xs
xsm
sm
md
lg

รบเถิด..อรชุน! พรรคเทียนแห่งธรรม..ในฝัน!! (ตอนที่ 2)

เผยแพร่:   โดย: คำนูณ สิทธิสมาน

.
สัญลักษณ์หรือตราของพรรคเทียนแห่งธรรมที่ได้รับการกำหนดให้เป็นภาพลายเส้นอรชุนน้าวศรคาณฑีพหลังจากที่สดับอนุสาสน์ภควัทคีตาจากพระกฤษณะนั้น ฝ่ายกราฟิก ASTV ทำเสร็จตั้งแต่ช่วงต้นกันยายน 2549 แต่ดูยังไม่งดงามหมดจดนัก พอดีโครงการล้มเลิกไปก่อน เลยไม่ได้แก้ไข ขออนุญาตไม่นำมาแสดง ณ ที่นี้

เมื่อเอ่ยถึง “อรชุน” ผมนึกถึงคนคนหนึ่งที่เป็นตัวละครตัวเล็กๆ ในมหากาพย์มหาภารตะ

เขาชื่อ “เอกลัพย์!”


มหากาพย์มหาภารตะแต่งขึ้นเป็นคำฉันท์ในภาษาสันสกฤต มีความยาวรวมทั้งสิ้นประมาณ 100,000 โศลก หรือประมาณ 220,000 บรรทัด เนื้อหาแบ่งออกเป็นตอนๆ หรือบรรพ มีรวม 18 บรรพ

ในแต่ละภาษาที่แปลออกไปก็มีหลายสำนวนด้วยกัน

มีทั้งฉบับย่อและฉบับเต็ม

ที่ผมอ่านจากฉบับภาษาไทย ก็ 2 เล่มด้วยกัน เล่มแรกแปลและเรียบเรียงโดยท่านอาจารย์กรุณา - เรืองอุไร กุศลาสัยที่วันนี้เป็นหนึ่งในหนังสือคลาสสิกไปแล้ว กับอีกเล่มหนึ่ง...

“บทละครแปลเรื่องมหาภารตะ” แปลและเรียบเรียงโดย รศ.จักรกฤษณ์ ดวงพัตรา

แปลจากบทละครเรื่อง The Mahabarata ของนักประพันธ์ชาวฝรั่งเศส Jean-Claude Carriere ซึ่ง Peter Brook นำมาแปลเป็นภาษาอังกฤษอีกทีหนึ่ง เคยแสดงเป็นละครเวทีภาษาฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1984 ได้รับความนิยมอย่างสูง จนกระทั่งมาเป็นละครเวทีภาษาอังกฤษในปี ค.ศ. 1989 ก็ได้รับความนิยมสูงเช่นกัน และทราบว่ามีการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ความยาว 5 ชั่วโมง 25 นาที ใช้ผู้แสดงชุดเดียวกับละครเวที รู้สึกจะมีเป็น DVD แล้วด้วย แต่ผมไม่เคยดู และไม่ทราบจะไปหาที่ไหน ใครพอรู้ช่วยบอกกล่าวกันด้วย

เรื่องราวตอนที่จะเล่าต่อไปนี้ปรากฏอยู่ในหนังสือเล่มหลังนี้

เอกลัพย์เป็นศิษย์อีกคนหนึ่งของโทรณาจารย์ อาจารย์ในวัยเด็กของอรชุน ที่มีฝีมือในเชิงธนุรเวทไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าอรชุน

เอกลัพย์จะร่ำเรียนมาจากที่ใดก่อนไม่เป็นที่ปรากฏ

แต่เขาทั้งเคารพและบูชาโทรณาจารย์ เฝ้ากราบกรานขอเป็นศิษย์โทรณาจารย์ โดยลั่นวาจาว่าพร้อมจะสละทรัพย์ศฤงคารและความสุขสบายทั้งหมด แต่ก็ยังไม่เป็นที่สมมาตรปรารถนา

เมื่อเอกลัพย์ถูกปฏิเสธครั้งสุดท้าย เขาเดินทางเข้าไปในป่าแต่เพียงลำพัง แกะสลักหินเป็นรูปโทรณาจารย์ เฝ้าบูชารูปสลักนั้น และเพ่งมองรูปสลักทุกวันด้วยความศรัทธาและบูชาสูงสุด วันหนึ่งปรากฏเสียงหมาป่าเห่า เขาแสดงฝีมือธนุรเวทโดยการยิงธนู 7 เล่มเข้าไปปักอยู่ในปากหมาป่าขณะที่มันกำลังอ้าปากเห่า

ปรากฏการณ์นี้รับรู้ไปถึงอรชุน!

อรชุน พี่น้องคนที่ 3 ในจำนวน 5 พี่น้องปาณฑพ ที่มีฝีมือในเชิงธนุรเวทสูงสุดจนโทรณาจารย์เคยลั่นวาจาไว้ก่อนหน้าว่า “หม่อมฉันจะทำให้พระองค์เป็นผู้ขมังธนูที่สุดในโลก จะสอนพระองค์ในทุกสิ่งทุกอย่าง” จึงกล่าวขึ้นกับโทรณาจารย์ว่า....

“ท่านอาจารย์ไม่รักษาสัญญา”

โทรณาจารย์จึงถามกลับไปว่าตัวท่านผิดสัญญาอะไรหรือ อรชุนตอบว่า...

“ท่านสัญญาว่าเราจะเป็นหนึ่ง จะไม่มีศิษย์คนใดของท่านเสมอด้วยเรา แต่เอกลัพย์สามารถยิงธนู 7 เล่มเข้าไปฝังอยู่ในกรามของหมาป่าในขณะที่กำลังเห่าได้ และเขายังประกาศว่าเป็นศิษย์ของท่าน”

โทรณาจารย์จึงพาอรชุนเข้าไปในป่าที่เอกลัพย์พำนักและฝึกวิชาอยู่ เอกลัพย์ดีใจมาก ก้มลงจุมพิตแผ่นดินแทบเท้าอาจารย์ที่เขาศรัทธาและบูชาสูงสุด โทรณาจารย์กล่าวขึ้นว่า...

“ถ้าเจ้าเป็นศิษย์ของข้า เจ้าจะต้องชำระคุรุทักษิณาให้แก่ข้า”

เอกลัพย์กล่าวว่ายินดีมอบให้ทุกสิ่งทุกอย่าง ขอเพียงแต่บอกมา โทรณาจารย์กล่าวว่า...

“ข้าต้องการนิ้วหัวแม่มือขวาของเจ้า”

เอกลัพย์ตอบในทันทีว่า...

“นิ้วนั้นเป็นของท่านแล้ว”

พลันเขาก็ใช้ดาบในมือตัดนิ้วหัวแม่มือขวาของตนด้วยรอยยิ้ม และไม่มีเสียงร้องครวญครางแม้แต่น้อย แล้วยื่นคุรุทักษิณานั้นส่งให้โทรณาจารย์ในทันที

โทรณาจารย์รับแล้วก็เดินหันกลับออกไปทันทีโดยไม่หันมามอง

ในบทละคร ตัวละคร “กุมาร” ที่สมมติให้เป็นสายเลือดที่หลงเหลืออยู่ของพี่น้องปาณฑพ เอ่ยถามเชิงสนทนากับอรชุนถึงเหตุผล ดังบทสนทนาต่อไปนี้

“แล้วเขาจะสามารถยิงธนูได้อย่างไร”

“เขาไม่สามารถยิงธนูได้อีกแล้ว”

“นี่พระองค์พอใจกับการกระทำที่แสนโหดร้ายเช่นนี้ด้วยหรือ”

“มันไม่ใช่เรื่องโหดร้าย มันคือการตัดไฟแต่หัวลม”

นี่คือวิธีคิดของอรชุน สุดยอดนักรบในมหากาพย์มหาภารตะ

ย้อนไปก่อนหน้านี้ในการประลองฝีมือธนุรเวทในหมู่พี่น้องปาณฑพและพี่น้องเการพต่อหน้าโทรณาจารย์ ก่อนที่โทรณาจารย์จะสรุปและลั่นวาจาว่าอรชุนคือสุดยอดนั้น ท่านไม่ได้ให้ทุกคนยิงธนู เพียงแต่ให้เล็งไปยังเป้าหมายที่นากฟางบนยอดไม้ แล้วให้ศิษย์ทุกคนบรรยายว่าเห็นอะไร

ยุธิษฐิระบอกว่า “เราเห็นนก” โทรณาจารย์ถามต่อว่าพระองค์เห็นต้นไม้หรือไม่ พี่ใหญ่แห่งภราดาปาณฑพตอบว่า...

“เห็น เราเห็นต้นไม้ เราเห็นคันธนูและลูกธนู เราเห็นลำแขนของเรา เรามองเห็นน้องๆ และมองเห็นพระอาจารย์ด้วย”

โทรณาจารย์ไม่ได้ให้ยุธิษฐิระยิงธนู แต่ให้ศิษย์คนอื่นๆ บอกเล่าต่อไป ทุกคนเห็นทั้งนกและเห็นโน่นเห็นนี่ บ้างเห็นท้องฟ้า บ้างเห็นกิ่งไม้ และ ฯลฯ โทรณาจารย์ไม่ได้ให้ใครยิงธนูเลยแม้แต่คนเดียว มีแต่อรชุนเท่านั้นที่เห็นแตกต่างจากคนอื่น

“เราเห็นนก”

โทรณาจารย์ถามต่อขอให้พรรณนารายละเอียดของนกด้วย แต่อรชุนตอบว่า...

“เราไม่อาจทำได้”

โทรณาจารย์ถามเหตุผล อรชุนตอบว่า...

“เพราะเราเห็นแต่หัวนกเท่านั้น”

นั่นแหละ - โทรณาจารย์จึงกล่าววาจาให้อรชุนลั่นธนูได้!

นั่นแหละ - คือวิถีของนักรบและนักปฏิวัติผู้มุ่งมั่นเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองไปสู่ความดี ความงาม ความสว่าง และความสงบที่แท้จริง
กำลังโหลดความคิดเห็น