ชี้อนาคตไทยในสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ ทำได้แค่"ขายโอเลี้ยง-ตั้งห้องน้ำ"

แพร่ - 10 หอฯภาคเหนือยอมรับเศรษฐกิจทรุดถ้วนหน้า หลังเจอปัญหาการเมือง/ค่าเงินบาทรุม ระบุท่องเที่ยวเชียงใหม่ตกต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ตั้งตารอเลือกตั้ง - โครงการใหญ่ของรัฐ ช่วยกระตุ้น พร้อมตั้งวงถกอนาคตลอจิสติกส์สี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ ชี้ทุกวันนี้ไทยมีสิทธิ์ตกขบวน ทำได้เพียง "ขายโอเลี้ยง-ตั้งห้องน้ำ" ให้บริการคนจีนเท่านั้น หลังริเริ่มก่อนแต่ยังไร้ผลงานรูปธรรม ขณะที่คลื่นสินค้าจีนจ่อเข้าทุกเส้นทาง เตือนให้ผนึกกำลังสร้าง Logistics / Supply Chain Development

ในการประชุมคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ (คสศ.) หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ ครั้งที่ 2 /2550 ที่ห้องประชุมไอยเรศ โรงแรมนครแพร่ทาวเวอร์ เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2550 ซึ่งนายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานหอการค้าไทย นายอธิคม สุพรรณพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ นายอมรพันธ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เข้าร่วมประชุมด้วย พร้อมกับถือโอกาสเข้าร่วมงานเปิดอาคารหอการค้าจังหวัดแพร่หลังใหม่นั้น

ที่ประชุมได้หารือกันเกี่ยวกับสาระการพัฒนาภาคธุรกิจของจังหวัดต่างๆ ในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ในภาพรวมแล้วสภาวะเศรษฐกิจในทุกจังหวัดเติบโตลดลง ปัจจัยสำคัญมาจากปัญหาการเมือง - ปัญหาค่าเงินบาทแข็งตัว ซึ่งในบางจังหวัดที่มีสภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น แต่เป็นเพียงภาพลวงตา เนื่องจากกลุ่มจังหวัดเหล่านั้นมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ข้ามชาติมาตั้งมากขึ้น เช่น แพร่ เป็นต้น

ส่วนเชียงใหม่ ปัญหาห้างสรรพสินค้าข้ามชาติกำลังเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว ในช่วงหลังงานราชพฤกษ์ฯผู้ประกอบการอยู่ในสภาพซบเซาต่อเนื่อง และต้องพบกับปัญหาหมอกควัน ยิ่งทำให้โรงแรมว่างในฤดูท่องเที่ยวที่ผ่านมา ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในประวัติการณ์ของเชียงใหม่ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลังการเลือกตั้ง สภาวะเศรษฐกิจจะกลับเข้ามากระเตื้องอีกครั้ง และยังคงต้องรอโครงการขนาดใหญ่ของรัฐเข้ามากระตุ้นด้วย

ในส่วนของการวางแผนเข้าสู่โครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในด้านของลอจิสติกส์ (Logistics ) ตามยุทธศาสตร์การค้าของภาคเหนือ ภายใต้ความร่วมมือในกลุ่มภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS ) รัฐบาลเดินหน้าสนับสนุนด้านการคมนาคมเชื่อมโยงภาคเหนือกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเต็มที่ แต่จากแผนการพัฒนาระบบการคมนาคม จะเน้นในเรื่องการพัฒนาเส้นทางคมนาคมทางบกเป็นสำคัญ ซึ่งจากต้นทุนทางการขนส่งสินค้าทั้งระบบของไทยยังคงมีต้นทุนที่สูงมาก

ทั้งนี้ ที่ประชุม คสศ. ครั้งที่ 2 / 2548 ที่จังหวัดพะเยา มีมติแต่งตั้งประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย เป็นประธานคณะอนุกรรมการด้านการพัฒนาลอจิสติกส์ภาคเหนือ พร้อมกับเตรียมจัดกิจกรรมจัดสัมมนาและกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาต่อไปนั้น หลังการหารือหลายครั้งของผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งในเวทีการประชุม คสศ.ครั้งที่ 1 / 2550 ที่จังหวัดลำพูน ได้ข้อสรุปว่า ไทยยังไม่มีความพร้อม จะต้องปรับปรุงหลายด้าน คือ 1.การบริหารจัดการซอฟต์แวร์ 2.การพัฒนาแรงงานคุณภาพ 3.การเตรียมความพร้อมของหน่วยงานราชการ 4.การพัฒนาความเข้มแข็งของภาคเอกชนให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ 5.การฝึกอบรมบุคลากร 6.การจัดตั้ง Northern Logistics Cluster เพื่อให้เกิดการรวมเป็นกลุ่มเพื่อประสานกับประเทศจีน 7.จัดตั้งศูนย์กระจายสินค้า(DC )ทางบกที่เชียงของ ทางน้ำที่เชียงแสน รวมถึงการพัฒนาการขนส่งทางราง เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม กลุ่มสมาชิก คสศ. มองเห็นร่วมกันว่า ถ้าหากไทยไม่พร้อม ก็จะกลายเป็นเพียงทางผ่านของธุรกิจกิจ ลอจิสติกส์ของจีนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

นายอมรพันธ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ที่ร่วมทำงานกับภาคเอกชนในการพัฒนาลอจิสติกส์สี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ ตั้งข้อสังเกตว่า ขณะนี้ประเทศจีนมีความพร้อมในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านท่าขี้เหล็กของพม่า ซึ่งมีเส้นทาง R3b เพียงแต่รัฐบาลจีน ไม่สนับสนุนเต็มที่ เนื่องจากมีการตั้งกาสิโนในประเทศจีน และชนกลุ่มน้อยในพม่าเล็กน้อย แต่สินค้าจีนทะลักมาเต็มหมดแล้ว

ทางด้าน อ.เชียงของ จ.เชียงราย ของไทย เส้นทาง R3a จะเสร็จสมบูรณ์ในเดือนพฤศจิกายนนี้ และยังมีสะพานข้ามที่ดอนมหาวันอีกด้วย สินค้าจีนมารอทุกเส้นทางแล้ว ในขณะที่ไทยยังเป็นเพียงโปรเจกต์ เพิ่งมีการคิดแต่ยังไม่ได้ทำ

ผู้ว่าฯเชียงราย ย้ำต่อที่ประชุม คสศ.ครั้งที่ 2/2550 ว่า รถขนส่งสินค้าของจีนทำให้ใหญ่เท่าใดก็ได้ และมีสินค้ารอแล้วกว่า 4,000 คันที่พร้อมจะเข้าไทยนำส่งไปยังประเทศอื่นต่อไป ในขณะที่เชียงรายมีรถบรรทุกขนาดเล็กไม่ใหญ่เหมือนจีนเพียง 200 คันเท่านั้น ทำอะไรไม่ได้เลย

นายอมรพันธ์ กล่าวว่า เราอาจทำอะไรไม่ทัน ถ้ากลุ่มธุรกิจไม่เกาะกลุ่มอย่างเหนียวแน่น ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเฉพาะ 10 จังหวัดเท่านั้น แต่ต้องผนึกกำลังให้มากที่สุด สร้างพลังในการเจรจาที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นทางแม่สอด ท่าขี้เหล็ก หรือห้วยทราย เราต้องเตรียมพร้อมให้เร็วที่สุด

"ถ้าไม่ทำเราอาจได้ขายเพียงโอเลี้ยง หรือตั้งห้องน้ำให้โชเฟอร์ชาวจีนเท่านั้น ส่วนการแข่งขันทางการค้าไม่ต่างจากประเทศลาว ถ้าเป็นเช่นนั้นการพัฒนาโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจก็จะล้มเหลว ทั้งๆ ที่ไทยริเริ่มก่อนด้วยซ้ำไป"

อย่างไรก็ตาม ในการประชุม คสศ. ครั้งที่ 2/2550 กลุ่มธุรกิจจังหวัดภาคเหนือ มีข้อเสนอให้วางแผนการพัฒนา Logistics/ Supply Chain Development ต้องพัฒนาตลาดร่วม ระหว่างประเทศทำเป็นเครือข่าย

นอกจากนี้จังหวัดเชียงรายจะเชิญสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เข้าร่วมประชุมกับตัวแทนมณฑลหยุนหนัน หอการค้าท่าขี้เหล็ก เพื่อหาแนวทางร่วมกันในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และอาจเป็นช่องทางที่จะเปิดการค้าในเส้นทาง R3b ได้อีกเส้นทางหนึ่ง นอกจากนั้นยังมีเส้นทางที่อุตรดิตถ์ ก็สามารถพัฒนาได้อีกด้ว เพื่อเตรียมรองรับอย่างเต็มที่