ข้อเขียนผมอาจจะถูกหรือผิดก็ได้ เพราะผมเขียนด้วยข้อมูลของวันนี้ บวกกับเขียนถึงคนแบบ “บิ๊กบัง” ที่พร้อมจะหยุด-เดินหน้า-ถอยหลัง-ปรับ-เปลี่ยนแผนปฏิบัติ ตามแต่กระแสหนุนและต้านของสังคม
วันนี้ “บิ๊กบัง” มีหลายเรื่องต้องทำ และสำคัญต่อชีวิตในอนาคตของเขา ไม่ว่า “บิ๊กบัง” จะเล่นหรือไม่เล่นการเมืองก็ตาม หนึ่งในเรื่องสำคัญยิ่ง คือ การตั้งผู้บัญชาการทหารบกคนต่อไป
5 เสือของกองทัพบกวันนี้ มีใครบ้าง?
เสือ 1 พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เสือ 2 พล.อ.ไพศาล กตัญญ ู(เกษียณทั้งคู่) เสือ 3 พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร เสือ 4 พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา เสือ 5 พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์
จะเห็นว่า “เสือสพรั่ง” อาวุโสสูงสุด “เสืออนุพงศ์” อาวุโสรองลงมา ส่วน “เสือมนตรี” น่ะ เพิ่งเป็นพลโทแค่ 6 เดือน พอเพื่อนทำการรัฐประหารชนะ เลยได้เป็นพลเอก พล.อ.มนตรีจึงด้อยอาวุโสที่สุด แถมเสธฯ ทหารบกท่านนี้ ยังทำงานอยู่แต่ในตำแหน่งอำนวยการเสียเป็นส่วนใหญ่
ผมเจาะลึกความคิด “บิ๊กบัง” ในวันนี้ เขาอยากได้เพื่อนที่ชื่อ “มนตรี” เป็น ผบ.ทบ. แต่ “เชี่ยวชวนะ” ต้องบอกว่า ได้แค่คิดเท่านั้นครับ เพราะ “บิ๊กบัง” มีหน้าที่แค่เสนอชื่อคนจะเป็น ผบ.ทบ. ให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาตามขั้นตอนราชการเท่านั้น
“บิ๊กบัง” ต้องเลือกบ้านเมืองก่อนเลือกเพื่อน อย่างที่ทำมาแล้วในกรณีพล.อ.โกวิท วัฒนะ “บิ๊กบัง” ต้องเลิกลังเลและอย่ารอช้ากับการตั้งผบ.ทบ. ให้ถูกต้องสอดคล้องกับสถานการณ์ และถูกตามครรลองคลองธรรมที่ควรจะเป็นเสียที อย่าปล่อยให้ความคลุมเครือ ส่งผลให้เหล่าทหารแตกแยกทางความคิดและความสามัคคีอีกต่อไป
“บิ๊กบัง” รู้อยู่แก่ใจว่า สมัยที่ “ทักษิณ” เป็นนายกรัฐมนตรี มีอำนาจมากมายล้นฟ้า “ทักษิณ” ไม่ต้องการตั้ง “บิ๊กบัง” เป็นผบ.ทบ.เลย แต่ “แม้วหน้าเหลี่ยม” ก็ได้แค่คิด เพราะสุดท้าย “ทักษิณ” ก็จำต้องตั้ง “บิ๊กบัง” เป็น ผบ.ทบ.ครับ
สถานการณ์ขณะนี้ “ทักษิณ” และพลพรรคยังใช้ทุกรูปแบบ รวมทั้งใช้ม็อบสถุลไปด่าทอ “ป๋าเปรม” อย่างหยาบคาย อีกทั้งยังก่อการจลาจลย่อย ทำร้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐอย่างป่าเถื่อน ถึงหน้าบ้านประธานองคมนตรีอีกด้วย จน คมช. “บิ๊กบัง” และรัฐบาล “สุรยุทธ์” ที่อ่อนแอหัวปั่นไปหมด
แถมวันดีคืนดีทักษิณยัง “เหยียบจมูกรัฐบาล” ด้วยการแฮกเว็บเอาภาพทักษิณไปยืนโบกมือ ยิ้มร่าอยู่หน้าเว็บไซต์กระทรวงไอซีทีอย่างหน้าตาเฉย!
ดังนั้น “บิ๊กบัง” หรือใครก็ตามที่รักชาติบ้านเมือง ล้วนต้องช่วยกันทำให้สถาบันทหารมั่นคง อะไรก็ตามที่ทำให้สถาบันทหารต้องสั่นคลอนแม้เพียงเล็กน้อย เราต้องไม่ทำ สถาบันทหารนั้นมิใช่ของ “บิ๊กบัง” หรือใครคนใดคนหนึ่ง หากแต่สถาบันทหารนั้นเป็นของชาติและประชาชนคนไทยทั้งประเทศครับ
ทหารจะต้องเป็นหนึ่งเดียวทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพื่อกองทัพจะได้เป็นเสาหลักในการพิทักษ์ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้ดำรงสถาพรคู่ผืนแผ่นดินไทย
การตัดสินใจตั้ง ผบ.ทบ.ของ “บิ๊กบัง” ครั้งนี้ จะได้รับคำสรรเสริญหรือด่าทอ จะได้รับความรักหรือความชัง จากน้องๆ ในสถาบันทหารและประชาชน ทั้งหมดล้วนอยู่ที่สมองของ “บิ๊กบัง” จะตัดสินใจถูกหรือผิดครับ
อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องวิเคราะห์เจาะลึก คือ “บิ๊กบัง-ทหารหลงกลิ่นการเมือง” กำลังคิดจะเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง (อย่าให้บอกชื่อเลย) โดยหวังใช้พรรคนี้เป็นบันไดก้าวกระโดดทางการเมืองขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป
สำหรับเรื่องนี้..ด้วยความหวังดีและห่วงใยจริงๆ จึงขอบอกผ่านคอลัมน์นี้ถึง “บิ๊กบัง” ว่า หยุดเถอะครับ!
แน่นอน..“บิ๊กบัง” นั้นเป็นคนไทย ย่อมมีสิทธิเต็มที่กับการลงเล่นการเมือง แต่หากเห็นแก่บ้านเมือง..ควรอดใจรอสักนิด
ผู้คนและผู้ใหญ่ในแผ่นดินนี้หลายคน ได้ออกมาติงเตือนมิให้ “บิ๊กบัง” เล่นการเมืองตอนนี้ เนื่องจากจะถูกกล่าวหาว่าสานต่ออำนาจเผด็จการ เพราะ “บิ๊กบัง” เป็นหัวหน้าคณะทหาร ที่ทำรัฐประหารล้มล้างรัฐบาล “ทักษิณ” โดยมีข้ออ้าง 4 ข้อในการยึดอำนาจรัฐ แต่ “บิ๊กบัง” กับคณะคมช.ยังทำสิ่งเหล่านั้นไม่สำเร็จสมบูรณ์
การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอนาคต “บิ๊กบัง” ควรจะดูแลการเลือกตั้งให้ได้คนดีมาบริหารบ้านเมือง เมื่อมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว นั่นแหละ..ค่อยลงจากตำแหน่งประธาน คมช.
ถึงตอนนั้น..ผมเชื่อว่าพรรคการเมืองหลายพรรค ย่อมต้องการรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอย่าง “บิ๊กบัง” มาดูแลบ้านเมือง และหากบริหารดีผลงานโดดเด่น มีหรือตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะหนีพ้นเงื้อมมือของ “บิ๊กบัง!”
“ป๋าเปรม” พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ยังต้องก้าวผ่านตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย ก่อนจะก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี “บิ๊กบัง” ผลงานและบารมีเทียบพล.อ.เปรมได้หรือ? อย่าด่วนใจร้อนนักเลย “บิ๊กบัง”
การเป็นวีรบุรุษกับการเป็นโมฆบุรุษนั้น เกิดขึ้นได้ทุกเสี้ยววินาที
วันนี้ “บิ๊กบัง” เชื่อมั่นตนเองเกินไป เชื่อว่าพูดแล้วคนจะเชื่อฟังเขาทุกเรื่อง เชื่อว่าข้อมูลตนเองถูกร้อยเปอร์เซ็นต์ (ซึ่งอาจถูกไม่หมดหรือผิดหมดก็ได้) ผสมกับเพื่อนสนิทและนักการเมืองมืออ่อนยุยง อย่าโกรธนะถ้าจะบอกว่า ที่สำคัญตัว “บิ๊กบัง” เองยังละอ่อนต่อการเมือง และกระแสอ่อนไหวของผู้คนในสังคมไทยยิ่งนัก
ดังนั้น “บิ๊กบัง” ตัดสินใจพลาดครั้งนี้ อาจนำไปสู่การเสื่อมเสียชื่อเสียงตลอดทั้งชีวิตเลยก็ได้!
ผู้คนที่ออกมาเตือน “บิ๊กบัง” นั้น มิใช่ “พวกขี้ไก่” หากแต่พวกเขาเหล่านั้นเป็นกูรูทางการเมืองทั้งสิ้น การเตือนให้รู้จังหวะก้าวของการได้มาซึ่งอำนาจ และให้รู้จักพอเพียงกับอำนาจที่เป็น “ดาบสองคม” นั้น เป็นมงคลต่อชีวิตผู้รู้จักคิดและปฏิบัติ
ผู้นำประเทศในอดีตหลายคนไม่ฟัง-ไม่เชื่อ-ดื้อดึง ในที่สุด..ก็ต้องลงจากอำนาจอย่างไม่เป็นท่า หนึ่งในผู้นำทหารที่รีบร้อนขึ้นสู่อำนาจ และอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้แค่ 45 วัน ชื่อ สุจินดา คราประยูร ไงล่ะครับ
ต้องยอมรับว่า “บิ๊กบัง” ผลงานยังไม่โดดเด่นเท่าที่ควร “บิ๊กบัง” คุมกองทัพมิได้เบ็ดเสร็จเท่า “สุจินดา” โดยเฉพาะบารมีและการยอมรับของ “บิ๊กบัง” นั้น ห่างชั้นจาก “ป๋าเปรม” อย่างชนิดเทียบไม่ได้เลย ขอย้ำอีกครั้งว่า..ไฉนไย “บิ๊กบัง” ใจด่วนใจร้อนนักล่ะ?
ข้อเขียนนี้หวังดีและหวังให้ “บิ๊กบัง” ซึ่งทำคุณงามความดีให้บ้านเมืองแล้วไม่น้อย ได้โปรดหยุดคิดและชั่งตรองให้ดี เผื่อ “บิ๊กบัง” จะมีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรี สักครั้งในชีวิตไงล่ะครับ...
วันนี้ “บิ๊กบัง” มีหลายเรื่องต้องทำ และสำคัญต่อชีวิตในอนาคตของเขา ไม่ว่า “บิ๊กบัง” จะเล่นหรือไม่เล่นการเมืองก็ตาม หนึ่งในเรื่องสำคัญยิ่ง คือ การตั้งผู้บัญชาการทหารบกคนต่อไป
5 เสือของกองทัพบกวันนี้ มีใครบ้าง?
เสือ 1 พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เสือ 2 พล.อ.ไพศาล กตัญญ ู(เกษียณทั้งคู่) เสือ 3 พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร เสือ 4 พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา เสือ 5 พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์
จะเห็นว่า “เสือสพรั่ง” อาวุโสสูงสุด “เสืออนุพงศ์” อาวุโสรองลงมา ส่วน “เสือมนตรี” น่ะ เพิ่งเป็นพลโทแค่ 6 เดือน พอเพื่อนทำการรัฐประหารชนะ เลยได้เป็นพลเอก พล.อ.มนตรีจึงด้อยอาวุโสที่สุด แถมเสธฯ ทหารบกท่านนี้ ยังทำงานอยู่แต่ในตำแหน่งอำนวยการเสียเป็นส่วนใหญ่
ผมเจาะลึกความคิด “บิ๊กบัง” ในวันนี้ เขาอยากได้เพื่อนที่ชื่อ “มนตรี” เป็น ผบ.ทบ. แต่ “เชี่ยวชวนะ” ต้องบอกว่า ได้แค่คิดเท่านั้นครับ เพราะ “บิ๊กบัง” มีหน้าที่แค่เสนอชื่อคนจะเป็น ผบ.ทบ. ให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาตามขั้นตอนราชการเท่านั้น
“บิ๊กบัง” ต้องเลือกบ้านเมืองก่อนเลือกเพื่อน อย่างที่ทำมาแล้วในกรณีพล.อ.โกวิท วัฒนะ “บิ๊กบัง” ต้องเลิกลังเลและอย่ารอช้ากับการตั้งผบ.ทบ. ให้ถูกต้องสอดคล้องกับสถานการณ์ และถูกตามครรลองคลองธรรมที่ควรจะเป็นเสียที อย่าปล่อยให้ความคลุมเครือ ส่งผลให้เหล่าทหารแตกแยกทางความคิดและความสามัคคีอีกต่อไป
“บิ๊กบัง” รู้อยู่แก่ใจว่า สมัยที่ “ทักษิณ” เป็นนายกรัฐมนตรี มีอำนาจมากมายล้นฟ้า “ทักษิณ” ไม่ต้องการตั้ง “บิ๊กบัง” เป็นผบ.ทบ.เลย แต่ “แม้วหน้าเหลี่ยม” ก็ได้แค่คิด เพราะสุดท้าย “ทักษิณ” ก็จำต้องตั้ง “บิ๊กบัง” เป็น ผบ.ทบ.ครับ
สถานการณ์ขณะนี้ “ทักษิณ” และพลพรรคยังใช้ทุกรูปแบบ รวมทั้งใช้ม็อบสถุลไปด่าทอ “ป๋าเปรม” อย่างหยาบคาย อีกทั้งยังก่อการจลาจลย่อย ทำร้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐอย่างป่าเถื่อน ถึงหน้าบ้านประธานองคมนตรีอีกด้วย จน คมช. “บิ๊กบัง” และรัฐบาล “สุรยุทธ์” ที่อ่อนแอหัวปั่นไปหมด
แถมวันดีคืนดีทักษิณยัง “เหยียบจมูกรัฐบาล” ด้วยการแฮกเว็บเอาภาพทักษิณไปยืนโบกมือ ยิ้มร่าอยู่หน้าเว็บไซต์กระทรวงไอซีทีอย่างหน้าตาเฉย!
ดังนั้น “บิ๊กบัง” หรือใครก็ตามที่รักชาติบ้านเมือง ล้วนต้องช่วยกันทำให้สถาบันทหารมั่นคง อะไรก็ตามที่ทำให้สถาบันทหารต้องสั่นคลอนแม้เพียงเล็กน้อย เราต้องไม่ทำ สถาบันทหารนั้นมิใช่ของ “บิ๊กบัง” หรือใครคนใดคนหนึ่ง หากแต่สถาบันทหารนั้นเป็นของชาติและประชาชนคนไทยทั้งประเทศครับ
ทหารจะต้องเป็นหนึ่งเดียวทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพื่อกองทัพจะได้เป็นเสาหลักในการพิทักษ์ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้ดำรงสถาพรคู่ผืนแผ่นดินไทย
การตัดสินใจตั้ง ผบ.ทบ.ของ “บิ๊กบัง” ครั้งนี้ จะได้รับคำสรรเสริญหรือด่าทอ จะได้รับความรักหรือความชัง จากน้องๆ ในสถาบันทหารและประชาชน ทั้งหมดล้วนอยู่ที่สมองของ “บิ๊กบัง” จะตัดสินใจถูกหรือผิดครับ
อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องวิเคราะห์เจาะลึก คือ “บิ๊กบัง-ทหารหลงกลิ่นการเมือง” กำลังคิดจะเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง (อย่าให้บอกชื่อเลย) โดยหวังใช้พรรคนี้เป็นบันไดก้าวกระโดดทางการเมืองขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป
สำหรับเรื่องนี้..ด้วยความหวังดีและห่วงใยจริงๆ จึงขอบอกผ่านคอลัมน์นี้ถึง “บิ๊กบัง” ว่า หยุดเถอะครับ!
แน่นอน..“บิ๊กบัง” นั้นเป็นคนไทย ย่อมมีสิทธิเต็มที่กับการลงเล่นการเมือง แต่หากเห็นแก่บ้านเมือง..ควรอดใจรอสักนิด
ผู้คนและผู้ใหญ่ในแผ่นดินนี้หลายคน ได้ออกมาติงเตือนมิให้ “บิ๊กบัง” เล่นการเมืองตอนนี้ เนื่องจากจะถูกกล่าวหาว่าสานต่ออำนาจเผด็จการ เพราะ “บิ๊กบัง” เป็นหัวหน้าคณะทหาร ที่ทำรัฐประหารล้มล้างรัฐบาล “ทักษิณ” โดยมีข้ออ้าง 4 ข้อในการยึดอำนาจรัฐ แต่ “บิ๊กบัง” กับคณะคมช.ยังทำสิ่งเหล่านั้นไม่สำเร็จสมบูรณ์
การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอนาคต “บิ๊กบัง” ควรจะดูแลการเลือกตั้งให้ได้คนดีมาบริหารบ้านเมือง เมื่อมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว นั่นแหละ..ค่อยลงจากตำแหน่งประธาน คมช.
ถึงตอนนั้น..ผมเชื่อว่าพรรคการเมืองหลายพรรค ย่อมต้องการรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอย่าง “บิ๊กบัง” มาดูแลบ้านเมือง และหากบริหารดีผลงานโดดเด่น มีหรือตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะหนีพ้นเงื้อมมือของ “บิ๊กบัง!”
“ป๋าเปรม” พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ยังต้องก้าวผ่านตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย ก่อนจะก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี “บิ๊กบัง” ผลงานและบารมีเทียบพล.อ.เปรมได้หรือ? อย่าด่วนใจร้อนนักเลย “บิ๊กบัง”
การเป็นวีรบุรุษกับการเป็นโมฆบุรุษนั้น เกิดขึ้นได้ทุกเสี้ยววินาที
วันนี้ “บิ๊กบัง” เชื่อมั่นตนเองเกินไป เชื่อว่าพูดแล้วคนจะเชื่อฟังเขาทุกเรื่อง เชื่อว่าข้อมูลตนเองถูกร้อยเปอร์เซ็นต์ (ซึ่งอาจถูกไม่หมดหรือผิดหมดก็ได้) ผสมกับเพื่อนสนิทและนักการเมืองมืออ่อนยุยง อย่าโกรธนะถ้าจะบอกว่า ที่สำคัญตัว “บิ๊กบัง” เองยังละอ่อนต่อการเมือง และกระแสอ่อนไหวของผู้คนในสังคมไทยยิ่งนัก
ดังนั้น “บิ๊กบัง” ตัดสินใจพลาดครั้งนี้ อาจนำไปสู่การเสื่อมเสียชื่อเสียงตลอดทั้งชีวิตเลยก็ได้!
ผู้คนที่ออกมาเตือน “บิ๊กบัง” นั้น มิใช่ “พวกขี้ไก่” หากแต่พวกเขาเหล่านั้นเป็นกูรูทางการเมืองทั้งสิ้น การเตือนให้รู้จังหวะก้าวของการได้มาซึ่งอำนาจ และให้รู้จักพอเพียงกับอำนาจที่เป็น “ดาบสองคม” นั้น เป็นมงคลต่อชีวิตผู้รู้จักคิดและปฏิบัติ
ผู้นำประเทศในอดีตหลายคนไม่ฟัง-ไม่เชื่อ-ดื้อดึง ในที่สุด..ก็ต้องลงจากอำนาจอย่างไม่เป็นท่า หนึ่งในผู้นำทหารที่รีบร้อนขึ้นสู่อำนาจ และอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้แค่ 45 วัน ชื่อ สุจินดา คราประยูร ไงล่ะครับ
ต้องยอมรับว่า “บิ๊กบัง” ผลงานยังไม่โดดเด่นเท่าที่ควร “บิ๊กบัง” คุมกองทัพมิได้เบ็ดเสร็จเท่า “สุจินดา” โดยเฉพาะบารมีและการยอมรับของ “บิ๊กบัง” นั้น ห่างชั้นจาก “ป๋าเปรม” อย่างชนิดเทียบไม่ได้เลย ขอย้ำอีกครั้งว่า..ไฉนไย “บิ๊กบัง” ใจด่วนใจร้อนนักล่ะ?
ข้อเขียนนี้หวังดีและหวังให้ “บิ๊กบัง” ซึ่งทำคุณงามความดีให้บ้านเมืองแล้วไม่น้อย ได้โปรดหยุดคิดและชั่งตรองให้ดี เผื่อ “บิ๊กบัง” จะมีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรี สักครั้งในชีวิตไงล่ะครับ...