xs
xsm
sm
md
lg

ครม.เดินหน้ารถไฟฟ้าสีม่วง คลังใช้เงินกู้เอ็กซิมแบงก์จีน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ครม.อนุมัติประมูลรถไฟฟ้าสีม่วงบางซื่อ - บางใหญ่ วงเงินกว่า 60,000 ล้านบาท ย้ำให้คนไทยมีส่วนร่วมการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ คลังเบนเข็มกู้เงินเอ็กซิมแบงก์ประเทศจีน หลังเจบิกบ่ายเบี่ยง “สรรเสริญ” นัดถก 5 ต.ค. เร่งรัดเปิดประมูล ชี้ “ฉลองภพ” ค้านให้สัมปทานแบบบีเอ็มซีแอล เพราะรัฐคุมค่าโดยสารไม่ได้ ดันใช้ PSO หนุนแทน ”ประภัสร์” ยันพร้อมขายทีโออาร์ เดือนนี้ “ธีระ” ดันสีแดงเข้าครม.สิ้นเดือน ต.ค.

นายโชติชัย สุวรรณาภรณ์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า คณะรัฐมนตรี ให้ความเห็นเพิ่มหลังอนุมัติให้การรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ในส่วนของการก่อสร้างงานโยธา(Civil Work) กรอบวงเงิน 31,217 ล้านบาท และค่าจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการสำหรับงานโยธา กรอบวงเงิน 1,248 ล้านบาท รวมเป็นวงเงิน 32,465 ล้านบาท ทั้งนี้ มอบให้กระทรวงการคลังรับพิจารณาแหล่งเงินที่เหมาะสม

สำหรับกรอบวงเงินค่าจ้างกรรมสิทธิ์ที่ดิน จำนวน 9,314 ล้านบาท ให้หระทรวงคมนาคมร่วมกับกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ เร่งพิจารณาความเหมาะสมในรายละเอียด และนำเสนอ ครม.ให้ความเห็นชอบอีกครั้งหนึ่ง และให้กระทรวงคมนาคม และรฟม. รับความเห็นชอบอนุกรรมการพิจารณาโครงการฯ และความเห็นของสภาพัฒน์ไปพิจารณาด้วย

ครม.ยังให้ความเห็นว่า 1. เห็นควรกำหนดให้มีการใช้แรงงานไทยเป็นหลัก รวมทั้งหากสามารถใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาโดยคนไทย ในส่วนงานใดได้ ก็ควรกำหนดไว้ เป็นเงื่อนไขการประกวดราคาด้วย 2. กระบวนการประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างตามโครงการ ควรให้มีหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมด้วย เพื่อใหกิดความรอบคอบและโปร่งใส 3. ควรเร่งดำเนินการประกวดราคาตามขั้นตอน เพื่อให้โครงการเริ่มก่อสร้างได้อย่างเป็นรูปธรรม และเกิดประโยชน์กับประชาชนโดยเร็ว รวมทั้งควรมีการเผยแพร่ข้อมูลและประชาสัมพันธ์ถึงแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนให้ประชาชนรับทราบ และ 4. ควรพิจารณาถึงการหารายได้เชิงพาณิชย์ เพื่อลดภาระการอุดหนุนของภาครัฐ รวมทั้งเปรียบเทียบต้นทุนของภาครัฐและเอกชนที่ชัดเจน

**คลังเล็งกู้เอ็กซิมแบงก์จากจีน

นายสมหมาย ภาษี รมช.คลัง กล่าวถึงแหล่งเงินทุนที่จะนำมาใช้ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงว่า ล่าสุดสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยได้นำธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของจีน มาหารือกับกระทรวงการคลังในระดับเจ้าหน้าที่ ขณะนี้กระทรวงการคลังเร่งทำกรอบวงเงินที่จะเสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติ ภายในเดือนตุลาคมนี้จำนวน 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อัตราดอกเบี้ย 3% ระยะเวลา กู้ 15 ปี

"แหล่งเงินนี้ไม่ได้นำมาใช้ในระบบสายสีม่วงเท่านั้น แต่จะนำไปใช้ในเรื่องอื่นด้วย เป็นแผนรองรับหากไม่สามารถใช้เงินกู้ของเจบิก"

นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์นี้ เจบิกจะชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับเงินกู้ เพื่อนำมาใช้ในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าให้กระทรวงการคลังทราบอย่างเป็นทางการ หากเจบิกไม่ให้เงินกู้ก็มีทางอื่นที่จะระดมทุนมาใช้ในการก่อสร้างได้ โดยไม่มีปัญหาเรื่องเงินแต่อย่างใด ซึ่งกระทรวงการคลังกำลังพิจารณารายละเอียดทั้งหมด แต่สิ่งสำคัญคือ ขณะนี้รัฐบาลได้มีความชัดเจนแล้วเรื่องการเดินหน้าในโครงการรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ อย่างน้อย 2 เส้นทางคือ สายสีแดงและสายสีม่วง

พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมครม. ว่า ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบการดำเนินโครงรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ระยะทาง 23 ก.ม. และกรอบวงเงินตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ โดยให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินงานด้านโยธา ซึ่งได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์ และสำนักงบประมาณ ร่วมกันพิจารณารายละเอียดค่าจัดกรรมการสิทธิ์ที่เหมาะสม เพื่อนำเสนอครม.อีกครั้ง พร้อมกันนี้ได้เห็นชอบกรอบการเดินรถตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 โดยรัฐลงทุนงานด้านโครงสร้างพื้นฐานและเอกชนลงทุนระบบและตัวรถ (Public Private Partnership) หรือ ( PPP) ส่วนรายละเอียดของรูปแบบให้ผู้เกี่ยวข้องพิจารณาและเสนอครม.อีกครั้ง

ทั้งนี้ ตามแผนรฟม.จะเปิดประมูลนานาชาติ (International Bid) ซึ่งมีขั้นตอนมาก โดยจะเริ่มประมูลได้ปลายปี 50 และได้ผู้รับเหมาในเดือน พ.ค. 51 ซึ่งจะเร่งให้เร็วขึ้นโดยมอบหมายให้นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รมช.คมนาคม ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรับกรอบเวลา ส่วนเงินลงทุนนั้น กระทรวงการคลังยืนยันว่าไม่มีปัญหา หากใช้เงินกู้จากธนาคารเพื่อความร่วมมือแห่งประเทศญี่ปุ่น หรือเจบิกไม่ได้ ก็จะใช้เงินกู้ในประเทศ โดยไม่ได้พูดถึงเงินจากกองทุนน้ำมันแต่อย่างใด ทั้งนี้ ต้องการให้การก่อสร้างงานโยธา สัมพันธ์กับการเดินรถ

พล.ร.อ. ธีระกล่าวว่า รู้สึกพอใจที่ขณะนี้สามารถผลักดันให้ครม.เห็นชอบระบบราง ได้ 2 สายแล้ว คือ สีแดง ช่วง บางซื่อ-ตลิ่งชัน ซึ่งจะเปิดขายทีโออาร์ในวันนี้ (3 ต.ค.) และสายสีม่วง ส่วนสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 ก.ม. โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับแบบ ซึ่งคาดว่าจะเสนอขออนุมัติโครงการจากครม.ในสิ้นเดือนต.ค.นี้ หรือต้นเดือนพ.ย. ส่วนสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และ บางซื่อ-ท่าพระ อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ ซึ่งการที่รัฐบาลได้เห็นชอบโครงการก็ทำให้มั่นใจได้ว่า จะมีการก่อสร้างโครงการแน่นอน

นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รมช.คมนาคม กล่าวว่า ในวันที่ 5 ต.คนี้ จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดและทำความเข้าใจการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง เช่น คณะกรรมการและผู้บริหารรฟม. สนข. สภาพัฒน์ รวมถึงการพิจารณาความเป็นไปได้ในการปรับระยะเวลาโครงการให้เร็วขึ้น ส่วนเรื่องค่าโดยสารจะต้องมีการศึกษาอย่างละเอียด โดยจะต้องให้เอกชนสามารถบริหารโครงการได้ในขณะเดียวกันภาครัฐก็จะต้องสามารถเข้าไปกำกับดูแลและกำหนดอัตราค่าโดยสารได้เช่นกันเพราะไม่ต้องการใช้รูปแบบที่ให้สัมปทานกับบริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีเอ็มซีแอล มีความเป็นไปได้ที่จะให้ภาครัฐเข้ามาให้การสนับสนุนบริการเชิงสังคม (PSO) ร่วมด้วย

ส่วนการเวนคืนที่ดิน รมช.คมนาคม กล่าวว่า กรมธนารักษ์ได้เสนอกรอบหลักเกณฑ์ที่เหมาะสมในการจ่ายค่าชดเชยซึ่งรฟม.จะต้องไปพิจารณาให้เป็นประโยชน์ในทางปฎิบัติและสอดคล้องกับแนวทางในการจ่ายค่าชดเชยว่า ควรเป็นเท่าไร ส่วนการก่อสร้างช่วงสถานีเตาปูนนั้น ทางสศช.เสนอให้ทำเป็นระบบใต้ดินในส่วนนี้จะต้องไปพิจารณาในรายละเอียดซึ่งอาจจะแยกออกมาเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับการดำเนินโครงการในภาพรวม

นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าฯรฟม.กล่าวว่า ขณะนี้สามารถเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วงได้ทันที เพราะทีโออาร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่การประมูลจะทำได้เร็วแค่ไหนนั้นจะต้องดูว่าใช้แหล่งเงินจากไหน เบื้องต้นจะต้องประกาศการประมูลอย่างน้อย 15 วัน เปิดขายซอง 15-20 วัน และให้เวลาในการทำข้อเสนอ 3 เดือน ซึ่งถือว่าน้อยมากแล้วสำหรับโครงการมูลค่าหลายหมื่นล้าน และต้องทำแผนการจัดจราจรและการรื้อย้ายสาธารณูปโภคด้วย ซึ่งภายในเดือนนี้จะทำหนังสือแจ้งไปยังสถานทูต และบริษัทผู้รับเหมาไทยที่ขึ้นทะเบียนไว้ รวมทั้งแจ้งข้อมูลลงทางเวบไซต์ พร้อมประกาศขายเอกสารประกวดราคา

"การให้เอกชนร่วมเดินรถในกรอบ PPP มีหลายวิธี ซึ่ง นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รมว.คลังไม่เห็นด้วยกับ PPP รูปแบบการให้สัมปทานเหมือนบีเอ็มซีแอล ในปัจจุบัน จึงให้พิจารณารูปแบบอื่น เพราะการให้สัมปทานเอกชนต้องลงทุนตัวรถซึ่งจะต้องคิดเพื่อให้คืนทุน ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้ได้ค่าโดยสารถูก" นายประภัสร์ กล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น