หนองคาย-กรมวิชาการเกษตรชี้ พื้นที่หนองคายเหมาะปลูกปาล์มน้ำมัน เร่งศึกษาผลดีผลเสียก่อนผลักดันโครงการให้เกษตรกรหันมาปลูกปาล์มน้ำมัน แทนพืชเศรษฐกิจชนิดอื่น
เมื่อเร็วๆนี้จังหวัดหนองคายได้จัดประชุมตัวแทนส่วนราชการ ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในโครงการปลูกปาล์มน้ำมัน เพื่อทดแทนพลังงาน เพื่อร่วมกันพิจารณาการส่งเสริมปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่ จ.หนองคาย
นายสมเจตน์ ประทุมมินทร์ นักวิชาการเกษตร 9 กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงว่า ความต้องการใช้น้ำมันปาล์มของประเทศไทย ในปี 2549-2555 มีความต้องการน้ำมันบริโภคปีละ 8 แสนตัน ความต้องการน้ำมันดีเซล ปี 2549 จำนวน 55 ล้านลิตร ในปี 2555 จะเพิ่มขึ้นเป็น 85 ล้านลิตร จึงจำเป็นต้องมีพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน 7 ล้านไร่
แต่ขณะนี้ไม่มีพื้นที่ทางการเกษตรเพียงพอในการปลูกปาล์มน้ำมัน หน่วยงานราชการต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดของเกษตรกร ชี้ให้เห็นความสำคัญ รายได้ ความมั่นคงของการปลูกปาล์มน้ำมันซึ่งสามารถทำให้เกษตรกรมีรายได้ไม่น้อยกว่าปลูกยางพารา
นายสมเจตน์ระบุถึงสาเหตุที่ต้องการส่งเสริมให้เกษตรกร หันมาปลูกปาล์มน้ำมันกันมากขึ้น เนื่องจากเปอร์เซ็นต์น้ำมันต่อไร่ มีสัดส่วนสูงสุดกว่า 400 ลิตรน้ำมันต่อไร่ สภาพแวดล้อมไม่เสีย และยังสามารถปรับสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น ประกอบกับทำให้เศรษฐกิจสังคม เกษตรกรที่ปลูกมีรายได้มั่นคง ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเกษตรกรจากปลูกข้าวมาปลูกปาล์มน้ำมัน
กรมวิชาการเกษตรได้วิจัยแล้วเห็นว่าในพื้นที่ จ.หนองคาย เป็นพื้นที่ที่เหมาะต่อการปลูกปาล์มน้ำมัน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ จ.นครพนม และอุบลราชธานีที่เหมาะสมต่อการปลูกปาล์มน้ำมันอีกด้วย ประกอบกับโรงงานแปรรูปปาล์มน้ำมันเองก็ให้ความสนใจตั้งโรงงานเพิ่ม เพียงแต่ยังติดปัญหาว่าเกษตรกรไม่สนใจปลูกปาล์มน้ำมันป้อนโรงงานทำให้ยังไม่สามารถมีโรงงานในพื้นที่ได้
ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องร่วมกันพิจารณาถึงผลดีผลเสียของการปลูกปาล์มน้ำมัน และร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูลก่อนจะสรุปความคืบหน้า ว่าจะดำเนินโครงการสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกปาล์มน้ำมันมากน้อยเพียงใดในอนาคต
เมื่อเร็วๆนี้จังหวัดหนองคายได้จัดประชุมตัวแทนส่วนราชการ ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในโครงการปลูกปาล์มน้ำมัน เพื่อทดแทนพลังงาน เพื่อร่วมกันพิจารณาการส่งเสริมปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่ จ.หนองคาย
นายสมเจตน์ ประทุมมินทร์ นักวิชาการเกษตร 9 กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงว่า ความต้องการใช้น้ำมันปาล์มของประเทศไทย ในปี 2549-2555 มีความต้องการน้ำมันบริโภคปีละ 8 แสนตัน ความต้องการน้ำมันดีเซล ปี 2549 จำนวน 55 ล้านลิตร ในปี 2555 จะเพิ่มขึ้นเป็น 85 ล้านลิตร จึงจำเป็นต้องมีพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน 7 ล้านไร่
แต่ขณะนี้ไม่มีพื้นที่ทางการเกษตรเพียงพอในการปลูกปาล์มน้ำมัน หน่วยงานราชการต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดของเกษตรกร ชี้ให้เห็นความสำคัญ รายได้ ความมั่นคงของการปลูกปาล์มน้ำมันซึ่งสามารถทำให้เกษตรกรมีรายได้ไม่น้อยกว่าปลูกยางพารา
นายสมเจตน์ระบุถึงสาเหตุที่ต้องการส่งเสริมให้เกษตรกร หันมาปลูกปาล์มน้ำมันกันมากขึ้น เนื่องจากเปอร์เซ็นต์น้ำมันต่อไร่ มีสัดส่วนสูงสุดกว่า 400 ลิตรน้ำมันต่อไร่ สภาพแวดล้อมไม่เสีย และยังสามารถปรับสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น ประกอบกับทำให้เศรษฐกิจสังคม เกษตรกรที่ปลูกมีรายได้มั่นคง ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเกษตรกรจากปลูกข้าวมาปลูกปาล์มน้ำมัน
กรมวิชาการเกษตรได้วิจัยแล้วเห็นว่าในพื้นที่ จ.หนองคาย เป็นพื้นที่ที่เหมาะต่อการปลูกปาล์มน้ำมัน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ จ.นครพนม และอุบลราชธานีที่เหมาะสมต่อการปลูกปาล์มน้ำมันอีกด้วย ประกอบกับโรงงานแปรรูปปาล์มน้ำมันเองก็ให้ความสนใจตั้งโรงงานเพิ่ม เพียงแต่ยังติดปัญหาว่าเกษตรกรไม่สนใจปลูกปาล์มน้ำมันป้อนโรงงานทำให้ยังไม่สามารถมีโรงงานในพื้นที่ได้
ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องร่วมกันพิจารณาถึงผลดีผลเสียของการปลูกปาล์มน้ำมัน และร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูลก่อนจะสรุปความคืบหน้า ว่าจะดำเนินโครงการสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกปาล์มน้ำมันมากน้อยเพียงใดในอนาคต