ศูนย์ข่าวศรีราชา -ลองสเตย์ชลบุรียังได้รับความนิยม แม้ผลกระทบการเมือง-เศรษฐกิจจะทำให้การท่องเที่ยวของไทยและพัทยาชะลอตัว แต่กลุ่มเกษียณอายุต่างชาติ ทั้งยุโรปและสแกนดิเนเวียยังแห่จองที่พักในรูปบ้านเดี่ยว คอนโดฯ และห้องชุด ผ่านเอเยนซีเพื่อใช้เป็นที่พักชนิดรายเดือนและรายปี ขณะที่เจ้าของธุรกิจชี้นักลงทุนแห่ผุดห้องพักรับกลุ่มลองสเตย์มากขึ้น หลังวิเคราะห์ตลาดยังขยายได้ไกล โดยอำเภอสัตหีบและพื้นที่รอบพัทยาจะกลายเป็นจุดเศรษฐกิจแห่งใหม่ที่มีการผุดที่พักต่างๆ มากขึ้นหลังที่ดินว่างเปล่าในพัทยาเริ่มหมด
นางโสภิญ เทพจักร กรรมการบริหารกลุ่มไดอานากรุ๊ป ซึ่งดำเนินธุรกิจที่พักในรูปแบบโรงแรมและรีสอร์ต ลองสเตย์ในเมืองพัทยาเผยถึงอนาคตธุรกิจลองสเตย์ในเมืองพัทยาว่า จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 ปี ทั้งนี้เพราะกลุ่มเกษียณอายุต่างชาติ ทั้งในยุโรปและสแกนดิเนเวีย รวมถึงตลาดใหม่อย่างเกาหลี ยังคงนิยมจองที่พักทั้งในรูปแบบบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียมผ่านเอเยนซีต่างประเทศ เพื่อให้หาที่พักในรูปแบบที่ต้องการทั้งในลักษณะพักยาวและรายเดือน
ทั้งนี้ แม้รัฐบาลว่าจะออกกฎหมายนอมินี เพื่อป้องกันการถือครองสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติ แต่ก็ไม่ทำให้เจ้าของโครงการหรือผู้ต้องการเข้ามาใช้เมืองพัทยาเเป็นบ้านหลังสุดท้ายได้รับผลกระทบแต่อย่างใด เพราะเจ้าของโครงการชาวไทยต่างหันมาใช้วิธีทำสัญญาเช่าระยะยาว 20-30 ปีผ่านเอเยนซีต่างชาติแทน ทำให้หลายโครงการที่ผุดขึ้นใหม่สามารถระบายออกได้
"ค่าเงินที่ถูกกว่าของไทยทำให้ชาวต่างชาติที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลของเขา สามารถหาซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียมสำหรับใช้เป็นที่อยู่อาศัยในระยะยาวหรือช่วงหลังเกษียณได้อย่างสบาย โดยเฉพาะกลุ่มคนมีเงินที่ใช้เงินสดซื้อบ้านราคา 20-30 ล้านบาทเพื่อใช้เป็นบ้านหลังที่ 3 หรือ 4 ได้อย่างไม่เดือดร้อน ดังนั้น จึงเห็นได้ว่าแม้รัฐบาลไทยจะมีกฎหมายนอมินี เพื่อป้องกันการถือครองสิทธิ์ ของชาวต่างชาติ แต่เอเยนซีในเมืองนอกหรือแม้แต่เจ้าของโครงการชาวไทย ก็ยังมีวิธีเลี่ยงที่จะขายโครงการด้วยการกำหนดให้เช่าระยะยาว 20-30 ปีแทนการขายขาด "
นางโสภิญ ยังเผยอีกว่า ปัจจุบันในหลายจุดของเมืองพัทยาและพื้นที่โดยรอบ โดยเฉพาะอำเภอสัตหีบ มีการขึ้นคอนโดมิเนียมหลายร้อยยูนิตจำนวนมาก เพื่อรองรับการเข้าพักของกลุ่มลองสเตย์ ทั้งกลุ่มที่เข้ามาอยู่หลังเกษียณและกลุ่มที่เดินทางมาทำงานในจังหวัดชลบุรีและระยอง ซึ่งกลุ่มหลังบริษัทแม่จากต่างประเทศจะจองห้องพักในระยะยาวเพื่อให้ผู้บริหารของบริษัทได้ใช้เป็นที่พักอาศัยระหว่างทำงาน
ขณะนี้จุดที่มีการก่อสร้างคอนโดมิเนียม ที่เปิดรับผู้เข้าพักแบบลองสเตย์ในเมืองพัทยาจะอยู่ที่บริเวณถนนพัทยาสาย 3 ,จอมเทียน, พัทยาเหนือและวงศ์อำมาตย์ และจุดหลังนี้จะเป็นที่พักอาศัยที่ค่อนข้างหรูหราเนื่องจากมีพื้นที่ติดทะเล รวมทั้งบริเวณโดยรอบเมืองพัทยา อย่างอำเภอสัตหีบ ที่กำลังจะกลายเป็นทำเลทองแห่งใหม่ของธุรกิจ
ทั้งนี้ในส่วนของไดอานากรุ๊ป มีแผนที่จะเปิดตลาดผู้เข้าพักชาวต่างชาติ ที่เป็นกลุ่มคนพิการซึ่งต้องการเข้าพักอาศัยในเมืองพัทยา โดยจะต้องมีการลงทุนระบบสาธารณูปโภค ที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้าพักกลุ่มนี้ ซึ่งขณะนี้ได้รับการติดต่อจากกลุ่มคนพิการในบางประเทศแล้ว เพียงแต่รอให้ชัดเจนในรายละเอียดเกี่ยวกับการสนับสนุนของรัฐบาลประเทศนั้นก่อนตัดสินใจลงทุน และคาดว่าจะเป็นการลงทุนในลักษณะรีสอร์ต ที่มีการอำนวยความสะดวกในเรื่องของสถานพยาบาลและการดูแลทางการแพทย์
"เราไม่อยากให้สังคมมองว่า ที่เราเปิดรับแต่กลุ่มเกษียณอายุชาวต่างชาติ เป็นการนำขยะเข้ามาในเมืองพัทยา เพราะกลุ่มคนเหล่านี้จะใช้พัทยาเป็นบ้านหลังสุดท้ายของชีวิต เราจึงขยายตลาดมาที่กลุ่มคนพิการเพราะคนเหล่านี้มีกำลังซื้อสูงแต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ระบบสาธารณูปโภคที่ยังไม่เพียงพอ "
เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ศรีราชา โตไม่แพ้กัน
เช่นเดียวกับนายสมบูรณ์ วรปัญญาสกุล กรรมการผู้จัดการ แปซิฟิค พาร์ค กรุ๊ป ที่เผยถึงธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ในพื้นที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรีว่า เติบโตไม่แพ้เมืองพัทยา โดยจะแบ่งกลุ่มผู้เข้าพักลักษณะลองสเตย์อย่างชัดเจน กล่าวคือกลุ่มลองสเตย์พัทยา ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเกษียณอายุและผู้ทำงานชาวยุโรป แต่กลุ่มลองสเตย์ในศรีราชา คือกลุ่มชาวญี่ปุ่นและเอเชียที่เข้ามาทำงานในนิคมอุตสาหกรรมโดยรอบที่มีระยะการเข้าพักตั้งแต่ 6 เดือนถึง 1 ปี
ทำให้ปัจจุบันธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ของศรีราชาขยายตัวอย่างมาก และมีผู้ลงทุนในลักษณะนี้จำนวนมากเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันตัวเลขชาวญี่ปุ่นที่อยู่ในศรีราชา มีประมาณ 5 พันคนและในอนาคตตัวเลขจะขยายตัวมากกว่าที่เป็นอยู่