xs
xsm
sm
md
lg

“สุวัจน์”เมินร่วม“เพื่อแผ่นดิน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“เสนาะ” นำทีมถก “ประชาราช-มัชฌิมา-แนวร่วมสมานฉันท์” รวมกลุ่ม “เพื่อแผ่นดิน” โดยไม่มีกลุ่มรวมใจไทย และ “สุวัจน์” เข้าร่วม เตรียมแถลงข่าววันนี้ ด้าน “สุวัจน์” หลบไปหารืออดีต ส.ส.ชาติพัฒนา ยันฟื้นพรรคชาติพัฒนา ไม่ไปรวมกลุ่มด้วย “ประดิษฐ์” เผยกลุ่มรวมใจไทยจะตั้งพรรคเอง เตรียมจดทะเบียนตั้งพรรค 13 ก.ย.นี้

เมื่อเวลา 11.30 น. วานนี้ (10 ก.ย.) ที่ร้านโฮวยู อาคารสำนักงานเซ็นทรัลเวิลด์ กลุ่มการเมืองต่างๆ ได้ร่วมหารือ และรับประทานอาหารร่วมกัน อาทิ นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ที่ปรึกษาพรรคประชาราช นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย และ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ ผู้ประสานงานการประกาศเจตนารมณ์ เพื่อแผ่นดิน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน หัวหน้ากลุ่มมัชฌิมา นายพินิจ จารุสมบัติ นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ และนายสุวิทย์ คุณกิตติ แกนนำกลุ่มแนวร่วมสมานฉันท์ และนายวัฒนา อัศวเหม แกนนำกลุ่มปากน้ำ แต่ปราศจากกลุ่มรวมใจไทย และนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา และแกนนำกลุ่มแนวร่วมสมานฉันท์

นายสุรนันทน์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือว่า วันนี้ (11 ก.ย.) เวลา 09.00 น. จะมีการประกาศเจตนารมณ์การทำงานร่วมกันเพื่อแผ่นดิน ที่ห้องประชุม 3 และ 4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยผู้ร่วมหารือในวันนี้ จะเป็นแกนนำร่วมประกาศเจตนารมณ์ ทั้งนี้ ยังเปิดโอกาสและเปิดกว้างให้กลุ่มอื่นๆ ที่ไม่ได้เข้าร่วมหารือในครั้งนี้ รวมทั้ง นายสุวัจน์ เข้าร่วมทำงานร่วมกันได้ เพราะยังมีการประสานงานกันอยู่ และทุกอย่างจะมีความชัดเจนในการแถลงข่าววันนี้อย่างแน่นอน

ทั้งนี้นายสุรนันทน์ ปฏิเสธกระแสข่าวความขัดแย้งของแกนนำกลุ่มต่างๆ ที่เป็นสาเหตุให้ไม่มีความคืบหน้าในการตั้งพรรคการเมืองใหม่

ด้าน นายเสนาะ กล่าวว่า ให้รอแถลงความชัดเจนในวันนี้ ว่าจะมีรูปแบบพรรคการเมืองอย่างไร ซึ่งการหารือทุกอย่างลงตัวเรียบร้อย และได้มีการหารือกับกลุ่มต่างๆ มาเป็นเวลานานแล้ว ทุกคนเคยอยู่ร่วมกันมาแล้ว

ต่อข้อถามว่า การหารือในวันนี้แฮปปี้หรือไม่ นายเสนาะ กล่าวว่า มีความสุขทุกวัน ส่วนการหารือครั้งนี้ ที่ไม่มีกลุ่มรวมใจไทยเข้าร่วมนั้น นาย เสนาะ กล่าวว่า ต้องไปสอบถามจากกลุ่มรวมใจไทยเอง

“ต้องไปถามรวมใจไทย ไม่ใช่มาถามผม ผมแค่เป็นผู้อาวุโส เพราะตอนนี้มีเจตนารมณ์เพื่อแผ่นดินกันแล้ว ต้องไปถามทุกคน ไม่ใช่ถามแค่รวมใจไทย หรือคุณสุวัจน์ ผมพร้อมเปิดรับทุกคนที่มีเจตนารมณ์เดียวกันทำเพื่อแผ่นดิน”นายเสนาะ กล่าว

ส่วน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน กล่าวว่า ขอให้รอความชัดเจนในการแถลงข่าววันนี้ และขอให้ฟังจาก นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ ในฐานะผู้ประสานในเรื่องนี้ ต่อข้อถามถึง นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ แกนนำกลุ่มรวมใจไทย ที่เป็นผู้ประสานการรวมกลุ่ม เพื่อตั้งพรรคการเมืองตั้งแต่ต้น แต่ไม่มาร่วมหารือวันนี้ แสดงว่ากลุ่มรวมใจไทยจะไม่เกี่ยวข้องกับการประกาศเจตนารมณ์วันพรุ่งนี้ใช่หรือไม่นั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มีความคืบหน้าอะไร ขอให้รอดูวันนี้ ว่าจะมีกลุ่มการเมืองอื่นๆ เข้าร่วมด้วยหรือไม่

“การรวมกันนั้น ยึดความพร้อมของแต่ละกลุ่มเป็นหลัก ใครไม่พร้อม ก็ให้รอไปก่อน เพราะการควบรวมต้องอาศัยความแข็งแกร่งทางการเมือง ด้วย อย่างพรรคประชาราช ก็มีความถนัดในเรื่องชนบท ส่วนกลุ่มรวมใจไทย ก็ถนัดเรื่องเศรษฐกิจ และต่างประเทศ ซึ่งในการรวมกันนั้น ต้องรอการรายงานผลความชัดเจนก่อน”

ส่วนตัวหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ คือ นายศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการการประชุมสหประชาชาติเพื่อการค้าและการลงทุน (อังค์ถัด) ใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ย้ำว่า ขั้นต้นทุกอย่างการรวมกลุ่มเพื่อแผ่นดินลุล่วงไปถึง ร้อยละ 97 แล้ว

แหล่งข่าวกล่าวว่า สำหรับบรรยากาศในที่ประชุมการควบรวมกลุ่มการเมืองนั้น เป็นไปด้วยดี ซึ่งในที่ประชุมได้มีการหารือถึงเรื่องการวางตัวผู้สมัครส.ส. ให้ลงตัว เพราะที่ผ่านมายังมีอดีต ส.ส.บางเขตที่ยังเกินอยู่ ซึ่งขณะนี้เรียบร้อยดีแล้ว นอกจากนี้ที่ประชุม ยังมีมติให้ตั้ง นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เป็นโฆษกกลุ่มเพื่อแผ่นดินในระยะแรกไปก่อน เมื่อมีการตั้งพรรคการเมืองเรียบร้อยแล้ว จึงจะมีการเปลี่ยนแปลงต่อไป เนื่องจากนายสุรนันทน์ ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปีด้วย

ส่วนสาเหตุที่กลุ่มรวมใจไทย ไม่สามารถเข้าร่วมได้ในขณะนี้นั้น เนื่องจากกลุ่มรวมใจไทย ยังขาดเอกภาพ ภายหลังจากที่นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ และนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เข้ามาร่วมงาน เพราะต่างฝ่ายก็อยากเป็นผู้นำ ในขณะที่กลุ่มรวมใจไทย เมื่อครั้งก่อตั้งใหม่ๆ มีเพียงนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ คนเดียว จึงไม่เกิดปัญหาอะไร อย่างก็ตาม เชื่อว่าก่อนจะถึงการแถลงข่าวจะมีกลุ่มรวมใจไทยเข้าร่วมด้วยแน่ แต่จะมาเป็นรายบุคคล

“สุวัจน์”ยันฟื้นพรรคชาติพัฒนา

ด้าน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำกลุ่มแนวร่วมสมานฉันท์ทางการเมือง เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับ อดีต ส.ส.พรรคชาติพัฒนา ประมาณ 20 คนว่า จะไม่ไปร่วมแถลงข่าวในวันนี้ (11 ก.ย.) ในการเปิดตัวพรรคเพื่อแผ่นดิน ตามที่เป็นข่าว เนื่องจากยังไม่มีอะไรที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นนโยบายของพรรค หรือแม้แต่ตัวหัวหน้าพรรค อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า แกนนำกลุ่มแนวร่วมสมานฉันท์ฯ ยังรักใคร่กันดี ไม่มีปัญหาอะไร โดยเฉพาะกับนายพินิจ จารุสมบัติ

สำหรับแนวโน้มในการฟื้นพรรคชาติพัฒนานั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของสมาชิก ที่จะเป็นผู้ดำเนินการ ตนจะไม่ไปรวมกับกลุ่มใด แต่จะฟื้นพรรคชาติพัฒนาขึ้นมา ส่วนคนอื่นๆในกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นนายพินิจ นายสุวิทย์ คุณกิตติ หรือ นายปรีชา เลาหะพงศ์ชนะ นั้นตนไม่ทราบว่าตัดสินใจอย่างไร แต่ตนจะอยู่ที่นี่

แหล่งข่าวจากกลุ่มแนวร่วมสมานฉันท์ทางการเมือง กล่าวถึงกรณีที่ นายสุวัจน์ ไม่เข้าร่วมกลุ่มการเมืองที่จะประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันในวันนี้ว่าเนื่องจากนายสุวัจน์ไม่พอใจที่นายพินิจ จารุสมบัติ แกนนำกลุ่มแนวร่วมสมานฉันท์ฯ ตัดสินใจรวมกลุ่มโดยไม่มีการหารือกับนายสุวัจน์ แต่กลับให้นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีต รมว.ต่างประเทศ และนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ ที่ปรึกษากลุ่มกรุงเทพ 50 เป็นคนประสานรวมกลุ่มกับพรรคประชาราช และกลุ่มมัชฌิมา ซึ่งนายสุวัจน์ มองว่าเป็นการไม่ให้เกียรติกัน ดังนั้นกลุ่มแนวร่วมฯ จึงได้มีการหารือ และได้ข้อสรุปว่าจากนี้จะเดินหน้าทำงานการเมืองในนามของตัวเอง และใช้ชื่อพรรคชาติพัฒนา ที่ได้ไปยื่นจดทะเบียนต่อ กกต.เอาไว้แล้ว

“ประดิษฐ์”ยันรวมใจไทยตั้งพรรคเอง

นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ แกนนำกลุ่มรวมใจไทย ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ถึงการรวมกลุ่มการเมือง เพื่อเตรียมจัดตั้งพรรคของกลุ่มแนวร่วมสมานฉันท์ กลุ่มมัชฌิมา และพรรคประชาราช โดยจะมีการแถลงข่าวความชัดเจน วันนี้ (11 ก.ย.) ว่า กลุ่มรวมใจไทยคงไม่ไปร่วมแถลงข่าว เพราะกลุ่มมีความชัดเจนในทางการเมืองค่อนข้างแน่นอนแล้วว่า จะจัดตั้งพรรคการเมืองในชื่อรวมใจไทย โดยเช้าวันที่ 13 ก.ย. นี้ จะประชุมกลุ่ม ณ ที่ทำการกลุ่ม อาคาร ณ ถลาง และช่วงบ่าย อาจจะไปจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประดิษฐ์ เดินทางไปต่างจังหวัด และที่ทำการกลุ่มรวมใจไทยก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ โดยก่อนหน้านี้ นายเอนก เหล่าธรมทัศน์ แกนนำกลุ่มอีกคน กล่าวค่อนข้างชัดเจนว่า กลุ่มรวมใจไทยได้เตรียมนโยบาย และผู้สมัครของกลุ่มไว้ค่อนข้างพร้อมแล้ว รวมถึงตัวบุคคลที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคด้วย

“เชษฐา”มั่นใจรวมกลุ่มแล้วแตกยาก

พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ที่ปรึกษาพรรคประชาราช กล่าวว่า ขั้นตอนของการรวมตัวทางการเมืองนั้นยังไม่จบ และเชื่อว่าในท้ายที่สุดกลุ่มต่างๆ จะรวมกันทั้งหมด ส่วนการที่ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ยืนยันว่าจะไม่รวมกลุ่ม หรือร่วมตั้งพรรคเพื่อแผ่นดินด้วยนั้น ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะในเบื้องต้นหากกลุ่มไหนที่ตัดสินใจมารวมกันแล้วก็สามารถทำงานไปก่อนได้ โดยไม่ต้องรอ และในอนาคตเมื่อมีการรวมกันแล้วจะตั้งชื่อกลุ่ม หรือพรรคว่าอย่างไรนั้นคงต้องหารือกันอีกครั้ง

ส่วนการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ.คนใหม่นั้น ตนมองว่าไม่มีผลกระทบต่อการรวมกลุ่มแต่อย่างใด เพราะการที่กลุ่มการเมืองมารวมกันเป็นจำนวนมาก จะทำให้เกิดความมั่นคง และมั่นใจว่ากลุ่มที่มารวมแล้วจะไม่มีการสลายหรือแตกกันไปอีก

พปช.ยื่นขอเปลี่ยนแปลง กก.บห.

ด้าน พรรคพลังประชาชนได้ยื่นรายงานการประชุมใหญ่พรรค และรายงานการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรค ต่อ กกต. เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งตามขั้นตอนต่อจากนี้ กกต. จะต้องตรวจสอบความถูกต้องขององค์ประชุม ว่าเป็นไปตามข้อบังคับของพรรคที่เสนอมาหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบคุณสมบัติของกรรมการบริหารพรรค ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ หลังจากนั้นก็จะเสนอให้นายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อพิจารณาให้แล้วเสร็จใน 30 วันนับแต่วันที่ยื่น หากไม่มีปัญหา นายทะเบียนพรรคการเมือง ก็จะให้รับรองการเปลี่ยนแปลง ซึ่งในกรณีนี้คาดว่า จะแล้วเสร็จประมาณ วันที่ 5-6 ต.ค.

น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการ พรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ ภายหลังจากที่พรรคพลังประชาชนมีมติเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคว่า ทางพรรคได้จัดทำเอกสารการเปลี่ยนแปลงรายชื่อ กก.บห. พรรค มาให้ กกต.แล้ว ซึ่งหลังจากนี้ คงรอกระบวนการของ กกต. ที่จะตรวจสอบภายใน 30 วัน และรอความชัดเจนเกี่ยวกับการแบ่งเขตเลือกตั้ง ทั้งแบบแบ่งเขต และแบบสัดส่วน หลังจากนั้นทางพรรค ก็จะมีความชัดเจนเกี่ยวกับการส่งสมาชิกลงรับสมัครเลือกตั้งในทั้ง 2 ระบบ ซึ่งยืนยันว่า ทางพรรคจะส่งผู้สมัครทั้ง 400 เขต และส่งแบบสัดส่วนครบทุกคน

พปช.ขีดเส้นตายอดีต ส.ส.กลับรัง

นายศุภชัย โพธิ์สุ โฆษกคณะกรรมการประสานงานภาคอีสาน และรองโฆษกพรรคพลังประชาชน แถลงภายหลังการประชุมภาคอีสานว่า ที่ประชุมได้พิจารณาคัดเลือกว่าที่ผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในภาคอีสานโดยมีคณะกรรกการประสานงานภาคพร้อมตัวแทนแต่ละจังหวัด เข้าร่วมประชุม โดยขณะนี้ได้คัดสรรไปแล้วประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอดีต ส.ส.

สำหรับอดีต ส.ส.ที่ย้ายไปอยู่กับกลุ่มการเมืองอื่นแล้วจะย้ายกลับมาอยู่กับพรรคพลังประชาชนนั้น หากมีความชัดเจน100เปอร์เซ็นต์ จะให้ลงสมัคร แต่หากไม่กลับหรือไม่มีความชัดเจน ทางพรรคก็ได้เตรียมผู้สมัครลงแทนแล้ว อย่างไรก็ตาม ในส่วนของจังหวัดที่ยังไม่เรียบร้อย และมีการทับซ้อนอยู่นั้นมีประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ คือ จ.หนองคาย และ นครราชสีมา

“หากจะมาร่วมกับเรา จะต้องไม่ร่วมกิจกรรมการเมืองเพราะใกล้จะมีการเลือกตั้งแล้ว จะวิ่งไปวิ่งมาคงไม่เหมาะสม ดังนั้น ในส่วนของภาคอีสาน ยังให้เวลาในการตัดสินใจของอดีต ส.ส.ที่จะกลับมาลงสมัครภายในสัปดาห์นี้เท่านั้น เพราะจะต้องเตรียมความพร้อมในการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง”นายศุภชัย กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น