ผู้จัดการรายวัน – ซีคอน แตกไลน์ลดความเสี่ยงศูนย์การค้า โฟกัสธุรกิจโรงแรม หวังเป็นขุมทรัพย์ชิ้นงามแหล่งใหม่ หลังพบศักยภาพสูงเสี่ยงน้อยเมื่อเปรียบเทียบศูนย์การค้า ประเดิมทุ่มงบ 1,200 ล้านบาท ผุดโรงแรมที่จังหวัดภูเก็ต เดอะ เรเนซองส์ ภูเก็ต เล็งทุ่มอีก 2,400 ล้านบาท ผุดอีก 2 โครงการ โฟกัสพื้นที่กระบี่ และสมุย ภายใน 5 ปี ล่าสุดทุ่มงบ 300 ล้านบาท ยกเครื่องปรับศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ครั้งใหญ่
นายตะติยะ ซอโสตถิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาการทำธุรกิจค้าปลีกมีข้อจำกัดด้านการขยายตัว ประกอบกับธุรกิจมีการแข่งขันรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังนั้นบริษัทฯจึงได้ขยายธุรกิจเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับองค์กรโดยจะหันไปพัฒนาธุรกิจโรงแรมควบคู่กันไป
ทั้งนี้ธุรกิจดังกล่าวมีความเสี่ยงน้อยและได้ผลกำไรมาก ดังนั้นการที่บริษัทฯจะให้ความสำคัญกับธุรกิจโรงแรมจะเป็นการเหมาะสมที่สุดในเวลานี้ โดยบริษัทฯได้จัดตั้งบริษัท ซีคอน โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด รับผิดชอบพัฒนาโครงการ โดยโครงการแรกที่บริษัทฯจะพัฒนาคือ เดอะ เรเนซองส์ ภูเก็ต มูลค่าการลงทุน 1,200 ล้านบาท ตั้งอยู่บนพื้นที่ 25 ไร่ของหาดไม้ขาว ซึ่งจะเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว ประกอบด้วยห้องพักจำนวน 150 ห้อง และวิลล่า 25 ยูนิต เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ โดยมีเชนแมริออตเป็นผู้บริหาร
ขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างการออกแบบ คาดว่าจะได้ข้อสรุปสิ้นปี 2550 และ คาดว่าปีหน้าจะเริ่มตอกเสาเข็ม และแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการประมาณวันที่ 9 เดือนกันยายน พ.ศ.2552 อย่างไรก็ตามบริษัทฯคาดหมายว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถรับรู้รายได้หลังจากเข้าปีที่ 5 หรือในปี 2557 จะสามารถรับรู้รายได้ประมาณ 500 ล้านบาท คุ้มทุนภายใน 7 ปี ได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามภายหลังจากเปิดให้บริการโรงแรมแห่งดังกล่าวบริษัทฯมีแผนที่จะก่อสร้างโรงแรมอีก 2 โครงการ ประกอบด้วย กระบี่ และ สมุย แต่ทั้งนี้ต้องรอความชัดเจนในเรื่องของกฎหมายค้าปลีกก่อนจึงจะดำเนินการได้เพื่อไม่ให้กระทบกับธุรกิจเดิม ซึ่งการก่อสร้างโรงแรมแต่ละแห่งคาดว่าจะใช้งบลงทุนอยู่ที่ประมาณ 1,200 ล้านบาท รวม 2 โครงการมูลค่ากว่า 2,400 ล้านบาท
นอกจากการพัฒนาธุรกิจโรงแรมแล้วในปีหน้าบริษัทฯเตรียมใช้งบประมาณอีก 300 ล้านบาท ใช้สำหรับปรับปรุงศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น ซึ่งมี 3 รูปแบบที่เลือกไว้ ประกอบด้วย 1.โมเดิร์นเอลเลแกนท์ 2.โคซีเอลเลแกนท์ และ 3. เนเชอรัล ลีฟวิ่ง คาดว่าภายในสิ้นปีจะได้ข้อสรุปในการเลือกแบบ และหลังจากนั้นจะใช้ระยะเวลาประมาณ 12 เดือนในการปรับปรุงศูนย์ฯ
“การปรับปรุงศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ เพราะอยากให้ศูนย์ฯครบเครื่องเรื่องการขายและสอดรับกับความต้องการลูกค้าให้มากที่สุด ทั้งนี้เมื่อดูจากตัวเลขการเติบโตในช่วง 6 ปีที่ผ่านมาการเติบโตมีเพิ่มมากขึ้นมาโดยตลอด และพบว่าครึ่งปีแรกปีนี้ที่ผ่านมามีรายได้อยู่ที่ 490 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 158 ล้านบาท” นายตะติยะกล่าว
ทั้งนี้ภายหลังจากที่สนามบินสุวรณภูมิเปิดให้บริการมีผู้เข้ามาอยู่อาศัยบริเวณโดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิเพิ่มขึ้นประมาณ 7% ซึ่งในส่วนของบริษัทฯมีจำนวนลูกค้าเข้ามาใช้บริการเมื่อดูจากจำนวนรถยนต์ที่เข้าออกที่เพิ่มขึ้นประมาณ 5% และอัตราการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นมาประมาณ 51% จาก 40% ในปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้บริษัทฯยังได้ใช้งบอีกประมาณ 20 ล้านบาท เพื่อใช้ในการทำกิจกรรมการตลาดกระตุ้นกำลังซื้อลูกค้า พร้อมกันนี้บริษัทฯคาดว่าสิ้นปีนี้รายได้รวมประมาณ 1,000 ล้านบาท เติบโต 7% มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 300 ล้านบาท
นายตะติยะ กล่าวด้วยว่า ภายหลังจากที่บริษัทฯได้ขยายธุรกิจโรงแรมและพัฒนาธุรกิจค้าศูนย์การค้าแล้วเสร็จคาดว่าอีก 5 ปี รายได้ของบริษัทฯจะต้องเพิ่มมากขึ้น โดยแบ่งเป็นรายได้ที่มาจากศูนย์การค้า 1,500 ล้านบาท มีกำไร 400 ล้านบาท และโรงแรม 500 ล้านบาท มีกำไร 250 ล้านบาท ได้อย่างแน่นอน
นายตะติยะ ซอโสตถิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาการทำธุรกิจค้าปลีกมีข้อจำกัดด้านการขยายตัว ประกอบกับธุรกิจมีการแข่งขันรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังนั้นบริษัทฯจึงได้ขยายธุรกิจเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับองค์กรโดยจะหันไปพัฒนาธุรกิจโรงแรมควบคู่กันไป
ทั้งนี้ธุรกิจดังกล่าวมีความเสี่ยงน้อยและได้ผลกำไรมาก ดังนั้นการที่บริษัทฯจะให้ความสำคัญกับธุรกิจโรงแรมจะเป็นการเหมาะสมที่สุดในเวลานี้ โดยบริษัทฯได้จัดตั้งบริษัท ซีคอน โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด รับผิดชอบพัฒนาโครงการ โดยโครงการแรกที่บริษัทฯจะพัฒนาคือ เดอะ เรเนซองส์ ภูเก็ต มูลค่าการลงทุน 1,200 ล้านบาท ตั้งอยู่บนพื้นที่ 25 ไร่ของหาดไม้ขาว ซึ่งจะเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว ประกอบด้วยห้องพักจำนวน 150 ห้อง และวิลล่า 25 ยูนิต เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ โดยมีเชนแมริออตเป็นผู้บริหาร
ขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างการออกแบบ คาดว่าจะได้ข้อสรุปสิ้นปี 2550 และ คาดว่าปีหน้าจะเริ่มตอกเสาเข็ม และแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการประมาณวันที่ 9 เดือนกันยายน พ.ศ.2552 อย่างไรก็ตามบริษัทฯคาดหมายว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถรับรู้รายได้หลังจากเข้าปีที่ 5 หรือในปี 2557 จะสามารถรับรู้รายได้ประมาณ 500 ล้านบาท คุ้มทุนภายใน 7 ปี ได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามภายหลังจากเปิดให้บริการโรงแรมแห่งดังกล่าวบริษัทฯมีแผนที่จะก่อสร้างโรงแรมอีก 2 โครงการ ประกอบด้วย กระบี่ และ สมุย แต่ทั้งนี้ต้องรอความชัดเจนในเรื่องของกฎหมายค้าปลีกก่อนจึงจะดำเนินการได้เพื่อไม่ให้กระทบกับธุรกิจเดิม ซึ่งการก่อสร้างโรงแรมแต่ละแห่งคาดว่าจะใช้งบลงทุนอยู่ที่ประมาณ 1,200 ล้านบาท รวม 2 โครงการมูลค่ากว่า 2,400 ล้านบาท
นอกจากการพัฒนาธุรกิจโรงแรมแล้วในปีหน้าบริษัทฯเตรียมใช้งบประมาณอีก 300 ล้านบาท ใช้สำหรับปรับปรุงศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น ซึ่งมี 3 รูปแบบที่เลือกไว้ ประกอบด้วย 1.โมเดิร์นเอลเลแกนท์ 2.โคซีเอลเลแกนท์ และ 3. เนเชอรัล ลีฟวิ่ง คาดว่าภายในสิ้นปีจะได้ข้อสรุปในการเลือกแบบ และหลังจากนั้นจะใช้ระยะเวลาประมาณ 12 เดือนในการปรับปรุงศูนย์ฯ
“การปรับปรุงศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ เพราะอยากให้ศูนย์ฯครบเครื่องเรื่องการขายและสอดรับกับความต้องการลูกค้าให้มากที่สุด ทั้งนี้เมื่อดูจากตัวเลขการเติบโตในช่วง 6 ปีที่ผ่านมาการเติบโตมีเพิ่มมากขึ้นมาโดยตลอด และพบว่าครึ่งปีแรกปีนี้ที่ผ่านมามีรายได้อยู่ที่ 490 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 158 ล้านบาท” นายตะติยะกล่าว
ทั้งนี้ภายหลังจากที่สนามบินสุวรณภูมิเปิดให้บริการมีผู้เข้ามาอยู่อาศัยบริเวณโดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิเพิ่มขึ้นประมาณ 7% ซึ่งในส่วนของบริษัทฯมีจำนวนลูกค้าเข้ามาใช้บริการเมื่อดูจากจำนวนรถยนต์ที่เข้าออกที่เพิ่มขึ้นประมาณ 5% และอัตราการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นมาประมาณ 51% จาก 40% ในปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้บริษัทฯยังได้ใช้งบอีกประมาณ 20 ล้านบาท เพื่อใช้ในการทำกิจกรรมการตลาดกระตุ้นกำลังซื้อลูกค้า พร้อมกันนี้บริษัทฯคาดว่าสิ้นปีนี้รายได้รวมประมาณ 1,000 ล้านบาท เติบโต 7% มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 300 ล้านบาท
นายตะติยะ กล่าวด้วยว่า ภายหลังจากที่บริษัทฯได้ขยายธุรกิจโรงแรมและพัฒนาธุรกิจค้าศูนย์การค้าแล้วเสร็จคาดว่าอีก 5 ปี รายได้ของบริษัทฯจะต้องเพิ่มมากขึ้น โดยแบ่งเป็นรายได้ที่มาจากศูนย์การค้า 1,500 ล้านบาท มีกำไร 400 ล้านบาท และโรงแรม 500 ล้านบาท มีกำไร 250 ล้านบาท ได้อย่างแน่นอน