.
สัจธรรมแห่งความจริงที่ว่า...
“ไม่มีอะไรในโลกนี้ จะซื้อเวลาที่เดินไปข้างหน้าให้กลับคืนมาได้!”
เมืองไทยวันนี้มีเรื่องให้อารมณ์หงุดหงิดมากมายหลายเรื่อง หนึ่งในเรื่องที่สังคมไม่พึงปรารถนา คือ กลุ่ม นปก.หรือแก๊ง “นรกป่วนกรุง” ที่ป่วนชาติด้วยม็อบไร้สติ-ไร้เหตุผลอยู่ทุกวันนี้ไงล่ะครับ
ไม่มีใครโง่พอที่จะเชื่อว่า ทักษิณ-พจมานไม่รู้ไม่เห็น เพราะคนอย่างวีระ มุสิกพงศ์ และแก๊ง นปก.นรกป่วนกรุงน่ะ ไม่มีปัญญาหาเงินมากมายมาจ้างคน จัดชุมนุมกันนับพันคนทุกวันหรอกครับ
คอการเมืองวงในต่างรู้ดีว่า กำพืดวีระและพรรคพวก นปก.นั้น แม้นจะไม่รวย-ไม่จน แต่คนพวกนี้ไม่มีวันเอาเงินตัวเอง มาทุ่มกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกระบบ ที่มีแต่จ่ายกับจ่ายทุกวี่วัน เพราะนิสัยคนพวกนี้ มีแต่รับลูกเดียวครับ
ดังนั้น..งานนี้คนเขาเลยเชื่อกันว่า ทักษิณ-พจมานนั่นแหละจ่าย เพียงแต่จะจ่ายตรงหรือจ่ายอ้อมผ่านคนอื่นเท่านั้นแหละ
ยุทธการป่วน คมช. ป่วนรัฐบาลสุรยุทธ์ ป่วนชาติ ป่วนทุกอย่างเท่าที่จะป่วนได้ โดยไม่แยแสว่าประเทศชาติจะเสียหายสักปานใด นั่นคือความเลือดเย็นและไร้ซึ่งความรักชาติ ของบรรดาพวกแก๊งนรกป่วนกรุง นปก.
เป้าหมายการป่วนอย่างต่อเนื่อง ก็เพียงเพื่อให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพรรคพวกกลับมามีอำนาจอีกครั้งเท่านั้นเอง!
การประท้วงยิ่งไร้สติขาดเหตุผล เมื่อยกเอาป๋าเปรมเป็นเป้าโจมตีอย่างเอาเป็นเอาตาย มิไยที่ผู้คนในสังคมจะเฝ้าบอกและห้ามปรามว่า ป๋าเปรมเป็นประธานองคมนตรีที่ในหลวงทรงแต่งตั้ง จะล่วงละเมิดนั้นไม่บังควร แต่พวกนรกป่วนกรุงกลับไม่ฟัง แถมเหิมเกริมถึงขนาดยกขบวนไปปิดถนน เพื่อด่าป๋าเปรมถึงหน้าบ้านสี่เสาอย่างหยาบคาย
เท่านั้นไม่พอ ยังบังอาจขว้างปาสิ่งของใส่บ้านป๋าเปรม ก่อนจะยกพวกทำร้ายตำรวจอย่างป่าเถื่อน ถึงขนาดขับรถพุ่งชนนักข่าวและตำรวจแบบเอากันถึงตายเลยทีเดียว
บอกไว้ตรงนี้เลยว่า คนไทยทนความสามานย์ของพวกที่บังอาจจาบจ้วงทั้งทางตรงและทางอ้อม ต่อสถาบันเบื้องสูงของปวงชนชาวไทยไม่ได้อีกแล้ว
เพราะคนพวกนี้มิใช่คนโง่ บางคนเคยเป็นรัฐมนตรีมาแล้ว บางคนเป็นถึงนายแพทย์ บางคนเรียนจากเมืองนอกเมืองนา อย่างน้อยคนพวกนี้ก็จบปริญญาตรี แต่กลับสามานย์ทางความคิด เลวในด้านการกระทำ อำนาจและเงินตรา ง้างคุณธรรมความดีไปจากคนพวกนี้จนหมดสิ้นแล้ว
ดังนั้นเมื่อมีคนเสนอว่า รัฐบาลและคมช.น่าจะจับเข่าคุยกับคนพวกนี้ พูดตรงๆ จะให้สมานฉันท์กันซะ ถึงวันนี้..รัฐประหารผ่านล่วงมาเกือบ 10 เดือนแล้ว ผมว่าไอ้คนเสนอแบบนั้นไม่บ้าก็เมา
เจ้าพวกนรกป่วนกรุงนั้นไม่สนใจเหตุผลใดอีก รับจ้างเขาทำงานป่วนชาติ หากไม่ทำก็ไม่ได้รับค่าจ้างน่ะสิ จะคุยภาษาอะไรล่ะกับคนพวกนี้ ถึงจะรู้เรื่องและเข้าใจ?
ผมว่าวันนี้มีหนทางเดียวสำหรับ คมช.และรัฐบาลสุรยุทธ์ นั่นคือ ไม่ว่า นปก.นรกป่วนกรุงหรือใครหน้าไหนทำผิดกฎหมาย ทำความเดือดร้อนต่อประชาชน คมช.และรัฐบาลต้องจัดการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดเท่านั้นครับ
ที่ผ่านมาพล.อ.สุรยุทธ์และพล.อ.สนธิ ยังตอบสังคมไม่ได้เลยว่า ทำอีท่าไหนจึงปล่อยให้พล.อ.เปรมที่ประชาชนและทหารยกย่อง ถูกพวกสามานย์อย่างพวกนรกป่วนกรุง ยกกำลังไปย่ำยีหยามเหยียดก่นด่าอย่างหยาบคาย ถึงหน้าบ้านป๋าเปรมได้อย่างไร?
หากรัฐบาลสุรยุทธ์และ คมช.ยังเหยาะแหยะไม่เอาถ่าน อ่อนปวกเปียกหรือหน่อมแน้ม ไร้ฝีมือจนพวกนรกป่วนกรุง ทำให้บ้านเมืองเสียหายอีกครั้ง ผมว่า..รัฐบาลสุรยุทธ์และคมช.น่าจะกลับไปเลี้ยงหลานที่บ้านดีกว่า
เห็นคนเลวคนพาลป่วนชาติแล้ว ทำให้อดห่วงไม่ได้ว่า รัฐบาลสุรยุทธ์กับ คมช.เร่งวันให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วนั้น ผมไม่เห็นหลักประกันอะไรเลยว่า พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงประทานกับพสกนิกรชาวไทยว่า
ต้องทำให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง จะเป็นจริงขึ้นมาได้!
นายกฯ สุรยุทธ์และ “บิ๊กบัง” บอกประชาชนคนไทยหน่อยสิว่า มีหลักประกันอะไรที่จะรับรองได้ว่า การเลือกตั้งที่กำลังจะมีในภายหน้านี้ คนดีจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนดีจะได้เป็นรัฐมนตรี คนดีจะได้เข้าไปในรัฐสภา?
เท่าที่ผมประมวลสถานการณ์ตอนนี้ คนเลวต่างหากจะได้ครองเมือง คนพันธุ์อีแอบที่เป็นพวกพ้องของ นปก.นรกป่วนกรุงต่างหาก ที่กำลังจะได้ครองบ้านครองเมือง แล้วถึงวันนั้น...คนดีกับบ้านเมืองจะโดนย่ำยีขนาดไหน?
ใครจะรับผิดชอบความเลวที่เกิดขึ้นในวันนั้น? คุณสุรยุทธ์ จุลานนท์และ คุณสนธิ บุญยรัตกลิน จะรับผิดชอบอย่างไรล่ะ?
วันที่มีอำนาจ วันที่ประชาชนให้การสนับสนุน วันที่จะทำอะไรดีๆ ให้บ้านเมืองได้ กลับเอามือซุกหีบ ทำตัวเช้าชามเย็นชาม กลับอ้างคำสมานฉันท์ แอบไปตกลงโน่นนี่กับพวกปล้นบ้านปล้นเมือง กลับละเมิดคำสัญญา 4 ประการ ที่ให้ไว้กับประชาชนในวันทำการรัฐประหารดื้อๆ
ผมไม่แปลกใจเลยเมื่อคำตอบมันฟ้องว่า พล.อ.สนธิกับพวกไม่กี่คนใน คมช.เกิดกิเลสอยากเป็นนายกรัฐมนตรี และจะลงเล่นการเมืองในอนาคต ก็เลยต้องรักษาภาพพจน์ (แบบผิดๆ) ด้วยการไม่ทำอะไรเด็ดขาด ทำตัวเป็นนักประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่หมวกเผด็จการสวมโทนโท่อยู่บนหัว!
ส่วนท่านนายกรัฐมนตรีสุรยุทธ์นั้น ก็ต้องทำตัวนุ่มนวลเป็นสุภาพบุรุษประชาธิปไตย (ทั้งที่มาจากเผด็จการเช่นกัน) เพราะหวังจะกลับไปดำรงตำแหน่งบางตำแหน่ง ที่อยากจะเป็น ก็เลยนุ่มนิ่มหน่อมแน้มตามไปด้วย
ผมว่า..พอได้แล้วมั้ง ยุติคำว่าสมานฉันท์แบบผิดๆ ได้แล้ว ช่วยใช้บั้นปลายชีวิตและอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ บริหารบ้านให้เป็นบ้าน ทำเมืองให้เป็นเมือง ทำกฎหมายให้เป็นกฎหมายได้แล้ว
บทเรียน-บทสรุปจากกรณีแก๊งนรกป่วนกรุงบุกบ้านป๋าเปรม บอกให้รู้ว่า พล.อ.สุรยุทธ์และพล.อ.สนธิ ควรจะยุติการเอาแต่สร้างภาพตนเองให้ดูดี ในสายตาประชาชนเสียที ถึงวันนี้สองนายพลเอกผู้รับผิดชอบบ้านเมือง จะต้องเลือกทำทุกอย่างเพื่อชาติและประชาชนก่อน..
เพราะวันนี้ชาติบ้านเมืองน่ะ บอบช้ำมามากพอแล้วนะ..พ่อคุณพ่อมหาจำเริญ???
สัจธรรมแห่งความจริงที่ว่า...
“ไม่มีอะไรในโลกนี้ จะซื้อเวลาที่เดินไปข้างหน้าให้กลับคืนมาได้!”
เมืองไทยวันนี้มีเรื่องให้อารมณ์หงุดหงิดมากมายหลายเรื่อง หนึ่งในเรื่องที่สังคมไม่พึงปรารถนา คือ กลุ่ม นปก.หรือแก๊ง “นรกป่วนกรุง” ที่ป่วนชาติด้วยม็อบไร้สติ-ไร้เหตุผลอยู่ทุกวันนี้ไงล่ะครับ
ไม่มีใครโง่พอที่จะเชื่อว่า ทักษิณ-พจมานไม่รู้ไม่เห็น เพราะคนอย่างวีระ มุสิกพงศ์ และแก๊ง นปก.นรกป่วนกรุงน่ะ ไม่มีปัญญาหาเงินมากมายมาจ้างคน จัดชุมนุมกันนับพันคนทุกวันหรอกครับ
คอการเมืองวงในต่างรู้ดีว่า กำพืดวีระและพรรคพวก นปก.นั้น แม้นจะไม่รวย-ไม่จน แต่คนพวกนี้ไม่มีวันเอาเงินตัวเอง มาทุ่มกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกระบบ ที่มีแต่จ่ายกับจ่ายทุกวี่วัน เพราะนิสัยคนพวกนี้ มีแต่รับลูกเดียวครับ
ดังนั้น..งานนี้คนเขาเลยเชื่อกันว่า ทักษิณ-พจมานนั่นแหละจ่าย เพียงแต่จะจ่ายตรงหรือจ่ายอ้อมผ่านคนอื่นเท่านั้นแหละ
ยุทธการป่วน คมช. ป่วนรัฐบาลสุรยุทธ์ ป่วนชาติ ป่วนทุกอย่างเท่าที่จะป่วนได้ โดยไม่แยแสว่าประเทศชาติจะเสียหายสักปานใด นั่นคือความเลือดเย็นและไร้ซึ่งความรักชาติ ของบรรดาพวกแก๊งนรกป่วนกรุง นปก.
เป้าหมายการป่วนอย่างต่อเนื่อง ก็เพียงเพื่อให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพรรคพวกกลับมามีอำนาจอีกครั้งเท่านั้นเอง!
การประท้วงยิ่งไร้สติขาดเหตุผล เมื่อยกเอาป๋าเปรมเป็นเป้าโจมตีอย่างเอาเป็นเอาตาย มิไยที่ผู้คนในสังคมจะเฝ้าบอกและห้ามปรามว่า ป๋าเปรมเป็นประธานองคมนตรีที่ในหลวงทรงแต่งตั้ง จะล่วงละเมิดนั้นไม่บังควร แต่พวกนรกป่วนกรุงกลับไม่ฟัง แถมเหิมเกริมถึงขนาดยกขบวนไปปิดถนน เพื่อด่าป๋าเปรมถึงหน้าบ้านสี่เสาอย่างหยาบคาย
เท่านั้นไม่พอ ยังบังอาจขว้างปาสิ่งของใส่บ้านป๋าเปรม ก่อนจะยกพวกทำร้ายตำรวจอย่างป่าเถื่อน ถึงขนาดขับรถพุ่งชนนักข่าวและตำรวจแบบเอากันถึงตายเลยทีเดียว
บอกไว้ตรงนี้เลยว่า คนไทยทนความสามานย์ของพวกที่บังอาจจาบจ้วงทั้งทางตรงและทางอ้อม ต่อสถาบันเบื้องสูงของปวงชนชาวไทยไม่ได้อีกแล้ว
เพราะคนพวกนี้มิใช่คนโง่ บางคนเคยเป็นรัฐมนตรีมาแล้ว บางคนเป็นถึงนายแพทย์ บางคนเรียนจากเมืองนอกเมืองนา อย่างน้อยคนพวกนี้ก็จบปริญญาตรี แต่กลับสามานย์ทางความคิด เลวในด้านการกระทำ อำนาจและเงินตรา ง้างคุณธรรมความดีไปจากคนพวกนี้จนหมดสิ้นแล้ว
ดังนั้นเมื่อมีคนเสนอว่า รัฐบาลและคมช.น่าจะจับเข่าคุยกับคนพวกนี้ พูดตรงๆ จะให้สมานฉันท์กันซะ ถึงวันนี้..รัฐประหารผ่านล่วงมาเกือบ 10 เดือนแล้ว ผมว่าไอ้คนเสนอแบบนั้นไม่บ้าก็เมา
เจ้าพวกนรกป่วนกรุงนั้นไม่สนใจเหตุผลใดอีก รับจ้างเขาทำงานป่วนชาติ หากไม่ทำก็ไม่ได้รับค่าจ้างน่ะสิ จะคุยภาษาอะไรล่ะกับคนพวกนี้ ถึงจะรู้เรื่องและเข้าใจ?
ผมว่าวันนี้มีหนทางเดียวสำหรับ คมช.และรัฐบาลสุรยุทธ์ นั่นคือ ไม่ว่า นปก.นรกป่วนกรุงหรือใครหน้าไหนทำผิดกฎหมาย ทำความเดือดร้อนต่อประชาชน คมช.และรัฐบาลต้องจัดการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดเท่านั้นครับ
ที่ผ่านมาพล.อ.สุรยุทธ์และพล.อ.สนธิ ยังตอบสังคมไม่ได้เลยว่า ทำอีท่าไหนจึงปล่อยให้พล.อ.เปรมที่ประชาชนและทหารยกย่อง ถูกพวกสามานย์อย่างพวกนรกป่วนกรุง ยกกำลังไปย่ำยีหยามเหยียดก่นด่าอย่างหยาบคาย ถึงหน้าบ้านป๋าเปรมได้อย่างไร?
หากรัฐบาลสุรยุทธ์และ คมช.ยังเหยาะแหยะไม่เอาถ่าน อ่อนปวกเปียกหรือหน่อมแน้ม ไร้ฝีมือจนพวกนรกป่วนกรุง ทำให้บ้านเมืองเสียหายอีกครั้ง ผมว่า..รัฐบาลสุรยุทธ์และคมช.น่าจะกลับไปเลี้ยงหลานที่บ้านดีกว่า
เห็นคนเลวคนพาลป่วนชาติแล้ว ทำให้อดห่วงไม่ได้ว่า รัฐบาลสุรยุทธ์กับ คมช.เร่งวันให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วนั้น ผมไม่เห็นหลักประกันอะไรเลยว่า พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงประทานกับพสกนิกรชาวไทยว่า
ต้องทำให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง จะเป็นจริงขึ้นมาได้!
นายกฯ สุรยุทธ์และ “บิ๊กบัง” บอกประชาชนคนไทยหน่อยสิว่า มีหลักประกันอะไรที่จะรับรองได้ว่า การเลือกตั้งที่กำลังจะมีในภายหน้านี้ คนดีจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนดีจะได้เป็นรัฐมนตรี คนดีจะได้เข้าไปในรัฐสภา?
เท่าที่ผมประมวลสถานการณ์ตอนนี้ คนเลวต่างหากจะได้ครองเมือง คนพันธุ์อีแอบที่เป็นพวกพ้องของ นปก.นรกป่วนกรุงต่างหาก ที่กำลังจะได้ครองบ้านครองเมือง แล้วถึงวันนั้น...คนดีกับบ้านเมืองจะโดนย่ำยีขนาดไหน?
ใครจะรับผิดชอบความเลวที่เกิดขึ้นในวันนั้น? คุณสุรยุทธ์ จุลานนท์และ คุณสนธิ บุญยรัตกลิน จะรับผิดชอบอย่างไรล่ะ?
วันที่มีอำนาจ วันที่ประชาชนให้การสนับสนุน วันที่จะทำอะไรดีๆ ให้บ้านเมืองได้ กลับเอามือซุกหีบ ทำตัวเช้าชามเย็นชาม กลับอ้างคำสมานฉันท์ แอบไปตกลงโน่นนี่กับพวกปล้นบ้านปล้นเมือง กลับละเมิดคำสัญญา 4 ประการ ที่ให้ไว้กับประชาชนในวันทำการรัฐประหารดื้อๆ
ผมไม่แปลกใจเลยเมื่อคำตอบมันฟ้องว่า พล.อ.สนธิกับพวกไม่กี่คนใน คมช.เกิดกิเลสอยากเป็นนายกรัฐมนตรี และจะลงเล่นการเมืองในอนาคต ก็เลยต้องรักษาภาพพจน์ (แบบผิดๆ) ด้วยการไม่ทำอะไรเด็ดขาด ทำตัวเป็นนักประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่หมวกเผด็จการสวมโทนโท่อยู่บนหัว!
ส่วนท่านนายกรัฐมนตรีสุรยุทธ์นั้น ก็ต้องทำตัวนุ่มนวลเป็นสุภาพบุรุษประชาธิปไตย (ทั้งที่มาจากเผด็จการเช่นกัน) เพราะหวังจะกลับไปดำรงตำแหน่งบางตำแหน่ง ที่อยากจะเป็น ก็เลยนุ่มนิ่มหน่อมแน้มตามไปด้วย
ผมว่า..พอได้แล้วมั้ง ยุติคำว่าสมานฉันท์แบบผิดๆ ได้แล้ว ช่วยใช้บั้นปลายชีวิตและอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ บริหารบ้านให้เป็นบ้าน ทำเมืองให้เป็นเมือง ทำกฎหมายให้เป็นกฎหมายได้แล้ว
บทเรียน-บทสรุปจากกรณีแก๊งนรกป่วนกรุงบุกบ้านป๋าเปรม บอกให้รู้ว่า พล.อ.สุรยุทธ์และพล.อ.สนธิ ควรจะยุติการเอาแต่สร้างภาพตนเองให้ดูดี ในสายตาประชาชนเสียที ถึงวันนี้สองนายพลเอกผู้รับผิดชอบบ้านเมือง จะต้องเลือกทำทุกอย่างเพื่อชาติและประชาชนก่อน..
เพราะวันนี้ชาติบ้านเมืองน่ะ บอบช้ำมามากพอแล้วนะ..พ่อคุณพ่อมหาจำเริญ???