ผู้จัดการรายวัน – แบล็คแคนยอน เปิดแนวรบรับมือธุรกิจร้านกาแฟพรีเมียมแข่งดุ หลังตลาดหดตัวรายเล็กปิดกิจการ รายใหญ่ชิงชิ้นเค้กเดือด ล่าสุดกลุ่มเซ็นทรัลร่วมสมรภูมิ เร่งขยายสาขาคลุมทุกช่องทางปั๊มน้ำมันยันแหล่งท่องเที่ยว สิ้นปีโต 10% กวาด 600 ล้านบาท
นางกรรณิการ์ ชินประสิทธิ์ชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มแบล็คแคนยอน เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจร้านกาแฟพรีเมียมในปีนี้มูลค่า 5,100 ล้านบาท คาดว่าจะมีอัตราเติบโตลดลงเหลือ 4% เมื่อเทียบกับช่วงหลายปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 10%
ทั้งนี้เป็นเพราะมีคู่แข่งที่เข้ามาทำตลาดไม่ได้ทำการตลาดอย่างจริงจัง เป็นเพียงการทำธุรกิจตามกระแส อีกทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคยังเลือกใช้บริการร้านกาแฟที่มีความคุ้นเคยมากกว่า ส่งผลให้ร้านกาแฟลดเหลือจำนวนน้อยลง โดยเหลือแต่ผู้ประกอบการรายใหญ่และอยู่ในตลาดมานาน เช่น แบล็คแคนยอน คอฟฟี่เวิลด์ สตาร์บัคส์ ฯลฯ
“แม้ว่าธุรกิจร้านกาแฟพรีเมียมไม่มีอัตราการเติบโตมากนัก แต่ในปีนี้ก็มีคู่แข่งรายใหม่ อย่างกลุ่มเซ็นทรัล เปิดตัวแฟรนไชส์ร้านกาแฟ เซกาเฟรโด ซาเนตติ เอสเพรสโซ จากประเทศอิตาลี เริ่มเปิดสาขาแล้วที่เซ็นทรัล เวิลด์ นับว่าเป็นทำเลที่ดีและมีศักยภาพ คาดว่าจะทำให้ตลาดกาแฟพรีเมียม มีการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นมาอีกครั้ง”
สำหรับแผนการตลาดของบริษัทฯจะมุ่งเน้นทำเลที่มีศักยภาพในแต่ละช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นสถานีบริการน้ำมัน ล่าสุดได้ต่อสัญญาร้านกาแฟในปั๊มน้ำมันเจ็ทของปตท. จำนวน 20 สาขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หรือกระทั่งห้างสรรพสินค้า โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องก่อนที่คู่แข่งจะเข้ามา โดยทั้งปีคาดว่าจะขยายสาขาครบ 20 แห่ง
ปัจจุบันแบล็คแคนยอน มีสาขาในประเทศทั้งหมด 160 สาขา ส่วนในต่างประเทศมี 25 สาขา รวมทั้งสิ้น 185 สาขา โดย ผลประกอบการปีนี้บริษัฯตั้งเป้ามีอัตราเติบโต 10% จากรายได้ 600 ล้านบาทในปี 2549 ซึ่งไม่นับรวมกับรายได้จากค่าแฟรนไชส์
ทั้งนี้ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้ได้เปิดสาขาไปแล้ว 14 แห่ง เช่น เทสโก้โลตัส อำเภอฝางจังหวัดเชียงใหม่ ,หมู่บ้านเพอร์เฟ็คเพลสสุวรรณภูมิ 77 ,เทสโก้โลตัส กระบี่ ,โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค และกำลังจะเปิดเพิ่มเติมอีก 6 แห่ง ได้แก่ อ่าวพระนาง จ.กระบี่ , สายลมพาวิลเลียน หัวหิน , บิ๊กซี อำเภอหางดง จ.เชียงใหม่ ฯลฯ ส่วนตลาดต่างประเทศนั้น สาขาที่เติบโตมากที่สุดอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นแฟรนไชส์ซี ที่มีศักยภาพบริหารจัดการที่ดี โดยเปิดให้บริการ 2-3 สาขา
“ปัจจัยของความสำเร็จในการทำธุรกิจร้านกาแฟ คือต้องมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และมีการนำเสนอเมนูสินค้าใหม่เข้ามาตอบสนองลูกค้าสม่ำเสมอ รวมทั้งกิจกรรมการตลาดในเทศกาลต่างๆ ในราคาพิเศษเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ” นางกรรณิการ์กล่าว
นางกรรณิการ์ ชินประสิทธิ์ชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มแบล็คแคนยอน เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจร้านกาแฟพรีเมียมในปีนี้มูลค่า 5,100 ล้านบาท คาดว่าจะมีอัตราเติบโตลดลงเหลือ 4% เมื่อเทียบกับช่วงหลายปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 10%
ทั้งนี้เป็นเพราะมีคู่แข่งที่เข้ามาทำตลาดไม่ได้ทำการตลาดอย่างจริงจัง เป็นเพียงการทำธุรกิจตามกระแส อีกทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคยังเลือกใช้บริการร้านกาแฟที่มีความคุ้นเคยมากกว่า ส่งผลให้ร้านกาแฟลดเหลือจำนวนน้อยลง โดยเหลือแต่ผู้ประกอบการรายใหญ่และอยู่ในตลาดมานาน เช่น แบล็คแคนยอน คอฟฟี่เวิลด์ สตาร์บัคส์ ฯลฯ
“แม้ว่าธุรกิจร้านกาแฟพรีเมียมไม่มีอัตราการเติบโตมากนัก แต่ในปีนี้ก็มีคู่แข่งรายใหม่ อย่างกลุ่มเซ็นทรัล เปิดตัวแฟรนไชส์ร้านกาแฟ เซกาเฟรโด ซาเนตติ เอสเพรสโซ จากประเทศอิตาลี เริ่มเปิดสาขาแล้วที่เซ็นทรัล เวิลด์ นับว่าเป็นทำเลที่ดีและมีศักยภาพ คาดว่าจะทำให้ตลาดกาแฟพรีเมียม มีการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นมาอีกครั้ง”
สำหรับแผนการตลาดของบริษัทฯจะมุ่งเน้นทำเลที่มีศักยภาพในแต่ละช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นสถานีบริการน้ำมัน ล่าสุดได้ต่อสัญญาร้านกาแฟในปั๊มน้ำมันเจ็ทของปตท. จำนวน 20 สาขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หรือกระทั่งห้างสรรพสินค้า โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องก่อนที่คู่แข่งจะเข้ามา โดยทั้งปีคาดว่าจะขยายสาขาครบ 20 แห่ง
ปัจจุบันแบล็คแคนยอน มีสาขาในประเทศทั้งหมด 160 สาขา ส่วนในต่างประเทศมี 25 สาขา รวมทั้งสิ้น 185 สาขา โดย ผลประกอบการปีนี้บริษัฯตั้งเป้ามีอัตราเติบโต 10% จากรายได้ 600 ล้านบาทในปี 2549 ซึ่งไม่นับรวมกับรายได้จากค่าแฟรนไชส์
ทั้งนี้ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้ได้เปิดสาขาไปแล้ว 14 แห่ง เช่น เทสโก้โลตัส อำเภอฝางจังหวัดเชียงใหม่ ,หมู่บ้านเพอร์เฟ็คเพลสสุวรรณภูมิ 77 ,เทสโก้โลตัส กระบี่ ,โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค และกำลังจะเปิดเพิ่มเติมอีก 6 แห่ง ได้แก่ อ่าวพระนาง จ.กระบี่ , สายลมพาวิลเลียน หัวหิน , บิ๊กซี อำเภอหางดง จ.เชียงใหม่ ฯลฯ ส่วนตลาดต่างประเทศนั้น สาขาที่เติบโตมากที่สุดอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นแฟรนไชส์ซี ที่มีศักยภาพบริหารจัดการที่ดี โดยเปิดให้บริการ 2-3 สาขา
“ปัจจัยของความสำเร็จในการทำธุรกิจร้านกาแฟ คือต้องมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และมีการนำเสนอเมนูสินค้าใหม่เข้ามาตอบสนองลูกค้าสม่ำเสมอ รวมทั้งกิจกรรมการตลาดในเทศกาลต่างๆ ในราคาพิเศษเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ” นางกรรณิการ์กล่าว