“อาร์เอส มิวสิค” ปลื้มผู้สร้างสรรค์งานแพลงแห่ร่วมงานคับคั่ง รับอานิสงค์ยกลิขสิทธิ์ให้เป็นของคนทำเพลง ยกระดับเทียบชั้นมาตรฐานสากล แย้มเล็งคลอด “อัลบั้มใหม่-อัลบั้มรวมฮิต” อีกกว่า 30 อัลบั้มในไตรมาส 4 ชิงเค้กเซกเมนตร์ใหม่ๆ ทางดนตรี ควบคู่รักษาแชมป์ตลาดเพลงวัยรุ่น คาดปีนี้โกยรายได้ทะลุ 1 พันล้าน
ลาดพร้าว-นายสุทธิพงษ์ วัฒนจัง รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้ปฏิวัติอุตสาหกรรมเพลงไทย ด้วยการยกลิขสิทธิ์ให้เป็นของผู้สร้างสรรค์งานเพลง ไม่ว่าจะเป็นครูเพลง นักแต่งเพลง ผู้ประพันธ์ทำนองและเนื้อร้อง นับตั้งแต่วันแรกที่ผลงานออกสู่สาธารณชน เพื่อยกระดับเทียบชั้นมาตรฐานสากล ปรากฎว่าขณะนี้มีเหล่าผู้สร้างสรรค์งานเพลงเข้าร่วมงานกับบริษัทฯ จำนวนมาก ส่งผลให้ธุรกิจเพลงซึ่งเปรียบเสมือนแหล่งต้นน้ำใหญ่ ที่หล่อเลี้ยงธุรกิจอื่นๆ ในเครือมีความแข็งแกร่งมากขึ้น
“ปัจจุบันเรายังคงรุกตลาดเพลงพรีทีนและทีนที่อาร์เอสมีความถนัด และเป็นผู้นำตลาดอยู่แล้วต่อไป ขณะที่กำลังเปิดกว้างให้พันธมิตรผู้มีฝีมือทางดนตรี ทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่าได้เข้ามาทำงานร่วมบุกตลาดเซกเมนต์ใหม่ๆด้วยกัน มีจุดเด่นเรื่องวิธีทำงานที่เปิดอิสระให้ผู้สร้างสรรค์งานเพลงเต็มที่ เช่น ถ้ามองว่าคนไหนเป็นที่ยอมรับของสังคมอยู่แล้วเราก็ให้อิสระคิดงานเต็มที่ แต่ถ้าคนไหนที่ยังเป็นมือใหม่ก็จะให้โอกาสเขานำเสนอ แต่เรายังเป็นพี่เลี้ยงคอยไกด์ดูแลเขาบ้าง จากนั้นเราจะเป็นผู้หากลยุทธ์ทำตลาด เพื่อหาช่องทางต่างๆ นำเสนอผลงานของศิลปินกลุ่มนั้นๆ เข้าไปยังกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเรามั่นใจว่าทำตรงนี้ได้ดี เพราะอาร์เอสมีความแข็งแกร่งทางด้านสื่อที่พร้อมจะสนับสนุนอยู่แล้ว การปรับโครงสร้างครั้งนี้ทำให้มีความหลากหลายทางดนตรี ส่งผลให้ผู้บริโภคเกิดความตื่นตัวที่จะเสพ และท้ายที่สุดผลดีตกกับวงการเพลงเมืองไทยมีความยั่งยืน” นายสุทธิพงศ์ กล่าว
สำหรับโมเดลธุรกิจใหม่จะมีทั้งหมด 6 ค่ายเพลงด้วยกัน คือ ค่ายอะบอริจิ้นท์ มีศิลปินแม่เหล็กอย่าง ปาน–ธนพร , แดน-บีม , วงเกียร์ไนท์ ค่ายเมโลดิก้า ศิลปินเกิร์ลลี่ เบอร์รี่ , ไอน้ำ , ฟิล์ม-รัฐภูมิ ค่ายกามิกาเซ่ ที่มีศิลปินวัยรุ่นอย่างโฟร์-มด ,เฟย์-ฟาง-แก้ว , พายุ, ขนมจีน , มิล่า และภายในเดือนหน้าก็จะเปิดค่ายเพลงน้องใหม่ที่มีแนวดนตรีหลากหลายอีกถึง 3 ค่ายด้วยกัน
โดยบริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการขยายช่องทางนำเสนอคอนเทนต์เพลงใหม่ๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแต่ละเซกเมนต์ทางดนตรีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเว็บไซด์ให้เป็นชุมชนหรือสังคม ที่นำเสนอข่าวสารความเคลื่อนไหวความบันเทิง เช่น www.zheza.com เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นที่มีอายุระหว่าง 12-18 ปี, www.youdumv.com เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายที่ชื่นชอบการชมมิวสิควีดีโอ ตลอดจนการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานแบบหาข้อมูลจากความต้องการของผู้ฟังในแต่ละกลุ่มเซกเมนต์เป็นหลัก (Consumer Insight) เพื่อนำไปสร้างสรรค์ผลงานตอบให้ตรงโจทย์ความต้องการของตลาดมากที่สุด ทำให้มั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะมีรายได้ประมาณ 1 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 6% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 942 ล้านบาท
“นโยบายใหม่เปิดให้อาร์เอสเป็นพื้นที่กลางในทุกๆ เซกเมนต์ ถือเป็นการทำตลาดที่มีมาถูกทาง เพราะทุกวันนี้การทำธุรกิจเพลงต้องมีความชัดเจนในเรื่องเซกเมนต์ โดยเฉพาะเซกเมนต์วัยรุ่นเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีการแตกย่อยเซกเมนต์เล็กๆ อีก ดังนั้น ผมยืนยันว่าตลาดเพลงไม่ได้เล็กลง เพียงแต่ผู้บริโภคเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การฟังเพลงจากเทปหรือแผ่นเป็นช่องทางใหม่ๆ ตามเทคโนโลยีที่มันก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งหากเราค้นหาไลฟ์สไตล์ของผู้ฟังแต่ละเซกเมนต์เจอก็พอแล้ว เพราะผมมองว่านับจากนี้จนถึงปีหน้าเป็นช่วงขาขึ้นของธุรกิจเพลงไทย หลังจากที่ผ่านมาเป็นช่วงปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยีที่เข้ามาอย่างมากมาย ” นายสุทธิพงศ์ กล่าว
************************
ขอแสดงความนับถือ
ฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์
ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์ - การตลาด บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน)
โทร: 0-2511-0555 ต่อ 3123 , 3139 และ 3145
สุวริน (กิ๊ป): 0-81829-6449
สุรสา (น้อง): 0-89549-4594
บุษกร (เอ๋): 0-81551-2840
ลาดพร้าว-นายสุทธิพงษ์ วัฒนจัง รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้ปฏิวัติอุตสาหกรรมเพลงไทย ด้วยการยกลิขสิทธิ์ให้เป็นของผู้สร้างสรรค์งานเพลง ไม่ว่าจะเป็นครูเพลง นักแต่งเพลง ผู้ประพันธ์ทำนองและเนื้อร้อง นับตั้งแต่วันแรกที่ผลงานออกสู่สาธารณชน เพื่อยกระดับเทียบชั้นมาตรฐานสากล ปรากฎว่าขณะนี้มีเหล่าผู้สร้างสรรค์งานเพลงเข้าร่วมงานกับบริษัทฯ จำนวนมาก ส่งผลให้ธุรกิจเพลงซึ่งเปรียบเสมือนแหล่งต้นน้ำใหญ่ ที่หล่อเลี้ยงธุรกิจอื่นๆ ในเครือมีความแข็งแกร่งมากขึ้น
“ปัจจุบันเรายังคงรุกตลาดเพลงพรีทีนและทีนที่อาร์เอสมีความถนัด และเป็นผู้นำตลาดอยู่แล้วต่อไป ขณะที่กำลังเปิดกว้างให้พันธมิตรผู้มีฝีมือทางดนตรี ทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่าได้เข้ามาทำงานร่วมบุกตลาดเซกเมนต์ใหม่ๆด้วยกัน มีจุดเด่นเรื่องวิธีทำงานที่เปิดอิสระให้ผู้สร้างสรรค์งานเพลงเต็มที่ เช่น ถ้ามองว่าคนไหนเป็นที่ยอมรับของสังคมอยู่แล้วเราก็ให้อิสระคิดงานเต็มที่ แต่ถ้าคนไหนที่ยังเป็นมือใหม่ก็จะให้โอกาสเขานำเสนอ แต่เรายังเป็นพี่เลี้ยงคอยไกด์ดูแลเขาบ้าง จากนั้นเราจะเป็นผู้หากลยุทธ์ทำตลาด เพื่อหาช่องทางต่างๆ นำเสนอผลงานของศิลปินกลุ่มนั้นๆ เข้าไปยังกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเรามั่นใจว่าทำตรงนี้ได้ดี เพราะอาร์เอสมีความแข็งแกร่งทางด้านสื่อที่พร้อมจะสนับสนุนอยู่แล้ว การปรับโครงสร้างครั้งนี้ทำให้มีความหลากหลายทางดนตรี ส่งผลให้ผู้บริโภคเกิดความตื่นตัวที่จะเสพ และท้ายที่สุดผลดีตกกับวงการเพลงเมืองไทยมีความยั่งยืน” นายสุทธิพงศ์ กล่าว
สำหรับโมเดลธุรกิจใหม่จะมีทั้งหมด 6 ค่ายเพลงด้วยกัน คือ ค่ายอะบอริจิ้นท์ มีศิลปินแม่เหล็กอย่าง ปาน–ธนพร , แดน-บีม , วงเกียร์ไนท์ ค่ายเมโลดิก้า ศิลปินเกิร์ลลี่ เบอร์รี่ , ไอน้ำ , ฟิล์ม-รัฐภูมิ ค่ายกามิกาเซ่ ที่มีศิลปินวัยรุ่นอย่างโฟร์-มด ,เฟย์-ฟาง-แก้ว , พายุ, ขนมจีน , มิล่า และภายในเดือนหน้าก็จะเปิดค่ายเพลงน้องใหม่ที่มีแนวดนตรีหลากหลายอีกถึง 3 ค่ายด้วยกัน
โดยบริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการขยายช่องทางนำเสนอคอนเทนต์เพลงใหม่ๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแต่ละเซกเมนต์ทางดนตรีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเว็บไซด์ให้เป็นชุมชนหรือสังคม ที่นำเสนอข่าวสารความเคลื่อนไหวความบันเทิง เช่น www.zheza.com เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นที่มีอายุระหว่าง 12-18 ปี, www.youdumv.com เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายที่ชื่นชอบการชมมิวสิควีดีโอ ตลอดจนการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานแบบหาข้อมูลจากความต้องการของผู้ฟังในแต่ละกลุ่มเซกเมนต์เป็นหลัก (Consumer Insight) เพื่อนำไปสร้างสรรค์ผลงานตอบให้ตรงโจทย์ความต้องการของตลาดมากที่สุด ทำให้มั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะมีรายได้ประมาณ 1 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 6% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 942 ล้านบาท
“นโยบายใหม่เปิดให้อาร์เอสเป็นพื้นที่กลางในทุกๆ เซกเมนต์ ถือเป็นการทำตลาดที่มีมาถูกทาง เพราะทุกวันนี้การทำธุรกิจเพลงต้องมีความชัดเจนในเรื่องเซกเมนต์ โดยเฉพาะเซกเมนต์วัยรุ่นเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีการแตกย่อยเซกเมนต์เล็กๆ อีก ดังนั้น ผมยืนยันว่าตลาดเพลงไม่ได้เล็กลง เพียงแต่ผู้บริโภคเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การฟังเพลงจากเทปหรือแผ่นเป็นช่องทางใหม่ๆ ตามเทคโนโลยีที่มันก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งหากเราค้นหาไลฟ์สไตล์ของผู้ฟังแต่ละเซกเมนต์เจอก็พอแล้ว เพราะผมมองว่านับจากนี้จนถึงปีหน้าเป็นช่วงขาขึ้นของธุรกิจเพลงไทย หลังจากที่ผ่านมาเป็นช่วงปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยีที่เข้ามาอย่างมากมาย ” นายสุทธิพงศ์ กล่าว
************************
ขอแสดงความนับถือ
ฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์
ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์ - การตลาด บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน)
โทร: 0-2511-0555 ต่อ 3123 , 3139 และ 3145
สุวริน (กิ๊ป): 0-81829-6449
สุรสา (น้อง): 0-89549-4594
บุษกร (เอ๋): 0-81551-2840