ฉบับวันที่ 22-8-50
ผู้จัดการรายวัน - พีเค อิงกระแสค่าเงินบาทแข็ง ขยายโซนทัวร์เอาต์บาวนด์ เอาใจคนไทยเที่ยวนอก เป็นทางเลือก ขณะที่ทัพเอกชนแห่จองบูทแน่น เชื่อเป็นนิมิตหมายดีต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว คาดเงินสะพัดงานนี้ 500 ล้านบาท
นายกฤตย์ พัตรปาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.เค เอ็กซิบิชั่น แมนเนจเม้นท์ ผู้จัดงานไทยเที่ยวไทย เปิดเผยว่า เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในครึ่งปีหลังนี้ บริษัท จึงได้จัดงาน ไทยเที่ยวไทยครั้งที่ 11 ขึ้นในระหว่างวันที่ 23-26 สิงหาคมศกนี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยปีนี้นำเสนอคอนเซปต์งานว่า “เหมันต์สวัส รับเที่ยวไทยให้สนุก” ซึ่งถือเป็นการท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวปีนี้
ทั้งนี้จากค่าเงินบาทที่แข็ง ปีนี้ บริษัท จึงจัดสรรพื้นที่ ในส่วนของทัวร์เอาต์บาวนด์เพิ่มเป็น 1.8 หมื่นตารางเมตร จากปีก่อนที่จัดพื้นที่ในส่วนนี้เพียง 1.7 หมื่นตารางเมตร เพื่อจำหน่ายแพกเกจทัวร์ไปเที่ยวต่างประเทศให้มากขึ้นเป็นทางเลือกของผู้บริโภค เพราะ คนไทยสามารถเที่ยวต่างประเทศได้ถูกลง โดยในพื้นที่นี้ จะรวบรวมสายการบินในประเทศและต่างประเทศ มาร่วมออกบูทขายตั๋วโดยสารด้วย เช่น สายการบิน การ์ต้า แอร์ นอกจากนั้นยังมีโรงแรมและบริษัททัวร์มาร่วมออกบูทในพื้นที่นี้อีกกว่า 50 บูท คาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้ชมงานจำนวนมาก ถือเป็นการจัดงานท่องเที่ยวแบบครบวงจร และ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าผู้เข้าชมงานที่ต้องการให้มีแพกเกจทัวร์ที่หลากหลาย
สำหรับภาพรวมของการจัดงาน คาดว่าจะมีเอกชนภาคท่องเที่ยวเข้าร่วมออกบูทกว่า 750 บูท แบ่งเป็น โรงแรม 400 บูท บริษัทนำเที่ยว 20 บูท และ สายการบินอีกประมาณ 10 สาย โดยปีนี้มองว่าเอกชนเข้าร่วมงานจำนวนมากกว่าทุกปี ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดีว่าคนไทยยังมีกำลังซื้อ
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อคนไทย โดยจะไม่ให้ความสำคัญกับการลดราคามากนัก แต่จะเน้นนำเสนอแพกเกจทัวร์ในราคาที่สมเหตุสมผล เป็นราคาที่คนไทยรับได้ เช่น รถเช่า จากบริษัท เอวิส ที่เปิดให้เช่าเริ่มต้นที่ 600 บาท ต่อวัน ส่วนโรงแรมที่พักจะลดราคาเฉลี่ย 20% สำหรับงานนี้ บริษัทใช้งบประชาสัมพันธ์ 10 ล้านบาท ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ สปอร์ตวิทยุ และ ป้ายโฆษณา เป็นต้น คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงาน 3 แสนคน เกิดรายได้ 500 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนที่มีผู้เข้าร่วมงาน 2.5 แสนคน มีรายได้ 400 ล้านบาท ส่วนงานไทยเที่ยวไทย ที่จะจัดในต้นปีหน้า ขณะนี้มีภาคเอกชนให้ความสนใจเข้าร่วมออกบูทจำนวนมาก มียอดจองกว่า 80% แล้ว
ผู้จัดการรายวัน - พีเค อิงกระแสค่าเงินบาทแข็ง ขยายโซนทัวร์เอาต์บาวนด์ เอาใจคนไทยเที่ยวนอก เป็นทางเลือก ขณะที่ทัพเอกชนแห่จองบูทแน่น เชื่อเป็นนิมิตหมายดีต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว คาดเงินสะพัดงานนี้ 500 ล้านบาท
นายกฤตย์ พัตรปาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.เค เอ็กซิบิชั่น แมนเนจเม้นท์ ผู้จัดงานไทยเที่ยวไทย เปิดเผยว่า เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในครึ่งปีหลังนี้ บริษัท จึงได้จัดงาน ไทยเที่ยวไทยครั้งที่ 11 ขึ้นในระหว่างวันที่ 23-26 สิงหาคมศกนี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยปีนี้นำเสนอคอนเซปต์งานว่า “เหมันต์สวัส รับเที่ยวไทยให้สนุก” ซึ่งถือเป็นการท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวปีนี้
ทั้งนี้จากค่าเงินบาทที่แข็ง ปีนี้ บริษัท จึงจัดสรรพื้นที่ ในส่วนของทัวร์เอาต์บาวนด์เพิ่มเป็น 1.8 หมื่นตารางเมตร จากปีก่อนที่จัดพื้นที่ในส่วนนี้เพียง 1.7 หมื่นตารางเมตร เพื่อจำหน่ายแพกเกจทัวร์ไปเที่ยวต่างประเทศให้มากขึ้นเป็นทางเลือกของผู้บริโภค เพราะ คนไทยสามารถเที่ยวต่างประเทศได้ถูกลง โดยในพื้นที่นี้ จะรวบรวมสายการบินในประเทศและต่างประเทศ มาร่วมออกบูทขายตั๋วโดยสารด้วย เช่น สายการบิน การ์ต้า แอร์ นอกจากนั้นยังมีโรงแรมและบริษัททัวร์มาร่วมออกบูทในพื้นที่นี้อีกกว่า 50 บูท คาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้ชมงานจำนวนมาก ถือเป็นการจัดงานท่องเที่ยวแบบครบวงจร และ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าผู้เข้าชมงานที่ต้องการให้มีแพกเกจทัวร์ที่หลากหลาย
สำหรับภาพรวมของการจัดงาน คาดว่าจะมีเอกชนภาคท่องเที่ยวเข้าร่วมออกบูทกว่า 750 บูท แบ่งเป็น โรงแรม 400 บูท บริษัทนำเที่ยว 20 บูท และ สายการบินอีกประมาณ 10 สาย โดยปีนี้มองว่าเอกชนเข้าร่วมงานจำนวนมากกว่าทุกปี ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดีว่าคนไทยยังมีกำลังซื้อ
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อคนไทย โดยจะไม่ให้ความสำคัญกับการลดราคามากนัก แต่จะเน้นนำเสนอแพกเกจทัวร์ในราคาที่สมเหตุสมผล เป็นราคาที่คนไทยรับได้ เช่น รถเช่า จากบริษัท เอวิส ที่เปิดให้เช่าเริ่มต้นที่ 600 บาท ต่อวัน ส่วนโรงแรมที่พักจะลดราคาเฉลี่ย 20% สำหรับงานนี้ บริษัทใช้งบประชาสัมพันธ์ 10 ล้านบาท ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ สปอร์ตวิทยุ และ ป้ายโฆษณา เป็นต้น คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงาน 3 แสนคน เกิดรายได้ 500 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนที่มีผู้เข้าร่วมงาน 2.5 แสนคน มีรายได้ 400 ล้านบาท ส่วนงานไทยเที่ยวไทย ที่จะจัดในต้นปีหน้า ขณะนี้มีภาคเอกชนให้ความสนใจเข้าร่วมออกบูทจำนวนมาก มียอดจองกว่า 80% แล้ว