พานาโซนิคขจัดปัญหาหลังปิดโรงงานผลิตชิ้นส่วนจอ ซีอาร์ที ทีวี จัดจ๊อบแฟร์ ช่วยพนักงานให้มีงานทำต่อ เผยรายได้ปีนี้มั่นใจเกินเป้าที่วางไว้กว่า 21,260 ล้านบาทแน่ เผยครึ่งปีแรกกวาดไปแล้ว10,300 ล้านบาท ล่าสุดทุ่ม 200 ล้านบาท ลุยกล้องดิจิตอลเต็มที่ ดึง 2 หนุ่มเนื้อหอม “เคน” –“โดม” ร่วมดันแชร์จาก 8%สู่ 15% เป็นที่3 ในสิ้นปี
นายไดโซ อิโตะ ซีอีโอ กลุ่มบริษัท พานาโซนิค ในประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ปิดตัวโรงงานผลิตชิ้นส่วนภายในของโทรทัศน์ซีอาร์ที เพื่อการส่งออกไปยังอินเดียและสหรัฐอเมริกา ที่จังหวัดปทุมธานีลงได้มาระยะหนึ่ง ขณะนี้ทางบริษัทฯได้จัดนิทรรศการเกี่ยวกับ จ๊อบแฟร์ ภายในโรงงานดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือพนักงานกว่า 2,400 คน ให้มีงานทำต่อไป ส่วนจะใช้โรงงานทำอะไรต่อนั้น ยังไม่มีแผนในขณะนี้
ทั้งนี้ชิ้นส่วนที่ผลิตจากโรงงานดังกล่าว ยังสามารถส่งให้ลูกค้าได้ไปจนถึงสิ้นปีนี้ หลังจากนั้นจะเป็นการนำเข้าจากโรงงานที่ตั้งอยู่ในประเทศจีนแทน รวมถึงการนำเข้าเพื่อประกอบโทรทัศน์จอซีอาร์ สำหรับในการจำหน่ายในไทยด้วย
นายไดโซ กล่าวต่อว่า แนวโน้มความต้องการโทรทัศน์ประเภทซีอาร์ทีในระดับโลกกำลังลดลง เห็นได้จากประเทศอินเดีย แต่สำหรับประเทศไทย ความต้องการโทรทัศน์จอซีอาร์ทียังคงทรงตัวอยู่ที่สัดส่วน 85% ที่เหลือจะเป็นกลุ่มจอภาพแบบ แอลซีดี ทีวี และพลาสม่า ทีวี ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี
เห็นได้จากยอดขาย ครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มียอดรายได้เข้ามาแล้วกว่า 10,900 ล้านบาท โดยมีกลุ่มจอภาพเป็นกลุ่มที่มีรายได้เติบโตมากที่สุด เช่นเดียวกับถ่านอัลคาไลน์ ขณะที่กลุ่มสินค้าที่เติบโตน้อยที่สุด คือ กลุ่มออดิโอ ขณะที่รายได้รวมในปีนี้ (เม.ย.2550-มี.ค.2551) จากเป้า 21,260 ล้านบาท มีแนวโน้มจะสูงจากที่วางไว้ ค่อนข้างสูง
ทุ่ม 200 ล. ลุยกล้องดิจิตอล หวังไต่สู่ที่3
นายภิญโญ จันทร์สิริวรกุล ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ กล้องดิจิตอลภาพนิ่ง บริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯมีแผนการทำตลาดในกลุ่มกล้องดิจิตอลตั้งแต่ครึ่งปีหลังที่ผ่านมามากขึ้น โดยจะให้ความสำคัญกับช่องทางขายในร้านถ่ายรูปทั้งหมด จากเดิม 2 ช่องทางหลัก คือ โมเดิร์นเทรด กับเอวีดีลเลอร์ รวมทั้งการเปิดตัวกล้องดิจิตอลรุ่นใหม่ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่จะผลักดันให้มียอดจำหน่ายกล้องดิจิตอลให้ได้ 1.5 แสนเครื่องตามแผนที่วางไว้ หรือขึ้นเป็นที่ 3 จากที่ 5 ของตลาดภายในสิ้นปีนี้ กับส่วนแบ่งทางการตลาดที่เพิ่มขึ้นเป็น 15% จาก 8% ของตลาดรวมกล้องที่ 8.5 แสนเครื่อง
ล่าสุดบริษัทได้ทุ่มงบการตลาดกว่า 200 ล้านบาท จากงบ 300 ล้านบาทที่จะใช้สำหรับการโฆษณาประชาสัมพันธ์ในส่วนของกลุ่มสินค้ากล้องดิจิตอลภาพนิ่ง ในการเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ 3 รุ่น คือ FZ18, FX55 และ FX33 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทางบริษัทฯได้ใช้พรีเซนเตอร์และทำภาพยนตร์โฆษณาจากโปรดักส์เฮาส์ของไทยทั้งหมด ผ่าน 2 นักแสดงชื่อดัง คือ เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ และ โดม-ปกรณ์ ลัม ที่จะมาพร้อมกับแคมเปญ “Panasonic Lumix Battle”ที่จะจัดแข่งขันโรดโชว์ไปทุกภูมิภาค ตั้งแต่ 20 ต.ค.-29 พ.ย.นี้ จากกิจกรรมดังกล่าว บริษัทฯคาดว่าจะมียอดขายของกล้องรุ่น FX55 และ FX33 รวมกันไม่ต่ำกว่า 25,000เครื่อง ภายในเดือน ต.ค.-ธ.ค.แน่
นายไดโซ อิโตะ ซีอีโอ กลุ่มบริษัท พานาโซนิค ในประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ปิดตัวโรงงานผลิตชิ้นส่วนภายในของโทรทัศน์ซีอาร์ที เพื่อการส่งออกไปยังอินเดียและสหรัฐอเมริกา ที่จังหวัดปทุมธานีลงได้มาระยะหนึ่ง ขณะนี้ทางบริษัทฯได้จัดนิทรรศการเกี่ยวกับ จ๊อบแฟร์ ภายในโรงงานดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือพนักงานกว่า 2,400 คน ให้มีงานทำต่อไป ส่วนจะใช้โรงงานทำอะไรต่อนั้น ยังไม่มีแผนในขณะนี้
ทั้งนี้ชิ้นส่วนที่ผลิตจากโรงงานดังกล่าว ยังสามารถส่งให้ลูกค้าได้ไปจนถึงสิ้นปีนี้ หลังจากนั้นจะเป็นการนำเข้าจากโรงงานที่ตั้งอยู่ในประเทศจีนแทน รวมถึงการนำเข้าเพื่อประกอบโทรทัศน์จอซีอาร์ สำหรับในการจำหน่ายในไทยด้วย
นายไดโซ กล่าวต่อว่า แนวโน้มความต้องการโทรทัศน์ประเภทซีอาร์ทีในระดับโลกกำลังลดลง เห็นได้จากประเทศอินเดีย แต่สำหรับประเทศไทย ความต้องการโทรทัศน์จอซีอาร์ทียังคงทรงตัวอยู่ที่สัดส่วน 85% ที่เหลือจะเป็นกลุ่มจอภาพแบบ แอลซีดี ทีวี และพลาสม่า ทีวี ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี
เห็นได้จากยอดขาย ครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มียอดรายได้เข้ามาแล้วกว่า 10,900 ล้านบาท โดยมีกลุ่มจอภาพเป็นกลุ่มที่มีรายได้เติบโตมากที่สุด เช่นเดียวกับถ่านอัลคาไลน์ ขณะที่กลุ่มสินค้าที่เติบโตน้อยที่สุด คือ กลุ่มออดิโอ ขณะที่รายได้รวมในปีนี้ (เม.ย.2550-มี.ค.2551) จากเป้า 21,260 ล้านบาท มีแนวโน้มจะสูงจากที่วางไว้ ค่อนข้างสูง
ทุ่ม 200 ล. ลุยกล้องดิจิตอล หวังไต่สู่ที่3
นายภิญโญ จันทร์สิริวรกุล ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ กล้องดิจิตอลภาพนิ่ง บริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯมีแผนการทำตลาดในกลุ่มกล้องดิจิตอลตั้งแต่ครึ่งปีหลังที่ผ่านมามากขึ้น โดยจะให้ความสำคัญกับช่องทางขายในร้านถ่ายรูปทั้งหมด จากเดิม 2 ช่องทางหลัก คือ โมเดิร์นเทรด กับเอวีดีลเลอร์ รวมทั้งการเปิดตัวกล้องดิจิตอลรุ่นใหม่ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่จะผลักดันให้มียอดจำหน่ายกล้องดิจิตอลให้ได้ 1.5 แสนเครื่องตามแผนที่วางไว้ หรือขึ้นเป็นที่ 3 จากที่ 5 ของตลาดภายในสิ้นปีนี้ กับส่วนแบ่งทางการตลาดที่เพิ่มขึ้นเป็น 15% จาก 8% ของตลาดรวมกล้องที่ 8.5 แสนเครื่อง
ล่าสุดบริษัทได้ทุ่มงบการตลาดกว่า 200 ล้านบาท จากงบ 300 ล้านบาทที่จะใช้สำหรับการโฆษณาประชาสัมพันธ์ในส่วนของกลุ่มสินค้ากล้องดิจิตอลภาพนิ่ง ในการเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ 3 รุ่น คือ FZ18, FX55 และ FX33 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทางบริษัทฯได้ใช้พรีเซนเตอร์และทำภาพยนตร์โฆษณาจากโปรดักส์เฮาส์ของไทยทั้งหมด ผ่าน 2 นักแสดงชื่อดัง คือ เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ และ โดม-ปกรณ์ ลัม ที่จะมาพร้อมกับแคมเปญ “Panasonic Lumix Battle”ที่จะจัดแข่งขันโรดโชว์ไปทุกภูมิภาค ตั้งแต่ 20 ต.ค.-29 พ.ย.นี้ จากกิจกรรมดังกล่าว บริษัทฯคาดว่าจะมียอดขายของกล้องรุ่น FX55 และ FX33 รวมกันไม่ต่ำกว่า 25,000เครื่อง ภายในเดือน ต.ค.-ธ.ค.แน่