xs
xsm
sm
md
lg

มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าฯ ปิดชั่วคราว อ้างเงินหมด-จนท.ฉะ"พิสิษฐ์"ต้นตอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทยร่อนหนังสือแจงสื่อต้องปิดตัวเองชั่วคราว เหตุเงินมูลนิธิหมดเกลี้ยง “พิสิษฐ์” เผยปิดเพียงชั่วคราว ยันเปิดอีกครั้งแน่นอน แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ ขณะที่ “หาญณรงค์” ชี้สาเหตุมาจากปัญหาประธาน ไม่สามารถเคลียร์ปัญหาเรื่องการเปิดบริษัทเพื่อนเดรัจฉานและการเป็นที่ปรึกษาองค์กรด้านสัตว์ที่มิชอบ เตรียมนัดถกครั้งใหญ่อาทิตย์หน้าเพื่อหาทางออก ขณะที่ “โซไรดา” ซัดต้องการถ่ายเลือดเก่าโละเจ้าหน้าที่ที่ไม่เห็นด้วยออก

วานนี้ ( 20 ก.ค.) นายพิสิษฐ์ ณ พัทลุง ประธานมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้ออกแถลงการณ์คณะกรรมการมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เรื่องการยุติการดำเนินงานมูลนิธิฯ เป็นการชั่วคราว โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากมูลนิธิฯ ประสบปัญหาวิกฤติทางการเงิน และปัญหาการบริการงานที่ทำให้เงินทุนในการดำเนินงานหมดลง

แถลงการณ์ระบุด้วยว่า นับแต่ปี 2543 ซึ่งได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับปฏิบัติการเป็นต้นมา ปรากฏว่าเงินทุนสำรองที่ใช้หมุนเวียนในการบริหารงานลดลงเป็นลำดับ จนกระทั่งกลางปีพ.ศ.2549 คณะกรรมการมูลนิธิได้ตรวจพบว่าการเงินของมูลนิธิฯ เข้าขั้นวิกฤติ มีการใช้จ่ายเงินทุนสำรองที่ไม่สมดุลกับรายรับ ประกอบกับการบริหารงานในระดับปฏิบัติการไม่เป็นไปตามกฎข้อบังคับและนโยบายที่กำหนดไว้ จึงมีมติปรับโครงสร้างองค์กรใหม่เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2550 เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่มีผู้ไม่หวังดีสร้างกระแสข่าวที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อมูลนิธิเป็นอย่างมาก ประกอบกับการแก้ปัญหาวิกฤติทางการเงินของมูลนิธิฯ เป็นเหตุให้การปรับโครงสร้างของมูลนิธิไม่อาจดำเนินการอย่างได้ผล

ดังนั้นเมื่อวันที่ 9 ก.ค. 2550 คณะกรรมการมูลนิธิฯ จึงได้ประชุมพิจารณาปัญหาอย่างรอบคอบแล้ว ได้มีมติให้ยุติการดำเนินงานของมูลนิธิเพื่อแก้ปัญหาวิกฤติที่เกิดขึ้นให้คลี่คลาย และให้ยุติค่าใช้จ่ายของมูลนิธิฯ โดยทำการเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด ซึ่งมูลนิธิ ฯ จะยุติดำเนินงาน ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. เป็นต้นไป

ด้านนายพิสิษฐ์ เปิดเผยถึงการตัดสินใจครั้งนี้ว่า มีการหยุดการดำเนินงานและปิดมูลนิธิฯจริง อย่างไรก็ตามยืนยันว่าเป็นการปิดชั่วคราวเท่านั้น และจะมีการเปิดดำเนินงานใหม่อีกแน่นอน

“ถามว่าจะเปิดใหม่ไหม เปิดดำเนินงานใหม่แน่นอน แต่ผมเองก็ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ เพราะตอนนี้เงินหมด เดือนหนึ่งๆ มีรายจ่ายเดือนละ 4-5 แสน พอไม่มีเงินก็เลยมีปัญหา ทำงานต่อไม่ได้ ส่วนลูกจ้างของมูลนิธิเราก็จำต้องเลิกจ้างและชดเชยผลประโยชน์ให้เขามากที่สุด”

ต่อข้อซักถามที่ว่ามีกระแสจากพนักงาน เจ้าหน้าที่ ตลอดจนลูกจ้างของมูลนิธิถึงการปิดตัวชั่วคราวและเลิกจ้างในครั้งนี้หรือไม่ นายพิสิษฐ์ ตอบว่า ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีก็ไม่มีผลอะไรในเมื่อเงินหมด และทำงานต่อไปไม่ได้แล้ว

ขณะที่นายหาญณรงค์ เยาวเลิศ ผู้ช่วยเลขาธิการฝ่ายวิชาการ มูลนิธิฯ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ปัญหาทั้งหมดเกิดสืบเนื่องมาจากข้อครหาที่สังคม เจ้าหน้าที่และองค์กรอนุรักษ์ตั้งคำถามเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่ชอบของตัวนายพิสิษฐ์ เอง โดยที่ไม่สามารถชี้แจงให้เป็นที่ยุติได้

ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่นายพิสิษฐ์ ใช้ตำแหน่งประธานไปเป็นที่ปรึกษาให้กับ บ.สยามโอเชี่ยนเวิลด์ ที่สยามพารากอน ซึ่งเป็นองค์กรธุรกิจเอกชนแสวงหาผลกำไรจากนำสัตว์น้ำจากท้องทะเลที่หายากมาจัดแสดง และการตั้งบริษัท เอเชี่ยน ไวด์ไลฟ์ คอนซัลแตนซี (Asian Wildlife Consultancy) ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งช้างไทย 8 เชือกไปออสเตรเลียร่วมกับองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ รวมทั้งการจัดหาสัตว์ป่าที่หายากทั้งในและต่างประเทศให้กับโครงการสวนสัตว์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และการที่ตัวประธานได้จัดตั้งบริษัท บ้านเพื่อนเดรัจฉาน จำกัด มีการเปิดร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม และการจัดแสดงสัตว์ป่าที่หายาก

ดังนั้น เมื่อเคลียร์ไม่จบจึงได้ตัดสินใจโดยอาศัยอำนาจของประธานและกรรมการซึ่งเป็นพวกพ้องเดียวกันออกคำสั่งดังกล่าว

นายหาญณรงค์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเงินนั้น คงต้องอธิบายว่าเป็นเพราะนายพิสิษฐ์ ได้ออกคำสั่งที่ทำให้มูลนิธิฯ ไม่สามารถขอทุนเหมือนดังเช่นที่เคยเป็นมาในอดีต คือออกคำสั่งให้การขอทุนทุกครั้งต้องทำผ่านคณะกรรมการมูลนิธิฯ เพราะปกติแล้วคณะกรรมการจะมีวาระการประชุมเพียงแค่ปีละ 1 ครั้งเท่านั้น ทำให้มูลนิธิฯ ขาดสภาพคล่องในการดำเนินงาน ดังนั้น ตลอดระยะเวลา 6-7 เดือนที่ผ่านมา มูลนิธิฯ จึงไม่มีแหล่งทุนเข้ามาเพิ่มเติมในการทำงานเลย ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าทำไมถึงตัดสินใจเช่นนั้น

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มูลนิธิฯ ยังคงมีเงินส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถเบิกออกมาใช้ได้ 3 ส่วนด้วยคือ 1.เงินฝากธนาคารจำนวน 4 ล้านบาท 2.พันธบัตรรัฐบาลจำนวน 4 ล้านบาท และ 3.เงินทุนที่ได้รับมาแล้วแต่ยังไม่สามารถเบิกจ่ายได้อีกจำนวน 4 ล้านบาท

“ขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่มีอยู่ประมาณ 40 คนยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรกันต่อไป แต่เท่าที่ได้คุยๆ กันคงจะมีการนัดหารือกันอีกครั้งเพื่อหาทางออกประมาณวันจันทร์หรือวันอังคารหน้า จริงๆ แล้วผมมั่นใจว่า เรื่องการเงินไม่น่าจะใช้ปัญหา เพราะตอนที่เกิดวิกฤติปี 40 เราก็ยังอยู่กันได้ โดยลดเงินเดือนตัวเอง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ บอกได้ว่าประธานมูลนิธิฯคนปัจจุบัน บริหารงานล้มเหลว”นายหาญณรงค์ กล่าวย้ำ

ส่วน น.ส.โซไรดา ซาลวาลา ในฐานะเลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้าง ที่เคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านนายพิสิษฐ์ กล่าวว่า การปิดมูลนิธิฯชั่วคราวในครั้งนี้อาจจะมีวาระซ่อนเร้นหลายประการ ทั้งเรื่องกระแสการส่งหนังสือเรียกร้องจากมูลนิธิและองค์กรต่างๆ ให้นายพิสิษฐ์ ลาออก ตลอดจนเรียกร้องให้คณะกรรมการบังคับ "ให้ออก" เนื่องจากเห็นว่านายพิสิษฐ์ สวมหมวกสองใบ คือใบหนึ่งทำงานด้านคุ้มครองสัตว์ และอีกใบเป็นพ่อค้า ซึ่งถือว่าไม่เหมาะสม ดังนั้นการประกาศยุติชั่วคราวนี้อาจจะเป็นการกลบกระแสการเรียกร้องให้ลาออกจากมูลนิธิก็เป็นได้

อย่างไรก็ตาม นอกจากกระแสกดดันจากภายนอกและมูลนิธิต่างๆ ที่ไม่เห็นด้วยกับการบริหารงานของประธานมูลนิธิฯ แล้ว ภายในมูลนิธิฯเองก็มีเจ้าหน้าที่ที่ไม่เห็นด้วย ดังนั้นการยุติการทำงานชั่วคราวและเลิกจ้างเจ้าหน้าที่อาจจะเป็นวิธีการถ่ายเลือดเก่าเพื่อแก้ปัญหาการไม่เห็นด้วยกับการบริหารภายในองค์กร

“เวลานี้ มีกระแสออกมาเหมือนกันว่านายพิสิษฐ์ จะยกเลิกและขายทิ้งอาคารที่ทำการของมูลนิธิ ซึ่งก่อนหน้านี้ตัวดิฉันเองเป็นคนช่วยหาเงินมาใช้หนี้ตึกนี้ที่ซื้อมากว่า 6 ล้านบาท ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหน แต่ถ้าจริงก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเมื่อขายแล้วเงินที่ได้นายพิสิษฐ์ จะเอาไปทำอะไร และจะไปเปิดที่ทำการใหม่ที่ใด”น.ส.โซไรดา ทิ้งท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น