xs
xsm
sm
md
lg

สินค้าขึ้นราคาฟาดท่องเที่ยวหดคาดสิ้นปีตัวเลขนักเที่ยวต่ำเป้า5%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน – สินค้าขึ้นราคากระทบนักท่องเที่ยวชั้นรากหญ้าหงอย เกิดอาการชะลอการจับจ่าย  นายก สทน. ยอมรับมีผลทางจิตวิทยาช่วงสั้น ระบุห่วงภาพเศรษฐกิจที่กระทบกิจการบริษัทกำไรหดแห่ปิดตัว จะมีผลกระทบมากกว่า ชี้ปัจจัยลบผุดขึ้นตลอด คาดถึงสิ้นปีตัวเลขหดกว่า5% จากเป้า ททท.82 ล้านคนครั้ง

นายเจริญ  วังอนานนท์   นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีประกาศปรับขึ้นราคาสินค้าและค่ารถโดยสารทุกประเภท จะมีผลทางด้านจิตวิทยากับคนไทยให้ชะลอการจับจ่าย ซึ่งในที่นี้จะส่งผลกระทบกับภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน  โดยอาจทำให้คนไทยชะลอการท่องเที่ยวไปชั่วขณะหนึ่ง  เพราะเกิดความคิดว่าต้องระมัดระวังเรื่องการจับจ่าย ใช้เงินเท่าที่จำเป็น ซึ่งหากเดินทางท่องเที่ยวอาจไม่ใช่สิ่งจำเป็นในชีวิตมากนัก โดยเฉพาะตลาดระดับกลางลงไป ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ และเป็นตลาดที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดต่อการปรับขึ้นของราคาสินค้าและบริการในครั้งนี้
“การขึ้นราคาสินค้า มีผลต่อค่าครองชีพของกลุ่มพนักงานบริษัท ข้าราชการระดับล่าง ที่มีเงินเดือนเป็นรายได้ประจำ  แต่ภาวะชะลอการจับจ่ายอาจเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งจะต้องประเมิหลังจากสินค้าเริ่มมีการปรับขึ้นราคาไปแล้วอย่างน้อย 1 เดือน รวมถึงต้องดูปัจจัยอื่นๆประกอบด้วย เช่น มีสินค้าหรือบริการใดมีขึ้นราคาอีกหรือไม่ หรือมีการปรับขึ้นเงินเดือนหรือไม่ รวมถึงปัจจัยลบต่างๆ”
ทั้งนี้สิ่งที่ สทน.เป็นห่วงมากที่สุดคือภาวะการว่างงาน อันเนื่องมาจากการปิดกิจการของอุตสาหกรรมต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งตัว ทำให้ธุรกิจขาดทุนหรือมีกำไรน้อย  และการย้ายฐานการผลิต ไปยังประเทศที่มีค่าแรงงานต่ำกว่า มีกำลังซื้อสูงกว่า เป็นต้น ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดจะกระทบกับภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก  
อย่างไรก็ตาม ปีนี้ค่อนข้างมั่นใจว่า จำนวนนักท่องเที่ยวตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศจะต่ำกว่าเป้าหมายอย่างน้อย 5% จากที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่าถึงสิ้นปี จำนวนนักท่องเที่ยวตลาดในประเทศจะอยู่ที่ 82 ล้านคนครั้ง  เพราะว่าตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ มีปัจจัยลบเข้ามากระทบต่อการท่องเที่ยวมากมาย  เช่น  ปัญหาการเมือง, ราคาน้ำมันแพง, เงินบาทแข็งค่า และ ฝนตกชุก  
แต่ทั้งนี้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น เป็นเพราะพฤติกรรมนักท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลง โดยหันมาเดินทางท่องเที่ยวระยะใกล้แบบไปเช้าเย็นกลับ  และเพิ่มความถี่ของการเดินทาง โดยจะนิยมเดินทางช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์  แทนการไปเที่ยวระยะไกล และใช้เวลานาน ส่วนการจับจ่ายของการท่องเที่ยวจะหมดไปกับการใช้จ่ายเรื่องอาหาร มากกว่าการซื้อของที่ระลึก ซึ่งอาจจะทำให้ตัวเลขรายได้อาจเป็นไปตามเป้าหมาย คือ  3.8 แสนล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น