กมธ.พิจารณาร่างงบประมาณ แขวนโครวการไม่มีรายละเอียดชัดเจนกว่า 8.6 หมื่นล้านบาท ติงรัฐมนตรีจัดงบไม่ดูภาพรวม แต่จัดสรรงบในลักษณะตามความพึงพอใจของรัฐมนตรีเอง ด้าน “เสรีพิศุทธ์” ยันจะสาวให้ถึงตัวบงการม็อบไข่แม้ว ก่อความวุ่นวายให้บ้านเมือง
นายอรรคพล สรสุชาติ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2551 สภานิติบัญญัติแห่งชาติ แถลงว่า ขณะนี้กรรมาธิการพิจารณางบประมาณผ่านมาแล้ว 5สัปดาห์ ซึ่งยังเหลือกระทรวงศึกษาธิการ และส่วนราชการที่สังกัดสำนักนายกฯยังไม่ได้พิจารณา รวมทั้งรายการที่แขวนการพิจารณาไว้จำนวน 86,209 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการใหญ่ ๆ เช่นงบกลาง ในส่วนของเงินสำรองจ่ายฉุกเฉิน และจำเป็น โครงการอยู่ดีมีสุข กรมธนารักษ์ในส่วนของค่าเช่าพื้นที่ศูนย์ราชการบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ โครงการบ้านเอื้ออาทรของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งยังไม่มีผลการดำเนินงานที่ชัดเจน
นอกจากนี้ยังไม่รวมถึงกรณีที่ได้มอบหมายให้สำนักงบประมาณไปพิจารณาภาพรวมของกองทุนและเงินทุนหมุนเวียนอีก 3 ส่วน จำนวน 125,000 กว่าล้านบาทที่ไม่ได้สร้างผลงานและกองไว้ก็ไม่มีประโยชน์ แต่กลับให้รัฐบาลจัดงบผูกพันเพิ่มในแต่ละปี องค์กรมหาชน และหน่วยงานในกำกับ 24 หน่วยงาน ซึ่งมีการจ่ายเงินเดือนสูงมาก บุคลากรไม่มีความรู้ความสามารถ และมีการทำงานที่ซ้ำซ้อน
นายอรรคพล กล่าวว่า กรรมาธิการได้ตั้งข้อเกตว่ารัฐบาลไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควรกับการจัดสรรงบประมาณ รัฐมนตรีแต่ละคนไม่ได้ดูวัตถุประสงค์โดยรวมของนโยบาย อาจคิดว่าจัดทำงบประมาณก็ไม่ได้ใช้เอง จึงไม่มีความเป็นห่วง ซึ่งเท่าที่ดูก็เป็นการจัดสรรก็เป็นงบส่วนตัวของแต่ละกระทรวง มีความแปรงบตามความพึ่งพอใจของรัฐมนตรี เป็นเป้าหมายส่วนตัว หรือว่ากลุ่มงานที่ตัวเองให้ความสนใจเป็นพิเศษเท่านั้น เพราะฉะนั้นเมื่อเข้าสู่การพิจารณาของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในวาระ 2-3 คงจะได้มีการซักถามรัฐมนตรีต่อไป
นายอรรคพล กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2551 สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้พิจารณาในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ตั้งงบประมาณไว้จำนวน 62,088 ล้านบาท โดยกรรมาธิการฯได้มีการซักถามการดำเนินการกับม็อบ แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) โดยเฉพาะการเข้าสลายการชุมนุม ที่หน้าบ้านพัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ
ทั้งนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร.ได้ชี้แจงว่า เป็นที่ทราบกันดีว่า เหตุผลและวัตถุประสงค์ของการเคลื่อนไหวคืออะไร ซึ่งที่ผ่านมาทางตำรวจ มีนโยบายในการประนีประนอมอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง ซึ่งหากว่า มีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องก็จะทำให้เกิดเหตุการณ์จลาจลหรือความวุ่นวายได้ ซึ่งที่ผ่านมากลุ่ม นปก.ก็มีการโจมตีผู้หลัก ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามอะลุ้มอล่วย และเมื่อมีการเคลื่อนมาตามถนนต่าง ๆ ก็พยายามสกัดกั้นจนถึงวันที่ 22 ก.ค.ที่กลุ่ม นปก.มาปักหลักชุมนุมใช้เครื่องขยายเสียงแรงสูงโจมตี พล.อ.เปรม และยังมีการทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เพราะไม่ได้เตรียมอุปกรณ์เพื่อมารับมือ จึงได้ตัดสินใจสลายการชุมนุม จนมีการจับกุมแกนนำนปก.15 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้พยายามสืบสวนหาตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังการชุมนุมให้ได้ตามที่กรรมาธิการบางคนเสนอให้นำตัวมาดำเนินคดีให้ได้ ทั้งนี้ถือว่าการปฎิบัติการครั้งนี้หลายฝ่ายเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการถูกต้อง จึงทำให้มีกำลังใจมากขึ้นที่ทำงานถูกทิศถูกทาง ยืนยันจะปฎิบัติหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยต่อไป
นายอรรคพล สรสุชาติ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2551 สภานิติบัญญัติแห่งชาติ แถลงว่า ขณะนี้กรรมาธิการพิจารณางบประมาณผ่านมาแล้ว 5สัปดาห์ ซึ่งยังเหลือกระทรวงศึกษาธิการ และส่วนราชการที่สังกัดสำนักนายกฯยังไม่ได้พิจารณา รวมทั้งรายการที่แขวนการพิจารณาไว้จำนวน 86,209 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการใหญ่ ๆ เช่นงบกลาง ในส่วนของเงินสำรองจ่ายฉุกเฉิน และจำเป็น โครงการอยู่ดีมีสุข กรมธนารักษ์ในส่วนของค่าเช่าพื้นที่ศูนย์ราชการบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ โครงการบ้านเอื้ออาทรของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งยังไม่มีผลการดำเนินงานที่ชัดเจน
นอกจากนี้ยังไม่รวมถึงกรณีที่ได้มอบหมายให้สำนักงบประมาณไปพิจารณาภาพรวมของกองทุนและเงินทุนหมุนเวียนอีก 3 ส่วน จำนวน 125,000 กว่าล้านบาทที่ไม่ได้สร้างผลงานและกองไว้ก็ไม่มีประโยชน์ แต่กลับให้รัฐบาลจัดงบผูกพันเพิ่มในแต่ละปี องค์กรมหาชน และหน่วยงานในกำกับ 24 หน่วยงาน ซึ่งมีการจ่ายเงินเดือนสูงมาก บุคลากรไม่มีความรู้ความสามารถ และมีการทำงานที่ซ้ำซ้อน
นายอรรคพล กล่าวว่า กรรมาธิการได้ตั้งข้อเกตว่ารัฐบาลไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควรกับการจัดสรรงบประมาณ รัฐมนตรีแต่ละคนไม่ได้ดูวัตถุประสงค์โดยรวมของนโยบาย อาจคิดว่าจัดทำงบประมาณก็ไม่ได้ใช้เอง จึงไม่มีความเป็นห่วง ซึ่งเท่าที่ดูก็เป็นการจัดสรรก็เป็นงบส่วนตัวของแต่ละกระทรวง มีความแปรงบตามความพึ่งพอใจของรัฐมนตรี เป็นเป้าหมายส่วนตัว หรือว่ากลุ่มงานที่ตัวเองให้ความสนใจเป็นพิเศษเท่านั้น เพราะฉะนั้นเมื่อเข้าสู่การพิจารณาของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในวาระ 2-3 คงจะได้มีการซักถามรัฐมนตรีต่อไป
นายอรรคพล กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2551 สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้พิจารณาในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ตั้งงบประมาณไว้จำนวน 62,088 ล้านบาท โดยกรรมาธิการฯได้มีการซักถามการดำเนินการกับม็อบ แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) โดยเฉพาะการเข้าสลายการชุมนุม ที่หน้าบ้านพัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ
ทั้งนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร.ได้ชี้แจงว่า เป็นที่ทราบกันดีว่า เหตุผลและวัตถุประสงค์ของการเคลื่อนไหวคืออะไร ซึ่งที่ผ่านมาทางตำรวจ มีนโยบายในการประนีประนอมอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง ซึ่งหากว่า มีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องก็จะทำให้เกิดเหตุการณ์จลาจลหรือความวุ่นวายได้ ซึ่งที่ผ่านมากลุ่ม นปก.ก็มีการโจมตีผู้หลัก ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามอะลุ้มอล่วย และเมื่อมีการเคลื่อนมาตามถนนต่าง ๆ ก็พยายามสกัดกั้นจนถึงวันที่ 22 ก.ค.ที่กลุ่ม นปก.มาปักหลักชุมนุมใช้เครื่องขยายเสียงแรงสูงโจมตี พล.อ.เปรม และยังมีการทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เพราะไม่ได้เตรียมอุปกรณ์เพื่อมารับมือ จึงได้ตัดสินใจสลายการชุมนุม จนมีการจับกุมแกนนำนปก.15 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้พยายามสืบสวนหาตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังการชุมนุมให้ได้ตามที่กรรมาธิการบางคนเสนอให้นำตัวมาดำเนินคดีให้ได้ ทั้งนี้ถือว่าการปฎิบัติการครั้งนี้หลายฝ่ายเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการถูกต้อง จึงทำให้มีกำลังใจมากขึ้นที่ทำงานถูกทิศถูกทาง ยืนยันจะปฎิบัติหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยต่อไป