ศูนย์ข่าวขอนแก่น-"โกลบอลเฮ้าส์" แวร์เฮาส์ค้าวัสดุก่อสร้าง สวนกระแสเศรษฐกิจขาลงและความวุ่นวายการเมือง โอ่ผลประกอบการธุรกิจทั้งเครือขยายตัวกว่า 18% ขณะที่สาขาเปิดใหม่ที่เชียงใหม่กระแสตอบรับสูง เชื่อจุดแข็งนโยบายธุรกิจ จำหน่ายผลิตภัณฑ์หลากหลายและคุ้มค่าเงิน ดันยอดขายขยายตัว โชว์แผนลงทุนธุรกิจทุ่มเงินมากกว่า 1,000 ล้านบาท ขยายอาณาจักรธุรกิจสู่พื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออกอีก 4 จังหวัด เล็งเปิดสาขาระยองปลายปีนี้ ส่วนในอนาคตยังไม่ทิ้งแผนระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
นายวิทูร สุริยวนากุล กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ สาขาขอนแก่น จำกัด แวร์เฮาส์ค้าวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ในภาคอีสาน เปิดเผยถึงการดำเนินงานของโกลบอลเฮ้าส์ ว่า ภาพรวมการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปี 2550 ถึงปัจจุบัน โกลบอลเฮ้าส์ทั้ง 4 สาขา ร้อยเอ็ด ขอนแก่น อุดรธานี และสาขาใหม่ล่าสุดที่เชียงใหม่ ประสบผลสำเร็จน่าพอใจ ยอดขายสินค้าวัสดุก่อสร้างโดยรวมขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 18%
แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจปี 2550 กำลังซบเซา ไม่อำนวยต่อการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์รวมถึงธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายสูงมาก แต่กลับสร้างโอกาสให้ธุรกิจโกลบอลเฮ้าส์ ขยายตัวด้านยอดขายต่อไปได้ เพราะลูกค้าต้องการซื้อสินค้าวัสดุก่อสร้างคุ้มค่าเงินที่จ่ายไปให้มากที่สุด ตรงกับคอนเซ็ปต์ขายสินค้าวัสดุก่อสร้างของโกลบอลเฮ้าส์
"สินค้าวัสดุก่อสร้างมีความจำเป็นที่เกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 และการขยายตัวจำนวนประชากรยังคงมีแรงซื้ออย่างต่อเนื่อง แต่การซื้อวัสดุก่อสร้างลูกค้าจะพิจารณาเลือกซื้อกับผู้จำหน่าย ที่ให้ความคุ้มค่าเงินที่จ่ายไปมากที่สุด โดยโกลบอลเฮ้าส์ มีนโยบายจำหน่ายวัสดุก่อสร้างคุณภาพในราคาต่ำกว่าท้องตลาด และมีให้เลือกหลากหลาย ตรงกับความต้องการตลาด"นายวิทูรกล่าวและว่า
ลูกค้าตอบรับกับธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างในลักษณะแวร์เฮาส์ขนาดใหญ่ ในรูปแบบขายโมเดิร์นเทรด มีสินค้าครบวงจรตั้งแต่โครงสร้างภายนอกจนถึงสินค้าตกแต่งภายใน ให้เลือกครบทุกยี่ห้อและรูปแบบ จัด shelve สินค้าอย่างเป็นระบบ ขนาดพื้นที่ขายกว้างใหญ่กว่า 30,000 ตารางเมตร ที่กลุ่มโกลบอลเฮ้าส์ นำมาปรับใช้กับธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างเป็นรายแรกของประเทศ
ภาพธุรกิจจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้างปี 2549 ต่อเนื่องถึงปี 2550 มีการแข่งขันที่รุนแรงมาก เกิดธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างหลายราย ในจังหวัดหลักที่โกลบอลเฮ้าส์ตั้งอยู่ ซึ่งผลการแข่งขันที่รุ่นแรงได้ทำให้ตลาดค้าวัสดุก่อสร้างในพื้นที่นั้นโตขึ้นอีก เพราะกำลังซื้อส่วนใหญ่จากลูกค้าจังหวัดรอบข้าง ถูกกระตุ้นให้เข้ามาซื้อสินค้าในจังหวัดที่มีสีสันทางการแข่งขันสูง
ส่วนสาขาล่าสุด ที่ จ.เชียงใหม่ เปิดดำเนินงานมาตั้งแต่สิงหาคม 2549 และสาขาแรกที่โกลบอลเฮ้าส์ได้ขยายสาขานอกเขตภาคอีสาน แต่กลับปรากฏว่า ได้รับการตอบรับจากประชาชนในพื้นที่สูงมาก ถือเป็นสาขาใหญ่ที่สุดของโกลบอลเฮ้าส์ทั้ง 4 สาขา เพื่อรองรับตลาดขนาดใหญ่ ของจังหวัดเชียงใหม่และใกล้เคียง และในอนาคตจะเป็นสาขาหลักที่สร้างยอดขายสูงสุดของ โกลบอลเฮ้าส์
สำหรับภาพรวมการดำเนินงานปี 2549 เป็นอีกปีที่ยอดขายวัสดุก่อสร้างโกลบอลเฮ้าส์ ขยายตัวน่าพอใจ มียอดขายโดยรวมประมาณ 2,800 ล้านบาท ส่วนปี 2550 ตามแผนงานเดิม บริษัท คาดว่า ยอดขายของปี 2550 นี้น่าจะขยายตัวเพิ่มจากปี 2549 ประมาณ 25% แต่ผลพวงจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวรุนแรง และความวุ่นวายทางการเมือง ได้ส่งผลกระทบให้อัตราขยายตัวของธุรกิจไม่เป็นไปตามเป้าหมายนัก
ทั้งนี้ คาดว่าเมื่อสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจกลับเข้าสู่ภาวะปกติ จะทำให้กำลังซื้อส่วนใหญ่จะกลับมา โดยเฉพาะในแง่การจัดสรรเงินงบประมาณลงทุนของรัฐบาลออกสู่พื้นที่ต่างจังหวัด น่าจะเกิดโครงการรับเหมาก่อสร้าง และการจ้างงานเกิดขึ้น จะช่วยพื้นฟูและกระตุ้นให้เศรษฐกิจต่างจังหวัดปรับตัวดีขึ้น
เปิดแผนธุรกิจทุ่มเงินมหาศาล
เล็งขยายอาณาจักรอีก 4 จังหวัด
จากกระแสตอบรับที่ดีต่อธุรกิจ บริษัทได้กำหนดแผนขยายสาขาออกไปให้ครอบคลุมในจังหวัดที่มีศักยภาพตลาด ไม่จำกัดการขยายสาขาเฉพาะจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเท่านั้น ภายหลังการเปิดสาขาที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อสิงหาคมปีที่แล้ว บริษัทได้เจรจาจัดซื้อที่ดินในทำเลที่เหมาะสมในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก
นายวิทูร กล่าวว่า บริษัท ได้ทุ่มเงินลงทุนมหาศาลมากกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อที่ดินและลงทุนก่อสร้างสาขาโกลบอลเฮ้าส์ในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก เบื้องต้น 4 สาขา ที่ จ.ระยอง นครปฐม ชลบุรี และอยุธยา ด้วยการลงทุนประมาณ 300-400 ล้านบาท/สาขา ล่าสุดก่อสร้างที่ จ.ระยอง ใกล้เสร็จแล้ว คาดว่าน่าจะเปิดดำเนินงานภายในสิ้นปี 2550
สำหรับสาขาใหม่ทุกแห่งที่จะเกิดขึ้น จะใช้คอนเซ็ปต์เดียวกัน จัดพื้นที่ขายวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ในลักษณะแวร์เฮาส์ มีพื้นที่ขายมากกว่า 30,000 ตารางเมตร นำสินค้าเดียวกันหลายแบบและยี่ห้อให้ลูกค้าได้เลือกมากกว่า 60,000-70,000 รายการ ภายใต้บรรยากาศการขายแบบสมัยใหม่ (Modern trade) สร้างความแตกต่างจากร้านค้าวัสดุก่อสร้างทั่วไป
ส่วนสาขาที่จังหวัดชลบุรี นครปฐม และอยุธยา จัดซื้อที่ดินได้แล้วและกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะทยอยเปิดดำเนินงานได้ตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นไป ขณะเดียวกันบริษัท ได้จัดซื้อที่ดินที่ จ.กาฬสินธุ์ และอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดินที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งจะเป็นสาขาของโกลบอลเฮ้าส์ในอนาคต โดยโกลบอลเฮ้าส์จะขยายสาขาไปอย่างต่อเนื่อง ไม่น้อยกว่า 10-15 สาขาตามแผนการดำเนินงานในระยะ 5 ปีข้างหน้า
ด้านแผนการนำธุรกิจโกลบอลเฮ้าส์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทยังไม่ทิ้งแผนดังกล่าว เพื่อสร้างโอกาสการระดมทุนในตลาดหุ้น อยู่ระหว่างการจัดหาบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน เข้ามาเป็นที่ปรึกษาปรับโครงสร้างการบริหารสู่มาตรฐาน คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จภายในปี 2551 และคาดว่าจะเข้าเทรดในตลาดได้ประมาณปลายปี 2551 หรือต้นปี 2552
