.
“แรด” ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ปี พ.ศ. 2542 ระบุความหมายเอาไว้ในหน้าที่ 978 เอาไว้ว่า แรด เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ในวงศ์ Rhinocerotidae เป็นสัตว์กีบคี่ มี 3 นิ้ว ขาสั้น ตาเล็ก หูตั้ง ประสาทรับฟังเสียงและดมกลิ่นดีมาก หนังหนา มีทั้งชนิดนอเดียว และ สองนอ กินพืช นอนปลัก ในประเทศไทยมี 2 ชนิด คือ แรดนอเดียว ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า แรด (Rhinoceros sondaicus) และกระซู่ (Dicerorhinus sumatrensis) ซึ่งมีสองนอ
ส่วนคำว่า “นอ” มีความหมายว่า สิ่งที่ “งอก” ขึ้นเหนือจมูกแรด ยาวประมาณ 12 - 15 เซนติเมตร แข็งเหมือนเขาสัตว์
ปุถุชนธรรมดาคงจะไม่มีนออยู่เหนือจมูกตัวเองเป็นแน่ ดังนั้นหากใครมาแซวว่า “เอ๊ะ บนจมูกเธอ นอมีนี่” เมื่อใด คนคนนั้นอาจจะต้องไปสำรวจตัวเองตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาทันทีว่าใบหน้าตัวเองนั้นเป็น “แรด” ไปแล้วหรือไม่?
กลุ่มนอมีนี่ที่เป็นพวกแรดนั้นเป็นสัตว์มีกีบเป็นเลขคี่ มี 3 นิ้ว ส่วนนักการเมืองไทยบางจำพวกก็ชู 3 นิ้วว่าหมายถึงยอมขายตัวเยี่ยงโสเภณีให้ได้ในราคา 30 ล้านบาท
พวกแรดนอมีนี่ขาสั้น ตาเล็ก สายตาไม่ดีนัก มักจะใช้เส้นทางเดิมและหนองน้ำ สำหรับนอนปลักเป็นประจำ ทั้งยังชอบถ่ายมูลไว้ในที่เดียวกัน
ในขณะที่นักการเมืองไทยบางจำพวกก็ไร้วิสัยทัศน์ ก้าวไม่ทันประชาชน นอนจมปลักอยู่กับที่ ถ่ายสิ่งโสโครกทุจริตคอร์รัปชันอยู่ในพรรคเดียวกันจนเหม็นคลุ้งไปหมด
แรด เวลาหากิน จะกัดกินพืชเป็นอาหาร บริเวณนั้น จนเหี้ยนเตียน เป็นพื้นที่กว้าง ทางที่แรดเดิน จะไม่มีอะไรขวาง หรือถ้าหากมี มันก็จะดันสิ่งกีดขวางให้พ้นทาง แม้แต่ท่อนไม้ขนาดใหญ่ พฤติกรรมเหล่านี้ สังเกตเห็นได้โดยง่าย จึงเป็นเหตุให้ แรดถูกดักล่า ได้ง่ายจนใกล้สูญพันธุ์
ส่วนนักการเมืองไทยที่โกงกินกันแบบมูมมาม สวาปาม แม้ว่าจะมีความสลับซับซ้อนแต่ก็ถูกประชาชนจับได้ไล่ทันอยู่ดี ในบางกรณีถึงขนาดจ้างพรรคการเมืองอื่นลงสมัครเพื่อฮั้วกันทางการเมืองก็ยังถูกจับได้จนมีอันต้องยุบพรรคการเมืองทั้งพรรคแทบสูญพันธุ์ในที่สุด
แรด ชอบอาศัย และหากินอยู่ตามป่าเขาสูง ที่มีดงหนาม รกทึบ รวมทั้งป่ากลุ่มต่ำ และป่าพรุ ออกหากินตอนกลางคืน ส่วนกลางวัน ชอบนอนแช่ ในปลัก โคลนตม หนองน้ำ เพื่อไม่ให้หนังแตก และถูกแมลงรบกวน
ส่วนนักการเมืองจำนวนไม่น้อยหากินอยู่ในโครงการงบประมาณสูงๆ ทำโครงการให้รกทึบ สร้างดงหนามล็อกสเปก เป็นแดนสนธยา หากินเกือบตลอดเวลาที่มีโอกาส
แรดมีประสาทหูและประสาทรับกลิ่นดีมาก มันมักจะเชิดจมูกเวลาดมกลิ่น เพื่อให้ประสาทสัมผัสรับกลิ่นได้เต็มที่
ส่วนนักการเมืองไทยส่วนใหญ่มีประสาทไวในการได้ยินข่าวและได้กลิ่น “เงิน” ดีมาก กลุ่มไหนให้เงินเดือนมาก พรรคไหนพร้อมซื้อตัวในราคาแพง หรือที่ไหนมีโครงการและงบประมาณ พวกนี้ก็จะเชิดจมูกแถเข้าหา พร้อมยกมือและพูดทุกอย่างตามที่เจ้าของเงินต้องการ
เวลาแรดตกใจ มันจะส่งเสียงแปลกๆ กึ่งเสียงสุนัข กึ่งเสียงเป็ด แต่ขณะนอนปลักซึ่งหมายความว่ามันอาจกำลังสบายใจ มันจะส่งเสียง “ฮัม”
เวลานักการเมืองถูกจับทุจริตได้จนตกใจ ก็จะส่งเสียงแปลกๆ โหวกเหวกโวยวายเป็นประจำว่า ถูกกลั่นแกล้งบ้าง ไม่ได้รับความเป็นธรรมบ้าง บางครั้งฟังเสียงร้องเหมือนเป็นเสียงรถหรือเรือดับเพลิง บางครั้งร้องเหมือนเสียงเครื่องเอกซเรย์ ซีทีเอ็กซ์ แต่ในขณะที่ได้โกงกินสำเร็จจนสบายใจในขณะนอนปลักอยู่ในอ่างแล้วก็มักจะส่งเสียงว่า “อา”
“หนัง” นอมินีที่เป็นแรดนั้น “หนามาก” ซึ่งก็คงจะไม่สามารถเทียบได้กับความทนทานกับหนังของนักการเมืองขี้ฉ้อที่ไร้ยางอายจนสามารถทนทานต่อเสียงก่นด่าสาปแช่งของประชาชนนั้นได้
แรดจะมีช่วงฤดูผสมพันธุ์จะอยู่ช่วงเวลาเดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม ดังนั้นช่วงเวลานี้ (สิงหาคม - กันยายน) จะเป็นช่วงเวลาที่ติดสัด และเป็นช่วงเวลาที่มีการผสมพันธุ์กันในหมู่นอมีนี่ที่เป็นแรดกันอย่างกว้างขวาง
ในขณะที่ช่วงเวลานี้ต้องจับตาดูให้ดี นักการเมืองไทยจำนวนไม่น้อยก็กำลังจะผสมพันธุ์ทางการเมืองแบบไร้อุดมการณ์เช่นกัน
แต่นักการเมืองที่อ้างตัวเองว่าเป็น นอมินีนั้นต้องอย่านำไปเปรียบเทียบกับพวกนอมีนี่ที่เป็นพวก แรดเป็นอันขาดเพราะอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายกับหมู่แรดเอาได้
เพราะที่ผ่านมามนุษย์ได้ทำร้าย แรดอย่างไม่อายฟ้าดิน!!
“แรด” ได้ถูกบัญญัติเอาไว้ในพจนานุกรมว่ามีความหมายของพฤติกรรมของมนุษย์ว่า “ดัดจริต” ก่อให้เกิดความเสียหายต่อ “แรด” เป็นอย่างมาก
“แรด” ในความหมายว่า “ดัดจริต” ในทางการเมืองมีได้หลายอย่าง เช่น ความพยายามแอบอ้างว่าจะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและต่อต้านเผด็จการ ทั้งที่การเมืองที่ผ่านมาได้เป็นเผด็จการในคราบประชาธิปไตย หรือการระดมการซื้อเสียงแล้วมาอ้างว่าการเลือกตั้งที่ได้มาเป็นประชาธิปไตย หรือแม้กระทั่งการดัดจริตตบตาประชาชนทำเป็นเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงมีการบล็อกโหวตเอาไว้แล้ว หรือดัดจริตพูดคำสวยเก๋ของนักการเมืองบางกลุ่มที่อ้างว่าทำเพื่อประเทศชาติและประชาชนทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงเป็นการทำเพื่อตำแหน่ง และ เงิน
พวกนอมีนี่(แรด) จึงเป็นสัตว์ที่น่าสงสารและน่าอนุรักษ์มากกว่าพวกมนุษย์นอมินีในทางการเมืองเป็นอย่างมาก
นอของแรด ได้กลายเป็นเหยื่อของนายพรานที่ต้องการนอของมัน เพราะนอของมันได้มีความเชื่อว่ามีคุณสมบัติเป็นยา หมอยาจีนสาธยายสรรพคุณของนอแรดว่าเป็นยาแก้ปวด และกลุ่มคนบางกลุ่มถึงขนาดเชื่อว่าเป็นยาบำรุงเพิ่มประสิทธิภาพทางเพศนอกจากนี้นอแรดยังเป็นของสะสมของป่าของบรรดาหมอยาและนักสะสมทั้งหลายอีกด้วย
ทั้งๆ ที่การตรวจวิเคราะห์ทางแพทย์นั้นไม่มีรายงานว่านอแรดมีสรรพคุณในทางการแพทย์ใดๆ
คาดกันว่าปัจจุบันแรดได้สูญพันธุ์ไปจากแผ่นดินของทวีปเอเชียแล้ว ในประเทศไทยได้มีรายงานพบแรดอาศัยอยู่ตามป่าดิบบริเวณเทือกเขาตะนาวศรี และทางภาคใต้บริเวณจังหวัดตรัง กระบี่ พังงา และระนอง แต่เชื่อว่าได้สูญพันธุ์ไปจากประเทศไทยแล้วเช่นกัน
ปัจจุบันยังคงมีแรดหลงเหลืออยู่ในธรรมชาติเพียงแห่งเดียวในโลก ที่อุทยานแห่งชาติอุดจง (Udjung Kulon National Park) ทางปลายสุดของภาคตะวันออกของเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย ประมาณ 50 ตัว ส่วนที่มีรายงานการพบแรดทางตอนใต้ของเวียดนาม 10 - 15 ตัวยังมีมีหลักฐานการยืนยันเป็นทางการแน่นอน
แรดได้ถูกไล่ล่าฆ่าตายจนเกือบจะสูญพันธุ์โดยไม่ได้ทำความผิดใดๆ!!!
นอ, เลือด, หนัง กระดูก ของแรดถูกนำไปเป็นอาหารและของที่ระลึกโดยมนุษย์ อย่างโหดเหี้ยมด้วยความเชื่อผิดๆ
ในขณะที่นักการเมืองไทย หนัง, กระดูก เอาไปใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย นำไปบริโภคก็ไม่ได้ นำไปเก็บเป็นของที่ระลึกก็ไม่ได้ หลายคนสร้างความเสียหายให้กลับบ้านเมือง ละเลยต่อการตรวจสอบในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ปกป้องพวกพ้องให้พ้นจากการรับโทษในการทุจริตคอร์รัปชัน
นักการเมืองหลายคนยังมีพฤติกรรมน้ำเน่าที่ควรจะสูญพันธุ์ก่อนแรดไปตั้งนานแล้ว!!!
คิดดูเอาเถิดว่าถึงขนาดไม่แยแสสายตาของประชาชน รวมกลุ่มกันเพื่อสร้างอำนาจต่อรองในทางการเมือง ซื้อตัวอดีต ส.ส.จนไม่ต่างอะไรกับสัตว์เลี้ยงที่ขายกันอยู่แถวสวนจตุจักร โดยไม่คำนึงถึงอุดมการณ์หรือการประกาศเจตนารมณ์เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติแต่อย่างใด
บางคนถึงขนาดออกมายอมรับว่าตัวเองเป็น “นอมินี” ให้กับนักการเมืองอีกคนหนึ่ง หรือกระทำการทำให้พรรคการเมืองหนึ่งเป็น “นอมินี” ให้อีกพรรคการเมืองหนึ่งอย่างชนิดที่เรียกว่าดูถูกดูแคลนประชาชนว่าไม่ได้มีความสลักสำคัญอะไรที่จะต้องไปสนใจ
“แรด” ที่นอมีนี่ไม่เคยเป็นนอมินีให้ใคร แต่พวก “นอมินีการเมือง” นั้นแรดกว่าใคร!!!
ส่วนนายสมัคร สุนทรเวช ที่ออกมาประกาศยอมรับระบบนอมินีนั้น เชื่อได้ว่าบนจมูกนายสมัครที่มีเอกลักษณ์นั้นไม่น่าจะมี “นอ” อย่างแน่นอน
“แรด” ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ปี พ.ศ. 2542 ระบุความหมายเอาไว้ในหน้าที่ 978 เอาไว้ว่า แรด เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ในวงศ์ Rhinocerotidae เป็นสัตว์กีบคี่ มี 3 นิ้ว ขาสั้น ตาเล็ก หูตั้ง ประสาทรับฟังเสียงและดมกลิ่นดีมาก หนังหนา มีทั้งชนิดนอเดียว และ สองนอ กินพืช นอนปลัก ในประเทศไทยมี 2 ชนิด คือ แรดนอเดียว ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า แรด (Rhinoceros sondaicus) และกระซู่ (Dicerorhinus sumatrensis) ซึ่งมีสองนอ
ส่วนคำว่า “นอ” มีความหมายว่า สิ่งที่ “งอก” ขึ้นเหนือจมูกแรด ยาวประมาณ 12 - 15 เซนติเมตร แข็งเหมือนเขาสัตว์
ปุถุชนธรรมดาคงจะไม่มีนออยู่เหนือจมูกตัวเองเป็นแน่ ดังนั้นหากใครมาแซวว่า “เอ๊ะ บนจมูกเธอ นอมีนี่” เมื่อใด คนคนนั้นอาจจะต้องไปสำรวจตัวเองตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาทันทีว่าใบหน้าตัวเองนั้นเป็น “แรด” ไปแล้วหรือไม่?
กลุ่มนอมีนี่ที่เป็นพวกแรดนั้นเป็นสัตว์มีกีบเป็นเลขคี่ มี 3 นิ้ว ส่วนนักการเมืองไทยบางจำพวกก็ชู 3 นิ้วว่าหมายถึงยอมขายตัวเยี่ยงโสเภณีให้ได้ในราคา 30 ล้านบาท
พวกแรดนอมีนี่ขาสั้น ตาเล็ก สายตาไม่ดีนัก มักจะใช้เส้นทางเดิมและหนองน้ำ สำหรับนอนปลักเป็นประจำ ทั้งยังชอบถ่ายมูลไว้ในที่เดียวกัน
ในขณะที่นักการเมืองไทยบางจำพวกก็ไร้วิสัยทัศน์ ก้าวไม่ทันประชาชน นอนจมปลักอยู่กับที่ ถ่ายสิ่งโสโครกทุจริตคอร์รัปชันอยู่ในพรรคเดียวกันจนเหม็นคลุ้งไปหมด
แรด เวลาหากิน จะกัดกินพืชเป็นอาหาร บริเวณนั้น จนเหี้ยนเตียน เป็นพื้นที่กว้าง ทางที่แรดเดิน จะไม่มีอะไรขวาง หรือถ้าหากมี มันก็จะดันสิ่งกีดขวางให้พ้นทาง แม้แต่ท่อนไม้ขนาดใหญ่ พฤติกรรมเหล่านี้ สังเกตเห็นได้โดยง่าย จึงเป็นเหตุให้ แรดถูกดักล่า ได้ง่ายจนใกล้สูญพันธุ์
ส่วนนักการเมืองไทยที่โกงกินกันแบบมูมมาม สวาปาม แม้ว่าจะมีความสลับซับซ้อนแต่ก็ถูกประชาชนจับได้ไล่ทันอยู่ดี ในบางกรณีถึงขนาดจ้างพรรคการเมืองอื่นลงสมัครเพื่อฮั้วกันทางการเมืองก็ยังถูกจับได้จนมีอันต้องยุบพรรคการเมืองทั้งพรรคแทบสูญพันธุ์ในที่สุด
แรด ชอบอาศัย และหากินอยู่ตามป่าเขาสูง ที่มีดงหนาม รกทึบ รวมทั้งป่ากลุ่มต่ำ และป่าพรุ ออกหากินตอนกลางคืน ส่วนกลางวัน ชอบนอนแช่ ในปลัก โคลนตม หนองน้ำ เพื่อไม่ให้หนังแตก และถูกแมลงรบกวน
ส่วนนักการเมืองจำนวนไม่น้อยหากินอยู่ในโครงการงบประมาณสูงๆ ทำโครงการให้รกทึบ สร้างดงหนามล็อกสเปก เป็นแดนสนธยา หากินเกือบตลอดเวลาที่มีโอกาส
แรดมีประสาทหูและประสาทรับกลิ่นดีมาก มันมักจะเชิดจมูกเวลาดมกลิ่น เพื่อให้ประสาทสัมผัสรับกลิ่นได้เต็มที่
ส่วนนักการเมืองไทยส่วนใหญ่มีประสาทไวในการได้ยินข่าวและได้กลิ่น “เงิน” ดีมาก กลุ่มไหนให้เงินเดือนมาก พรรคไหนพร้อมซื้อตัวในราคาแพง หรือที่ไหนมีโครงการและงบประมาณ พวกนี้ก็จะเชิดจมูกแถเข้าหา พร้อมยกมือและพูดทุกอย่างตามที่เจ้าของเงินต้องการ
เวลาแรดตกใจ มันจะส่งเสียงแปลกๆ กึ่งเสียงสุนัข กึ่งเสียงเป็ด แต่ขณะนอนปลักซึ่งหมายความว่ามันอาจกำลังสบายใจ มันจะส่งเสียง “ฮัม”
เวลานักการเมืองถูกจับทุจริตได้จนตกใจ ก็จะส่งเสียงแปลกๆ โหวกเหวกโวยวายเป็นประจำว่า ถูกกลั่นแกล้งบ้าง ไม่ได้รับความเป็นธรรมบ้าง บางครั้งฟังเสียงร้องเหมือนเป็นเสียงรถหรือเรือดับเพลิง บางครั้งร้องเหมือนเสียงเครื่องเอกซเรย์ ซีทีเอ็กซ์ แต่ในขณะที่ได้โกงกินสำเร็จจนสบายใจในขณะนอนปลักอยู่ในอ่างแล้วก็มักจะส่งเสียงว่า “อา”
“หนัง” นอมินีที่เป็นแรดนั้น “หนามาก” ซึ่งก็คงจะไม่สามารถเทียบได้กับความทนทานกับหนังของนักการเมืองขี้ฉ้อที่ไร้ยางอายจนสามารถทนทานต่อเสียงก่นด่าสาปแช่งของประชาชนนั้นได้
แรดจะมีช่วงฤดูผสมพันธุ์จะอยู่ช่วงเวลาเดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม ดังนั้นช่วงเวลานี้ (สิงหาคม - กันยายน) จะเป็นช่วงเวลาที่ติดสัด และเป็นช่วงเวลาที่มีการผสมพันธุ์กันในหมู่นอมีนี่ที่เป็นแรดกันอย่างกว้างขวาง
ในขณะที่ช่วงเวลานี้ต้องจับตาดูให้ดี นักการเมืองไทยจำนวนไม่น้อยก็กำลังจะผสมพันธุ์ทางการเมืองแบบไร้อุดมการณ์เช่นกัน
แต่นักการเมืองที่อ้างตัวเองว่าเป็น นอมินีนั้นต้องอย่านำไปเปรียบเทียบกับพวกนอมีนี่ที่เป็นพวก แรดเป็นอันขาดเพราะอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายกับหมู่แรดเอาได้
เพราะที่ผ่านมามนุษย์ได้ทำร้าย แรดอย่างไม่อายฟ้าดิน!!
“แรด” ได้ถูกบัญญัติเอาไว้ในพจนานุกรมว่ามีความหมายของพฤติกรรมของมนุษย์ว่า “ดัดจริต” ก่อให้เกิดความเสียหายต่อ “แรด” เป็นอย่างมาก
“แรด” ในความหมายว่า “ดัดจริต” ในทางการเมืองมีได้หลายอย่าง เช่น ความพยายามแอบอ้างว่าจะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและต่อต้านเผด็จการ ทั้งที่การเมืองที่ผ่านมาได้เป็นเผด็จการในคราบประชาธิปไตย หรือการระดมการซื้อเสียงแล้วมาอ้างว่าการเลือกตั้งที่ได้มาเป็นประชาธิปไตย หรือแม้กระทั่งการดัดจริตตบตาประชาชนทำเป็นเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงมีการบล็อกโหวตเอาไว้แล้ว หรือดัดจริตพูดคำสวยเก๋ของนักการเมืองบางกลุ่มที่อ้างว่าทำเพื่อประเทศชาติและประชาชนทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงเป็นการทำเพื่อตำแหน่ง และ เงิน
พวกนอมีนี่(แรด) จึงเป็นสัตว์ที่น่าสงสารและน่าอนุรักษ์มากกว่าพวกมนุษย์นอมินีในทางการเมืองเป็นอย่างมาก
นอของแรด ได้กลายเป็นเหยื่อของนายพรานที่ต้องการนอของมัน เพราะนอของมันได้มีความเชื่อว่ามีคุณสมบัติเป็นยา หมอยาจีนสาธยายสรรพคุณของนอแรดว่าเป็นยาแก้ปวด และกลุ่มคนบางกลุ่มถึงขนาดเชื่อว่าเป็นยาบำรุงเพิ่มประสิทธิภาพทางเพศนอกจากนี้นอแรดยังเป็นของสะสมของป่าของบรรดาหมอยาและนักสะสมทั้งหลายอีกด้วย
ทั้งๆ ที่การตรวจวิเคราะห์ทางแพทย์นั้นไม่มีรายงานว่านอแรดมีสรรพคุณในทางการแพทย์ใดๆ
คาดกันว่าปัจจุบันแรดได้สูญพันธุ์ไปจากแผ่นดินของทวีปเอเชียแล้ว ในประเทศไทยได้มีรายงานพบแรดอาศัยอยู่ตามป่าดิบบริเวณเทือกเขาตะนาวศรี และทางภาคใต้บริเวณจังหวัดตรัง กระบี่ พังงา และระนอง แต่เชื่อว่าได้สูญพันธุ์ไปจากประเทศไทยแล้วเช่นกัน
ปัจจุบันยังคงมีแรดหลงเหลืออยู่ในธรรมชาติเพียงแห่งเดียวในโลก ที่อุทยานแห่งชาติอุดจง (Udjung Kulon National Park) ทางปลายสุดของภาคตะวันออกของเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย ประมาณ 50 ตัว ส่วนที่มีรายงานการพบแรดทางตอนใต้ของเวียดนาม 10 - 15 ตัวยังมีมีหลักฐานการยืนยันเป็นทางการแน่นอน
แรดได้ถูกไล่ล่าฆ่าตายจนเกือบจะสูญพันธุ์โดยไม่ได้ทำความผิดใดๆ!!!
นอ, เลือด, หนัง กระดูก ของแรดถูกนำไปเป็นอาหารและของที่ระลึกโดยมนุษย์ อย่างโหดเหี้ยมด้วยความเชื่อผิดๆ
ในขณะที่นักการเมืองไทย หนัง, กระดูก เอาไปใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย นำไปบริโภคก็ไม่ได้ นำไปเก็บเป็นของที่ระลึกก็ไม่ได้ หลายคนสร้างความเสียหายให้กลับบ้านเมือง ละเลยต่อการตรวจสอบในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ปกป้องพวกพ้องให้พ้นจากการรับโทษในการทุจริตคอร์รัปชัน
นักการเมืองหลายคนยังมีพฤติกรรมน้ำเน่าที่ควรจะสูญพันธุ์ก่อนแรดไปตั้งนานแล้ว!!!
คิดดูเอาเถิดว่าถึงขนาดไม่แยแสสายตาของประชาชน รวมกลุ่มกันเพื่อสร้างอำนาจต่อรองในทางการเมือง ซื้อตัวอดีต ส.ส.จนไม่ต่างอะไรกับสัตว์เลี้ยงที่ขายกันอยู่แถวสวนจตุจักร โดยไม่คำนึงถึงอุดมการณ์หรือการประกาศเจตนารมณ์เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติแต่อย่างใด
บางคนถึงขนาดออกมายอมรับว่าตัวเองเป็น “นอมินี” ให้กับนักการเมืองอีกคนหนึ่ง หรือกระทำการทำให้พรรคการเมืองหนึ่งเป็น “นอมินี” ให้อีกพรรคการเมืองหนึ่งอย่างชนิดที่เรียกว่าดูถูกดูแคลนประชาชนว่าไม่ได้มีความสลักสำคัญอะไรที่จะต้องไปสนใจ
“แรด” ที่นอมีนี่ไม่เคยเป็นนอมินีให้ใคร แต่พวก “นอมินีการเมือง” นั้นแรดกว่าใคร!!!
ส่วนนายสมัคร สุนทรเวช ที่ออกมาประกาศยอมรับระบบนอมินีนั้น เชื่อได้ว่าบนจมูกนายสมัครที่มีเอกลักษณ์นั้นไม่น่าจะมี “นอ” อย่างแน่นอน