xs
xsm
sm
md
lg

“ยุทธพงศ์”วิ่งโร่ขอขมา คตส.-“สุเทพ”ยืนยันไม่เกี่ยว ปชป.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อนุฯไต่สวน ซีทีเอ็กซ์ ขอ 1 เดือนฟันแกงค์งาบเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด ส่วนอนุฯ เพิกถอนทรัพย์ เตรียมพิจารณาสำนวนถอนอายัดนัดแรก ถกกรอบการทำงาน ขณะที่ คตส.ชะงัก ยื่นฟั้อง “ทักษิณ” พร้อมพวกฐานหมิ่น หวั่นเสียเวลากระทบงานส่วนร่วม “สุเทพ” ซัด “ยุทธพงศ์” ก้าวร้าว คตส. ยันไม่เกี่ยวพรรค ด้านเจ้าตัววิ่งโร่ขอขมาหลัง คตส.ไม่พอใจ ศอกกลับ “สุเทพ” ยันทำงานในนามพรรค หากไม่ส่งลงสมัครถือว่าตลก “อุดม” เตือนอย่าออฟไซด์ไฟแรงจนช็อต

ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สนง.) ซึ่งเป็นสถานที่ ทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ว่าในช่วงเช้า วานนี้ (7 ส.ค.) มีการคณะอนุกรรมการไต่สวนโครงการออกฉลากพิเศษ เลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว หรือ หวยบนดิน ที่มี นายอุดม เฟื่องฟุ้ง เป็นประธาน โดยได้เชิญให้ผู้ถูกกล่าวหากรณีดังกล่าว เข้าชี้แจง แก้ข้อกล่าวหาเป็นวันแรก ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น. จำนวน 10 คน

ประกอบด้วย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายกร ทัพพะรังสี ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ นายวิษณุ เครืองาม พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ร.อ. สุชาติ เชาว์ศิษฐ์ นายวราเทพ รัตนากร และนายสนธยา คุณปลื้ม ทั้งนี้ เมื่อถึงเวลานัดปรากฏว่า ไม่มีอดีตรัฐมนตรีคนใด เดินทางเข้าชี้แจงแก้ข้อ กล่าวหาด้วยตนเอง มีเพียงการส่งตัวแทนมายื่นเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเท่านั้น

ส่วนความคืบหน้าคดีการจัดซื้อเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด ซีทีเอ็กซ์ 9000 ในสนามบินสุวรรณภูมิ ที่มีนายอำนวย ธันธรา เป็นประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนนั้น ได้เชิญผู้ถูกกล่าวหารายสุดท้าย ซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่น เข้ารับทราบข้อกล่าวหา โดยได้เดินทางเข้าชี้แจงข้อกล่าวหาพร้อมทนายความแล้ว ตั้งแต่เวลา 7.30 น.

แหล่งข่าวจากคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ เปิดเผยว่า ผู้ถูกกล่าวหาชาวญี่ปุ่นได้มอบอำนาจให้ทนายความมารับทราบข้อกล่าวหาแทน พร้อมขอเวลาในการเตรียมเอกสารเพื่อชี้แจงข้อกล่าวหา เป็นเวลา 1 เดือน คือในวันที่ 7 ก.ย. โดยอ้างว่าเนื่องจากต้องประสานไปยังต่างประเทศในการแปลเอกสาร และเตรียมเอกสาร อย่างไรก็ตามเมื่อครบกำหนดเมื่อวันที่ 7 ก.ย.แล้ว ทางอนุกรรมการไต่สวนก็จะสรุปสำนวนเพื่อเตรียมเสนอต่อที่ประชุม คตส.ชุดใหญ่ พิจารณาว่าจะมีมติชี้มูลความผิดใครบ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 8 ส.ค.นี้ คณะอนุกรรมการพิจารณา คำร้องการพิสูจน์ทรัพย์สินเพื่อขอให้ยกเลิกการอายัดทรัพย์บุคคลที่ คตส.มีมติให้อายัดทรัพย์สิน ที่มีนาย อำนวย ธันธรา เป็นประธาน จะมีการประชุมนัดแรกเพื่อวางกรอบ การทำงานรวมทั้งกำหนดทิศทางการดำเนินงานของ อนุกรรมการ หลังจากทีมทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ยืนสำนวนขอถอนอายัดทรัพย์สินบางส่วน ทั้งมีมีรายงานด้วยว่าเมื่อวันที่ 6 ส.ค. ที่ผ่านมา ทีมทนายจากสำนักงานทนายความบริษัท ธีรคุปต์ จำกัด ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือคำร้องเพื่อขอเพิกถอน การอายัด จำนวน 120,000 บาท โดยเป็นค่าจ้างในส่วนของที่ปรึกษาเกี่ยวกับคดีการซื้อขายหุ้น บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือชินคอร์ป

นายอุดม เฟื่องฟุ้ง กรรมการ คตส. กล่าวถึงมติ คตส.ในแจ้งความดำเนินคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คุณหญิง พจมาน ชินวัตร นาย พานทองแท้ น.ส.พิณทองทา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนาย บรรณพจน์ ดามาพงศ์ ในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน หลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณ และพวก มอบหมายให้ทนายยื่นหนังสือให้ คตส. พิจารณา เพิกถอนอายัดทรัพย์สินที่ได้จากการขายหุ้นชินคอร์ปให้แก่กองทุนเทมาเส็ก ซึ่งมีข้อความดูหมิ่น คตส.และการไม่มาให้ถ้อยคำกับ คตส.ว่า จะแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เขียนโนติสดังกล่าว แล้วให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปสอบเอาเองว่ามีใครบ้างที่เป็นคนสั่งให้เขียน เพราะการยื่นโนติส ไม่มีสิทธิมากล่าวหาว่า คตส.ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ หรือ กลั่นแกล้งได้ ขนาดหนังสือร้องเรียนที่มีการกล่าวหาเจ้าพนักงาน คนร้องเรียนยังติดคุกได้เลย

อย่างไรก็ตามจากการหารือล่าสุดเห็นตรงกันว่า สมควรเลื่อนการแจ้งความ ดำเนินคดีดังกล่าวเอาไว้ก่อน เนื่องจากเป็นเรื่องของตัวบุคคล หากมีการแจ้งความ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเรียกกรรมการ คตส.ทั้ง 11 คน ไปสอบ ทำให้เสียเวลา ถ้ามัวไปยุ่งเรื่องส่วนตัวอาจจะกระทบต่องานส่วนรวม เพราะเวลาการทำงานของ คตส.ใกล้จะหมดแล้ว ดังนั้นถ้างานส่วนรวมเสร็จถึงจะดำเนินการในเรื่องดังกล่าว

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ คตส. ติงว่าหนังสือที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยื่นหนังสือถึง ให้เปลี่ยนตัวประธานคณะกรรมการไต่สวนคดีการจัดซื้อรถดับเพลิง เรือดับเพลิง กทม.เป็นเจตนาไม่สุจริต ใช้ถ้อยคำที่ก้าวร้าว ดูหมิ่นว่า ดำเนินการของนายยุทธพงศ์ ไม่ได้ทำในนามพรรค และไม่ได้ปรึกษากรรมการบริหารหรือใครในพรรค ดังนั้นเมื่อไปก้าวร้าวหรือทำอะไรที่เป็นเรื่องเสียหาย นายยุทธพงศ์ จะต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง

ส่วนจะเรียกนายยุทธพงศ์ มาตักเตือนหรือไม่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า คงไม่เรียกมาตักเตือน เพราะความจริงแล้วนายยุทธพงศ์ ก็ตักเตือนไม่ได้อยู่แล้ว เพราะไม่เคยฟังตน แต่กรรมการบริหารจะคิดอย่างไรนั้น ยังไม่ทราบ

นายสุเทพ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่คนของพรรคประชาธิปัตย์ไปทำให้คนอื่น เสียหายซึ่งตนคิดว่าหากการไปแสดงความก้าวร้าวถึงขั้นหมิ่นประมาท ก็เป็นเรื่องที่ คตส.ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย ไม่ต้องกังวลใจว่าจะมีปัญหากับพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนพฤติกรรมของนายยุทธพงศ์ จะส่งผลต่อการส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่านายยุทธพงศ์ อาจจะมีแนวทางอะไรอยู่ในใจแล้ว เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมาปรึกษา หรือมาพบ หรือคุยอะไรกัน อย่างไรก็ตามการจัดคนลงสมัครรับเลือกตั้งนั้น พรรคมีคณะกรรมการพิจารณาอยู่แล้ว

“ผมไม่ได้ดูแลโดยตรง แต่ขณะนี้ชื่อรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งยังไม่ได้ประกาศ แต่หากมีหลักฐานว่านายยุทธพงศ์ ไม่สุจริต พรรคก็จะดำเนินการไปอีกแบบหนึ่ง แต่ตอนนี้ยังไม่มี และไม่มีข่าวคราวว่า พรรคไหนทาบทามนายยุทธพงศ์”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น.วันเดียวกัน นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำแจกันดอกไม้มาขอขมาต่อคณะกรรมการ คตส. ทั้ง 11 คน โดยมีนายนาม ยิ้มแย้ม คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา นายอุดม เฟื่องฟุ้ง นางเสาวนีย์ อัศวโรจน์ เป็นผู้รับมอบ

โดยนายยุทธพงษ์ กล่าวว่า เมื่อเอกสารที่ตนนำมายื่นให้ คตส.เปลี่ยนตัวประธานอนุกรรมการไต่สวนรถดับเพลิง กทม.ดูก้าวร้าวจึงได้นำดอกไม้มาขอขมา แต่ยืนยันว่าเป็นเพราะต้องการตรวจสอบการทุจริตโครงการรถดับเพลิงของ กทม. และเพื่อนำเอกสารการทุจริตมาให้ คตส.ไม่ได้มีเรื่องอื่นหรือเพื่อให้เป็นประเด็นทางการเมือง

“ผมตรวจสอบเรื่องนี้ตั้งแต่สมัยนายบัญญัติ บรรทัดฐานเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งท่านก็สนับสนุน และให้กำลังใจ พร้อมสั่งให้เดินหน้า การทำครั้งนี้ไม่ได้ทำในนามส่วนตัว และอยากทวงบุญคุณ คตส.ด้วย เพราะหากไม่มีผมตรวจสอบ คตส.คงไม่รับเรื่องนี้ไปสอบ และถ้า คตส.จะไม่สอบต่อ ก็น่าจะส่งคืนไปให้ ป.ป.ช.ไปสอบต่อ”

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า การที่นายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส.ระบุว่า ตนไปแทรกแซง คตส. อยากถามว่า แล้วพูดแบบนี้แทรกแซงการทำงานพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ แล้วเวลานายสักทำงานจะฟังคำสั่งจากพรรคการเมืองไหนบ้าง ความจริงคำพูดของนายสักตนสามารถยื่นฟ้องได้เพราะถือเป็นการดูหมิ่น ทำให้เสียชื่อเสียง

ส่วนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ระบุว่าการกระทำครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับพรรคนั้น นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า นายสุเทพ เป็นผู้ใหญ่ที่ตนนับถือจะไม่ตอบโต้ การพูดดังกล่าวคงเพราะมีความไม่เข้าใจ แต่พร้อมจะชี้แจงให้เข้าใจ และยืนยันจะเคลื่อนไหวเรื่องนี้ต่อไป ทำไปในฐานะที่เปิดประเด็นอยากทำให้สิ่งที่ทำสำเร็จ และตอบประชาชนได้ว่าจบอย่างไร ตนเป็นอดีตส.ส.มหาสารคามและไม่เคยคิดจะลงสมัครส.ส.ในกรุงเทพมหานครและไม่เคยคิดย้ายออกจากประชาธิปัตย์

“ขนาดการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชวนไปอยู่ไทยรักไทยยังไม่ไปเลย เพราะคิดว่าติดหนี้บุญคุณพรรคประชาธิปัตย์ การที่เคลื่อนไหวเรื่องนี้ แล้วพรรคจะไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งถือเป็นเรื่องตลก เพราะประชาธิปัตย์อยู่มา 62 ปีเพราะยึดมั่นในความถูกต้องดังนั้นจะต้องยืนยันในหลักการเรื่องนี้ และเป็นเรื่องดีกับพรรคเสียอีกด้วยซ้ำเพราะจะได้ตอบโต้กับนายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่ากทม.ที่จะไปอยู่กับพรรคพลังประชาชน”

ด้าน นายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส.กล่าวในระหว่างการรับดอกไม้ ว่านายประเสริฐ บุญศรี ประธานอนุกรรมการไต่สวนฯมีประวัติการทำงานดีเป็นอดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม เพราะฉะนั้นการที่มาขอให้ถอดออกจากประธานอนุกรรมการไต่สวน ถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ส่วนที่นายยุทธพงศ์ ตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดจึงไม่มีการ เรียกเขาไปให้ข้อมูลกับ คตส.นั้นก็ไม่ต้องสงสัยเพราะพยานบางปากให้การดีกว่านายยุทธพงศ์ ด้วยซ้ำ

“จะบอกว่า คตส.เข้าข้างคนโน้น คนนี้นั้นไม่มีแน่นอน ถ้าเรื่องหลุด ก็ไปหลุดที่ศาล แต่ถ้าพอหลุดจะมาโทษ คตส.ไม่ได้นะ เพราะอยู่ที่หลักฐาน”

นายอุดม เฟื่องฟุ้ง กล่าวว่า อยากบอกว่านายยุทธพงศ์ เป็นนักการเมืองที่มีไฟ แต่หากใช้ไฟที่ไม่ถูกต้องก็เหมือนวิ่งลงตกน้ำและก็ดับไปในที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น