ความไม่สงบชายแดนใต้ยังรุนแรง-น่าห่วง คนร้ายป่วนอีกหลายพื้นที่ ในยะลาลอบวางระเบิดหมายสังหารเจ้าหน้าที่หน้าโรงเรียน ส่วนที่ปัตตานีลอบผาโรงเรียน 6 แห่ง พร้อมยิงครูสาวซี 6 เสียชีวิต จนผู้ว่าฯปัตตานี ต้องสั่งให้ทุกหน่วยกำลังเพิ่มมาตรการ รปภ.ให้เข้มงวดขึ้นอีก พร้อมให้เฝ้าระวังพื้นที่ “อ.ยะรัง” เป็นพิเศษ หลังตกเป็นเป้าหมายการซุ่มโจมตี
สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังน่าห่วง วานนี้ (27 ส.ค.) เวลาประมาณ 03.30 น. คนร้ายได้ลอบวางเพลิงโรงเรียนและสถานที่ราชการในพื้นที่ อ.สายุบรี จ.ปัตตานี รวม 4 แห่ง คือ โรงเรียนบ้านบือเระ หมู่ 1 ต.บือเระ อาคารเรียน 2 ชั้น 4 ห้องเรียน เสียหาย 2 ห้อง ที่โรงเรียนบ้านพอเหมาะ หมู่ 5 ต.ทุ่งคล้า อาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ 2 ชั้น 4 ห้องเรียน เสียหาย 1 ห้อง ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านปะลุกาตือแร หมู่ 2 ต.ทุ่งคล้า อาคารเรียนชั้นเดียวเสียหายบางส่วน ที่โรงเรียนเทศบาลบ้านอุเมะ ถนนอุเมะ ต.ตะลุปัน อาคารเรียน 3 ชั้น บริเวณชั้นล่างเสียหายบางส่วน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นห้องคอมพิวเตอร์
เผาโรงเรียน-ยิงครูสาวซี 6 ดับ
ไล่เลี่ยกันที่ อ.กะพ้อ คนร้ายลอบวางเพลิงอีก 2 แห่ง ที่โรงเรียนบ้านกะรุบี หมู่ 1 บ้านบาโง ต.กะรุบี อาคารเรียนไม้ชั้นเดียว 8 ห้องเรียน เสียหาย 4 ห้อง กระทั่งเวลา 07.19 น. คนร้ายได้วางเพลิงโรงเรียนบ้านปล่องหอย หมู่ 5 บ้านคอกวัว ต.ปล่องหอย ทำให้อาคารเรียนห้องชั้นอนุบาลเสียหายเล็กน้อย เนื่องจากชาวบ้านช่วยกันดับเพลิงได้ทัน ซึ่งการก่อเหตุพบว่าคนร้ายใช้น้ำมันราดเป็นเชื้อเพลิง
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้โรงเรียนทั้งหมดต้องหยุดเรียนการสอนชั่วคราว เช่นเดียวกับโรงเรียนในพื้นที่ อ.ยะรัง โดยเฉพาะที่ ต.สะนอ หลังเกิดเหตุคนร้ายประกบยิงผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสะนอพิทยาคม เสียชีวิตเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 ส.ค.) ส่งผลให้โรงเรียนในพื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่ โรงเรียนชุมชนบ้านสะนอ โรงเรียนชุมชนบ้านคางา และโรงเรียนชุมชนบ้าน-ละแว้ง ประกาศหยุดการเรียนการสอนอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย และจะเปิดโรงเรียนอีกครั้ง หลังจากวางมาตรการรักษาความปลอดภัยครูให้ดียิ่งขึ้น คาดว่าอาจเป็นสัปดาห์หน้าจะเปิดสอนได้ตามปกติ
จากนั้น เวลาประมาณ 11.30 น.ร.ต.ต.พิชัย วรรธนวสัญข์ ร้อยเวร สภ.อ.สายบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายลอบยิงครูที่บริเวณหน้าโรงเรียนศาสนศึกษา ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบริเวณด้านหน้าโรงเรียนศาสนศึกษา ริมนนสาย 42 (สายเก่า) ม.1 ต.ตะบิ้ง พบผู้ถูกยิง คือ นางเกศิณี พิมเทพ อายุ 42 ปี อาจารย์ 2 ระดับ 6 ถูกนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
สอบสวนทราบว่า หลังนางเกศิณีลงจากรถโดยสาร ขณะเดินเข้าประตูรั้วหน้าโรงเรียน มีคนร้าย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาจอด คนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.ยิงใส่ 4 นัด กระสุนถูกที่บริเวณสีข้างด้านขวา ราวนม และลำตัว ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในขณะนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการก่อเหตุของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่
สั่งจับตา“ยะรัง”เป้าถูกโจมตี
นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า หลังจากกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเข้าก่อเหตุในพื้นที่ จ.ปัตตานี ต่อเนื่องตั้งแต่ต้น ส.ค.โดยเฉพาะการฆ่าตัดศีรษะ 2 ชายชราในพื้นที่ อ.ยะหริ่ง และบุกยิง 2 เจ้าหน้าที่ประจำสถานีอนามัยประจัน อ.ยะรัง จนเสียชีวิตและยิงแล้วเผานายนอง บุญยศักดิ์ ผอ.โรงเรียนสะนอพิทยาคม อ.ยะรัง และลอบวางระเบิดหน้าร้านชำในพื้นที่ อ.เมือง จนส่งผลให้เจ้าของร้านเสียชีวิต สามเณร ชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บนั้น ทางจังหวัดได้ประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายให้ออกปฏิบัติการในเชิงรุกด้วยการเข้ากดดันกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอย่างต่อเนื่องแล้ว ที่สำคัญ คือ ได้ขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยกันวางมาตรการการรักษาความปลอดภัยให้กับพื้นที่ในระดับที่เข้มงวดแล้วเช่นกัน
“ในส่วนของพื้นที่ อ.ยะรัง ถือเป็นพื้นที่ที่เราต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายตรงข้ามพยายามหาช่องทางออกมาเคลื่อนไหวก่อเหตุอยู่เป็นประจำ อีกทั้งได้นำความเหี้ยมโหดมาปรับใช้กับผู้ที่ตกเป็นเป้า หรือเหยื่ออยู่ต่อเนื่อง จนส่งผลให้ประชาชน เกิดความหวาดกลัว และหวาดผวาอย่างมาก แต่ทางจังหวัดก็ได้ประสานไปยังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ ให้ร่วมกันวางมาตรการการรักษาความปลอดภัยในระดับที่เข้มงวดแล้ว ขณะเดียวกันได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกองกำลัง เกาะติดสถานการณ์และตรวจสอบความเคลื่อนไหวฝ่ายตรงข้ามอยู่ตลอดเวลา จึงกล่าวได้ว่า อ.ยะรัง เป็นพื้นที่เป้าหมายที่ต้องดูแลและเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดในระยะนี้”นายภาณุ กล่าว
วางบึ้มหน้า ร.ร.ในยะลาไม่มีตาย
ส่วนที่ จ.ยะลา เช้าวันเดียวกัน พ.ต.ต.สมปราชญ์ กรรกานนท์ สารวัตรหัวหน้า สภ.ต.จะกว๊ะ อ.รามัน พร้อมเจ้าหน้าที่กองวิทยาการเขต 45 ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และทหารร้อย ร 15213 เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านพะปูเงาะ หมู่ 4 ต.เกะรอ อ.รามัน หลังเกิดระเบิดถึง 2 ครั้ง ช่วงเวลา 05.20 - 06.20 น.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่นำเครื่องตัดสัญญาณมือถือ และตัดสัญญาณรีโมทคอนโทรลก่อนเข้าดำเนินการ โดยพบว่า จุดแรกแรงระเบิดทำให้พื้นเป็นหลุมกว้าง 1 เมตร ลึก 60 ซม. รวมทั้งเศษวัตถุระเบิดกระจัดกระจาย
จากนั้นได้เข้าตรวจสอบภายในป้อมรักษาการของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ห่างจากจุดแรกเพียง 10 เมตร ซึ่งเกิดระเบิดลูกที่ 2 พบพื้นภายในป้อมเป็นหลุมมีขนาดเดียวกัน แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงเก็บทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นคาดว่าเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องน้ำหนักไม่เกิน 5 กิโลกรัม
สอบสวนทราบว่า เวลา 05.20 น. ได้เกิดระเบิดที่จุดแรก ต่อมาขณะทหารชุดร้อย ร. 15213 เข้าตรวจสอบ และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้เกิดระเบิดขึ้นอีกลูกภายในป้อมรักษาการของ ชรบ. ซึ่งอยู่ห่างจากจุดแรกเพียงเล็กน้อย แต่โชคดีที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นสันนิษฐานว่า คนร้ายจุดชนวนระเบิดลูกแรก เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแล้วจุดชนวนระเบิดอีกลูก หวังสังหารหมู่เจ้าหน้าที่ ส่วนโรงเรียนบ้านพะปูเงาะต้องประกาศปิดการเรียนการสอน เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยต่อนักเรียน และครู
“กอ.รมน.”สั่งดูแลครู-พระใต้เข้ม
ด้าน พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกองกอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) กล่าวถึงกรณีที่ทางสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้ เตรียมประเมินสถานการณ์เพื่อหามาตรการรักษาความปลอดภัยแก่ครูในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ว่า ในส่วนของ กอ.รมน.ได้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายให้เข้มงวดดูแลความปลอดภัยแก่ครู ตลอดจนพระสงฆ์และสามเณรแล้ว
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้เพิ่มมาตรการการลาดตระเวนให้ถี่ขึ้น คู่ขนานไปกับการตรวจค้นพื้นที่ต้องสงสัย พร้อมประสานชุดทหารพรานประจำชุมชน พบปะผู้นำชุมชน และผู้นำศาสนาในพื้นที่ เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติงานในภาครัฐอย่างถูกต้องด้วย ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าผู้นำชุมชนและผู้นำศาสนา ช่วยกันในการกดดันกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบได้อย่างต่อเนื่อง
ยัน“ร.ร.อิสลามบูรพา”ปิดยาว
ที่ห้องประชุมระแงะ ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้ร่วมประชุมกับกลุ่มครู ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนอิสลามบูรพา ที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตเนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมาจำนวน 156 คน เพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาเกี่ยวกับนักเรียนที่ยังไม่มีที่เรียน
นายการัณย์ กล่าวถึงข้อซักถามของผู้ปกครองนักเรียนว่า ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการ กำลังพิจารณาเกี่ยวกับคดีของโรงเรียนอิสลามบูรพา โดยยืนยันว่าจะไม่มีการเปิดเรียนได้อย่างแน่นอน เนื่องจากการปิดโรงเรียนดังกล่าวเป็นคดีเกี่ยวกับความมั่นคง ซึ่งปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขในขณะนี้ คือ เด็กจะเรียนไม่ทัน หากยังไม่รีบดำเนินการนำเด็กนักเรียนเข้าสู่ระบบโรงเรียนที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานราธิวาส เขต 1-3 ได้เตรียมไว้รองรับ 49 แห่งพร้อมกันนี้ สำหรับโรงเรียนที่มีนักเรียนโรงเรียนอิสลามบูรพา ไปเรียนเป็นจำนวนมาก เช่น โรงเรียนนราวิทย์อิสลาม ก็จะพิจารณาให้ครูจากโรงเรียนอิสลามบูรพา ไปสอนเพิ่มเพื่อลดความกังวลของเด็ก อีกทั้งจะจัดครูสอนพิเศษให้สำหรับนักเรียนที่เรียนไม่ทันด้วย
สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังน่าห่วง วานนี้ (27 ส.ค.) เวลาประมาณ 03.30 น. คนร้ายได้ลอบวางเพลิงโรงเรียนและสถานที่ราชการในพื้นที่ อ.สายุบรี จ.ปัตตานี รวม 4 แห่ง คือ โรงเรียนบ้านบือเระ หมู่ 1 ต.บือเระ อาคารเรียน 2 ชั้น 4 ห้องเรียน เสียหาย 2 ห้อง ที่โรงเรียนบ้านพอเหมาะ หมู่ 5 ต.ทุ่งคล้า อาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ 2 ชั้น 4 ห้องเรียน เสียหาย 1 ห้อง ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านปะลุกาตือแร หมู่ 2 ต.ทุ่งคล้า อาคารเรียนชั้นเดียวเสียหายบางส่วน ที่โรงเรียนเทศบาลบ้านอุเมะ ถนนอุเมะ ต.ตะลุปัน อาคารเรียน 3 ชั้น บริเวณชั้นล่างเสียหายบางส่วน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นห้องคอมพิวเตอร์
เผาโรงเรียน-ยิงครูสาวซี 6 ดับ
ไล่เลี่ยกันที่ อ.กะพ้อ คนร้ายลอบวางเพลิงอีก 2 แห่ง ที่โรงเรียนบ้านกะรุบี หมู่ 1 บ้านบาโง ต.กะรุบี อาคารเรียนไม้ชั้นเดียว 8 ห้องเรียน เสียหาย 4 ห้อง กระทั่งเวลา 07.19 น. คนร้ายได้วางเพลิงโรงเรียนบ้านปล่องหอย หมู่ 5 บ้านคอกวัว ต.ปล่องหอย ทำให้อาคารเรียนห้องชั้นอนุบาลเสียหายเล็กน้อย เนื่องจากชาวบ้านช่วยกันดับเพลิงได้ทัน ซึ่งการก่อเหตุพบว่าคนร้ายใช้น้ำมันราดเป็นเชื้อเพลิง
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้โรงเรียนทั้งหมดต้องหยุดเรียนการสอนชั่วคราว เช่นเดียวกับโรงเรียนในพื้นที่ อ.ยะรัง โดยเฉพาะที่ ต.สะนอ หลังเกิดเหตุคนร้ายประกบยิงผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสะนอพิทยาคม เสียชีวิตเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 ส.ค.) ส่งผลให้โรงเรียนในพื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่ โรงเรียนชุมชนบ้านสะนอ โรงเรียนชุมชนบ้านคางา และโรงเรียนชุมชนบ้าน-ละแว้ง ประกาศหยุดการเรียนการสอนอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย และจะเปิดโรงเรียนอีกครั้ง หลังจากวางมาตรการรักษาความปลอดภัยครูให้ดียิ่งขึ้น คาดว่าอาจเป็นสัปดาห์หน้าจะเปิดสอนได้ตามปกติ
จากนั้น เวลาประมาณ 11.30 น.ร.ต.ต.พิชัย วรรธนวสัญข์ ร้อยเวร สภ.อ.สายบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายลอบยิงครูที่บริเวณหน้าโรงเรียนศาสนศึกษา ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบริเวณด้านหน้าโรงเรียนศาสนศึกษา ริมนนสาย 42 (สายเก่า) ม.1 ต.ตะบิ้ง พบผู้ถูกยิง คือ นางเกศิณี พิมเทพ อายุ 42 ปี อาจารย์ 2 ระดับ 6 ถูกนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
สอบสวนทราบว่า หลังนางเกศิณีลงจากรถโดยสาร ขณะเดินเข้าประตูรั้วหน้าโรงเรียน มีคนร้าย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาจอด คนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.ยิงใส่ 4 นัด กระสุนถูกที่บริเวณสีข้างด้านขวา ราวนม และลำตัว ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในขณะนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการก่อเหตุของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่
สั่งจับตา“ยะรัง”เป้าถูกโจมตี
นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า หลังจากกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเข้าก่อเหตุในพื้นที่ จ.ปัตตานี ต่อเนื่องตั้งแต่ต้น ส.ค.โดยเฉพาะการฆ่าตัดศีรษะ 2 ชายชราในพื้นที่ อ.ยะหริ่ง และบุกยิง 2 เจ้าหน้าที่ประจำสถานีอนามัยประจัน อ.ยะรัง จนเสียชีวิตและยิงแล้วเผานายนอง บุญยศักดิ์ ผอ.โรงเรียนสะนอพิทยาคม อ.ยะรัง และลอบวางระเบิดหน้าร้านชำในพื้นที่ อ.เมือง จนส่งผลให้เจ้าของร้านเสียชีวิต สามเณร ชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บนั้น ทางจังหวัดได้ประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายให้ออกปฏิบัติการในเชิงรุกด้วยการเข้ากดดันกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอย่างต่อเนื่องแล้ว ที่สำคัญ คือ ได้ขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยกันวางมาตรการการรักษาความปลอดภัยให้กับพื้นที่ในระดับที่เข้มงวดแล้วเช่นกัน
“ในส่วนของพื้นที่ อ.ยะรัง ถือเป็นพื้นที่ที่เราต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายตรงข้ามพยายามหาช่องทางออกมาเคลื่อนไหวก่อเหตุอยู่เป็นประจำ อีกทั้งได้นำความเหี้ยมโหดมาปรับใช้กับผู้ที่ตกเป็นเป้า หรือเหยื่ออยู่ต่อเนื่อง จนส่งผลให้ประชาชน เกิดความหวาดกลัว และหวาดผวาอย่างมาก แต่ทางจังหวัดก็ได้ประสานไปยังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ ให้ร่วมกันวางมาตรการการรักษาความปลอดภัยในระดับที่เข้มงวดแล้ว ขณะเดียวกันได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกองกำลัง เกาะติดสถานการณ์และตรวจสอบความเคลื่อนไหวฝ่ายตรงข้ามอยู่ตลอดเวลา จึงกล่าวได้ว่า อ.ยะรัง เป็นพื้นที่เป้าหมายที่ต้องดูแลและเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดในระยะนี้”นายภาณุ กล่าว
วางบึ้มหน้า ร.ร.ในยะลาไม่มีตาย
ส่วนที่ จ.ยะลา เช้าวันเดียวกัน พ.ต.ต.สมปราชญ์ กรรกานนท์ สารวัตรหัวหน้า สภ.ต.จะกว๊ะ อ.รามัน พร้อมเจ้าหน้าที่กองวิทยาการเขต 45 ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และทหารร้อย ร 15213 เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านพะปูเงาะ หมู่ 4 ต.เกะรอ อ.รามัน หลังเกิดระเบิดถึง 2 ครั้ง ช่วงเวลา 05.20 - 06.20 น.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่นำเครื่องตัดสัญญาณมือถือ และตัดสัญญาณรีโมทคอนโทรลก่อนเข้าดำเนินการ โดยพบว่า จุดแรกแรงระเบิดทำให้พื้นเป็นหลุมกว้าง 1 เมตร ลึก 60 ซม. รวมทั้งเศษวัตถุระเบิดกระจัดกระจาย
จากนั้นได้เข้าตรวจสอบภายในป้อมรักษาการของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ห่างจากจุดแรกเพียง 10 เมตร ซึ่งเกิดระเบิดลูกที่ 2 พบพื้นภายในป้อมเป็นหลุมมีขนาดเดียวกัน แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงเก็บทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นคาดว่าเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องน้ำหนักไม่เกิน 5 กิโลกรัม
สอบสวนทราบว่า เวลา 05.20 น. ได้เกิดระเบิดที่จุดแรก ต่อมาขณะทหารชุดร้อย ร. 15213 เข้าตรวจสอบ และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้เกิดระเบิดขึ้นอีกลูกภายในป้อมรักษาการของ ชรบ. ซึ่งอยู่ห่างจากจุดแรกเพียงเล็กน้อย แต่โชคดีที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นสันนิษฐานว่า คนร้ายจุดชนวนระเบิดลูกแรก เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแล้วจุดชนวนระเบิดอีกลูก หวังสังหารหมู่เจ้าหน้าที่ ส่วนโรงเรียนบ้านพะปูเงาะต้องประกาศปิดการเรียนการสอน เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยต่อนักเรียน และครู
“กอ.รมน.”สั่งดูแลครู-พระใต้เข้ม
ด้าน พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกองกอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) กล่าวถึงกรณีที่ทางสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้ เตรียมประเมินสถานการณ์เพื่อหามาตรการรักษาความปลอดภัยแก่ครูในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ว่า ในส่วนของ กอ.รมน.ได้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายให้เข้มงวดดูแลความปลอดภัยแก่ครู ตลอดจนพระสงฆ์และสามเณรแล้ว
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้เพิ่มมาตรการการลาดตระเวนให้ถี่ขึ้น คู่ขนานไปกับการตรวจค้นพื้นที่ต้องสงสัย พร้อมประสานชุดทหารพรานประจำชุมชน พบปะผู้นำชุมชน และผู้นำศาสนาในพื้นที่ เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติงานในภาครัฐอย่างถูกต้องด้วย ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าผู้นำชุมชนและผู้นำศาสนา ช่วยกันในการกดดันกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบได้อย่างต่อเนื่อง
ยัน“ร.ร.อิสลามบูรพา”ปิดยาว
ที่ห้องประชุมระแงะ ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้ร่วมประชุมกับกลุ่มครู ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนอิสลามบูรพา ที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตเนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมาจำนวน 156 คน เพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาเกี่ยวกับนักเรียนที่ยังไม่มีที่เรียน
นายการัณย์ กล่าวถึงข้อซักถามของผู้ปกครองนักเรียนว่า ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการ กำลังพิจารณาเกี่ยวกับคดีของโรงเรียนอิสลามบูรพา โดยยืนยันว่าจะไม่มีการเปิดเรียนได้อย่างแน่นอน เนื่องจากการปิดโรงเรียนดังกล่าวเป็นคดีเกี่ยวกับความมั่นคง ซึ่งปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขในขณะนี้ คือ เด็กจะเรียนไม่ทัน หากยังไม่รีบดำเนินการนำเด็กนักเรียนเข้าสู่ระบบโรงเรียนที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานราธิวาส เขต 1-3 ได้เตรียมไว้รองรับ 49 แห่งพร้อมกันนี้ สำหรับโรงเรียนที่มีนักเรียนโรงเรียนอิสลามบูรพา ไปเรียนเป็นจำนวนมาก เช่น โรงเรียนนราวิทย์อิสลาม ก็จะพิจารณาให้ครูจากโรงเรียนอิสลามบูรพา ไปสอนเพิ่มเพื่อลดความกังวลของเด็ก อีกทั้งจะจัดครูสอนพิเศษให้สำหรับนักเรียนที่เรียนไม่ทันด้วย