กลุ่มสมัชชาชาวพุทธแห่งชาติ (เฉพาะกิจ) ประกาศไม่รับ ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ฯ แกนนำชี้หากรับเท่ากับประกาศศาสนาใหม่ ระบุไม่ผ่านมหาเถรสมาคม ยันหากไม่พิจารณาถอดถอนร่างฯ พร้อมเตรียมกลุ่มประท้วง
วานนี้ (27 ส.ค.) ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยมหามงกุฎราชวิทยาลัย กลุ่มสมัชชาชาวพุทธแห่งชาติ (เฉพาะกิจ) เพื่อติดตาม ร่างพ.ร.บ. ส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... ได้แถลงข่าวไม่เห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่า เป็นพ.ร.บ. ที่ไม่ผ่านการเห็นชอบจากประชาชน และรัฐใช้อำนาจในการเสนอร่าง โดยไม่ผ่านมหาเถรสมาคม (มส.)
พระธรรมกิตติเมธี กรรมการมหาเถรสมาคม กล่าวว่า หลายมาตราใน ร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว มีผลกระทบต่อทั้งศาสนาพุทธและศาสนาอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น คริสต์ อิสลาม ฮินดู ดังนั้น จึงควรให้ผ่านการเลือกตั้งไปก่อน และให้ดำเนินการในรัฐบาลชุดใหม่ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการลงความคิดเห็นว่า เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. นี้ หรือไม่
ทั้งนี้ ในที่ประชุมคณะกรรมการได้มีมติต่อ ร่าง พ.ร.บ. ส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ พ.ศ. ... ไว้ 4 ข้อ ด้วยกัน คือ 1. หลักการและเหตุผล รวมทั้งบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ. ฉบับนี้ จะมีผลกระทบอย่างกว้างขวาง ต่อการดำเนินงานของพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศาสนาที่คนส่วนใหญ่นับถือ และขัดกับบทบัญญัติ รัฐธรรมนูญ มาตรา 79 ที่ว่าด้วย รัฐต้องให้ความอุปถัมภ์ และคุ้มครองพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศาสนาที่ประชาชนส่วนใหญ่นับถือมาช้านาน และศาสนาอื่น ทั้งต้องส่งเสริมความเข้าใจอันดีและความสมานฉันท์ ระหว่างศาสนิกชนของทุกศาสนา รวมทั้งสนับสนุนการนำหลักธรรมขอศาสนามาใช้ เพื่อเสริมสร้างคุณธรรมและพัฒนาคุณภาพชีวิต
2.หลักคุณธรรมจริยธรรม ของบุคคลได้ถูกกำหนดไว้แล้ว โดยหลักธรรมของพระพุทธศาสนา และศาสนาอื่น 3. รัฐบาลควรสนับสนุนให้สถาบันทางศาสนาดำเนินการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม แก่ประชาชน ให้กว้างขวางอย่างเข้มแข็ง จริงจัง และต่อเนื่อง ตามวิธีการของแต่ละศาสนา ให้บรรลุวัตถุประสงค์น่าจะเป็นการเหมาะกว่า และ 4. เนื่องจาก พ.ร.บ. ฉบับนี้ จะมีผลกระทบต่อพระพุทธศาสนาอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะเรื่องสถาบันศาสนา เป็นสถาบันหลักของชาติ และเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงเห็นสมควรให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนองค์กรพระพุทธศาสนาที่เหมาะสมขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อพิจารณา ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้โดยละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
ด้าน พล.อ. ธงชัย เกื้อสกุล ประธานองค์การศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เป็นการประกาศจัดตั้งศาสนาใหม่ โดยศาสดา กลุ่มใหม่ ซึ่งตนมีความเห็นว่าไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม เพราะ คณะกรรมการดังกล่าว เป็นเพียงแค่ปุถุชนคนธรรมดา ไม่ได้บรรลุอรหันต์มาจากที่ใด ซึ่งตนมีความสงสัยว่า ร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว จะนำออกมาใช้กับประชาชนทุกกลุ่มหรือไม่ อย่างไร แล้ว ศาสนาอื่นที่มีแนวทางปฏิบัติเป็นของตนเอง จะต้องปรับเปลี่ยนตาม ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวหรือไม่ หากผ่านการเห็นชอบของ ครม.จริง
พล.อ.ธงชัย ยังกล่าวอีกว่า ร่าง พ.ร.บ. ส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ พ.ศ. .. มี นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รมว.พัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ เป็นผู้นำเสนอต่อกฤษฎีกา และกำลังจะเข้า ครม.ในเร็วๆ นี้ ซึ่งถ้าหากผลักดันให้เป็นพ.ร.บ. เท่ากับเป็นการทำลายศาสนา ทำลายวิถีชีวิตที่เคยดำรงอยู่ให้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องล้ม ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาตินี้ ให้ได้
ทั้งนี้ ขณะนี้ได้มีแนวคิดและขั้นตอนการยับยั้ง ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว 3 วิธี คือ 1. ยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี 2.ใช้พลังพระสงฆ์ในการชุมนุมต่อต้านหยุดกฎหมายฉบับนี้ 3. ใช้กฎหมู่ของมวลชนเข้ายับยั้ง ซึ่งคาดว่าจะต้องมีการประชุมกันอีกภายหลัง
ด้าน นายถนอม บุตรเรือง รองอธิการบดีฝ่ายการเงินและทรัพย์สิน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย เปิดเผยถึงข้อสังเกต ของมหาวิทยาลัยว่า ร่าง พ.ร.บ.นี้ มีการกำหนดเป้าหมายที่ไม่ชัดเจน เพราะรูปแบบที่ออกมาเป็นเพียงนามธรรม ไม่ใช่รูปธรรมว่า พ.ร.บ. ดังกล่าว จะบังคับให้ทุกศาสนา ต้องทำตามนี้เลยหรือไม่ แล้วหลักการเดิมของศาสนาจะทิ้งไปเลยหรือ ที่สำคัญทำให้เกิดความสับสนในบรรดาพุทธศาสนิกชน และศาสนาอื่น
วานนี้ (27 ส.ค.) ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยมหามงกุฎราชวิทยาลัย กลุ่มสมัชชาชาวพุทธแห่งชาติ (เฉพาะกิจ) เพื่อติดตาม ร่างพ.ร.บ. ส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... ได้แถลงข่าวไม่เห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่า เป็นพ.ร.บ. ที่ไม่ผ่านการเห็นชอบจากประชาชน และรัฐใช้อำนาจในการเสนอร่าง โดยไม่ผ่านมหาเถรสมาคม (มส.)
พระธรรมกิตติเมธี กรรมการมหาเถรสมาคม กล่าวว่า หลายมาตราใน ร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว มีผลกระทบต่อทั้งศาสนาพุทธและศาสนาอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น คริสต์ อิสลาม ฮินดู ดังนั้น จึงควรให้ผ่านการเลือกตั้งไปก่อน และให้ดำเนินการในรัฐบาลชุดใหม่ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการลงความคิดเห็นว่า เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. นี้ หรือไม่
ทั้งนี้ ในที่ประชุมคณะกรรมการได้มีมติต่อ ร่าง พ.ร.บ. ส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ พ.ศ. ... ไว้ 4 ข้อ ด้วยกัน คือ 1. หลักการและเหตุผล รวมทั้งบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ. ฉบับนี้ จะมีผลกระทบอย่างกว้างขวาง ต่อการดำเนินงานของพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศาสนาที่คนส่วนใหญ่นับถือ และขัดกับบทบัญญัติ รัฐธรรมนูญ มาตรา 79 ที่ว่าด้วย รัฐต้องให้ความอุปถัมภ์ และคุ้มครองพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศาสนาที่ประชาชนส่วนใหญ่นับถือมาช้านาน และศาสนาอื่น ทั้งต้องส่งเสริมความเข้าใจอันดีและความสมานฉันท์ ระหว่างศาสนิกชนของทุกศาสนา รวมทั้งสนับสนุนการนำหลักธรรมขอศาสนามาใช้ เพื่อเสริมสร้างคุณธรรมและพัฒนาคุณภาพชีวิต
2.หลักคุณธรรมจริยธรรม ของบุคคลได้ถูกกำหนดไว้แล้ว โดยหลักธรรมของพระพุทธศาสนา และศาสนาอื่น 3. รัฐบาลควรสนับสนุนให้สถาบันทางศาสนาดำเนินการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม แก่ประชาชน ให้กว้างขวางอย่างเข้มแข็ง จริงจัง และต่อเนื่อง ตามวิธีการของแต่ละศาสนา ให้บรรลุวัตถุประสงค์น่าจะเป็นการเหมาะกว่า และ 4. เนื่องจาก พ.ร.บ. ฉบับนี้ จะมีผลกระทบต่อพระพุทธศาสนาอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะเรื่องสถาบันศาสนา เป็นสถาบันหลักของชาติ และเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงเห็นสมควรให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนองค์กรพระพุทธศาสนาที่เหมาะสมขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อพิจารณา ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้โดยละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
ด้าน พล.อ. ธงชัย เกื้อสกุล ประธานองค์การศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เป็นการประกาศจัดตั้งศาสนาใหม่ โดยศาสดา กลุ่มใหม่ ซึ่งตนมีความเห็นว่าไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม เพราะ คณะกรรมการดังกล่าว เป็นเพียงแค่ปุถุชนคนธรรมดา ไม่ได้บรรลุอรหันต์มาจากที่ใด ซึ่งตนมีความสงสัยว่า ร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว จะนำออกมาใช้กับประชาชนทุกกลุ่มหรือไม่ อย่างไร แล้ว ศาสนาอื่นที่มีแนวทางปฏิบัติเป็นของตนเอง จะต้องปรับเปลี่ยนตาม ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวหรือไม่ หากผ่านการเห็นชอบของ ครม.จริง
พล.อ.ธงชัย ยังกล่าวอีกว่า ร่าง พ.ร.บ. ส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ พ.ศ. .. มี นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รมว.พัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ เป็นผู้นำเสนอต่อกฤษฎีกา และกำลังจะเข้า ครม.ในเร็วๆ นี้ ซึ่งถ้าหากผลักดันให้เป็นพ.ร.บ. เท่ากับเป็นการทำลายศาสนา ทำลายวิถีชีวิตที่เคยดำรงอยู่ให้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องล้ม ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาตินี้ ให้ได้
ทั้งนี้ ขณะนี้ได้มีแนวคิดและขั้นตอนการยับยั้ง ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว 3 วิธี คือ 1. ยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี 2.ใช้พลังพระสงฆ์ในการชุมนุมต่อต้านหยุดกฎหมายฉบับนี้ 3. ใช้กฎหมู่ของมวลชนเข้ายับยั้ง ซึ่งคาดว่าจะต้องมีการประชุมกันอีกภายหลัง
ด้าน นายถนอม บุตรเรือง รองอธิการบดีฝ่ายการเงินและทรัพย์สิน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย เปิดเผยถึงข้อสังเกต ของมหาวิทยาลัยว่า ร่าง พ.ร.บ.นี้ มีการกำหนดเป้าหมายที่ไม่ชัดเจน เพราะรูปแบบที่ออกมาเป็นเพียงนามธรรม ไม่ใช่รูปธรรมว่า พ.ร.บ. ดังกล่าว จะบังคับให้ทุกศาสนา ต้องทำตามนี้เลยหรือไม่ แล้วหลักการเดิมของศาสนาจะทิ้งไปเลยหรือ ที่สำคัญทำให้เกิดความสับสนในบรรดาพุทธศาสนิกชน และศาสนาอื่น