xs
xsm
sm
md
lg

สัญลักษณ์กบฏ…ปรากฏชัด

เผยแพร่:   โดย: หมายเหตุผู้จัดการ

หัวโจกม็อบไข่แม้วยังไม่สำนึกในบาปกรรมชั่วทั้งหลายที่ทำไว้กับบ้านเมือง ยังคงก่อม็อบป่วนบ้านทำลายเมืองอยู่ต่อไป ทั้ง ๆ ที่หัวโจกได้ตกเป็นผู้ต้องหาในความผิดอาญาตามกบิลเมืองแล้ว

ในวันไปมอบตัวตามคำสั่งของศาลอาญา ยังมีการเกณฑ์ไพร่พลไปให้กำลังใจกันถึงโรงศาล แต่สิ่งหนึ่งซึ่งน่าสะดุดใจก็คือมีการนำดอกกุหลาบแดงไปมอบให้กำลังใจกันในบริเวณศาล

ทั้ง ๆ ที่ในบริเวณศาลนั้นไม่ใช่สถานที่ที่จะให้กำลังใจทางการเมืองกันและกัน เป็นสถานที่ที่มีไว้เพื่ออำนวยความยุติธรรมแก่ปวงประชาโดยไม่เลือกหน้า การไปสร้างกรรมชนิดนี้ขึ้นจึงหมิ่นเหม่ต่อการก่อความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นในบริเวณศาล ซึ่งเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล

ความจริงการที่คนเหล่านี้ได้โอกาสในการไปมอบตัว ณ ที่ทำการของศาล ต้องถือว่าเป็นความกรุณาของศาลเป็นอย่างยิ่งที่แทบไม่เคยมีปรากฏตัวอย่างในบ้านเมืองนี้มาก่อนเลย

เพราะการมอบตัวผู้ต้องหาต้องไปมอบกันที่สถานีตำรวจ และหลังจากการมอบตัวแล้ว ผู้ต้องหาก็ต้องตกอยู่ภายใต้การควบคุมของพนักงานสอบสวน และเป็นอำนาจของพนักงานสอบสวนในการพิจารณาว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่

หากมีเหตุสมควรและไม่เข้ากรณีตามกฎหมายในการให้ประกันตัว พนักงานสอบสวนก็จะอนุญาตให้ประกันตัวไป

กรณีที่จะให้ประกันตัวไม่ได้ก็คือ ถ้าให้ประกันตัวไปแล้วจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ทำให้เสียความยุติธรรม หรือไปก่อความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นในบ้านเมืองอีก เป็นต้น หากมีกรณีเช่นนี้ขึ้นแล้ว พนักงานสอบสวนก็มีอำนาจไม่อนุญาตให้ประกันตัวได้ และผู้ต้องหาต้องถูกกักขังไว้ในอำนาจของพนักงานสอบสวน จนกว่าจะมีการนำตัวไปฝากขังตามกฎหมาย

คนเหล่านี้ควรจะได้สำนึกในความกรุณาของศาลที่เห็นแก่ความสงบของบ้านเมือง และเพื่อความสมานฉันท์ของชนในชาติ แต่กลับหาได้สำนึกไม่ ยังคงสร้างความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นในบริเวณศาลโดยการไปมอบดอกกุหลาบแดงให้กำลังใจกันอีก

ดอกกุหลาบแดงคืออะไร? ดอกกุหลาบนั้นเป็นสัญลักษณ์ของดอกไม้แห่งความรัก ที่มีมาในตำนานโบราณบุรำ ที่นานวันเข้าก็กลายเป็นดอกไม้แห่งความรักของหนุ่มสาว

หากเข้าใจความหมายของดอกกุหลาบเพียงเท่านี้ก็ไม่มีอะไรต้องคิด แต่การจงใจใช้ดอกกุหลาบสีแดงนั้นไม่ใช่เรื่องธรรมดา เป็นเรื่องที่มีนัยยะความหมายทางการเมือง

ดอกกุหลาบสีแดงที่ใช้กันเพียงครั้งเดียวอาจเกิดขึ้นได้ด้วยความพลั้งเผลอหรือเพราะเหตุจำเป็นที่มีแต่ดอกกุหลาบสีแดงวางขาย แต่ถ้าใช้กันเป็นสัญลักษณ์ทุกครั้งคราวที่มีลักษณะมวลชนแล้วก็ยิ่งเน้นย้ำความหมายนัยยะทางการเมืองชัดเจนขึ้น

คนทั้งหลายคงจะจำกันได้ว่าเมื่อครั้งที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเคลื่อนไหวโค่นล้มระบอบทักษิณในระหว่างปี 2548-2549 นั้น จะมีการจัดมวลชนมาให้กำลังใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในแทบทุกสถานที่ ไม่เว้นแม้กระทั่งในทำเนียบรัฐบาล

และย่อมจำได้ด้วยว่าในการเกณฑ์มวลชนมาให้กำลังใจนั้นจะจงใจใช้ดอกกุหลาบสีแดงมอบให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งรู้ ๆ กันอยู่ว่าคนอยู่เบื้องหลังการจัดม็อบมาให้กำลังใจนั้นเป็นคอมมิวนิสต์เก่า ที่ดำเนินการทั้งปวงด้วยความคิดทางการเมืองทั้งสิ้น

ดังนั้นการจงใจใช้ดอกกุหลาบสีแดงเป็นสัญลักษณ์ในการให้กำลังใจกันและกันของคนขบวนนี้จึงไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่เกิดขึ้นทุกครั้งที่มีการเกณฑ์มวลชนมาให้กำลังใจ และเริ่มต้นมาตั้งแต่ครั้งที่คนหน้าเหลี่ยมเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว เรื่อยมาจนกระทั่งถึงครั้งนี้

เป็นการจงใจใช้ดอกกุหลาบสีแดงโดยแฝงนัยยะทางการเมืองเอาไว้ ดังนั้นนัยยะทางการเมืองดังกล่าวนี้จึงย่อมมิใช่ความหมายสัญลักษณ์แห่งความรักของหนุ่มสาว แต่เป็นนัยยะความหมายทางการเมือง การปกครองแผ่นดิน ซึ่งจะต้องทำความเข้าใจและรู้ให้เท่าทันว่าผู้คนในขบวนนี้คิดอ่านประการใดกันอยู่

นั่นคือจะต้องรู้ถึงประวัติการใช้ดอกกุหลาบสีแดงในเชิงสัญลักษณ์ ที่มุ่งหมายให้สื่อความหมายทางการเมือง

เอากันในต่างประเทศก่อน การใช้ดอกกุหลาบสีแดงเป็นสัญลักษณ์ให้มีนัยยะความหมายทางการเมืองเคยเกิดขึ้นในประเทศฝรั่งเศสเมื่อราว 30 ปีที่ผ่านมานี้

เป็นการใช้ดอกกุหลาบสีแดงเป็นเชิงสัญลักษณ์ทางการเมืองโดยพรรคสังคมนิยมฝรั่งเศส ซึ่งแม้ว่าจะไม่ใช่พรรคคอมมิวนิสต์ แต่ก็เป็นพรรคการเมืองที่มีแนวความคิดสังคมนิยมและใกล้กับความเป็นคอมมิวนิสต์มากที่สุด

พรรคสังคมนิยมฝรั่งเศสในขณะนั้นได้ใช้ดอกกุหลาบสีแดงในการระดมมวลชนและในการปราศรัย ตลอดจนในการแสดงกำลังใจกันและกัน

และพอถึงวันเลือกตั้งซึ่งกฎหมายเลือกตั้งของเขาก็ห้ามไม่ให้หาเสียง แต่พรรคสังคมนิยมฝรั่งเศสก็หลีกเลี่ยงกฎหมายดังกล่าว ดำเนินการรณรงค์หาเสียงในวันเลือกตั้งอย่างหน้าตาเฉยโดยไม่ผิดกฎหมายเลือกตั้ง

โดยการสั่งการให้สมาชิกพรรคสังคมนิยมทั้งหมดถือดอกกุหลาบสีแดงในการไปลงบัตรเลือกตั้ง ทำให้สีแดงแดงฉานไปทั้งประเทศฝรั่งเศส ก่อเกิดเป็นกระแสปลุกระดมมวลชน ตรงจิตใจของประชาชนโดยตรง และเป็นผลให้พรรคสังคมนิยมฝรั่งเศสได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้น

มาในประเทศไทยของเรา คนส่วนใหญ่คงเคยได้ยินคำว่าอั้งยี่ ซึ่งขณะนี้คำว่าอั้งยี่ก็เป็นคำที่มีใช้ในกฎหมายอาญา คือในความผิดฐานอั้งยี่ซ่องโจร ที่คนจำนวนหนึ่งสุมหัวกันเพื่อคิดอ่านทำชั่วทำผิดกฎหมาย การสุมหัวกันลักษณะนี้เป็นความผิดฐานอั้งยี่ซ่องโจร

คำว่าอั้งยี่เป็นคำจีน แปลว่าดอกกุหลาบแดง คนไทยรู้จักคำว่าอั้งยี่เป็นครั้งแรกในห้วงต้นเวลาของกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งครั้งนั้นเกิดกบฏจากหมู่คนจีน โดยกลุ่มกบฏนั้นเรียกชื่อตัวเองว่ากลุ่มอั้งยี่

กลุ่มอั้งยี่ดังกล่าวได้ใช้สัญลักษณ์ดอกกุหลาบสีแดงเป็นสัญลักษณ์ในการก่อการกบฏ

ในอาคารสถานที่หรือสถานที่ใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มกบฏอั้งยี่จะปักไว้ด้วยดอกกุหลาบสีแดง

ในเอกสารการติดต่อหรือสั่งการใด ๆ ก็จะประทับตราเป็นรูปดอกกุหลาบสีแดง

ในเวลาออกคำเตือนข่มขู่คุกคามคนจีนด้วยกันก็ดี หรือข่มขู่คุกคามพ่อค้าคนจีนก็ดี หรือในการตักเตือนสมาชิกที่ทรยศก็ดี ก็จะมีการเอาดอกกุหลาบสีแดงไปวางไว้ที่หน้าบ้าน หน้าร้านค้า หรือหน้าที่ทำการ

เป็นการข่มขู่ตักเตือนและหากไม่เชื่อฟัง กลุ่มกบฏอั้งยี่ก็จะส่งมือสังหารไปล้างผลาญอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต

บางครั้งกลุ่มกบฏอั้งยี่ก็กำเริบเสิบสาน ส่งดอกกุหลาบสีแดงไปยังหัวหน้าสถานีตำรวจเพื่อข่มขู่ให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ที่มีผลกระทบต่อการทำงานของพวกอั้งยี่

ความชั่วร้ายของกลุ่มกบฏอั้งยี่ทราบถึงพระเนตรพระกรรณ ทรงเห็นอันตรายของกลุ่มกบฏนี้ว่าหาได้มีความมุ่งหมายที่จะข่มขู่คุกคามเอาเงินทองทรัพย์สินในหมู่คนจีนเท่านั้นไม่ หากยังมีความมุ่งหมายที่จะก่อกบฏและก่อการจลาจลขึ้นในพระมหานคร

จึงทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ทำการปราบปรามกลุ่มกบฏอั้งยี่อย่างเด็ดขาด

เพราะกับพวกกบฏอั้งยี่นั้น ไม่มีทางที่จะประนีประนอมหรือสมานฉันท์ใด ๆ กันได้เลย ถึงจะให้ความเมตตาปรานี ถึงจะมีความผ่อนปรนประการใด ๆ ก็ไม่มีทางที่ทำให้พวกกบฏอั้งยี่สำนึกผิดหรือกลับเนื้อกลับตัวหรือกลับใจได้

ดังนั้นจึงจำต้องมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ปราบกบฏอั้งยี่อย่างเด็ดขาด แล้วเกิดเป็นการจลาจลขึ้น มีการต่อสู้กันระหว่างกองทหารของพระเจ้าอยู่หัวกับพวกกบฏอั้งยี่ครั้งใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ

ด้วยความเด็ดขาดกล้าหาญ ด้วยความจงรักภักดีมั่นต่อแผ่นดิน และเพื่อยังความสงบสุขให้เกิดขึ้นในชาติอย่างถาวร กองกำลังผสมทหาร ตำรวจ และอาสาสมัคร ก็ได้ทำการปราบปรามกบฏอั้งยี่อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดและสิ้นเชิง

ทำให้กรุงเทพมหานครและราชอาณาจักรสยามกลับสู่ความสงบสุข และความสงบสุขนั้นก็ได้เป็นรากฐานให้แก่การพัฒนาบ้านเมืองตลอดรัชกาลนั้น และสืบเนื่องมาเป็นเวลาช้านาน

ดอกกุหลาบสีแดงสัญลักษณ์ของกบฏอั้งยี่ได้ปรากฏขึ้นอีกครั้งหนึ่งแล้วในประเทศไทยของเรา

ประชาชนผู้รักชาติรักประชาธิปไตยและที่มีน้ำใจจงรักภักดีทุกหมู่เหล่า ไม่ว่าข้าราชการทหาร ตำรวจ และประชาชน จึงต้องพร้อมเพรียงน้ำใจกันกำจัดกลุ่มกบฏอั้งยี่ให้สิ้นซาก มิฉะนั้นแล้วความสงบสุขและความเป็นปกติสุขจะไม่มีทางกลับคืนมาสู่บ้านเมืองของเราอย่างแน่นอน.

กำลังโหลดความคิดเห็น