ผู้จัดการรายวัน-สศอ.ติดตามภาวะอุตสาหกรรมใกล้ชิด หลังแนวโน้มวูบจากปัญหาซัปไพรม์และบาทแข็ง ก่อนหาทางแก้ไข
นางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า สศอ.กำลังติดตามภาวะอุตสหกรรมอย่างใกล้ชิดว่าตัวเลขการส่งออกในเดือนก.ค.ที่ลดลงจะส่งผลกระทบต่อภาคอุตสหกรรมอย่างไรบ้าง และการส่งออกที่ลดลงนั้นเกิดจากปัญหาสินเชื่อด้อยคุณภาพในสหรัฐฯ (ซับไพรม์) หรือค่าเงินบาทกันแน่ เพราะเท่าที่ติดตามพบว่าแม้สหรัฐฯ จะมีปัญหาซับไพรม์ แต่การส่งออกของจีน เวียดนาม ไต้หวัน ยังขยายตัว ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นกับการส่งออกของไทยขณะนี้อาจไม่ใช่ปัญหาซับไพรม์ หรือค่าเงินบาทเพียงอย่างเดียว แต่อาจมาจากขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมที่กำลังมีปัญหาก็ได้
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้น ในเรื่องของค่าเงินบาทที่แข็งค่ามาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา สศอ. ประเมินว่าปีนี้ทั้งปีจะทำให้มูลค่าสินค้าสินค้าอุตสาหกรรมส่งออกที่แปลงมาเป็นเงินบาทลดลงไม่น้อยกว่า 3 แสนล้านบาท โดยในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมามูลค่าลดลงไปแล้วประมาณ 2 แสนล้านบาท
ส่วนปัญหาซับไพรม์ในสหรัฐฯ คาดว่า ในระยะยาวอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออก เพราะสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกหลัก โดยขณะนี้การส่งออกไปสหรัฐฯ ปรับลดลงต่อเนื่อง จากก่อนหน้านี้สินค้าถูกส่งไปสหรัฐฯ ถึง 20% ของสินค้าส่งออกไทย แต่ขณะนี้เหลือเพียง 15% เท่านั้น และเมื่อมาพิจารณาสินค้าหลักที่ส่งไปสหรัฐฯ พบว่ายอดส่งออกปรับลดลงมากในทุกตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ช่วง 7 เดือนของปี 2549 ขยายตัว 63.08% แต่ปีนี้ขยายตัวเพียง 18.36% เสื้อผ้าสำเร็จรูปติดลบ 7.76% อาหารกระป๋อง และแปรรูปติดลบ 4.70% ผลิตภัณฑ์ยาง จากที่เคยขยายตัว 26.23% เหลือเพียง 16.96% อัญมณีและเครื่องประดับติดลบ 7.18%
“สศอ.จะเจาะเป็นรายอุตสาหกรรม เพื่อวิเคราะห์ปัญหา และผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ก่อนที่จะหามาตรการให้ความช่วยเหลือ แต่ยังคาดว่าปีนี้ การส่งออก ไม่น่าจะเลวร้ายนัก เพราะในช่วงที่เหลือของปีเป็นฤดูกาลผลิต และสั่งซื้อสินค้า ซึ่งสศอ.ประเมินว่าภาคอุตสาหกรรมจะยังเติบโต 5.9% จากปีที่แล้วเติบโต 6.3%”นางอรรชกากล่าว
นางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า สศอ.กำลังติดตามภาวะอุตสหกรรมอย่างใกล้ชิดว่าตัวเลขการส่งออกในเดือนก.ค.ที่ลดลงจะส่งผลกระทบต่อภาคอุตสหกรรมอย่างไรบ้าง และการส่งออกที่ลดลงนั้นเกิดจากปัญหาสินเชื่อด้อยคุณภาพในสหรัฐฯ (ซับไพรม์) หรือค่าเงินบาทกันแน่ เพราะเท่าที่ติดตามพบว่าแม้สหรัฐฯ จะมีปัญหาซับไพรม์ แต่การส่งออกของจีน เวียดนาม ไต้หวัน ยังขยายตัว ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นกับการส่งออกของไทยขณะนี้อาจไม่ใช่ปัญหาซับไพรม์ หรือค่าเงินบาทเพียงอย่างเดียว แต่อาจมาจากขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมที่กำลังมีปัญหาก็ได้
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้น ในเรื่องของค่าเงินบาทที่แข็งค่ามาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา สศอ. ประเมินว่าปีนี้ทั้งปีจะทำให้มูลค่าสินค้าสินค้าอุตสาหกรรมส่งออกที่แปลงมาเป็นเงินบาทลดลงไม่น้อยกว่า 3 แสนล้านบาท โดยในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมามูลค่าลดลงไปแล้วประมาณ 2 แสนล้านบาท
ส่วนปัญหาซับไพรม์ในสหรัฐฯ คาดว่า ในระยะยาวอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออก เพราะสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกหลัก โดยขณะนี้การส่งออกไปสหรัฐฯ ปรับลดลงต่อเนื่อง จากก่อนหน้านี้สินค้าถูกส่งไปสหรัฐฯ ถึง 20% ของสินค้าส่งออกไทย แต่ขณะนี้เหลือเพียง 15% เท่านั้น และเมื่อมาพิจารณาสินค้าหลักที่ส่งไปสหรัฐฯ พบว่ายอดส่งออกปรับลดลงมากในทุกตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ช่วง 7 เดือนของปี 2549 ขยายตัว 63.08% แต่ปีนี้ขยายตัวเพียง 18.36% เสื้อผ้าสำเร็จรูปติดลบ 7.76% อาหารกระป๋อง และแปรรูปติดลบ 4.70% ผลิตภัณฑ์ยาง จากที่เคยขยายตัว 26.23% เหลือเพียง 16.96% อัญมณีและเครื่องประดับติดลบ 7.18%
“สศอ.จะเจาะเป็นรายอุตสาหกรรม เพื่อวิเคราะห์ปัญหา และผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ก่อนที่จะหามาตรการให้ความช่วยเหลือ แต่ยังคาดว่าปีนี้ การส่งออก ไม่น่าจะเลวร้ายนัก เพราะในช่วงที่เหลือของปีเป็นฤดูกาลผลิต และสั่งซื้อสินค้า ซึ่งสศอ.ประเมินว่าภาคอุตสาหกรรมจะยังเติบโต 5.9% จากปีที่แล้วเติบโต 6.3%”นางอรรชกากล่าว