คตส.ได้ฤกษ์แจ้งความดำเนินคดีอาญา “อ้อ-โอ๊ค-เมียบรรณพจน์” วันนี้ ฐานแข็งข้อไม่ยอมไปให้ปากคำในคดีโอนหุ้นชินคอร์ป ขณะที่ รัฐบาลปฏิบัติการล้างบางโคตรโกง มีมติเห็นชอบ “อนุสัญญายูเอ็นว่าด้วยการต่อต้านทุจริต” ให้สอบปากคำพยานผ่านการประชุมทาจอภาพ เพิ่มดาบ ป.ป.ช.ตรวจสอบทรัพย์สิน-ยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน ออกกม.หนุนสนธิสัญญาผู้ร้ายข้ามแดน ร.ศ.130 ด้าน สตง.ยันไม่ได้เตะตัดขา “สมัคร” ด้วยการร้องทุกข์คดีทุจริตโครงการกลบฝังขยะ แต่เป็นการทำไปตามข้อมูลหลักฐาน
ช่วงบ่ายวานนี้ (21 ส.ค.) มีการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) มีนายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส.เป็นประธานการประชุม ภายหลังการประชุม นายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส. แถลงว่า คตส.ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ ผู้ขัดขืนคำสั่งให้มาให้ถ้อยคำต่ออนุกรรมการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปฯ คือ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร นายพานทองแท้ ชินวัตร นางบุษบา ดามาพงศ์ ภรรยานายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ และนาง กาญจนา หงส์เหิน เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน ในความผิด กฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาตรา 25 โดยจะไปร้องทุกข์ ในวันนี้ (22 ส.ค. เวลา 13.00 น.) ที่ สน.บางซื่อ
นายสัก กล่าวด้วยว่า นายอำนวย ธันธรา ประธานอนุกรรมการพิจารณาคำร้องพิสูจน์ทรัพย์เพื่อเพิกถอนคำสั่งอายัดทรัพย์ของ คตส. ได้รายงานเพิ่มเติมว่า มีบุคคลมาเพิกถอนอายัดทรัพย์เพิ่มอีก 5 ราย เมื่อ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา คือ บริษัทเวิลด์ ซัพพลาย ,บริษัทโอเอไอ แมนเนจเมนท์ , บริษัทพีที คอร์ปปอเรชั่น, บริษัทเอสซี เอสสเตท และบริษัทโอเอไอ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด โดยหลังจากนี้ อนุกรรมการจะพิจารณาคำร้องว่าเข้าหลักเกณฑ์การเพิกถอนการอายัดทรัพย์หรือไม่ พร้อมทั้งพิจารณาหลักฐานเพื่อนัดผู้ยื่นคำร้องเพื่อให้มาไต่สวนต่อไป
โฆษก คตส.ยังกล่าวอีกว่า อนุกรรมการไม่ได้หารือกรณีที่ผู้ร้องขอให้เพิกถอนอายัดทรัพย์ อ้างพยานแต่ละคดีถึง 30 ปาก แต่ให้เวลาพิจารณา 7 วัน เพราะเชื่อว่าอนุกรรมการสามารถจะแก้ปัญหาตรงนี้ได้ แต่การอ้างพยานจำนวนมาก จะไม่เกิดประโยชน์เพราะพยาน ไม่สามารถตอบคำถาม หรือให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงได้ตรงกับเจ้าของ ดังนั้นเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อการ เพิกถอนอายัดทรัพย์ เจ้าของควรจะมาดำเนินการเองจะดีกว่า
นายสัก ยังกล่าวถึงความคืบหน้าคดีที่ คตส. ตรวจสอบก่อนหน้านี้คือ คดีนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ และ คุณหญิง พจมาน ชินวัตร เป็นจำเลยคดีการเลี่ยงภาษีการโอนหุ้นบริษัทชินวัตร คอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ว่าเมื่อวันที่ 14-15 ส.ค. ที่ผ่านมา ศาลได้นัดสืบพยานโจทก์ปากสุดท้าย คือนายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ คตส.และหลังจากนี้ ศาลจะมีการนัดสืบพยานจำเลยในวันที่ 10 ก.ย. ,5 ต.ค. ,และในเดือนพ.ย. อีก 5 นัด เดือนธ.ค. อีก 4 นัด เดือนก.พ. ปี 51 อีก 4 นัด และนัดสุดท้ายคือ 15 ก.พ.51
แก้ กม.ล้างบาง“โคตรโกง”
นายโชติชัย สุวรรณภรณ์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม. ว่า รายงานผลการพิจารณาและศึกษาพันธกรณีต่างๆของไทย ตามอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. 2003 ร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด พ.ศ....และ ร่างพ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.ความร่วมมือระหว่างประเทศ ในเรื่องทางอาญา พ.ศ. 2535 ฉบับที่ ... พ.ศ....ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ เนื่องจากรัฐบาลได้เห็นชอบอนุสัญญาดังกล่าว ซึ่งทำให้เราจำเป็นจะต้องออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่างๆ เพื่อให้ต้องออกกฎหมายลูกสอดคล้องให้เป็นไปตามอนุสัญญาที่ได้ให้ไว้กับสหประชาชาติ
ทั้งนี้ ครม. รับทราบและอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ คือ รับรายงานผลการพิจารณา และศึกษาพันธกรณีต่างๆของไทย ตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. 2003 และอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด พ.ศ.... และร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. ความร่วมมือระหว่างประเทศ ในเรื่องทางอาญา พ.ศ. 2535 (ฉบับที่ ..) พ.ศ.... รวม 2 ฉบับ และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติพิจารณาต่อไป
นายโชติชัย กล่าวว่า สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด พ.ศ..โดย 1. เพิ่มเติมบทคำนิยามคำว่า "คำสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สิน" และ"คำพิพากษาให้ริบทรัพย์สิน" (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 4 (ร่างมาตรา 3 )) 2.กำหนดให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎมายอื่นในส่วนที่เกี่ยวข้อง มีอำนาจดำเนินการตามคำร้องความช่วยเหลือจากต่างประเทศ (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 12 (ร่างมาตรา 4))
3.กำหนดให้มีการถ่ายทอดภาพ และเสียงในลักษณะการประชุมทางจอภาพ ในกรณีที่ต่างประเทศร้องขอให้สอบปากคำพยาน หรือ ขอสืบพยานหลักฐาน(แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 15 วรรคสาม และ มาตรา 17 วรรคสาม ร่าง มาตรา 5 และมาตรา 7 กำหนดให้ 4. กำหนดให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจแจ้งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการขอให้ศาลออกหมายค้น ค้นหรือยึดสิ่งของ(แก้ไขมาตรา 23 ร่างมาตรา 9) และ ห้า กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการยึด อายัด หรือรบทรัพย์สิน (แก้ไขเพิ่มเติมส่วนที่ 9 ร่าง มาตรา 10)
ในส่วนของ ร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. ความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ. 2535 (ฉบับที่ ...) พ.ศ.... มีสาระสำคัญ คือ 1. กำหนดให้คณะกรรมการป.ป.ช. มีหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ว่ากระทำความผิดอาญา เพื่อประโยชน์ในการริบทรัพย์สินตามพ.ร.บ. ดังกล่าว และกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขในการดำเนินการดังกล่าว(ร่างมาตรา 5 ถึงมาตรา 10)
2.กำหนดวิธีการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลเมื่อศาลได้มีคำพิพากษาว่า จำเลยกระทำความผิดทางอาญา (ร่างมาตรา 5ถึงมาตรา 10) 3.กำหนดให้ กรณีมีเหตุอันควรเชื่อว่า ทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา หรือจำเลยไม่ว่าจะเป็นกรรมสิทธิ์ หรืออยู่ในความครอบครองของผู้ถูกกล่าวหา หรือ จำเลย หรือบุคคลนอก ซึ่งได้มาโดยปราศจากมูลอันจะอ้างได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง เพื่อให้มีคำสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน และกำหนดให้ผู้ซึ่งอ้างว่า เป็นเจ้าของทรัพย์สินนั้น อาจร้องขอต่อศาลก่อนมีคำสั่งว่า ตนเป็นเจ้าของที่แท้จริง และทรัพย์สินนั้นไม่ใช่ทรัพย์สินที่ได้มาโดยปราศจากมูลอันจะอ้างได้โดยปราศจากข้อมูลอันจะอ้างได้โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือตนเป็นผู้รับโอนโดยสุจริตและมีค่าตอบแทน หรือได้มาโดยสุจริต และตามสมควรในทางศีลธรรมหรือในทางกุศลสาธารณะ (ร่างมาตรา 14 และมาตรา 15)
4.กำหนดให้ผู้ซึ่งอ้างว่า เป็นผู้รับประโยชน์ในทรัพย์สินที่มีการร้องขอให้ตกเป็นของแผ่นดิน อาจยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิของตนก่อนศาลมีคำสั่ง โดยแสดงว่า ตนเป็นผู้รับประโยชน์ และมีค่าตอบแทน หรือได้มาซึ่งประโยชน์โดยสุจริต และตามสมควรในทางศีลธรรมอันดี หรือในทางกุศลสาธารณะ(ร่างมาตรา 16) 5.กำหนดให้ศาลไต่ส่วนคำร้องของคณะกรรมการ ป.ป.ช. หากเชื่อว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาโดยปราศจากมูล อันจะอ้างได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และคำร้องของผู้ซึ่งอ้างว่า เป็นเจ้าของทรัพย์สินฟังไม่ขึ้น ให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินนั้นตกเป็นของแผ่นดิน
6.กำหนดให้คณะกรรมการป.ป.ช. หากยื่นคำขอฝ่ายเดียว ให้ศาลมีคำสั่ง ยึด หรือ อายัดทรัพย์สินที่ได้มาโดยปราศจากมูล อันจะอ้างได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ได้เพื่อป้องกันการยักย้าย ถ่ายเท ทรัพย์สิน และให้ศาลพิจารณาเป็นการด่วน ถ้าคำขอมีเหตุอันสมควรให้ศาลมีคำสั่งตามที่ขอโดยไม่ชักช้า 7.กำหนดให้การดำเนินการเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้โดยอนุโลม และให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้รับยกเว้นค่า ฤชา ธรรมเนียมทั้งปวง
8.กรณีมีคำสั่ง กรณีมีคำพิพากษาของรัฐต่างประเทศว่า จำเลยกระทำความผิดอาญาและรัฐต่างประเทศนั้นสูญเสียทรัพย์สิน เนื่องจากการกระทำความผิดนั้น หากทรัพย์สินที่พึงริบอยู่ในเขตอำนาจศาลไทย ให้รัฐต่างประเทศ อาจดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา เพื่อติดตามทรัพย์สินคืน
“ดีเอสไอ”ปิดวันขอหมายจับ“แม้ว-อ้อ”
นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า พนักงานสอบสวนในคดีบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ยังไม่ได้เดินทางไปศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ในความผิดปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซี แอสเสทฯ ส่วนจะไปวันไหน ไม่ต้องการเปิดเผย เพราะไม่อยากให้มีกองเชียร์ของฝ่ายผู้ต้องหาไปสร้างความยุ่งยากให้กับศาล อย่างไรก็ตาม หากวันไหนที่ดีเอสไอได้หมายจับมาแล้ว จะนัดสื่อมวลชนมาแถลงข่าวทันที
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า มีผลประโยชน์ทับซ้อนในดีเอสไอ โดยผู้บริหารระดับสูงในดีเอสไอ รับเป็นที่ปรึกษากฎหมายให้สำนักงานทนายความ และว่า ดีเอสไอ ทำผิดระเบียบที่มีการเปิดเผยข้อมูลในสำนวนนั้น นายสุนัย กล่าวว่า ดีเอสไอ เป็นของประชาชน การให้ข่าวต่อสื่อก็ไม่ได้มีการเปิดเผยสำนวน แต่เป็นการให้ข้อมูลต่อสาธารณชนในส่วนที่สามารถทำได้ ส่วนที่เป็นความลับก็ไม่เคยเปิดเผย ส่วนการเป็นที่ปรึกษาสำนักงานทนายความ หากเป็นผู้พิพากษาจะมีข้อห้าม แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ ไม่มีข้อห้าม แต่มีการระบุไว้ในการแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนในคดีต่างๆ หากพนักงานสอบสวนท่านใดมีญาติ คนใกล้ชิด หรือเป็นที่ปรึกษา หรือมีผลเกี่ยวข้องกับคดีนั้น พนักงานสอบสวนท่านนั้น จะต้องถอนตัว มิฉะนั้น หากตรวจสอบพบภายหลังจะมีโทษทางจริยธรรม
สตง.ยันไม่ได้เตะตัดขา“หมัก”
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รองผู้ว่าการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งเป็นผู้ทำหนังสือถึง ป.ป.ช. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินคดีกับ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าฯ กทม. และผู้บริหารกทม. ในโครงการจ้างเหมาเอกชนขนมูลฝอยและนำไปทำลายโดยวิธีฝังกลบ 3 โครงการ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีนี้ ภายหลังนายสมัคร ออกมาแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงว่า เป็นธรรมดาที่คนที่ถูก สตง. ตรวจสอบจะต้องออกมาตำหนิ สตง. การทำงานของ สตง.ในครั้งนี้ไม่ได้มีการกล่าวหาลอยๆ เพราะได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานมาเป็นเวลานาน จนเพียงพอสามารถส่งเรื่องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง และไม่ได้เป็นการจงใจ หรือเจตนาที่จะกลั่นแกล้งผู้ถูกกล่าวหา ในช่วงที่นายสมัคร กำลังจะลงมาเล่นการเมืองแต่อย่างใด การทำงานของ สตง. เป็นการทำงานตามปกติ และขอให้เรื่องนี้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ตร.ยังไม่เห็นหนังสือกล่าวโทษ“สมัคร”
พล.ต.ท.รณรงค์ ยั่งยืน โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่ สตง. ทำหนังสือด่านมาก เลขที่ ตข 0019/180 ถึง ผบ.ตร. ให้สอบสวนโครงการจ้างเหมาเอกชนขนมูลฝอยและนำไปทำลายโดยวิธีฝังกลบของ กทม. 3 โครงการ วงเงิน 9,589 ล้านบาท ที่ สตง. เห็นควรดำเนินคดีอาญากับบิ๊กข้าราชการ กทม. 5 คน รวมทั้ง นายสมัคร สุนทรเวช ว่า จากการตรวจสอบยังไม่มีหนังสือดังกล่าวมาถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. แต่อย่างใด และไม่ทราบว่าหนังสือจะไปอยู่ในส่วนใหน ซึ่งหากมีหนังสือส่งมา ก็คงส่งไปยังกองคดีให้ทำการตรวจสอบ และทางรักษาการ ผบ.ตร.อาจจะมีการสั่ง ตั้งคณะพนักงานสอบสวนมาทำงานในเรื่องนี้ ซึ่งอาจจะมีระดับ รอง.ผบ.ตร. เป็นผู้รับผิดชอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบไปยังสำนักเลขานุการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ยังไม่หนังสือดังกล่าวส่งมาแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบไปยังกองคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ยังไม่มีหนังสือส่งมาเช่นเดียวกัน
“อภิรักษ์”สั่งปลัดสรุปคดีหมักใน 3 วัน
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัด กทม. ประสานไปยังสตง.เพื่อขอเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในเรื่องดังกล่าวเนื่องจากกทม. ยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้จะให้สำนักงานสิ่งแวดล้อม กทม. รายงานข้อเท็จจริงถึงที่มาที่ไปของเรื่องนี้โดยด่วนที่สุดภายใน 3 วัน โดยเฉพาะเรื่องสัญญา ส่วนจะดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้น ต้องรอข้อมูลที่ได้จาก สตง. และสำนักสิ่งแวดล้อมก่อนจึงจะตัดสินใจได้
สำหรับเอกชนที่ได้รับการจ้างเหมาให้ขนมูลฝอยของกทม. 3 โครงการ ได้แก่โรงกำจัดมูลฝอยอ่อนนุช ผู้รับเหมาคือห้างหุ้นส่วนไพโรจน์สมพงษ์พาณิช เซ็นสัญญาเมื่อ 20 ก.ค. 47 วงเงิน 3,546 ล้านบาท โดยขนขยะที่อ่อนนุชไปฝังกลบที่ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา สถานีขนถ่ายมูลฝอยท่าแร้ง เขตสายไหม ผู้รับเหมาคือ บริษัทวัสดุภัณฑ์ ธุรกิจ จำกัด เซ็นสัญญาเมื่อ 20 ก.ค. 2547 วงเงิน 2,993 ล้านบาท โดยขนขยะที่ท่าแร้งไปฝังกลบที่ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม โรงงานกำจัดมูลฝอยหนองแขม ผู้รับเหมาคือ บริษัทกลุ่ม 79 จำกัด เซ็นสัญญาเมื่อ 20 ก.ค. 47 วงเงิน 3,050 ล้านบาท โดยขนขยะที่หนองแขม ไปฝังกลบที่ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
ช่วงบ่ายวานนี้ (21 ส.ค.) มีการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) มีนายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส.เป็นประธานการประชุม ภายหลังการประชุม นายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส. แถลงว่า คตส.ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ ผู้ขัดขืนคำสั่งให้มาให้ถ้อยคำต่ออนุกรรมการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปฯ คือ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร นายพานทองแท้ ชินวัตร นางบุษบา ดามาพงศ์ ภรรยานายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ และนาง กาญจนา หงส์เหิน เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน ในความผิด กฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาตรา 25 โดยจะไปร้องทุกข์ ในวันนี้ (22 ส.ค. เวลา 13.00 น.) ที่ สน.บางซื่อ
นายสัก กล่าวด้วยว่า นายอำนวย ธันธรา ประธานอนุกรรมการพิจารณาคำร้องพิสูจน์ทรัพย์เพื่อเพิกถอนคำสั่งอายัดทรัพย์ของ คตส. ได้รายงานเพิ่มเติมว่า มีบุคคลมาเพิกถอนอายัดทรัพย์เพิ่มอีก 5 ราย เมื่อ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา คือ บริษัทเวิลด์ ซัพพลาย ,บริษัทโอเอไอ แมนเนจเมนท์ , บริษัทพีที คอร์ปปอเรชั่น, บริษัทเอสซี เอสสเตท และบริษัทโอเอไอ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด โดยหลังจากนี้ อนุกรรมการจะพิจารณาคำร้องว่าเข้าหลักเกณฑ์การเพิกถอนการอายัดทรัพย์หรือไม่ พร้อมทั้งพิจารณาหลักฐานเพื่อนัดผู้ยื่นคำร้องเพื่อให้มาไต่สวนต่อไป
โฆษก คตส.ยังกล่าวอีกว่า อนุกรรมการไม่ได้หารือกรณีที่ผู้ร้องขอให้เพิกถอนอายัดทรัพย์ อ้างพยานแต่ละคดีถึง 30 ปาก แต่ให้เวลาพิจารณา 7 วัน เพราะเชื่อว่าอนุกรรมการสามารถจะแก้ปัญหาตรงนี้ได้ แต่การอ้างพยานจำนวนมาก จะไม่เกิดประโยชน์เพราะพยาน ไม่สามารถตอบคำถาม หรือให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงได้ตรงกับเจ้าของ ดังนั้นเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อการ เพิกถอนอายัดทรัพย์ เจ้าของควรจะมาดำเนินการเองจะดีกว่า
นายสัก ยังกล่าวถึงความคืบหน้าคดีที่ คตส. ตรวจสอบก่อนหน้านี้คือ คดีนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ และ คุณหญิง พจมาน ชินวัตร เป็นจำเลยคดีการเลี่ยงภาษีการโอนหุ้นบริษัทชินวัตร คอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ว่าเมื่อวันที่ 14-15 ส.ค. ที่ผ่านมา ศาลได้นัดสืบพยานโจทก์ปากสุดท้าย คือนายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ คตส.และหลังจากนี้ ศาลจะมีการนัดสืบพยานจำเลยในวันที่ 10 ก.ย. ,5 ต.ค. ,และในเดือนพ.ย. อีก 5 นัด เดือนธ.ค. อีก 4 นัด เดือนก.พ. ปี 51 อีก 4 นัด และนัดสุดท้ายคือ 15 ก.พ.51
แก้ กม.ล้างบาง“โคตรโกง”
นายโชติชัย สุวรรณภรณ์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม. ว่า รายงานผลการพิจารณาและศึกษาพันธกรณีต่างๆของไทย ตามอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. 2003 ร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด พ.ศ....และ ร่างพ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.ความร่วมมือระหว่างประเทศ ในเรื่องทางอาญา พ.ศ. 2535 ฉบับที่ ... พ.ศ....ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ เนื่องจากรัฐบาลได้เห็นชอบอนุสัญญาดังกล่าว ซึ่งทำให้เราจำเป็นจะต้องออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่างๆ เพื่อให้ต้องออกกฎหมายลูกสอดคล้องให้เป็นไปตามอนุสัญญาที่ได้ให้ไว้กับสหประชาชาติ
ทั้งนี้ ครม. รับทราบและอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ คือ รับรายงานผลการพิจารณา และศึกษาพันธกรณีต่างๆของไทย ตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. 2003 และอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด พ.ศ.... และร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. ความร่วมมือระหว่างประเทศ ในเรื่องทางอาญา พ.ศ. 2535 (ฉบับที่ ..) พ.ศ.... รวม 2 ฉบับ และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติพิจารณาต่อไป
นายโชติชัย กล่าวว่า สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด พ.ศ..โดย 1. เพิ่มเติมบทคำนิยามคำว่า "คำสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สิน" และ"คำพิพากษาให้ริบทรัพย์สิน" (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 4 (ร่างมาตรา 3 )) 2.กำหนดให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎมายอื่นในส่วนที่เกี่ยวข้อง มีอำนาจดำเนินการตามคำร้องความช่วยเหลือจากต่างประเทศ (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 12 (ร่างมาตรา 4))
3.กำหนดให้มีการถ่ายทอดภาพ และเสียงในลักษณะการประชุมทางจอภาพ ในกรณีที่ต่างประเทศร้องขอให้สอบปากคำพยาน หรือ ขอสืบพยานหลักฐาน(แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 15 วรรคสาม และ มาตรา 17 วรรคสาม ร่าง มาตรา 5 และมาตรา 7 กำหนดให้ 4. กำหนดให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจแจ้งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการขอให้ศาลออกหมายค้น ค้นหรือยึดสิ่งของ(แก้ไขมาตรา 23 ร่างมาตรา 9) และ ห้า กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการยึด อายัด หรือรบทรัพย์สิน (แก้ไขเพิ่มเติมส่วนที่ 9 ร่าง มาตรา 10)
ในส่วนของ ร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. ความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ. 2535 (ฉบับที่ ...) พ.ศ.... มีสาระสำคัญ คือ 1. กำหนดให้คณะกรรมการป.ป.ช. มีหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ว่ากระทำความผิดอาญา เพื่อประโยชน์ในการริบทรัพย์สินตามพ.ร.บ. ดังกล่าว และกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขในการดำเนินการดังกล่าว(ร่างมาตรา 5 ถึงมาตรา 10)
2.กำหนดวิธีการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลเมื่อศาลได้มีคำพิพากษาว่า จำเลยกระทำความผิดทางอาญา (ร่างมาตรา 5ถึงมาตรา 10) 3.กำหนดให้ กรณีมีเหตุอันควรเชื่อว่า ทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา หรือจำเลยไม่ว่าจะเป็นกรรมสิทธิ์ หรืออยู่ในความครอบครองของผู้ถูกกล่าวหา หรือ จำเลย หรือบุคคลนอก ซึ่งได้มาโดยปราศจากมูลอันจะอ้างได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง เพื่อให้มีคำสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน และกำหนดให้ผู้ซึ่งอ้างว่า เป็นเจ้าของทรัพย์สินนั้น อาจร้องขอต่อศาลก่อนมีคำสั่งว่า ตนเป็นเจ้าของที่แท้จริง และทรัพย์สินนั้นไม่ใช่ทรัพย์สินที่ได้มาโดยปราศจากมูลอันจะอ้างได้โดยปราศจากข้อมูลอันจะอ้างได้โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือตนเป็นผู้รับโอนโดยสุจริตและมีค่าตอบแทน หรือได้มาโดยสุจริต และตามสมควรในทางศีลธรรมหรือในทางกุศลสาธารณะ (ร่างมาตรา 14 และมาตรา 15)
4.กำหนดให้ผู้ซึ่งอ้างว่า เป็นผู้รับประโยชน์ในทรัพย์สินที่มีการร้องขอให้ตกเป็นของแผ่นดิน อาจยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิของตนก่อนศาลมีคำสั่ง โดยแสดงว่า ตนเป็นผู้รับประโยชน์ และมีค่าตอบแทน หรือได้มาซึ่งประโยชน์โดยสุจริต และตามสมควรในทางศีลธรรมอันดี หรือในทางกุศลสาธารณะ(ร่างมาตรา 16) 5.กำหนดให้ศาลไต่ส่วนคำร้องของคณะกรรมการ ป.ป.ช. หากเชื่อว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาโดยปราศจากมูล อันจะอ้างได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และคำร้องของผู้ซึ่งอ้างว่า เป็นเจ้าของทรัพย์สินฟังไม่ขึ้น ให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินนั้นตกเป็นของแผ่นดิน
6.กำหนดให้คณะกรรมการป.ป.ช. หากยื่นคำขอฝ่ายเดียว ให้ศาลมีคำสั่ง ยึด หรือ อายัดทรัพย์สินที่ได้มาโดยปราศจากมูล อันจะอ้างได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ได้เพื่อป้องกันการยักย้าย ถ่ายเท ทรัพย์สิน และให้ศาลพิจารณาเป็นการด่วน ถ้าคำขอมีเหตุอันสมควรให้ศาลมีคำสั่งตามที่ขอโดยไม่ชักช้า 7.กำหนดให้การดำเนินการเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้โดยอนุโลม และให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้รับยกเว้นค่า ฤชา ธรรมเนียมทั้งปวง
8.กรณีมีคำสั่ง กรณีมีคำพิพากษาของรัฐต่างประเทศว่า จำเลยกระทำความผิดอาญาและรัฐต่างประเทศนั้นสูญเสียทรัพย์สิน เนื่องจากการกระทำความผิดนั้น หากทรัพย์สินที่พึงริบอยู่ในเขตอำนาจศาลไทย ให้รัฐต่างประเทศ อาจดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา เพื่อติดตามทรัพย์สินคืน
“ดีเอสไอ”ปิดวันขอหมายจับ“แม้ว-อ้อ”
นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า พนักงานสอบสวนในคดีบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ยังไม่ได้เดินทางไปศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ในความผิดปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซี แอสเสทฯ ส่วนจะไปวันไหน ไม่ต้องการเปิดเผย เพราะไม่อยากให้มีกองเชียร์ของฝ่ายผู้ต้องหาไปสร้างความยุ่งยากให้กับศาล อย่างไรก็ตาม หากวันไหนที่ดีเอสไอได้หมายจับมาแล้ว จะนัดสื่อมวลชนมาแถลงข่าวทันที
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า มีผลประโยชน์ทับซ้อนในดีเอสไอ โดยผู้บริหารระดับสูงในดีเอสไอ รับเป็นที่ปรึกษากฎหมายให้สำนักงานทนายความ และว่า ดีเอสไอ ทำผิดระเบียบที่มีการเปิดเผยข้อมูลในสำนวนนั้น นายสุนัย กล่าวว่า ดีเอสไอ เป็นของประชาชน การให้ข่าวต่อสื่อก็ไม่ได้มีการเปิดเผยสำนวน แต่เป็นการให้ข้อมูลต่อสาธารณชนในส่วนที่สามารถทำได้ ส่วนที่เป็นความลับก็ไม่เคยเปิดเผย ส่วนการเป็นที่ปรึกษาสำนักงานทนายความ หากเป็นผู้พิพากษาจะมีข้อห้าม แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ ไม่มีข้อห้าม แต่มีการระบุไว้ในการแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนในคดีต่างๆ หากพนักงานสอบสวนท่านใดมีญาติ คนใกล้ชิด หรือเป็นที่ปรึกษา หรือมีผลเกี่ยวข้องกับคดีนั้น พนักงานสอบสวนท่านนั้น จะต้องถอนตัว มิฉะนั้น หากตรวจสอบพบภายหลังจะมีโทษทางจริยธรรม
สตง.ยันไม่ได้เตะตัดขา“หมัก”
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รองผู้ว่าการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งเป็นผู้ทำหนังสือถึง ป.ป.ช. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินคดีกับ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าฯ กทม. และผู้บริหารกทม. ในโครงการจ้างเหมาเอกชนขนมูลฝอยและนำไปทำลายโดยวิธีฝังกลบ 3 โครงการ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีนี้ ภายหลังนายสมัคร ออกมาแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงว่า เป็นธรรมดาที่คนที่ถูก สตง. ตรวจสอบจะต้องออกมาตำหนิ สตง. การทำงานของ สตง.ในครั้งนี้ไม่ได้มีการกล่าวหาลอยๆ เพราะได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานมาเป็นเวลานาน จนเพียงพอสามารถส่งเรื่องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง และไม่ได้เป็นการจงใจ หรือเจตนาที่จะกลั่นแกล้งผู้ถูกกล่าวหา ในช่วงที่นายสมัคร กำลังจะลงมาเล่นการเมืองแต่อย่างใด การทำงานของ สตง. เป็นการทำงานตามปกติ และขอให้เรื่องนี้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ตร.ยังไม่เห็นหนังสือกล่าวโทษ“สมัคร”
พล.ต.ท.รณรงค์ ยั่งยืน โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่ สตง. ทำหนังสือด่านมาก เลขที่ ตข 0019/180 ถึง ผบ.ตร. ให้สอบสวนโครงการจ้างเหมาเอกชนขนมูลฝอยและนำไปทำลายโดยวิธีฝังกลบของ กทม. 3 โครงการ วงเงิน 9,589 ล้านบาท ที่ สตง. เห็นควรดำเนินคดีอาญากับบิ๊กข้าราชการ กทม. 5 คน รวมทั้ง นายสมัคร สุนทรเวช ว่า จากการตรวจสอบยังไม่มีหนังสือดังกล่าวมาถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. แต่อย่างใด และไม่ทราบว่าหนังสือจะไปอยู่ในส่วนใหน ซึ่งหากมีหนังสือส่งมา ก็คงส่งไปยังกองคดีให้ทำการตรวจสอบ และทางรักษาการ ผบ.ตร.อาจจะมีการสั่ง ตั้งคณะพนักงานสอบสวนมาทำงานในเรื่องนี้ ซึ่งอาจจะมีระดับ รอง.ผบ.ตร. เป็นผู้รับผิดชอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบไปยังสำนักเลขานุการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ยังไม่หนังสือดังกล่าวส่งมาแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบไปยังกองคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ยังไม่มีหนังสือส่งมาเช่นเดียวกัน
“อภิรักษ์”สั่งปลัดสรุปคดีหมักใน 3 วัน
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัด กทม. ประสานไปยังสตง.เพื่อขอเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในเรื่องดังกล่าวเนื่องจากกทม. ยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้จะให้สำนักงานสิ่งแวดล้อม กทม. รายงานข้อเท็จจริงถึงที่มาที่ไปของเรื่องนี้โดยด่วนที่สุดภายใน 3 วัน โดยเฉพาะเรื่องสัญญา ส่วนจะดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้น ต้องรอข้อมูลที่ได้จาก สตง. และสำนักสิ่งแวดล้อมก่อนจึงจะตัดสินใจได้
สำหรับเอกชนที่ได้รับการจ้างเหมาให้ขนมูลฝอยของกทม. 3 โครงการ ได้แก่โรงกำจัดมูลฝอยอ่อนนุช ผู้รับเหมาคือห้างหุ้นส่วนไพโรจน์สมพงษ์พาณิช เซ็นสัญญาเมื่อ 20 ก.ค. 47 วงเงิน 3,546 ล้านบาท โดยขนขยะที่อ่อนนุชไปฝังกลบที่ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา สถานีขนถ่ายมูลฝอยท่าแร้ง เขตสายไหม ผู้รับเหมาคือ บริษัทวัสดุภัณฑ์ ธุรกิจ จำกัด เซ็นสัญญาเมื่อ 20 ก.ค. 2547 วงเงิน 2,993 ล้านบาท โดยขนขยะที่ท่าแร้งไปฝังกลบที่ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม โรงงานกำจัดมูลฝอยหนองแขม ผู้รับเหมาคือ บริษัทกลุ่ม 79 จำกัด เซ็นสัญญาเมื่อ 20 ก.ค. 47 วงเงิน 3,050 ล้านบาท โดยขนขยะที่หนองแขม ไปฝังกลบที่ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม