"มัชฌิมา"หาเสียง ดันโครงการ"โคขุนมัชฌิมาโกเบ" นำร่อง 6 จังหวัด ทุ่ม 70 ล้านรับซื้อลูกโคมาขุน เพิ่มรายได้เกษตรกรแก้ปัญหาความยากจน พร้อมเปิดรับสมาชิก
นาย สมศักดิ์ เทพสุทิน หัวหน้ากลุ่มมัชฌิมา กล่าวถึงแนวนโยบายในการแก้ปัญหาความเดือดร้อน ความยากจน ให้กับประชาชนว่า ทางกลุ่มได้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านปศุสัตว์ทำการศึกษาตลอดจนการเลี้ยงโคขุนในทุกรูปแบบ และจุดเด่นของตลาดในปัจจุบัน ขณะนี้ล่าสุดราคาโคตกต่ำมาก เราจึงได้เริ่มโครงการโคขุนมัชฌิมาโกเบ เพื่อสานต่อโครงการน้ำแก้จน คนหมดหนี้ มีโคร่ำรวย โดยจะรับซื้อโคจากเกษตรกรนำมาขุน และประกันราคาซื้อคืน เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้เกษตรกรระดับรากหญ้า ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนในการเลี้ยงชีพ มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่เกษตรกร
นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา อดีต ส.ส.ราชบุรี ผู้นำการเลี้ยงโคขุนมัชฌิมาโกเบ กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันการนำเข้าเนื้อโคขุนจากต่างประเทศ ในปี 49 มีมูลค่า 1,635 ล้านบาท แต่เราได้ค้นคว้าศึกษามองว่าเกษตรกรไทยมีความสามารถเลี้ยงโคขุน ให้มีคุณภาพทัดเทียมกับเนื้อโคขุนน้ำเข้าจากต่างประเทศได้ โดยจะเดินหน้าโครงการนำร่างใน 6 จังหวัด จัดตั้งโครงการศูนย์โคขุนมัชฌิมาที่ จ.สุโขทัย ราชบุรี สกลนคร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และ บุรีรัมย์ เป็นศูนย์กลางการเลี้ยงและพัฒนาโคขุนจะมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านปศุสัตว์ประจำศูนย์ให้คำปรึกษาแก่เกษตรกรผู้เข้าร่วม
นายวิวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันโครงการฯได้เปิดรับซื้อลูกโคเพศผู้อายุ 8-10 เดือน สายพันธุ์พื้นเมืองผสมบราห์มัน หรือสายพันธุ์พื้นเมืองผสมชาโลเล่ส์ จำนวน10,000 ตัว มาในราคารับซื้อกิโลกรัมละ 70บาท หรือตกตัวละประมาณ 7,000 บาท เป็นเงินประมาณ 70 ล้านบาท เพื่อนำลูกโคไปให้สมาชิกกลุ่มเลี้ยง พร้อมให้คำแนะนำการเลี้ยงและสูตรอาหารพิเศษเพื่อให้ได้เนื้อโคขุนคุณภาพสูง ตามเกณฑ์ที่ตลาดรับซื้อต้องการ หลังจากเลี้ยงโคขุนเป็นเวลา 540 วัน ก็สามารถขายคืนให้โครงการการฯเพื่อขายเนื้อโคในตลาดผู้บริโภค ตามห้าสรรพสินค้า โรงแรม ร้านอาหารชั้นนำในประเทศที่กลุ่มได้ติดต่อซื้อขายล่วงหน้าไว้ ทั้งนี้ หากเกษตรกรและผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถติดต่อเป็นสมาชิกได้ที่ศูนย์ประสานงานใน จ.ราชบุรี มหาสารคาม สกลนคร บุรีรัมย์และร้อยเอ็ด
นาย สมศักดิ์ เทพสุทิน หัวหน้ากลุ่มมัชฌิมา กล่าวถึงแนวนโยบายในการแก้ปัญหาความเดือดร้อน ความยากจน ให้กับประชาชนว่า ทางกลุ่มได้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านปศุสัตว์ทำการศึกษาตลอดจนการเลี้ยงโคขุนในทุกรูปแบบ และจุดเด่นของตลาดในปัจจุบัน ขณะนี้ล่าสุดราคาโคตกต่ำมาก เราจึงได้เริ่มโครงการโคขุนมัชฌิมาโกเบ เพื่อสานต่อโครงการน้ำแก้จน คนหมดหนี้ มีโคร่ำรวย โดยจะรับซื้อโคจากเกษตรกรนำมาขุน และประกันราคาซื้อคืน เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้เกษตรกรระดับรากหญ้า ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนในการเลี้ยงชีพ มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่เกษตรกร
นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา อดีต ส.ส.ราชบุรี ผู้นำการเลี้ยงโคขุนมัชฌิมาโกเบ กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันการนำเข้าเนื้อโคขุนจากต่างประเทศ ในปี 49 มีมูลค่า 1,635 ล้านบาท แต่เราได้ค้นคว้าศึกษามองว่าเกษตรกรไทยมีความสามารถเลี้ยงโคขุน ให้มีคุณภาพทัดเทียมกับเนื้อโคขุนน้ำเข้าจากต่างประเทศได้ โดยจะเดินหน้าโครงการนำร่างใน 6 จังหวัด จัดตั้งโครงการศูนย์โคขุนมัชฌิมาที่ จ.สุโขทัย ราชบุรี สกลนคร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และ บุรีรัมย์ เป็นศูนย์กลางการเลี้ยงและพัฒนาโคขุนจะมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านปศุสัตว์ประจำศูนย์ให้คำปรึกษาแก่เกษตรกรผู้เข้าร่วม
นายวิวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันโครงการฯได้เปิดรับซื้อลูกโคเพศผู้อายุ 8-10 เดือน สายพันธุ์พื้นเมืองผสมบราห์มัน หรือสายพันธุ์พื้นเมืองผสมชาโลเล่ส์ จำนวน10,000 ตัว มาในราคารับซื้อกิโลกรัมละ 70บาท หรือตกตัวละประมาณ 7,000 บาท เป็นเงินประมาณ 70 ล้านบาท เพื่อนำลูกโคไปให้สมาชิกกลุ่มเลี้ยง พร้อมให้คำแนะนำการเลี้ยงและสูตรอาหารพิเศษเพื่อให้ได้เนื้อโคขุนคุณภาพสูง ตามเกณฑ์ที่ตลาดรับซื้อต้องการ หลังจากเลี้ยงโคขุนเป็นเวลา 540 วัน ก็สามารถขายคืนให้โครงการการฯเพื่อขายเนื้อโคในตลาดผู้บริโภค ตามห้าสรรพสินค้า โรงแรม ร้านอาหารชั้นนำในประเทศที่กลุ่มได้ติดต่อซื้อขายล่วงหน้าไว้ ทั้งนี้ หากเกษตรกรและผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถติดต่อเป็นสมาชิกได้ที่ศูนย์ประสานงานใน จ.ราชบุรี มหาสารคาม สกลนคร บุรีรัมย์และร้อยเอ็ด