ศูนย์ข่าวภูเก็ต -จังหวัดภูเก็ตยืนยันต่อผู้บริหารโครงการเดอะยามู ยังไม่อนุญาตให้ก่อสร้างมารีนา หากไม่สามารถทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่คัดค้านโครงการได้สำเร็จ
วานนี้(23 ส.ค.)นายเอียน ไมเคิล ชาร์ล เฮนรี่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Campbell Kane Thailand จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้โครงการ "เดอะยามู" ตั้งอยู่ที่บริเวณแหลมยามู หมู่ที่ 7 ต. ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เข้าพบนายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ปัญหา การก่อสร้างโครงการท่าเทียบเรือยอชต์หรือ มารีนา ที่แหลมยามู ซึ่งถูกชาวบ้านยามูและชาวบ้านในต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต คัดค้านว่ามารีนาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อหญ้าทะเล ซึ่งเป็นอาหารของสัตว์ทะเลหายากและการดำเนินโครงการไม่แจ้งให้ชุมชนได้รับทราบ
นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดสนับสนุนที่จะให้มีมารีนาเกิดขึ้นในพื้นที่ภูเก็ต เพราะสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของจังหวัดภูเก็ต ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเล แต่ในส่วนของมารีนาบริษัทเดอะยามู จังหวัดได้แจ้งไปยังสำนักงานขนส่งทางน้ำสาขาที่ 5 ภูเก็ต ให้ชะลอการอนุญาตก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ ที่เป็นมารีนาของบริษัทออกไปก่อน เนื่องจากมีชาวบ้านในพื้นที่ทั้งสนับสนุนและคัดค้านโครงการ เพราะเห็นว่าการก่อสร้างจะไปกระทบหญ้าทะเล วิถีชีวิตและอาชีพการทำประมง ซึ่งหากบริษัทสามารถที่จะทำความเข้าใจกับชาวบ้านได้ จังหวัดก็ไม่ขัดข้องในการเข้าไปส่งเสริมให้เกิดการลงทุนอย่างแน่นอน
ด้านนายเอียน ไมเคิล ชาร์ล เฮนรี่ กล่าวว่า บริษัทต้องการมาติดตามความคืบหน้า การอนุญาตก่อสร้างท่าเทียบเรือมารีนา เนื่องจากบริษัทได้รับหนังสือจากจังหวัดภูเก็ตให้ ทบทวนผลกระทบสิ่งแวดล้อมและทำความเข้าใจกับกลุ่มที่คัดค้านโครงการ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าไปปรึกษากับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อหาแนวทางในการดำเนินการทบทวนผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแจ้งว่า ไม่ต้องทบทวนใหม่ ทำให้บริษัทสับสนไม่รู้ว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร
รวมทั้งที่ผ่านมาตนได้ไปนั่งคุยกับกลุ่มแกนนำที่คัดค้าน 5-6 คน ที่ร้านกาแฟในหมู่บ้าน ซึ่งกลุ่มคัดค้านก็ไม่ยอมรับฟังเหตุผลทางวิชาการ โดย ยืนยันที่จะไม่ให้มีการก่อสร้างมารีนาอย่างเดียว เพราะคิดว่ามารีนาดังกล่าวจะสร้างอยู่บนหญ้าทะเล และเห็นด้วยหากบริษัทจะสร้างมารีนาอีกฝั่ง ที่อยู่ทางด้านหน้าบ้านของนายกองค์การบริหารส่วนต.ป่าคลอก แต่ไม่คัดค้านการก่อสร้างบนบก เพราะเห็นว่าสร้างอยู่ในที่ดินของบริษัท ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อหญ้าทะเลและวิถีชุมชน
ส่วนประเด็นที่กลุ่มค้านบอกว่า บริษัทไม่ได้รับฟังความคิดเห็นของชาวบ้าน ขอแย้งว่าที่ผ่านมาได้ทำหนังสือรับฟังความคิดเห็นไป 200 ฉบับ ซึ่งชาวบ้านก็ตอบกลับมาทั้งหมด ประมาณ 90% เห็นด้วยกับโครงการ ที่จะทำให้มีงานทำและเกิดประโยชน์แก่ชุมชน มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่คัดค้าน
อย่างไรก็ตาม จังหวัดได้มอบหมายให้บริษัทเดอะยามู ไปทำความเข้าใจกับชาวบ้านในประเด็นปัญหาที่ชาวบ้านยังกังวลไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับหญ้าทะเล วิถีชีวิตชุมชน รวมทั้งการทำอาชีพประมง และให้มีการทบทวนผลกระทบสิ่งแวดล้อมในประเด็นที่ชาวบ้านแย้งว่าชุมชนไม่มีส่วนรับรู้กับโครงการนี้ และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับหญ้าทะเล หลังจากนั้นให้บริษัทยื่นเข้ามาตามขั้นตอน เพื่อให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาต่อไป ซึ่งผู้บริหารของบริษัทเดอะยามูก็รับไปดำเนินการตามที่จังหวัดภูเก็ตเสนอ
วานนี้(23 ส.ค.)นายเอียน ไมเคิล ชาร์ล เฮนรี่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Campbell Kane Thailand จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้โครงการ "เดอะยามู" ตั้งอยู่ที่บริเวณแหลมยามู หมู่ที่ 7 ต. ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เข้าพบนายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ปัญหา การก่อสร้างโครงการท่าเทียบเรือยอชต์หรือ มารีนา ที่แหลมยามู ซึ่งถูกชาวบ้านยามูและชาวบ้านในต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต คัดค้านว่ามารีนาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อหญ้าทะเล ซึ่งเป็นอาหารของสัตว์ทะเลหายากและการดำเนินโครงการไม่แจ้งให้ชุมชนได้รับทราบ
นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดสนับสนุนที่จะให้มีมารีนาเกิดขึ้นในพื้นที่ภูเก็ต เพราะสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของจังหวัดภูเก็ต ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเล แต่ในส่วนของมารีนาบริษัทเดอะยามู จังหวัดได้แจ้งไปยังสำนักงานขนส่งทางน้ำสาขาที่ 5 ภูเก็ต ให้ชะลอการอนุญาตก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ ที่เป็นมารีนาของบริษัทออกไปก่อน เนื่องจากมีชาวบ้านในพื้นที่ทั้งสนับสนุนและคัดค้านโครงการ เพราะเห็นว่าการก่อสร้างจะไปกระทบหญ้าทะเล วิถีชีวิตและอาชีพการทำประมง ซึ่งหากบริษัทสามารถที่จะทำความเข้าใจกับชาวบ้านได้ จังหวัดก็ไม่ขัดข้องในการเข้าไปส่งเสริมให้เกิดการลงทุนอย่างแน่นอน
ด้านนายเอียน ไมเคิล ชาร์ล เฮนรี่ กล่าวว่า บริษัทต้องการมาติดตามความคืบหน้า การอนุญาตก่อสร้างท่าเทียบเรือมารีนา เนื่องจากบริษัทได้รับหนังสือจากจังหวัดภูเก็ตให้ ทบทวนผลกระทบสิ่งแวดล้อมและทำความเข้าใจกับกลุ่มที่คัดค้านโครงการ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าไปปรึกษากับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อหาแนวทางในการดำเนินการทบทวนผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแจ้งว่า ไม่ต้องทบทวนใหม่ ทำให้บริษัทสับสนไม่รู้ว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร
รวมทั้งที่ผ่านมาตนได้ไปนั่งคุยกับกลุ่มแกนนำที่คัดค้าน 5-6 คน ที่ร้านกาแฟในหมู่บ้าน ซึ่งกลุ่มคัดค้านก็ไม่ยอมรับฟังเหตุผลทางวิชาการ โดย ยืนยันที่จะไม่ให้มีการก่อสร้างมารีนาอย่างเดียว เพราะคิดว่ามารีนาดังกล่าวจะสร้างอยู่บนหญ้าทะเล และเห็นด้วยหากบริษัทจะสร้างมารีนาอีกฝั่ง ที่อยู่ทางด้านหน้าบ้านของนายกองค์การบริหารส่วนต.ป่าคลอก แต่ไม่คัดค้านการก่อสร้างบนบก เพราะเห็นว่าสร้างอยู่ในที่ดินของบริษัท ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อหญ้าทะเลและวิถีชุมชน
ส่วนประเด็นที่กลุ่มค้านบอกว่า บริษัทไม่ได้รับฟังความคิดเห็นของชาวบ้าน ขอแย้งว่าที่ผ่านมาได้ทำหนังสือรับฟังความคิดเห็นไป 200 ฉบับ ซึ่งชาวบ้านก็ตอบกลับมาทั้งหมด ประมาณ 90% เห็นด้วยกับโครงการ ที่จะทำให้มีงานทำและเกิดประโยชน์แก่ชุมชน มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่คัดค้าน
อย่างไรก็ตาม จังหวัดได้มอบหมายให้บริษัทเดอะยามู ไปทำความเข้าใจกับชาวบ้านในประเด็นปัญหาที่ชาวบ้านยังกังวลไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับหญ้าทะเล วิถีชีวิตชุมชน รวมทั้งการทำอาชีพประมง และให้มีการทบทวนผลกระทบสิ่งแวดล้อมในประเด็นที่ชาวบ้านแย้งว่าชุมชนไม่มีส่วนรับรู้กับโครงการนี้ และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับหญ้าทะเล หลังจากนั้นให้บริษัทยื่นเข้ามาตามขั้นตอน เพื่อให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาต่อไป ซึ่งผู้บริหารของบริษัทเดอะยามูก็รับไปดำเนินการตามที่จังหวัดภูเก็ตเสนอ