ฉบับวันพุธที่ 22-8-50
ผู้จัดการรายวัน – ยอดขายสุกี้เอ็มเคสะดุด 6 เดือนแรก คนเข้าร้านน้อยลง เหตุเศรษฐกิจพ่นพิษใส่ ลูกค้ามีทางเลือกเพิ่มขึ้น เชื่อสถานการณ์ครึ่งปีหลังน่าจะไปได้สวย ล่าสุดเน้นทำตลาดชูภาพลักษณ์เพื่อสังคม จับมือบัตรเครดิตสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ร่วมแคมเปญ 10% แคชแบค หวังสร้างการรับรู้ต่อเนื่อง
นายวีรพล โรจนสัจจา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ยอมรับว่าปัญหาเศรษฐกิจโดยรวมมีผลกระทบต่อยอดขายของร้านสุกี้เอ็มเคบ้าง โดยสังเกตุได้จากจำนวนความถี่ในการเข้าใช้บริการของผู้บริโภคในร้านลดลงไป เพราะผู้บริโภคเริ่มระมัดระวังในการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น รับประทานอาหารนอกบ้านน้อยลง ขณะเดียวกันมองว่าผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้นในการรับประทานอาหาร เพราะปัจจุบันนี้มีร้านอาหารให้เลือกใช้บริการมากมาย จึงมองว่าไม่ใช่แต่เอ็มเคที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว ทุกๆร้านอาหารก็น่าจะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามในปีนี้บริษัทฯยังคงเดินหน้าตามแผนการดำเนินธุรกิจที่วางไว้เช่นเดิม โดยแนวทางการทำตลาดยังคงใช้งบประมาณอยู่ที่ 100 กว่าล้านบาทใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ในการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อให้ผู้บริโภคเห็นความเคลื่อนไหวและสร้างการรับรู้อยู่ตลอดเวลา ร่วมถึงการส่งเสริมกิจกรรมทางการตลาดในลักษณะเพื่อสังคม ก็ถือเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่ทางบริษัทฯให้ความสำคัญ โดยแต่ละปีจะวางไว้ที่ 6-10 รายการ
ล่าสุดได้เข้าร่วมในแคมเปญ “10% แคชแบค” ของทางธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ร่วมกับร้านค้าอื่นๆอีก 10 ราย โดยลูกค้าที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของธนาคารฯจะได้รับแคชแบค 10 % จากการใช้จ่ายทุกครั้งตามเงื่อนไข ซึ่งแบ่งเป็น 8% คืนให้กับผู้ใช้จ่ายบัตร และอีก 2% จะเป็นการบริจาคเพื่อการกุศลผ่านโครงการ “Seeing is Believing ให้ดวงตาให้ชีวิต” ซึ่งเป็นโครงการที่ทางธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดจัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา ร่วมกับสภากาชาดไทย
ส่วนการขยายสาขาร้านสุกี้เอ็มเคในปีนี้ ยังคงมีการเปิดสาขาใหม่เพิ่ม 20 สาขาตามแผนที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี จากปัจจุบันมีร้านเอ็มเค รวมกว่า 230 สาขาที่เปิดบริการอยู่ โดยจะเน้นเปิดให้บริการไปกับซูเปอร์สโตร์เป็นหลัก
ส่วนร้านเอ็มเคโกลด์ที่เป็นร้านสุกี้พรีเมียมปีนี้เปิดไปแล้ว 4 สาขา และกำลังจะเปิดเพิ่ม 2 สาขา ที่ภูเก็ต และสมุยก่อนสิ้นปีนี้ ทางด้านเอ็มเค เทรนด์ดี้ ซึ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ขณะนี้เปิดให้บริการแล้ว 2 สาขา คือ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และสยามสแควร์ ได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีมาก
นอกจากนี้ในส่วนของร้านยาโยอิ ซึ่งเป็นธุรกิจร้านอาหารแนวฮอต ควิก เรสเตอรองส์ ให้บริการอาหารญี่ปุ่นเป็นเซตราคา 99 บาท ที่เป็นโมเดลมาแข่งขันกับธุรกิจอาหารฟาส์ตฟูดส์เคเอฟซี และแมคโดนัลด์ หลังจากเปิดสาขานำร่องที่ คาร์ฟูร์ พระรามสี่ เมื่อปีที่ผ่านมา ในปีนี้ทางบริษัทฯได้เริ่มทำการตลาดอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น จนทำให้สามารถขยายสาขาได้แล้วกว่า 15 สาขา ณ ปัจจุบัน โดยเน้นกรุงเทพฯเป็นหลัก
นายวีรพล กล่าวต่อว่า สำหรับแนวโน้มการทำธุรกิจในครึ่งปีหลัง มองว่าน่าจะดีขึ้นจากครึ่งปีแรกพอสมควร เนื่องจากมีหลายเหตุการณ์ที่จะช่วยให้ผู้บริโภคมีการจับจ่ายใช้สอย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้น เทศกาลขึ้นปีใหม่ วันคริสต์มาส และที่สำคัญยังเป็นปีครบรอบ 80 พรรษาของพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทางเอ็มเค ได้เตรียมกิจกรรมในวันพ่อนี้ด้วย กับการถ่ายรูปครอบครัวลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในวันนั้น เช่นเดียวกับวันแม่ที่ผ่านมา ก็ได้จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น ซึ่งในวันแม่ที่ผ่านมานี้ ยังพบว่าเป็นวันที่เอ็มเคมียอดขายต่อวันสูงที่สุดในรอบ 1 ปีอีกด้วย
ผู้จัดการรายวัน – ยอดขายสุกี้เอ็มเคสะดุด 6 เดือนแรก คนเข้าร้านน้อยลง เหตุเศรษฐกิจพ่นพิษใส่ ลูกค้ามีทางเลือกเพิ่มขึ้น เชื่อสถานการณ์ครึ่งปีหลังน่าจะไปได้สวย ล่าสุดเน้นทำตลาดชูภาพลักษณ์เพื่อสังคม จับมือบัตรเครดิตสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ร่วมแคมเปญ 10% แคชแบค หวังสร้างการรับรู้ต่อเนื่อง
นายวีรพล โรจนสัจจา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ยอมรับว่าปัญหาเศรษฐกิจโดยรวมมีผลกระทบต่อยอดขายของร้านสุกี้เอ็มเคบ้าง โดยสังเกตุได้จากจำนวนความถี่ในการเข้าใช้บริการของผู้บริโภคในร้านลดลงไป เพราะผู้บริโภคเริ่มระมัดระวังในการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น รับประทานอาหารนอกบ้านน้อยลง ขณะเดียวกันมองว่าผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้นในการรับประทานอาหาร เพราะปัจจุบันนี้มีร้านอาหารให้เลือกใช้บริการมากมาย จึงมองว่าไม่ใช่แต่เอ็มเคที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว ทุกๆร้านอาหารก็น่าจะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามในปีนี้บริษัทฯยังคงเดินหน้าตามแผนการดำเนินธุรกิจที่วางไว้เช่นเดิม โดยแนวทางการทำตลาดยังคงใช้งบประมาณอยู่ที่ 100 กว่าล้านบาทใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ในการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อให้ผู้บริโภคเห็นความเคลื่อนไหวและสร้างการรับรู้อยู่ตลอดเวลา ร่วมถึงการส่งเสริมกิจกรรมทางการตลาดในลักษณะเพื่อสังคม ก็ถือเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่ทางบริษัทฯให้ความสำคัญ โดยแต่ละปีจะวางไว้ที่ 6-10 รายการ
ล่าสุดได้เข้าร่วมในแคมเปญ “10% แคชแบค” ของทางธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ร่วมกับร้านค้าอื่นๆอีก 10 ราย โดยลูกค้าที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของธนาคารฯจะได้รับแคชแบค 10 % จากการใช้จ่ายทุกครั้งตามเงื่อนไข ซึ่งแบ่งเป็น 8% คืนให้กับผู้ใช้จ่ายบัตร และอีก 2% จะเป็นการบริจาคเพื่อการกุศลผ่านโครงการ “Seeing is Believing ให้ดวงตาให้ชีวิต” ซึ่งเป็นโครงการที่ทางธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดจัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา ร่วมกับสภากาชาดไทย
ส่วนการขยายสาขาร้านสุกี้เอ็มเคในปีนี้ ยังคงมีการเปิดสาขาใหม่เพิ่ม 20 สาขาตามแผนที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี จากปัจจุบันมีร้านเอ็มเค รวมกว่า 230 สาขาที่เปิดบริการอยู่ โดยจะเน้นเปิดให้บริการไปกับซูเปอร์สโตร์เป็นหลัก
ส่วนร้านเอ็มเคโกลด์ที่เป็นร้านสุกี้พรีเมียมปีนี้เปิดไปแล้ว 4 สาขา และกำลังจะเปิดเพิ่ม 2 สาขา ที่ภูเก็ต และสมุยก่อนสิ้นปีนี้ ทางด้านเอ็มเค เทรนด์ดี้ ซึ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ขณะนี้เปิดให้บริการแล้ว 2 สาขา คือ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และสยามสแควร์ ได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีมาก
นอกจากนี้ในส่วนของร้านยาโยอิ ซึ่งเป็นธุรกิจร้านอาหารแนวฮอต ควิก เรสเตอรองส์ ให้บริการอาหารญี่ปุ่นเป็นเซตราคา 99 บาท ที่เป็นโมเดลมาแข่งขันกับธุรกิจอาหารฟาส์ตฟูดส์เคเอฟซี และแมคโดนัลด์ หลังจากเปิดสาขานำร่องที่ คาร์ฟูร์ พระรามสี่ เมื่อปีที่ผ่านมา ในปีนี้ทางบริษัทฯได้เริ่มทำการตลาดอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น จนทำให้สามารถขยายสาขาได้แล้วกว่า 15 สาขา ณ ปัจจุบัน โดยเน้นกรุงเทพฯเป็นหลัก
นายวีรพล กล่าวต่อว่า สำหรับแนวโน้มการทำธุรกิจในครึ่งปีหลัง มองว่าน่าจะดีขึ้นจากครึ่งปีแรกพอสมควร เนื่องจากมีหลายเหตุการณ์ที่จะช่วยให้ผู้บริโภคมีการจับจ่ายใช้สอย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้น เทศกาลขึ้นปีใหม่ วันคริสต์มาส และที่สำคัญยังเป็นปีครบรอบ 80 พรรษาของพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทางเอ็มเค ได้เตรียมกิจกรรมในวันพ่อนี้ด้วย กับการถ่ายรูปครอบครัวลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในวันนั้น เช่นเดียวกับวันแม่ที่ผ่านมา ก็ได้จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น ซึ่งในวันแม่ที่ผ่านมานี้ ยังพบว่าเป็นวันที่เอ็มเคมียอดขายต่อวันสูงที่สุดในรอบ 1 ปีอีกด้วย