ศาลปกครองกลางสั่งเพิกถอนมติ ครม.ลดพื้นที่สุสานหอย 13 ล้านปี กลางเมืองถ่านหินแม่เมาะ พร้อมให้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน โบราณวัตถุต่อ โดยให้กระทรวงทรัพย์เข้าดูแลพื้นที่ภายใน 180 วัน
นายสุรชัย ตรงงาม ผู้ประสานงานโครงการนิติธรรมสิ่งแวดล้อม, ทนายความผู้รับมอบอำนาจฟ้องคดีปกป้องแหล่งหอยขมดึกดำบรรพ์ ที่เหมืองแม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ต่อศาลปกครองกลาง ตามคดีหมายเลขดำที่ 459/2548 เปิดเผยว่า วานนี้ (26 ก.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 7 ศาลปกครองกลาง ได้มีคำพิพากษาเพิกถอนมติ ครม.เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2547 กรณีที่ให้ลดพื้นที่อนุรักษ์ซากหอยขมดึกดำบรรพ์อายุกว่า 13 ล้านปี ในเหมืองถ่านหินแม่เมาะ จาก 43 ไร่ เหลือเพียง 18 ไร่
พร้อมกับสั่งให้กระทรวงอุตสาหกรรม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด ให้ดำเนินการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม เพื่อเสนอให้คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณา ตาม พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม 2535 นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งให้ ครม.แจ้งกรมศิลปากร ขึ้นทะเบียนสุสานหอยดังกล่าว เป็นโบราณสถาน โบราณวัติด้วย และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าดูแลคุ้มครองพื้นที่ภายใน 180 วันด้วย
กรณีที่ชาวบ้านแม่เมาะ มอบอำนาจให้ทนายความดำเนินการฟ้องร้องในคดีดังกล่าวนี้ เป็นการฟ้องมติครม.ที่ลดพื้นที่การอนุรักษ์จาก 43 ไร่ เหลือเพียง 18 ไร่ รวมทั้งการจะทำเหมืองต่อไปของการไฟฟ้าฝ่ายฟลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ควรจะปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ พ.ร.บ.โบราณสถานโบราณวัตถุ พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม เนื่องจากมีการค้นพบในภายหลังว่ามีซากฟอสซิลหอยอยู่บริเวณพื้นที่เหมือง ก็ควรมีการศึกษาถึงผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไออ) เพิ่มเติม หรือศึกษาการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดการพังทลายจากการทำเหมือง
ข้อเท็จจริงในทางคดีก็มีการเปลี่ยนแปลงภายหลังการยื่นฟ้อง เนื่องจาก กฟผ.ได้เข้าไปเปิดหน้าดินจนเหลือพื้นที่แค่ 18 ไร่เท่านั้น
นายสุรชัย ตรงงาม ผู้ประสานงานโครงการนิติธรรมสิ่งแวดล้อม, ทนายความผู้รับมอบอำนาจฟ้องคดีปกป้องแหล่งหอยขมดึกดำบรรพ์ ที่เหมืองแม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ต่อศาลปกครองกลาง ตามคดีหมายเลขดำที่ 459/2548 เปิดเผยว่า วานนี้ (26 ก.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 7 ศาลปกครองกลาง ได้มีคำพิพากษาเพิกถอนมติ ครม.เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2547 กรณีที่ให้ลดพื้นที่อนุรักษ์ซากหอยขมดึกดำบรรพ์อายุกว่า 13 ล้านปี ในเหมืองถ่านหินแม่เมาะ จาก 43 ไร่ เหลือเพียง 18 ไร่
พร้อมกับสั่งให้กระทรวงอุตสาหกรรม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด ให้ดำเนินการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม เพื่อเสนอให้คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณา ตาม พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม 2535 นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งให้ ครม.แจ้งกรมศิลปากร ขึ้นทะเบียนสุสานหอยดังกล่าว เป็นโบราณสถาน โบราณวัติด้วย และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าดูแลคุ้มครองพื้นที่ภายใน 180 วันด้วย
กรณีที่ชาวบ้านแม่เมาะ มอบอำนาจให้ทนายความดำเนินการฟ้องร้องในคดีดังกล่าวนี้ เป็นการฟ้องมติครม.ที่ลดพื้นที่การอนุรักษ์จาก 43 ไร่ เหลือเพียง 18 ไร่ รวมทั้งการจะทำเหมืองต่อไปของการไฟฟ้าฝ่ายฟลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ควรจะปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ พ.ร.บ.โบราณสถานโบราณวัตถุ พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม เนื่องจากมีการค้นพบในภายหลังว่ามีซากฟอสซิลหอยอยู่บริเวณพื้นที่เหมือง ก็ควรมีการศึกษาถึงผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไออ) เพิ่มเติม หรือศึกษาการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดการพังทลายจากการทำเหมือง
ข้อเท็จจริงในทางคดีก็มีการเปลี่ยนแปลงภายหลังการยื่นฟ้อง เนื่องจาก กฟผ.ได้เข้าไปเปิดหน้าดินจนเหลือพื้นที่แค่ 18 ไร่เท่านั้น