xs
xsm
sm
md
lg

มาเตรียมตัวเลือกตั้งกันเถอะ!

เผยแพร่:   โดย: ยอดรัก ตะวันรอน

.
ครับ เรามาเตรียมตัวเลือกตั้งกันเถอะ!

หมดเวลาแล้วสำหรับการรอคอยอันยาวนานของเรา ถึงขนาดที่ว่าเราจะต้องด่าทอ เอะอะโวยวายกัน และถือว่าเป็นความชั่วร้ายของระบบเผด็จการของคณะปฏิวัติฯ ที่ให้ประเทศไทยไม่มีระบอบประชาธิปไตยหรือขาดระบอบประชาธิปไตยไปเพราะไม่มีรัฐธรรมนูญเหมือนประเทศอื่นๆ เขา

ทำให้นักการเมืองที่ไปรวมตัวกันเห่าหอนเรียกร้องเรื่องนี้อยู่ที่สนามหลวงวันแล้ววันเล่าแทบจะขาดใจตายกัน

แต่ตอนนี้เราจะมีรัฐธรรมนูญกันแล้ว เราก็จะเป็นประชาธิปไตยไปอีกสักพักหนึ่ง หลังจากที่เรามีรัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตยเพื่อแสวงหาประโยชน์ร่วมกันขายชาติกันมาในคณะรัฐบาลที่มีรัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตยเหมือนที่เราเคยมีมาแล้ว เมื่อ 75 ปีที่ผ่านมา แล้วเราก็จะเริ่มต้นกันใหม่ต่อไปอีก หลังจากที่จะต้องมีใครมาฉีกรัฐธรรมนูญกันอีกครั้งหนึ่ง

นั่นคือธรรมเนียมประเพณีการปกครองของเรา-คนไทยและประเทศไทย!

หรือเป็นระบอบประชาธิปไตยที่จะต้องมีใครหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมีความปรารถนาที่จะนำบ้านเมืองมาทำมาหากินภายใต้รัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตยที่นำมาอ้างกัน

คนกลุ่มที่ว่านี้จะถือกันว่าเมืองไทยของเราจะเจริญรุ่งเรืองต่อไปมากหรือน้อยก็เพราะเรามีรัฐธรรมนูญเท่านั้น อย่างอื่นไม่ต้องคิดและไม่ต้องพูดถึง เพราะเราเป็นคนพวกหนึ่งซึ่งเป็นเพียงสัตว์หนังหนาทางการเมืองที่ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากสัตว์กินเลือดชั้นต่ำทั่วไป

ก็เพราะรัฐธรรมนูญทำให้บ้านเมืองของเรามีระบอบประชาธิปไตยขึ้นมาเหมือนอย่างที่เคยเป็นมาเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมานั้น ประโยชน์และเนื้อหาของมันมาจบลงที่มันเป็นเครื่องมือในการปล้นชาติขายชาติ เราปล่อยและเปิดโอกาสให้นักการเมืองที่เข้ามาประสบความสำเร็จอย่างสูงในการปล้นบ้านปล้นเมืองที่ทำให้อิ่มหมีพีมันกันไปทั่วทุกตัวคน

นี่ถือว่าเป็นประโยชน์อันสูงสุดของระบอบประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญของเราที่เรียกร้องโวยวายกันอยู่ไม่มีประโยชน์อะไรอื่นนอกไปจากนี้

เมื่อมาถึงวันนี้ หลังจากการเห่าหอนเรียกร้องหาประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญด้วยความเชื่อมั่นว่าถ้าเมืองไทยได้สองสิ่งนี้ขึ้นมาแล้วบ้านเมืองก็จะสงบสุข และมีเสรีภาพอย่างไม่มีอะไรจะต้องสงสัย

สิ่งที่เราจะต้องทำต่อไปตามรัฐธรรมนูญราคา 2,000 ล้านบาทที่เรานำมาจ้างผู้มีความรู้ความสามารถมาถกเถียงโต้แย้งอวดความเก่งความรู้กันเป็นแรมเดือนเสร็จสิ้นลงไปแล้ว ก้าวต่อไปก็คือการจัดให้มีการเลือกตั้งเพื่อจะได้นักการเมืองมาจัดตั้งรัฐบาล และสนับสนุนรัฐบาลเพื่อเป็นผู้บริหารปกครองบ้านเมืองต่อไป จนกว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้จะถูกใครมาฉีกทิ้งไป

(มีคนเชื่อกันว่าในเวลาไม่นานนัก ก็จะมีการฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งครั้งใหม่ และมาเสียเงินเสียเวลาร่างกันอีกหลังจากรัฐบาลชุดใหม่ตามรัฐธรรมนูญนี้ได้ปล้นบ้านเมืองกินกันพอสมควรแล้ว ที่ต้องเชื่อกันก็คือว่ามันเป็นกฎเกณฑ์ประเพณีของระบอบประชาธิปไตยไทยจะรอดไปจากกฎเกณฑ์นี้ไม่ได้)

คณะบุคคลที่จะขึ้นมาปกครองและบริหารบ้านเมืองเพื่อร่วมการเอาประเทศเป็นที่ทำมาหากิน การมีอำนาจวาสนา และการคอร์รัปชันนานัปการนั้นเรียกกันว่าคณะรัฐบาลที่จะต้องจัดตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญ

เมื่อได้ตัวนายกรัฐมนตรีขึ้นมาแล้วก็จะมีการสรรหาผู้คนที่เป็นพรรคพวกเพื่อนฝูง เป็นญาติพี่น้อง เป็นผู้มีอุปการคุณหรือเฉพาะผู้ที่ให้การสนับสนุนพรรคซึ่งส่วนมากจะเป็นพ่อค้าผูกขาดหรือนักธุรกิจทั้งคนไทยและคนต่างชาติที่มีธุรกิจใหญ่โต เช่น บริษัทใหญ่ๆ ที่ผูกขาดอยู่ทุกวันนี้ตั้งแต่พ่อค้าเหล้าเบียร์ เป็นต้น จนกระทั่งนักธุรกิจการค้าโสเภณีระหว่างชาติเข้ามาเป็นคณะรัฐบาลบริหารกระทรวงทบวงกรมทั้งหมดที่มีอยู่

คนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้นั้น จะต้องมีฐานะหรือตำแหน่งหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่งที่ได้รับการเลือกตั้งมาซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่มีศักดิ์ศรี และมีประชาชนให้ความเชื่อถือในฐานะบุคคลที่จะนำประเทศชาติและประชาชนไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองได้

ปัญหาของหัวหน้าพรรคการเมืองที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้นั้น ตามปกติที่ทำกันมาจะเป็นคนประเภทที่ว่าเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณวุฒิ วัยวุฒิ และความซื่อสัตย์สุจริตพอที่ผู้คนจะนับถือได้ มีประสบการณ์อย่างเพียงพอที่จะเข้าใจปัญหาของประเทศชาติทั้งในอดีต ปัจจุบัน และในอนาคต

ซึ่งเท่าที่ผ่านมา ก็เป็นมาเช่นนั้น!

คนที่จะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีดังที่กล่าวมานั้น ในระยะเวลา 75 ปีที่ผ่านมานอกจากจะชั่วโดยสันดานจนกระทั่งถูกคว่ำออกไปจากตำแหน่งโดยไม่เคยทำอะไรให้แก่บ้านเมืองจะเป็นอีกประเภทหนึ่งที่จะถูกจ้องทำลายเพราะใจไม่กว้างพอที่จะนำผลประโยชน์ของแผ่นดินอย่างใดอย่างหนึ่งที่มีค่าพอที่จะยัดปากนักประชาธิปไตยรอบๆ ตัวได้

แต่ในปัจจุบันนี้ บรรดาคนที่จะเข้ามาเป็นนักการเมืองและมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคการเมือง และรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมองไม่เห็นตัว คงมีนักคอร์รัปชันและนักเสี่ยงโชคทางการเมืองรุ่นใหม่ที่ฟังแต่ชื่อ และได้เห็นหน้าก็อาจจะยืนยันได้ว่าเมืองไทยจะวิบัติวอดวายไปภายในไม่กี่วันเท่านั้น ไม่มีคุณสมบัติใดที่พอจะหวังได้ว่าจะแก้ไขปัญหาประเทศชาติและบ้านเมืองที่เต็มไปด้วยปัญหาสารพัด ทั้งภายในประเทศและนอกประเทศ ทุกคนกำลังเต้นเร่าๆ อยู่ในวงการเมืองไทยทุกวันนี้ เมื่อพูดกันอย่างไม่อ้อมค้อมคนเหล่านี้มีคุณสมบัติเพียงแต่ “ขี้กับไส้” เท่านั้น

ทุกคนจะเป็นเพียงนักเสี่ยงโชคเข้าใจว่าการเมืองเป็นเรื่องของเด็กอมมือ เล่นได้ก็เล่น เล่นไม่ได้ก็ไม่เล่น มีโอกาสดีไปเจออะไรฟลุกเข้าก็อาจจะร่ำรวยทั้งเกียรติยศและเงินภายในไม่กี่วันก็ได้

คุณสมบัติอันสำคัญของนักการเมืองภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่สำคัญก็คือต้องเป็นคนหน้าด้าน หน้าไหว้หลังหลอก โกหกพกลม พูดในเรื่องที่ตัวเองไม่รู้และไม่เข้าใจ แสวงหาประโยชน์เข้าพกเข้าห่อ

ส่วนมากคนพวกนี้จะไม่รู้ว่าผลประโยชน์ของประเทศชาติประชาชนคืออะไร?

นั่นคือผลของระบอบประชาธิปไตยที่คนไทยจะได้จากรัฐธรรมนูญฉบับนี้

การเป็นนักการเมืองของคนไทยที่ผ่านมาแล้วหรือจะเกิดขึ้นในอนาคตภายใต้การเปิดโอกาสของรัฐธรรมนูญฉบับนี้น่าจะมีเพียงเท่านี้เท่านั้น

รัฐธรรมนูญของเราที่พากันร่างขึ้นมาด้วยเงินที่ทุ่มลงไปถึง 2,000 ล้านบาทเพื่อไปเที่ยวตากอากาศ ไปประชุมดูลมชมนกกันในที่ต่างๆ โดยไม่มีความจำเป็น แต่เราไม่เคยคิดและไม่เคยสนใจกันเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีและนักการเมืองจำนวนนับเป็นร้อยเป็นพันคนในพรรคของมันจะสนับสนุนการขายชาติระเบิดเถิดเทิงอย่างที่เป็นมาแล้วจะมีอะไรป้องกันมันได้?

และจำเป็นที่จะต้องป้องกันมันหรือไม่?

รัฐธรรมนูญที่ลงทุนร่างกันขึ้นมามันใช้ประโยชน์อะไรได้บ้างในการที่จะทำหน้าที่ที่จะควบคุม และสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองในชาติเป็นองค์กรที่มีวัฒนธรรมทางการเมืองได้?

การคอร์รัปชันหรือการกินบ้านกินเมืองของนักการเมืองที่ทำกันมาแล้วในสมัยรัฐบาลก่อนๆ นั้นเราจะมีวิธีการแก้ไขมันอย่างไร ?

คำตอบอย่างชัดเจนที่ไม่ต้องคิดไม่ต้องรอคอยก็คือรัฐธรรมนูญที่เราร่างขึ้นมาท่ามกลางความไม่มีระเบียบวินัยของสังคมทุกวันนี้ ก็ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นนอกจากจัดทำมาเป็นตุ๊กตาเสียกบาลที่ทำกันไว้สำหรับแก้บนกันไปเท่านั้น

เมืองไทยและสังคมไทย จะไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับไหนที่จะนำมาแก้ปัญหาแต่ละปัญหาของสังคมได้ นอกจากมีไว้เพื่อการลวงโลกเท่านั้น

ไม่มีผู้รู้คนไหนจะยอมรับว่า ปัญหาประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญที่เราต้องมาเร่งทำกันในระยะเวลาเกือบ 100 ปีมานี้ มันไม่เกิดจากรัฐธรรมนูญแต่มันเกิดจากคนที่เป็นสมาชิกของสังคมของเรา มันเกิดจากปัญหาทางวัฒนธรรมประเพณีที่เราอยู่กันมา เราปลูกฝังกันมาทางด้านความคิดความรู้สึกของประชาชน เราไม่เคยคิดถึงความจำเป็นที่จะสั่งสอนให้ประชาชนรู้ว่าอะไรคือความผิดความถูก ถ้าจะพูดกันรวมๆ ก็คือเราไม่แก้ปัญหาที่เรียกว่าปัญหาทางการเมืองเราไม่เคยแตะต้องกันเลย

การคิดสร้างประชาธิปไตยของผู้รู้ของเราที่สร้างไม่สำเร็จตลอดเวลาเกือบร้อยกว่าปีที่ผ่านมาแล้วนั้น ก็ชี้ให้เห็นอยู่เต็มตาว่าเราไม่ได้ทำในเรื่องที่ควรทำ คือการมุ่งเอาความรู้ความเข้าใจและการยอมรับของคนและสังคมว่าเราจะอยู่อย่างไรทำอย่างไรกันที่จะไม่ทำให้ต้องมานั่งทำลายประเทศชาติและประชาชนกันอย่างที่เรากำลังกระทำกันอยู่นี้

เราควรจะเลิกโง่เสียทีจะได้ไหม?

ไม่รู้ว่าทำไมจะต้องทนดื้อด้านทำในสิ่งที่มันผิดกันมาเป็นร้อยๆ ปี?

เมืองไทยขนาดที่มีอยู่นี้ ถ้าพิจารณากันตามความเป็นจริงแล้วมันก็คือขุมทรัพย์อันมหาศาลที่มีความร่ำรวยนานาชนิดที่บรรดาพรรคการเมืองต่างๆ ที่มีสมัครพรรคพวก และมีความสามารถที่จะเข้าไปปล้นได้อย่างรัฐบาลสัมเภเวสีที่เราเคยมีมาแล้ว สามารถจะกอบโกยเอาความร่ำรวยได้อย่างที่เรียกกันว่าต่อให้นั่งกินนอนกินไปนานกว่า 7 ชั่วโคตรยังกินไม่หมด หรืออาจจะเอาไปซื้อทีมฟุตบอลต่างประเทศเอาไว้เพื่อตบตาชาวบ้านชาวเมืองทั่วไปก็ยังไม่มีวันหมด ก็เพราะเรามีระบอบประชาธิปไตย มีการเลือกตั้ง และมีรัฐธรรมนูญที่เราหลับหูหลับตากันมาแล้วและกำลังทำกันต่อไปนั่นเอง

การมีรัฐธรรมนูญ การเลือกตั้ง และการนำระบอบประชาธิปไตยของเรามานั้น ความจริงที่ยืนยันได้ก็คือการลงทุนทะเลาะโต้แย้งกันและเสียเงินไปกว่า 2,000 ล้านบาทนั้น ไม่ใช่อะไรอื่น นอกจากว่ามันเป็นการเปิดประตูและเปิดทางไว้ให้ขบวนการโจรที่มาจากการเลือกตั้งจำนวนหนึ่งเข้าไปปล้นขุมทรัพย์ของคนไทยและชาติไทยให้สะดวก

แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการเลือกตั้ง มีรัฐบาล มีพรรคการเมือง มีนายกรัฐมนตรีและมีผู้แทนราษฎรซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้จะต่อสู้กันด้วยเงิน ใครหรือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะได้หรือจะเสียไม่อยู่ที่ความสามารถหรือความสุจริตใจใดๆ นอกจากใช้เงินทุ่มแข่งขันทุกตำแหน่งมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับว่าตำแหน่งที่ตนต้องการจะเข้าไปครอบครองนั้น สามารถคดโกงบ้านเมืองและหลอกต้มประชาชนได้มากน้อยเท่าใด การมีระบอบประชาธิปไตยของเรา การเลือกตั้งของเราหรือการมีรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยของเราจึงเป็นประชาธิปไตยที่ต้องสร้างด้วยเงินตัวเดียว

ใครทุ่มเงินมากโอกาสชนะคนอื่นก็มีมาก

และผู้ที่มีชื่อว่านักการเมืองทุกคนพร้อมที่จะทุ่มและกล้าทุ่มเพราะสามารถเข้าไปอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ที่ตนถนัดแล้วรวยมหาศาลทันที

ประชาธิปไตยของเราจะจบลงตรงนั้น!
กำลังโหลดความคิดเห็น