนมีคดีอะไรบ้าง และให้ไปเร่งดำเนินให้เสร็จโดยเร็ว คนที่ตนรู้จักมาแอบกระซิบว่าระวังจะติดคุก ถ้าหากตนติดคุกจริงก็ขอให้ประชาชนส่งข้าวผัดโอเลี้ยงให้ด้วย วันนี้ตนพร้อมแล้วที่จะอยู่เคียงข้างนายสมัครและพรรคพลังประชาชน
“นพดล”ยันไม่หลับไม่นอนเพื่อช่วยแม้ว
นายนพดล ปัทมะ รองเลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวปราศรัยว่า สมัยที่ตนเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ถูกสั่งสอนมาว่า เรารักธรรมศาสตร์เพราะธรรมศาสตร์สอนให้เรารักประชาชน วันนี้ตนรักประชาชนจึงมาสมัครเป็นสมาชิก พรรคพลังประชาชน 1ปีที่ผ่านมาถูกเรียกเป็นทนายตระกูลชินบ้าง ทนายหน้าหอบ้าง แต่ตนไม่ถือ เพราะตนภูมิใจและถือว่าเป็นทนายของประชาชน พล.อ.สนธิเคยพูดถึงบันได 4 ขั้นว่าการยุบพรรค ตั้งข้อกล่าวหา และอายัดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณจะเกิดขึ้น วันนี้พ.ต.ท.ทักษิณถูกดำเนินคดีมากมาย ตนจะไม่หลับไม่นอน เพื่อทวงความยุติธรรมให้อดีตนายกฯ
นายนพดล กล่าวต่อว่า1ปีที่ผ่านมาหลักกฎหมายไม่มีอีกแล้วมีแต่กฎหมู่ การตัดสินลงโทษย้อนหลังอดีตกรรมการบริหารไทยรักไทย111คน คือ การย่ำยีหลักนิติธรรมที่ชัดเจนที่สุด แต่ที่เลวร้ายที่สุดคือการที่กรมสรรพากร บอกให้นายพานทองแท้ และน.ส.พิณทองทา ชินวัตร ไปเสียภาษี เพราะเป็นเจ้าของหุ้นแต่เมื่อจะยึดทรัพย์กลับมาบอกว่าหุ้นดังกล่าวเป็นของพ.ต.ท.ทักษิณ ถือเป็นการตีความกฎหมายแบบไร้มาตรฐานยิ่งกว่าดับเบิ้ลสแตนดาร์ทหรือโนแสตนดาร์ท แต่เป็นอเมริกันสแตนดาร์ทหรือส้วม
“สมัคร”อุ้มเขายายเที่ยง“สุรยุทธ์”
ด้าน นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ปราศรัยเป็นคนสุดท้ายกล่าวโจมตีรัฐบาลนายชวน หลีกภัยว่าทำงานล่าช้า แต่พอ พ.ต.ท.ทักษิณ มาบริหารประเทศใช้เวลา 2 ปีสามารถใช้หนี้ไอเอ็มเอฟได้ บริหาร 4 ปี ทำให้ประชาชนกินดีอยูดี เพราะใช้ระบบธุรกิจมาบริหารประเทศ
นายสมัคร กล่าวต่อว่า เดิมในวันนี้พรรคพลังประชาชนจะมีการออกสปอต โฆษณาทั้งประเทศ ซึ่งจะตรงกับช่วงที่พรรคพลังประชาชนกำลังปราศรัยใหญ่ แต่เมื่อ ส่งไปให้ กบว.พิสูจน์กลับถูกปฏิเสธโดยอ้างว่าโฆษณาดังกล่าวไม่ผ่าน ตนจึงอยากเข้าไปถามว่าบุคคลที่เป็นคนตรวจสอบว่าใช้บรรทัดฐานอะไร
“ผมจะไปหาคนที่ไม่อนุญาตให้เราออกสปอตโฆษณา และจะต้องหาตัวให้พบ และจะถามว่าใช้มาตรฐานอะไรในการพิจารณา ถึงได้โง่ดักดาน สปอตโฆษณา เพียงเล็กน้อยก็ให้เราออกไม่ได้ คนอย่างนี้ไม่ต้องอยู่บ้านเมืองนี้แล้ว ผมยืนยันว่าจะต่อสู้ให้ได้ ถ้าไม่ได้ให้มันรู้ไป และจะได้รู้ว่ามีเหตุอะไรที่จะทำให้โฆษณาธรรมดา ไปโดนใจกบว.แล้วออกมาว่าเผยแพร่ไม่ได้”
นายสมัคร กล่าวว่า กรณีที่ดินเขายายเที่ยงของพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ที่ยืนยันว่าได้มาอย่างถูกต้องนั้น กรณีนี้ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า คนที่ขึ้นเรือลำเดียวกันมา แต่พอมาถึงวันนี้กลับมาฟัดกันเอง ล่อกันเองอย่ารุนแรง ถอดหัวใจเล่นกันเละ และคนๆ นั้นมันก็อยู่เบื้องหลังการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีความสกปรกที่สุด ตนสงสัยว่าทำไมบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงกันเร็วอย่างนี้ ตนเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของบ้านเมืองมีจริง และบัดดาลให้เห็นแล้ว ฟัดกันเป็นคู่ๆ เหมือนการให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว เพราะเล่นงานกับอดีตนายกฯทักษิณแบบนี้ แต่คนที่อยากให้ความเป็นธรรมกับบ้านเมืองยังมีอยู่
นายสมัครกล่าวว่า เมื่อก่อนนักการเมืองชี้หน้าด่าเผด็จการ ด่าทหาร แต่หลังการปฏิรูปบางพรรคไปกอดแข้งกอดขา กอดขี้กอดไส้โดยไม่ระอายกับการต่อสู้กับทหารมาหลายทศวรรษ หวังเพียงจะได้อานิสงส์ แต่ใครจะยืนยันว่าจะปกป้องราชวงศ์และประชาชน และป้องกันการแทรกแซงองค์กรต่างๆ วันนี้ใครจะเอารถถังมาขู่นั้น ขอย้ำว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่คุ้มครองแล้ว เราก็มีสิทธิพูดได้
ปชป.จัดงานคืนถิ่นอีสาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วันเดียวกัน พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดงาน “ประชาธิปัตย์คืนถิ่นอีสาน” ที่วัดหนองแวง อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยแกนนำพรรค อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค พร้อมสมาชิกสาขาพรรคในภาคอีสาน และประชาชน รวมกว่า 400 คนเข้าร่วม ขณะเดียวกันนายบุญยอด สุขถิ่นไทย อดีตผู้สมัคร ส.ว.กทม. ปี 2549 ได้มาร่วมงานนี้ด้วย โดยนายบุญยอด กล่าวยอมรับว่า ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แล้ว และแสดงความจำนงจะลงสมัคร ส.ส.กทม.เขตวังทองหลาง เพราะบ้านพักของตนอยู่ในพื้นที่นี้
สำหรับบรรยากาศภายในงานดังกล่าว ได้มีการประกอบพิธีบังสุกุลเพื่อทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้บรรพนผู้ก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ในอดีตที่เป็นชาวอีสาน จากนั้นได้ประกอบพิธีบายศรีสู่ขวัญให้กับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อทำพิธีฝากเนื้อฝากตัวพรรคประชาธิปัตย์ต่อประชาชนชาวอีสาน
รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข่าวว่า แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ได้ทาบทามพระเปรมศักดิ์ เพียยุระ มาลงสมัคร ส.ส.ขอนแก่น ในนามพรรคประชาธิปัตย์ภายหลังจากลาสิกขาบทในช่วงออกพรรษานั้น ปรากฏว่าล่าสุด พระเปรมศักดิ์ได้ตัดสินใจไปร่วมงานกับพรรคชาติไทยแล้ว ทั้งที่ ก่อนหน้านี้เคยได้ตอบรับว่าจะมาทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์
ปชร.ชู“กร”ชิงเก้าอี้นายกฯ
วันเดียวกัน นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช (ปชร.) พร้อมด้วยนายกร ทัพพะรังสี รองหัวหน้าพรรค ร่วมกันแถลงข่าว โดยมีการอ่อนแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เรื่องเสนอตัวนายกรัฐมนตรี โดยมีเนื้อหาสรุปว่า หากพรรคได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลจะสนับสนุนให้นายกร ทัพพะรังสี ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นนักการเมืองอาวุโสผ่านกมาเลือกตั้งมาแล้ว 8 สมัย ไม่มีภูมิหลังที่เสื่อมเสีย
“ผมมีความมั่นใจกับการเสนอชื่อนายกร ตรงนี้ไม่อยากบอกว่า 100% แต่ที่ผ่านมาก็สามารถพิสูจน์ได้ว่า นายกรมีความรู้ ความสามารถ นายเสนาะ กล่าว
ด้านนายกร กล่าวขอบคุณนายเสนาะ ที่ไว้วางใจให้ทำหน้าที่ โดยนายเสนาะจะทำหน้าที่หัวหน้าพรรคต่อไป ซึ่งวันนี้ถึงเวลาแล้วที่พรรคต้องชูบคคลที่จะเป็นนายกฯ เช่นเดียวกับพรรคอื่นเพื่อให้เปรียบเทียบคุณสมบัติของผู้ที่เหมาะสมจะเป็นผู้นำประเทศ
วานนี้ (12 ต.ค.) นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต. ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวภายหลังการประชุม กับผู้แทนกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ผู้แทนบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด ผู้แทนสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครองกระทรวงมหาดไทยถึง การเตรียมการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร และการเตรียมการเลือกตั้งล่วงหน้าว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.ได้กำหนดระยะเวลาให้ประชาชนทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดและคนไทยในต่างประเทศลงทะเบียนขอใช้สิทธินอกราชอาณาจักรระหว่างวันที่ 22 ต.ค- 22 พ.ย. นี้
โดยขณะนี้ กกต.ได้เสนอร่างพ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้งไปยังรัฐบาลแล้ว และทราบว่าได้มีการส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบร่างเสร็จสิ้นแล้ว คาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีได้ในวันที่ 16 ต.ต. นี้ และพระราชกฤษฎีกา กำหนดวันเลือกตั้ง 23 ธ.ค. น่าจะประกาศในราชกิจจานุเบกษามีผลบังคับใช้ในช่วงป ลายเดือน ต.ค.นี้
นายประพันธ์ กล่าวว่าในการประชุม กกต.สัปดาห์หน้า จะมีการพิจารณา ร่างระเบียบต่างๆ ที่จะใช้ในการเลือกตั้ง รวมถึงการแบ่งเขตส.ส.ในระบบสัดส่วนและระบบเขตเลือกตั้ง 157 เขต ที่จะต้องมีการแบ่งเขตใหม่ใน 45 จังหวัด หลังจากนั้นจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการเพื่อให้ผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งได้เตรียมตัว
เผยโมเดลแผ่นป้ายหาเสียง
รายงานข่าวแจ้งว่า ตาม พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว. มาตรา 59 บัญญัติให้ กกต.เป็นผู้กำหนดสถานที่ปิดประกาศ และแผ่นป้ายหาเสียงเกี่ยวกับการเลือกตั้ง รวมถึงกำหนดขนาด และจำนวนของโปสเตอร์ แผ่นป้ายที่ผู้สมัคร และพรรคการเมืองที่จะใช้หาเสียง และจัดสรรเวลาในการรออกอากาศหาเสียง ให้พรรคการเมืองนั้น ขณะนี้คณะอนุกรรมการของกกต.ที่มีนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. เป็นประธาน ไดวางหลักเกณฑ์ และยกร่างระเบียบเบื้องต้นแล้ว โดยเตรียมที่จะเสนอให้ที่ประชุม กกต.พิจารณา ก่อนที่จะนำเข้ารับฟังความคิดเห็นจากที่ประชุมพรรคการเมืองอีกครั้งในวันที่ 22 ต.ค.นี้
สำหรับโปสเตอร์แนะนำตัวที่จะนำมาติดนั้นกำหนดให้ทั้งพรรคการเมือง ผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขตเลือกตั้ง และระบบสัดส่วน 8 กลุ่มจังหวัด จัดพิมพ์ได้ขนาดไม่เกิน12 X 17 นิ้ว หรือ เท่ากับกระดาษ A3 ซึ่งแต่ละเขตเลือกตั้งจะพิมพ์โปสเตอร์ไดังกล่าว ได้ไม่เกิน 10 เท่าของหน่วยเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น หรือกลุ่มจังหวัดนั้น
ขณะที่ป้ายหาเสียงนั้น กำหนดให้ทั้งพรรคการเมือง และผู้สมัครส.ส.แบบ แบ่งเขตเลือกตั้ง และระบบสัดส่วน 8 กลุ่มจังหวัด จัดพิมพ์ได้ขนาดไม่เกิน 80 ซ.ม. X 1.50 เมตร โดยจะติดได้เพียง 3 เท่าของหน่วยเลือกตั้งที่มีในเขตนั้น หรือกลุ่มจังหวัดนั้น
สำหรับสถานที่ติดป้ายหาเสียง ให้หน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ออกประกาศกำหนดซึ่งอาจจะเป็น ริมถนน ฟุต บาทพื้นที่สาธารณะอื่นที่เป็นของรัฐ
ส่วนการจัดสรรเวลาออกอากาศ เพื่อแถลงนโยบายของแต่ละพรรคนั้นทางคณะอนุกรรมการเห็นว่าจะให้เวลาที่สั้นกว่าในอดีต แต่มีจำนวนครั้งในการเผยแพร่มากขึ้น เบื้องต้นตั้งเกณฑ์ไว้วันละไม่น้อยกว่า 3 ครั้งต่อพรรค โดยออกอากาศครั้งละไม่เกิน 10 นาที ส่วนสปอตหาเสียง กำหนดความยาวไม่เกิน 30 วินาที เผยแพร่วันละไม่น้อย 3 ครั้งต่อพรรค โดยจะออกอากาศวันจันทร์-ศุกร์ ยกเว้น เสาร์-อาทิตย์ เนื่องจากคณะอนุกรรมการฯเห็นว่า เป็นวันที่คนดูมาก ทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ
สำหรับสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เคเบิ้ลทวี สื่ออินเตอร์เนตต่างๆ แม้ทาง คณะอนุกรรมการฯ เห็นว่า กกต.ควรออกประกาศห้ามมิให้พรรค ผู้สมัคร ซื้อเวลา หรือ พื้นที่ในสื่อเหล่านี้เพื่อหาเสียง เพราะจะทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบแต่ก็มีการ โต้แย้งว่าน่าจะสามารถทำได้ โดยให้นำมาคิดเป็นค่าใช้จ่าย จึงจะเสนอให้เป็นดุลยพินิจ ของ กกต.
ดังนั้นการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้จะแตกต่างจากในอดีตที่ผ่านมา โดยจะไม่มีภาพการขึ้นคัดเอาท์ขนาดใหญ่บนหลังคาตึกของพรรคการเมือง การติดป้ายหาเสียงซ้อน ๆ กันของผู้สมัครตามเสาไฟฟ้า ตามสี่แยกถนน หรือ การซื้อเวลาสื่อโทรทัศน์ วิทยุ สิ่งพิมพ์ เพื่อเผยสปอตโฆษณาพรรค ซึ่งเรื่องติดป้าย หาเสียงตามสถานที่รัฐจัดสรรให้นั้นเป็นการเอารูปแบบของประเทศญี่ปุ่นมาใช้ รวมทั้งกฎหมายมีเจตนาต้องการให้การหาเสียงของพรรคการเมืองเป็นไปอย่างเท่าเทียม ไม่ใช่พรรคใดมีเงินมากก็สามารถซื้อสื่อโฆษณาพรรค ผู้สมัคร ได้เข้าถึงประชาชนมากกว่า
กกต.จับตา พปช.หาเสียง
นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ฝ่ายพรรคการเมือง กล่าวว่า ขณะนี้ กกต. ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนบันทึกถ้อยคำการปราศรัยของพรรคพลังประชาชน ที่ท้องสนามหลวง ในวันเดียวกันนี้ เพื่อจะนำมาตรวจสอบว่า เนื้อหาการปราศรัยผิดกฎหมาย เลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งฝ่ายสืบสวนจะสรุปว่า อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย สามารถขึ้นปราศรัยให้พรรคพลังประชาชนได้ แต่จะพิจารณารายละเอียดว่า มีการพาดพิงถึงพรรคการเมืองอื่นหรือก่อให้เกิดความไม่สงบหรือไม่ ทั้งนี้สอดคล้องกับมาตรา 53 ของกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2550 ที่ระบุห้ามมิให้ผู้สมัคร หรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อจูงใจ ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ตนเองหรือผู้สมัครอื่น หรือพรรคการเมืองใด หรือ งดเว้นการลงคะแนน
อดีตบิ๊ก ทรท.ร่วมงานปราศรัย พปช.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วันเดียวกันที่ท้องสนามหลวง พรรคพลังประชาชนได้จัดปราศรัยใหญ่ โดยมีแกนนำพรรค อาทิ นายสมัคร สุนทรเวช หัวหหน้าพรรค นายยงยุทธ ติยะไพรัช พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ รองหัวหน้าพรรค นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค มาร่วมปราศรัย นอกจากนี้ยังมีอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิ์การเมือง 5 ปีมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย อาทิ คุณหญิงสุดรัตน์ เกยุราพันธุ์ นายเนวิน ชิดชอบ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ นายสมชาย สุนทรวัฒน์ เป็นที่น่าสังเกตุว่า พ.อ.สมคิด ศรีสังคม อดีต ส.ว.อุดรธานี ร่วมขึ้นเวทีปราศรัยด้วย
ขณะเดียวกันยังมีดารานักร้อง เช่น สายัณห์ สัญญา นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง กรุง ศรีวิไล นักแสดง สำหรับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มพีทีวี และนายสุรชัย แซ่ด่าน 1 ในแกนนำนปก. ได้เดินทางมาร่วมการปราศรัยครั้งนี้ด้วย ท่ามกลางประชาชน ที่ให้ความสนใจกว่า 1 หมื่นคน โดยมีการแจกซีดีพรรค และใบปลิวโจมตี พล.อ.เปรม ติณนสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ของกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ ให้กับประชาชนที่เดินทางมาฟังการปราศรัยด้วย
นายสมัคร ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นการปราศรัยเปิดตัวของพรรคพลังประชาชน จะพูดคุยถึงปัญหาตลอด 1 ปีที่ผ่านมามีอะไรบ้าง และ 5 ปีที่ผ่านมาภายใต้การบริหารงาน ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีมีอะไรบ้าง ส่วน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุ่งนั้นจะไม่มาร่วมปราศรัย แต่ในวันข้างหน้า ร.ต.อ.เฉลิมจะมาร่วมแน่นอน
"ยงยุทธ์"ซัด"ไอ้แว่น"หักหลัง"ทักษิณ"
นายยงยุทธ์ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนขึ้นปราศัยตอนหนึ่งว่า ตนขอพูดว่าคนที่ยอมให้กับอำนาจเผด็จการทหารเข้ามาครอบงำตัวเอง คือคนที่กินฉี่ทหาร ที่ผ่านมาคนที่เกี่ยวข้องกับตนและอดีตพรรคเก่าหลายคน ก็ถูกโจมตีและกล่าวหาว่าชั่วร้าย ตนก็บอกไปว่า ไม่เป็นไรเพราะความยุติธรรม ไม่ได้เกิดจากปากกระบอกปืน
“ที่ผมและคุณเนวินถูกควบคุมตัวนั้นนอกจากขัดสิทธิขั้นพื้นฐานแล้ว ยังมีประเด็นที่หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งไประบุว่า ผมไปอยู่ที่บ้านพักหลังหนึ่งซึ่งเป็นของญาติ ขณะนั้นมี ตชด. 2 นายมานอนที่บ้านผมซึ่งเขาไม่เกี่ยวข้องเลย กลับถูกกระทำการ เช่นเหยียบหัว จับมือไขว้หลัง โดยไอ้โม่งที่เข้าไปตะโกนเรียกชื่อผมยงยุทธ คนใกล้บ้านรับรู้กันหมด จนไม่กี่วัน ตชด. 2 นายก็ถูกย้าย ไปอยู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และก็ถูกฆ่าตาย อยากถามประชาชนว่า เขาตายด้วยโจรใต้หรือใคร”
นายยงยุทธ กล่าวอีกว่า สมัยที่พ.ต.ท.ทักษิณบริหารงานพูดอะไรก็ดีหมด แต่พอถูกยึดอำนาจ พวกที่กินฉี่ทหารก็เอาตัวออกห่าง คนที่ใส่แว่นที่ได้ชื่อว่า ซาร์เศรษฐกิจออกมาบอกว่าไม่เห็นด้วยกับพ.ต.ท.ทักษิณมาเป็นปีๆ แล้ว ยังสงสัยว่าแล้วมาอยู่ด้วยทำไม ทำไมไม่รีบลาออกไป คนแบบนี้สมควรที่จะสนับสนุนหรือ ตนบอกกับครอบครัวว่า ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณไม่กลับประเทศไทยตนก็จะไม่กลับด้วย เพราะจะพิสูจน์ให้เห็นว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนดี ก่อนที่ตนจะกลับประเทศไทยได้แวะไปหาพ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังถูกกระแนะกระแหนว่าไปรับใบสั่ง วันนี้มีผู้คุมอำนาจสั่งกระบวนการสอบสวนให้ไปดูว่าตนมีคดีอะไรบ้าง และให้ไปเร่งดำเนินให้เสร็จโดยเร็ว คนที่ตนรู้จักมาแอบกระซิบว่าระวังจะติดคุก ถ้าหากตนติดคุกจริงก็ขอให้ประชาชนส่งข้าวผัดโอเลี้ยงให้ด้วย วันนี้ตนพร้อมแล้วที่จะอยู่เคียงข้างนายสมัครและพรรคพลังประชาชน
“นพดล”ยันไม่หลับไม่นอนเพื่อช่วยแม้ว
นายนพดล ปัทมะ รองเลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวปราศรัยว่า สมัยที่ตนเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ถูกสั่งสอนมาว่า เรารักธรรมศาสตร์เพราะธรรมศาสตร์สอนให้เรารักประชาชน วันนี้ตนรักประชาชนจึงมาสมัครเป็นสมาชิก พรรคพลังประชาชน 1ปีที่ผ่านมาถูกเรียกเป็นทนายตระกูลชินบ้าง ทนายหน้าหอบ้าง แต่ตนไม่ถือ เพราะตนภูมิใจและถือว่าเป็นทนายของประชาชน พล.อ.สนธิเคยพูดถึงบันได 4 ขั้นว่าการยุบพรรค ตั้งข้อกล่าวหา และอายัดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณจะเกิดขึ้น วันนี้พ.ต.ท.ทักษิณถูกดำเนินคดีมากมาย ตนจะไม่หลับไม่นอน เพื่อทวงความยุติธรรมให้อดีตนายกฯ
นายนพดล กล่าวต่อว่า1ปีที่ผ่านมาหลักกฎหมายไม่มีอีกแล้วมีแต่กฎหมู่ การตัดสินลงโทษย้อนหลังอดีตกรรมการบริหารไทยรักไทย111คน คือ การย่ำยีหลักนิติธรรมที่ชัดเจนที่สุด แต่ที่เลวร้ายที่สุดคือการที่กรมสรรพากร บอกให้นายพานทองแท้ และน.ส.พิณทองทา ชินวัตร ไปเสียภาษี เพราะเป็นเจ้าของหุ้นแต่เมื่อจะยึดทรัพย์กลับมาบอกว่าหุ้นดังกล่าวเป็นของพ.ต.ท.ทักษิณ ถือเป็นการตีความกฎหมายแบบไร้มาตรฐานยิ่งกว่าดับเบิ้ลสแตนดาร์ทหรือโนแสตนดาร์ท แต่เป็นอเมริกันสแตนดาร์ทหรือส้วม
“สมัคร”อุ้มเขายายเที่ยง“สุรยุทธ์”
ด้าน นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ปราศรัยเป็นคนสุดท้ายกล่าวโจมตีรัฐบาลนายชวน หลีกภัยว่าทำงานล่าช้า แต่พอ พ.ต.ท.ทักษิณ มาบริหารประเทศใช้เวลา 2 ปีสามารถใช้หนี้ไอเอ็มเอฟได้ บริหาร 4 ปี ทำให้ประชาชนกินดีอยูดี เพราะใช้ระบบธุรกิจมาบริหารประเทศ
นายสมัคร กล่าวต่อว่า เดิมในวันนี้พรรคพลังประชาชนจะมีการออกสปอต โฆษณาทั้งประเทศ ซึ่งจะตรงกับช่วงที่พรรคพลังประชาชนกำลังปราศรัยใหญ่ แต่เมื่อ ส่งไปให้ กบว.พิสูจน์กลับถูกปฏิเสธโดยอ้างว่าโฆษณาดังกล่าวไม่ผ่าน ตนจึงอยากเข้าไปถามว่าบุคคลที่เป็นคนตรวจสอบว่าใช้บรรทัดฐานอะไร
“ผมจะไปหาคนที่ไม่อนุญาตให้เราออกสปอตโฆษณา และจะต้องหาตัวให้พบ และจะถามว่าใช้มาตรฐานอะไรในการพิจารณา ถึงได้โง่ดักดาน สปอตโฆษณา เพียงเล็กน้อยก็ให้เราออกไม่ได้ คนอย่างนี้ไม่ต้องอยู่บ้านเมืองนี้แล้ว ผมยืนยันว่าจะต่อสู้ให้ได้ ถ้าไม่ได้ให้มันรู้ไป และจะได้รู้ว่ามีเหตุอะไรที่จะทำให้โฆษณาธรรมดา ไปโดนใจกบว.แล้วออกมาว่าเผยแพร่ไม่ได้”
นายสมัคร กล่าวว่า กรณีที่ดินเขายายเที่ยงของพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ที่ยืนยันว่าได้มาอย่างถูกต้องนั้น กรณีนี้ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า คนที่ขึ้นเรือลำเดียวกันมา แต่พอมาถึงวันนี้กลับมาฟัดกันเอง ล่อกันเองอย่ารุนแรง ถอดหัวใจเล่นกันเละ และคนๆ นั้นมันก็อยู่เบื้องหลังการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีความสกปรกที่สุด ตนสงสัยว่าทำไมบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงกันเร็วอย่างนี้ ตนเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของบ้านเมืองมีจริง และบัดดาลให้เห็นแล้ว ฟัดกันเป็นคู่ๆ เหมือนการให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว เพราะเล่นงานกับอดีตนายกฯทักษิณแบบนี้ แต่คนที่อยากให้ความเป็นธรรมกับบ้านเมืองยังมีอยู่
นายสมัครกล่าวว่า เมื่อก่อนนักการเมืองชี้หน้าด่าเผด็จการ ด่าทหาร แต่หลังการปฏิรูปบางพรรคไปกอดแข้งกอดขา กอดขี้กอดไส้โดยไม่ระอายกับการต่อสู้กับทหารมาหลายทศวรรษ หวังเพียงจะได้อานิสงส์ แต่ใครจะยืนยันว่าจะปกป้องราชวงศ์และประชาชน และป้องกันการแทรกแซงองค์กรต่างๆ วันนี้ใครจะเอารถถังมาขู่นั้น ขอย้ำว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่คุ้มครองแล้ว เราก็มีสิทธิพูดได้
ปชป.จัดงานคืนถิ่นอีสาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วันเดียวกัน พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดงาน “ประชาธิปัตย์คืนถิ่นอีสาน” ที่วัดหนองแวง อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยแกนนำพรรค อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค พร้อมสมาชิกสาขาพรรคในภาคอีสาน และประชาชน รวมกว่า 400 คนเข้าร่วม ขณะเดียวกันนายบุญยอด สุขถิ่นไทย อดีตผู้สมัคร ส.ว.กทม. ปี 2549 ได้มาร่วมงานนี้ด้วย โดยนายบุญยอด กล่าวยอมรับว่า ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แล้ว และแสดงความจำนงจะลงสมัคร ส.ส.กทม.เขตวังทองหลาง เพราะบ้านพักของตนอยู่ในพื้นที่นี้
สำหรับบรรยากาศภายในงานดังกล่าว ได้มีการประกอบพิธีบังสุกุลเพื่อทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้บรรพนผู้ก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ในอดีตที่เป็นชาวอีสาน จากนั้นได้ประกอบพิธีบายศรีสู่ขวัญให้กับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อทำพิธีฝากเนื้อฝากตัวพรรคประชาธิปัตย์ต่อประชาชนชาวอีสาน
รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข่าวว่า แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ได้ทาบทามพระเปรมศักดิ์ เพียยุระ มาลงสมัคร ส.ส.ขอนแก่น ในนามพรรคประชาธิปัตย์ภายหลังจากลาสิกขาบทในช่วงออกพรรษานั้น ปรากฏว่าล่าสุด พระเปรมศักดิ์ได้ตัดสินใจไปร่วมงานกับพรรคชาติไทยแล้ว ทั้งที่ ก่อนหน้านี้เคยได้ตอบรับว่าจะมาทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์
ปชร.ชู“กร”ชิงเก้าอี้นายกฯ
วันเดียวกัน นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช (ปชร.) พร้อมด้วยนายกร ทัพพะรังสี รองหัวหน้าพรรค ร่วมกันแถลงข่าว โดยมีการอ่อนแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เรื่องเสนอตัวนายกรัฐมนตรี โดยมีเนื้อหาสรุปว่า หากพรรคได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลจะสนับสนุนให้นายกร ทัพพะรังสี ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นนักการเมืองอาวุโสผ่านกมาเลือกตั้งมาแล้ว 8 สมัย ไม่มีภูมิหลังที่เสื่อมเสีย
“ผมมีความมั่นใจกับการเสนอชื่อนายกร ตรงนี้ไม่อยากบอกว่า 100% แต่ที่ผ่านมาก็สามารถพิสูจน์ได้ว่า นายกรมีความรู้ ความสามารถ นายเสนาะ กล่าว
ด้านนายกร กล่าวขอบคุณนายเสนาะ ที่ไว้วางใจให้ทำหน้าที่ โดยนายเสนาะจะทำหน้าที่หัวหน้าพรรคต่อไป ซึ่งวันนี้ถึงเวลาแล้วที่พรรคต้องชูบคคลที่จะเป็นนายกฯ เช่นเดียวกับพรรคอื่นเพื่อให้เปรียบเทียบคุณสมบัติของผู้ที่เหมาะสมจะเป็นผู้นำประเทศ