ปลัดใหม่เครื่องร้อนจัดทัพการทำงานใหม่ ลดความทับซ้อน จี้ สพท .ดัน พ.ร.บ.บริษัทนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พร้อมโอนถ่ายงานจาก ททท.โดยเร็ว ขณะเดียวกันต้องการความชัดเจนเรื่องจัดเก็บสถิตินักท่องเที่ยวว่าเป็นหน้าที่ของใคร ชี้ทุกหน่วยงานต้องโปร่งใส
น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กำลังอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนหน้าที่การทำงานของทุกหน่วยงานในองค์กร เพื่อให้ตรงกับนโยบายการทำงานของกระทรวงฯที่วางไว้ 3 แนวทาง คือ การทำงานตามภารกิจ และความรับผิดชอบตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) ,โครงสร้างบุคคลากร และ การจัดทำโครงการพิเศษ จุดประสงค์ เพื่อแก้ปัญหาการทำงานทับซ้อน อย่างที่ผ่านมา ภาคเอกชนเกิดความสับสนในการประสานงาน โดยไม่ทราบว่าจะต้องติดต่อผ่านหน่วยงานใดกันแน่
นอกจากนั้น ยังได้เตรียมหารือกับนางธนิษฐา มณีโชติ ผู้อำนวยการ สำนักพัฒนาการท่องเที่ยว(สพท.) ในเรื่องของการผลักดัน พ.ร.บ.บริษัทนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เพื่อเร่งให้เกิดการโอนย้ายการกำกับดูแลจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) มาเป็นของ สพท.โดยเร็ว เพราะที่ผ่านมา เราล่าช้ามามากแล้ว กระทรวงฯก็ก่อตั้งมาครบ 5 ปีแล้ว ส่วนกรณีการจัดเก็บสถิติข้อมูลนักท่องเที่ยว จะต้องมาหารือร่วมกันว่า ตามข้อกฎหมายแล้วหน่วยงานใดจะเป็นผู้จัดทำ เพราะที่ผ่านมาสำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการในส่วนนี้ไว้ถึงปีละ 24 ล้านบาท แต่กลับโอนไปให้ ททท.เป็นผู้จัดทำ
“การทำงานของทุกหน่วยงาน รวมถึงการใช้งบประมาณ ทุกขั้นตอนต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และ ต้องตรงกับหน้าที่ความรับผิดชอบ เรื่องงบจัดทำสถิติก็เช่นกัน เราจะต้องคุยให้ชัดเจน ว่าใครต้องเป็นผู้จัดทำ หรือหาก สพท.ทำไม่ได้ ก็จะโอนไปให้ ททท.จัดทำอย่างเป็นทางการ”
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดได้หารือกับ สำนักงานข้าราชการพลเรือน(ก.พ.ร.) ในการเตรียมความพร้อม ในเรื่องของการวางรากฐานการทำงานให้แก้บุคลากรของกระทรวงฯ เพราะจากข้อมูลเบื้องต้น ใน 5 ปีข้างหน้า กระทรวงการท่องเที่ยวฯจะมีข้าราชการครบเกษียณอายุจำนวนมาก อาจเกดิภาวะขาดแคลนบุคลากรที่มีคุณภาพ จึงต้องเร่งฝึกฝนบุคลากรระดับเล็กให้มีประสิทธิภาพในการทำงานได้สูงตั้งแต่ช่วงนี้เป็นต้น
น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กำลังอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนหน้าที่การทำงานของทุกหน่วยงานในองค์กร เพื่อให้ตรงกับนโยบายการทำงานของกระทรวงฯที่วางไว้ 3 แนวทาง คือ การทำงานตามภารกิจ และความรับผิดชอบตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) ,โครงสร้างบุคคลากร และ การจัดทำโครงการพิเศษ จุดประสงค์ เพื่อแก้ปัญหาการทำงานทับซ้อน อย่างที่ผ่านมา ภาคเอกชนเกิดความสับสนในการประสานงาน โดยไม่ทราบว่าจะต้องติดต่อผ่านหน่วยงานใดกันแน่
นอกจากนั้น ยังได้เตรียมหารือกับนางธนิษฐา มณีโชติ ผู้อำนวยการ สำนักพัฒนาการท่องเที่ยว(สพท.) ในเรื่องของการผลักดัน พ.ร.บ.บริษัทนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เพื่อเร่งให้เกิดการโอนย้ายการกำกับดูแลจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) มาเป็นของ สพท.โดยเร็ว เพราะที่ผ่านมา เราล่าช้ามามากแล้ว กระทรวงฯก็ก่อตั้งมาครบ 5 ปีแล้ว ส่วนกรณีการจัดเก็บสถิติข้อมูลนักท่องเที่ยว จะต้องมาหารือร่วมกันว่า ตามข้อกฎหมายแล้วหน่วยงานใดจะเป็นผู้จัดทำ เพราะที่ผ่านมาสำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการในส่วนนี้ไว้ถึงปีละ 24 ล้านบาท แต่กลับโอนไปให้ ททท.เป็นผู้จัดทำ
“การทำงานของทุกหน่วยงาน รวมถึงการใช้งบประมาณ ทุกขั้นตอนต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และ ต้องตรงกับหน้าที่ความรับผิดชอบ เรื่องงบจัดทำสถิติก็เช่นกัน เราจะต้องคุยให้ชัดเจน ว่าใครต้องเป็นผู้จัดทำ หรือหาก สพท.ทำไม่ได้ ก็จะโอนไปให้ ททท.จัดทำอย่างเป็นทางการ”
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดได้หารือกับ สำนักงานข้าราชการพลเรือน(ก.พ.ร.) ในการเตรียมความพร้อม ในเรื่องของการวางรากฐานการทำงานให้แก้บุคลากรของกระทรวงฯ เพราะจากข้อมูลเบื้องต้น ใน 5 ปีข้างหน้า กระทรวงการท่องเที่ยวฯจะมีข้าราชการครบเกษียณอายุจำนวนมาก อาจเกดิภาวะขาดแคลนบุคลากรที่มีคุณภาพ จึงต้องเร่งฝึกฝนบุคลากรระดับเล็กให้มีประสิทธิภาพในการทำงานได้สูงตั้งแต่ช่วงนี้เป็นต้น


