xs
xsm
sm
md
lg

โวยกม.ใหม่ให้กกต.คุมป้ายหาเสียง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก สนช.ให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง 3 ฉบับ ปรากฎว่าในร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. มาตรา 59 (1)ให้ กกต.จัดสถานที่ปิดประกาศ และที่ติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งในบริเวณสาธารณสถาน ซึ่งเป็นของรัฐให้พอเพียง และเท่าเที่ยมกัน ในเรื่องของการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งทุกคน ทุกพรรคการเมือง และ มาตรา 60 ห้ามผู้สมัคร พรรคการเมือง ปิดป้ายประกาศ หรือแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ในที่สาธารณสถาน ทั้งของรัฐและเอกชน และห้ามปิดประกาศ แผ่นป้ายหาเสียงที่มี ขนาด จำนวน ที่กกต.ไม่ได้กำหนด สร้างปัญหาให้กับพรรคการเมืองโดยพรรคการเมืองใหญ่ ได้สอบถามมายัง กกต.ถึงวิธีการติดป้ายหาเสียงที่ไม่จะเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง
"สมัยก่อนมีการอนุโลมให้มีการติดป้ายหาเสียงบริเวณใดก็ได้ แต่ตามกฎหมายใหม่ เมื่อมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้งแล้ว ทุกพรรคการเมืองที่ได้หาเสียงไว้ก่อนแล้ว เช่น ขึ้นป้ายหาเสียงตามจุดต่างๆ ทั่วประเทศ ออกสปอตโฆษณาทางโทรทัศน์ วิทยุกระจายเสียง ก็ต้องยุติ หรือรื้อป้ายเหล่านั้นออกทันที เพราะถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง อีกทั้งที่มีการติดป้ายหาเสียง ณ ที่ทำการพรรค ก็ทำไม่ได้เหมือนในอดีต เนื่องจากพรรคการเมืองมีสภาพเป็นนิติบุคคล ที่ทำการพรรค ก็ไม่ต่างจากเป็นอาคารของเอกชน จึงทำให้พรรคไม่สามารถขึ้นป้ายหาเสียงบริเวณที่ทำการพรรค หรือที่ทำการสาขาพรรคได้ การติดป้ายหาเสียงต่างๆ จึงต้องติดเฉพาะในสถานที่กกต.จัดเตรียมให้ ซึ่งพรรคการเมืองมองว่า เป็นปัญหาอย่างมาก เพราะต่างก็เชื่อว่า ไม่มีทางที่ กกต.จะกำหนดสถานที่ติดป้ายหาเสียงให้เป็นที่พอใจกับทุกพรรคได้ รวมทั้งการที่ให้กกต. เป็นผู้กำหนดขนาด และจำนวนของป้ายหาเสียง ก็ไม่ได้ทำเกิดการแข่งขันอย่างเท่าเทียม โดยคนที่เป็นอดีต ส.ส.มาก่อน เป็นที่รู้จักของประชาชนมาแล้ว ย่อมไม่มีปัญหา แต่กับผู้สมัครหน้าใหม่ การกำหนดพื้นที่ติดป้ายและขนาดของป้ายหาเสียง ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงประชาชนได้กว้างขวาง ปัญหาตรงนี้ จะทำให้เกิดการใช้ขบวนการใต้ดินอย่างหนัก ทั้งเพื่อให้ประชาชนรู้จัก และชนะการเลือกตั้ง ด้วยการซื้อเสียง หรือทุจริตรูปแบบใหม่" แหล่งข่าวระบุ
ทั้งนี้ หลังร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง 3 ฉบับ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ในการเชิญประชุมพรรคการเมือง เพื่อหารือในเรื่องของการแบ่งเขตเลือกตั้ง การกำหนดค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง การจัดสรรเวลาออกอากาศ ทางกกต. ก็มีแนวความคิดที่จะเชิญ นายยุวรัตน์ กมลเวชช ประธานอนุกรรมธิการวิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และ นายวิษณุ เครืองาม รองประธานกรรมาธิการพิจารณา พ.ร.บ.ทั้ง 3 ฉบับ มาเป็นวิทยากรชี้แจงรายละเอียด เจตนารมณ์ของกฎหมายทั้ง 3 ฉบับ เนื่องจากเห็นว่า หาก กกต.เป็นผู้ชี้แจงเองคงไม่สามารถทำให้พรรคการเมืองเข้าใจได้
ด้านนายสุเมธ อุปนิสากร กกต. กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่าอาจจะไม่มีการเลือกตั้ง ในวันที่ 23 ธ.ค.นี้ว่า ขณะนี้คนไทยทุกคนต้องการให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว เว้นแต่คนที่มีเจตนาไม่สุจริตเท่านั้น อย่างไรก็ตามหากมีการตรวจสอบ และพบว่า การเคลื่อนไหวล้มการเลือกตั้ง เป็นการกระทำของกลุ่มบุคคล หรือเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง กกต. คงยังไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งทั้ง 3 ฉบับ ยังไม่มีผลใช้บังคับ และยังไม่มี พ.ร.ฎ. เลือกตั้ง
สำหรับกรณีที่นางสดศรี สัตยธรรม กกต. เป็นห่วงว่า ร่าง กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 3 ฉบับ ที่ออกมาจะทำให้ กกต.ทำงานยากขึ้นนั้น เมื่อกติกากำหนดมาให้ปฏิบัติ ก็ต้องปฎิบัติตาม ปฎิบัติไม่ได้เขาคงไล่ออก อย่างไรก็ตาม เราวางแผนไว้หมดแล้ว แต่ต้องยอมรับว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นการต่อสู้ที่รุนแรง เราก็จะพยายามทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้มีการแข่งขันที่เป็นธรรม ไม่ให้มีใครมาว่าได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงเช้าวานนี้ (1 ต.ค.) นายสุเมธ ได้เป็นประธานในการประชุมองค์กรเอกชน ที่จะเข้าร่วมตรวจสอบการเลือกตั้ง ส.ส. โดยได้เชิญองค์กรเอกชนที่สามารถตรวจสอบการเลือกตั้งได้ 76 จังหวัด ทั่วประเทศเข้าร่วมประชุม รวมทั้งมูลนิธิองค์กรกลาง หรือเครือข่ายประชาชนตรวจสอบการเลือกตั้ง (พีเน็ต) แต่ทางพีเน็ต ไม่ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุม เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้ประกาศว่า จะเลิกสังฆกรรมกับ กกต. ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป ซึ่งนายสุเมธกล่าวว่าที่ประชุมมีมติให้ตั้งคณะกรรมการร่วมกัน เพื่อพิจารณาอีกครั้งว่า จะร่วมกันในการทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิยุติธรรมได้อย่างไร พร้อมกันนี้ยังจะส่งตัวแทนที่เป็นองค์กรเอกชนไปเจรจาให้พีเน็ต เข้าร่วมตรวจการเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วย เพราะถ้าพีเน็ตเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม เข้ามาช่วยกันได้ก็ดี
**"ประชาราช"ไม่มั่นใจจะมีเลือกตั้ง23 ธ.ค.นี้
ด้านนายโสภณ เพชร สว่าง รองหัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่า ตนไม่มั่นใจว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันที่ 23 ธ.ค. อย่างที่รัฐบาลประกาศไว้ เนื่องจากสถานการณ์ต่างๆในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับ ครม. รวมถึงเหตุระเบิดภาคใต้ และล่าสุด ที่มีการวางระเบิดข้างกองบัญชาการกองทัพบก ตลอดจนกรณีที่ สนช.บางคน เตรียมหยิบยกประเด็นของกฎหมายลูก ที่ขัดกับรัฐธรรมนูญขึ้นมาเป็นเหตุทำให้การเลือกตั้งล่าช้าออกไป ซึ่งพรรคประชาราช จะนำสถานการณ์ดังกล่าวเข้าพิจารณาในที่ประชุมพรรคด้วย เนื่องจากหากเสถียรภาพการเมืองยังไม่มั่นคง ก็จะมีผลกระทบต่อการดำเนินการทางการเมืองของพรรคด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น