พรานทะเล เดินเครื่องอีกระรอก มุ่งธุรกิจ “ซูชิ” สร้างเงินในระยะยาว เบิกร่องโฟกัสช่องทางภัตตาคาร ช่วยกรุยทาง คาด 3 ปี เก็บแชร์ในตลาด 30% มูลค่า 5 พันล้านบาท
นายอนุรัตน์ โค้วคาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาดและฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท พรานทะเล มาร์เก็ตติ้ง เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะให้ความสำคัญกับธุรกิจ สินค้าอาหารญี่ปุ่น “ซูชิ” ให้
เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเทรนความนิยมอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ภัตตาคารที่ผุดขึ้นมามาก แค่คนในย่านสุขุมวิทที่เป็นชาวญี่ปุ่นมีถึง 4 หมื่นราย การแข่งขันก็เริ่มแรงขึ้นมาก ส่งต่อให้ธุรกิจอาหารญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้นทุกปี ในขณะเดียวกันคาดว่าภาพรวมธุรกิจตลาดอาหารแช่แข็ง 4 เดือนสุดท้ายบริษัทฯนับจากนี้ คาดมีอัตราเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีคู่ค้าเพิ่มขึ้นอีกกว่า 10 แบรนด์ ซึ่งการหันมาให้ความสำคัญกับสินค้ากลุ่มซูชิ เพื่อเข้ามาเสริมสินค้ากลุ่มเดิมคืออาหารทะเลแปรรูปแช่แข็ง อาหารแช่เย็น อาหารพร้อมทาน จะทำให้บริษัทฯมีสินค้าครบไลน์
สำหรับการทำตลาดสินค้า ของพรานทะเล ซูชิ จะเดินหน้าทำตลาดอย่างจริงจัง รวมทั้งการวางแผนเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด โดยระดับราคาสินค้าจะต้องไม่สูงมาก จะวางราคาที่ระดับกลาง
และทั่วไปเฉลี่ยคำละ 10-20 บาท สำหรับสาเหตุที่ทำเช่นนี้เพราะ ตลาดในปัจจุบันมีการแข่งขันสูง ผู้บริโภคมีตัวเลือกรวมทั้งช่องทางที่หลากหลาย
ดังนั้นกลยุทธ์ที่ พรานทะเลจะนำมาใช้คือ ศักยภาพของตัวสินค้า และ ระดับราคาที่เหมาะสม สำหรับช่องทางจำหน่าย หรือ คีย์ออส จะกระจายอยู่ทั่วไปผสมผสานกับการขายสินค้าแบรนด์พรานทะเล โดยประกอบด้วยโมเดิร์นเทรด และร้านค้าปลีก จุดจำหน่ายสถานีรถไฟฟ้า และรถไฟฟ้าใต้ดิน ที่คาดว่าสิ้นปีจะมีอยู่ประมาณ 6,500 จุด ทั่วประเทศ
ปัจจุบันบริษัทฯมีบริการ “พรานทะเล เดลิเวอรี” ระดับบน หรือ พรีเมียม มีราคาจำหน่ายเฉลี่ยคำละ 20-35 บาท และมีฐานสมาชิกเดิมที่มีอยู่กว่า 4 หมื่นราย ทั้งนี้บริษัทฯตั้งเป้าเพิ่มสมาชิกหลักได้อีกกว่า
1 หมื่นรายผ่านสื่อเว็บไซต์ที่ พัฒนาเว็บไซต์ www.prantalay.com ใช้สำหรับต่อยอดความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์พรานทะเลและกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการสื่อทางอินเทอร์เน็ตซึ่งทำให้บริษัทฯสามารถ
พัฒนาไปสู่บริการจัดส่งได้ต่อไปในอนาคต และคาดว่าพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในต้นเดือนตุลาคมนี้
"บริษัทฯคาดว่าหากบริการดังกล่าวประสบความสำเร็จบริษัทจะนำรูปแบบธุรกิจเดลิเวอรี ไปใช้กับแบรนด์พรานทะเล ซูชิ สำหรับกลุ่มเป้าหมายระดับกลางและทั่วไปในอนาคต คาดว่าภายใน 3 ปีนับจากนี้ สินค้ากลุ่มซูชิ จะมีส่วนแบ่งตลาดราว 30% ของมูลค่าตลาดรวมสินค้ากลุ่มนี้อยู่ที่ประมาณ 5 พันล้านบาท จากแนวโน้มการเติบโตของตลาดกลุ่มนี้ตามความต้องการผู้บริโภคในสินค้าอาหารหมวดนี้ที่มากขึ้น" นายอนุรัตน์ กล่าว
นายอนุรัตน์ โค้วคาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาดและฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท พรานทะเล มาร์เก็ตติ้ง เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะให้ความสำคัญกับธุรกิจ สินค้าอาหารญี่ปุ่น “ซูชิ” ให้
เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเทรนความนิยมอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ภัตตาคารที่ผุดขึ้นมามาก แค่คนในย่านสุขุมวิทที่เป็นชาวญี่ปุ่นมีถึง 4 หมื่นราย การแข่งขันก็เริ่มแรงขึ้นมาก ส่งต่อให้ธุรกิจอาหารญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้นทุกปี ในขณะเดียวกันคาดว่าภาพรวมธุรกิจตลาดอาหารแช่แข็ง 4 เดือนสุดท้ายบริษัทฯนับจากนี้ คาดมีอัตราเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีคู่ค้าเพิ่มขึ้นอีกกว่า 10 แบรนด์ ซึ่งการหันมาให้ความสำคัญกับสินค้ากลุ่มซูชิ เพื่อเข้ามาเสริมสินค้ากลุ่มเดิมคืออาหารทะเลแปรรูปแช่แข็ง อาหารแช่เย็น อาหารพร้อมทาน จะทำให้บริษัทฯมีสินค้าครบไลน์
สำหรับการทำตลาดสินค้า ของพรานทะเล ซูชิ จะเดินหน้าทำตลาดอย่างจริงจัง รวมทั้งการวางแผนเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด โดยระดับราคาสินค้าจะต้องไม่สูงมาก จะวางราคาที่ระดับกลาง
และทั่วไปเฉลี่ยคำละ 10-20 บาท สำหรับสาเหตุที่ทำเช่นนี้เพราะ ตลาดในปัจจุบันมีการแข่งขันสูง ผู้บริโภคมีตัวเลือกรวมทั้งช่องทางที่หลากหลาย
ดังนั้นกลยุทธ์ที่ พรานทะเลจะนำมาใช้คือ ศักยภาพของตัวสินค้า และ ระดับราคาที่เหมาะสม สำหรับช่องทางจำหน่าย หรือ คีย์ออส จะกระจายอยู่ทั่วไปผสมผสานกับการขายสินค้าแบรนด์พรานทะเล โดยประกอบด้วยโมเดิร์นเทรด และร้านค้าปลีก จุดจำหน่ายสถานีรถไฟฟ้า และรถไฟฟ้าใต้ดิน ที่คาดว่าสิ้นปีจะมีอยู่ประมาณ 6,500 จุด ทั่วประเทศ
ปัจจุบันบริษัทฯมีบริการ “พรานทะเล เดลิเวอรี” ระดับบน หรือ พรีเมียม มีราคาจำหน่ายเฉลี่ยคำละ 20-35 บาท และมีฐานสมาชิกเดิมที่มีอยู่กว่า 4 หมื่นราย ทั้งนี้บริษัทฯตั้งเป้าเพิ่มสมาชิกหลักได้อีกกว่า
1 หมื่นรายผ่านสื่อเว็บไซต์ที่ พัฒนาเว็บไซต์ www.prantalay.com ใช้สำหรับต่อยอดความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์พรานทะเลและกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการสื่อทางอินเทอร์เน็ตซึ่งทำให้บริษัทฯสามารถ
พัฒนาไปสู่บริการจัดส่งได้ต่อไปในอนาคต และคาดว่าพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในต้นเดือนตุลาคมนี้
"บริษัทฯคาดว่าหากบริการดังกล่าวประสบความสำเร็จบริษัทจะนำรูปแบบธุรกิจเดลิเวอรี ไปใช้กับแบรนด์พรานทะเล ซูชิ สำหรับกลุ่มเป้าหมายระดับกลางและทั่วไปในอนาคต คาดว่าภายใน 3 ปีนับจากนี้ สินค้ากลุ่มซูชิ จะมีส่วนแบ่งตลาดราว 30% ของมูลค่าตลาดรวมสินค้ากลุ่มนี้อยู่ที่ประมาณ 5 พันล้านบาท จากแนวโน้มการเติบโตของตลาดกลุ่มนี้ตามความต้องการผู้บริโภคในสินค้าอาหารหมวดนี้ที่มากขึ้น" นายอนุรัตน์ กล่าว