ไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมเขียนเรื่องเกี่ยวกับดวงชะตาทักษิณ และพล.อ.สุรยุทธ์ ลงในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ผมบอกเหตุผลไว้ชัดเจนว่าอะไรจะเกิดขึ้นแก่เจ้าชะตาทั้งสองจากดวงดาวในระยะนี้ตามหลักวิชาโหราศาสตร์ ซึ่งมีหลักเกณฑ์ประการเดียวกับกฎเกณฑ์ทางพุทธศาสนาที่ว่า “คนทำดีต้องได้ดี คนทำชั่วต้องได้ชั่ว” ขณะที่โหราศาสตร์เองก็บอกไว้ชัดเจนว่า “คนชั่วจะได้รับการตอบแทนด้วยความชั่ว คนที่ดีจะได้รับผลดีตอบแทน”
ในฐานะนักโหราศาสตร์ที่ไม่ถือว่าเป็นอาชีพคนหนึ่ง แต่ได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาโหราศาสตร์มาบ้างแล้วเป็นเวลานานหลายปี ได้รู้ได้เห็นความจริงความเท็จในวิชาโหราศาสตร์ที่ว่านี้มามากพอสมควร และก็ได้ใช้วิชาโหราศาสตร์เป็นแนวทางในการทำมาหากินและการดำเนินชีวิตมา การมีความยากจนประจำตัวชนิดที่เรียกว่าถูกมันกัดติดไม่ยอมปล่อยมาถึงวันนี้ โหราศาสตร์นี่แหละได้ช่วยผมในความสำเร็จพอประมาณ แม้แต่การมีเมียและมีลูกมีบ้านซุกหัวนอนหรือมีกินมีใช้มาถึงทุกวันนี้ ซึ่งคนสิ้นไร้ไม้ตอกอย่างผมไม่มีใครเชื่อว่าผมจะทำได้ มีลูกเกิดมาก็ไม่รู้ว่าผมจะไปเอาเงินที่ไหนมาให้ลูกได้เรียนต่อไป แต่ว่า เมื่อจบมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ถึงสองคนแล้ว ยังส่งไปเรียนที่รัสเซียโดยทุนของรัฐบาลรัสเซียพร้อมด้วยหลานสาวอีกคนหนึ่งเป็นเวลานานถึง 7 ปีและ 9 ปี โดยไม่เคยเสียค่าใช้จ่ายอะไรแม้แต่บาทเดียว พวกเขาจะหาประสบการณ์กันต่อไปในยุโรปตะวันตกและตะวันออกจนแทบจะรู้สึกว่าประเทศเหล่านั้นเป็นสนามหลวงไปแล้วสำหรับพวกเขา
โชคชะตาและดวงนั้น ไม่ให้คุณเพียงแต่ตัวผม แต่มันเลยถึงลูกหลานทุกคนด้วย
ผมเองได้รับเชิญไปต่างประเทศเกือบทั่วโลก ยกเว้นอเมริกา อังกฤษ และจีนแดงเท่านั้นที่ผมไม่ได้ไป เพราะผมแอนตี้ประเทศเหล่านั้น ไปในสมัยผมรับหน้าที่เป็นผู้แทนขององค์การมีชื่อว่า แอปโซ่ (Apso-Asian People Solidariy) และองค์การสันติภาพโลก (World Peace-Council, Finland)
เปล่า, มันไม่ได้วิเศษวิโสอะไรหรอก!
ใครๆ ก็ไปได้ตราบใดที่มีเงิน
แต่สำหรับผม มันเป็นเรื่องที่ผมต้องยอมเชื่อว่าเป็นเรื่องของดวงชะตาจริงๆ
ถึงไม่เชื่อว่าเป็นเพราะดวงชะตาแล้วจะไปเชื่ออะไรที่ไหน?
การเดินทางไปร่วมประชุมกับบุคคลสำคัญของโลกตลอดเวลา 20 กว่าปีที่ผ่านมานี้ เป็นเรื่องผิดปกติสำหรับชีวิตคนอย่างผม บุคคลสำคัญของโลก ไม่ว่าจะเป็นนักปฏิวัติ นักต่อสู้ทั้งในประเทศด้อยพัฒนาทุกซีกโลก ผมได้พบปะรู้จักและคุ้นเคยเป็นอันดี แผ่นดินที่น่าเที่ยวน่าดูทุกแห่งแม้แต่ภูเขาน้ำแข็งที่รู้จักกันว่า “คิริมันจาโร” ในแทนซาเนียที่เคยเห็นแต่ในหนัง ผมสามารถไปถึงที่นั่น หรือไปเที่ยวขี่อูฐเล่นในทะเลทรายซาฮาราก็เที่ยวมาหมด
นักปฏิวัติในแอฟริกาที่มีชื่อเสียงอย่างท่านออกุสโต เนโต แห่งแองโกล่า ผมเคยไปสัมผัสมือและนั่งดื่มกาแฟร่วมกับท่านมาแล้ว หรือแม้แต่ฝามวันดง แห่งเวียดนาม ท่านก็เชิญผมไปพบปะพูดคุยเรื่องการเมืองและสถานการณ์ของโลกกันอย่างเปิดอก
เพราะฉะนั้น ในบางครั้งบางคราวเมื่อมีเรื่องยุ่งๆ ผ่านเข้ามาในชีวิต มีทางออกทางใดอื่นก็ต้องนึกถึงโหราศาสตร์ขึ้นมาทันที
เพราะฉะนั้น ผมจึงคิดว่าจะต้องเขียนเรื่องดวงชะตาต่อไปอีกสักชิ้นหนึ่ง เพื่อตอบปัญหาที่ยุ่งยากของบ้านเมืองในขณะนี้ ที่สำคัญก็คือความพยายามที่จะฮุบประเทศไทยไว้เป็นที่ทำมาหากินของนักปล้นชาติกำลังพูดถึงกันอยู่ ทั้งๆ ที่ปล้นเอาไปมากพอสมควรแล้ว เพื่อหาคำตอบว่า อดีตนายกฯ ผู้ไม่มีเงาหัวท่านนั้นจะทำได้สำเร็จหรือไม่ ทั้งที่มีคนเชื่อว่าท่านเป็นคนฉลาดเกินมนุษย์ เฉพาะอย่างยิ่งพวกเดียรัจฉานทางการเมืองที่ท่านขุนน้ำขุนข้าวมันอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง โดยไม่คิดถึงคนที่ท่านยังซื้อไม่ได้อีก 50 กว่าล้านที่ต้องการรอดูความวิบัติฉิบหายของท่านอยู่อย่างใจจดใจจ่อ เพื่อจะบอกแก่คนไทยทุกวันนี้ ไม่ว่าจะด้วยการคอร์รัปชัน ไม่ว่าท่านจะปล้นชาติขายชาติไปอย่างไรหรือมีสัตว์เลี้ยงที่เก่งกาจเพียงไรก็ตาม ผมอยากจะใช้วิชาโหราศาสตร์ที่ผมเรียนรู้มานี้บอกกล่าวแก่คน 3 จำพวกซึ่งได้แก่ พวกแรกตัวท่านเอง พวกที่สองคือ พวกที่รอการเกาะหางของท่านไปสู่ความสำเร็จในชีวิต พวกที่สามได้แก่ บรรดาสุนัขรับใช้ที่คอยรับจ้างเห่าหอนปลอบขวัญท่านว่า อย่าไปหวังอะไรว่าท่านจะกลับมาเมืองไทยอีก เพราะตามดวงชะตาที่ผมเห็นนั้น ไม่ว่าจะหนาหรือแข็งขนาดไหนก็ไปไม่รอดแน่นอนดึงดันสู้มากไปเท่าใด ก็ฉิบหายมากเท่านั้น
ดวงชะตาของอดีตนายกฯ ท่านนี้ ในวิชาโหราศาสตร์ของผม ท่านจะไม่มีวันได้กลับมาเมืองไทยแน่และท่านจะไม่กล้ากลับเมืองไทยแน่นอนในชีวิตนี้
นอกจากความพ่ายแพ้อย่างยับเยินของดวงชะตาแล้ว สิ่งที่ทำให้ท่านไม่กลับมาก็คือท่านไม่มีความเป็นลูกผู้ชายเหลือติดตัวอยู่เลยแม้แต่น้อย!
ท่านไม่กล้ารับผิด หรือถ้าอะไรที่มันผิดท่านก็ไม่กล้ารับว่ามันผิด
นอกจากตลบตะแลงแก้เกี้ยวไปเรื่อยๆ
นั่นเป็นเพราะในดวงชะตาของท่าน อาทิตย์ (1) และพุธ (4) เป็นดาวที่มีความหมายถึงความกะล่อนโกหกทุกอย่างที่จะทำให้ใครคิดว่าท่านเป็นคนเก่งเพราะวันที่ท่านเกิดนั้นเป็นวันที่ดาวในดวงชะตาของท่านหมดแสงหรือเป็นดาวดับ ตามหลักวิชาโหราศาสตร์ระบบนิรายนะซึ่งการดับของดาวเหล่านี้ในดวงชะตานั้นเป็นดาวที่จะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตที่ท่านมีอยู่ หมาทุกตัวที่ท่านขุนมันมาอย่างเพียงพอแล้วก็น่าจะเห่าหอนต่อไปไม่ได้ (ผู้ที่สนใจความหมายของดวงดาวที่ว่านี้ทุกดวง จะหาอ่านได้จากหนังสือโหราศาสตร์ที่ชื่อว่า “โหราศาสตร์เศรษฐกิจและการเมือง” ที่ผมเขียนไว้โดยละเอียด)
เมื่อพิจารณาดวงเอาเฉพาะลัคนาเกิดที่สถิตในราศีตุลที่พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์ ผูกดวงไว้นั้นก็เหลือกินแล้ว (ผู้จัดการรายวัน 9 กรกฎาคม 2550) จะเห่าหอนกันไปยังไงก็จะไม่สมหวังแน่นอน ถ้าจะเอาให้ฉิบหายน้อยหน่อยก็ควรจะยุติพฤติกรรมสกปรกที่กำลังทำอยู่ในขณะนี้ได้แล้ว!
ดวงชะตาคนนั้น ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จะบันดาลหรือให้คุณให้โทษแก่ใครก็หาไม่ ดวงชะตาเป็นเพียงแผนที่ชีวิตของคนแต่ละคนที่เริ่มตั้งแต่วันเกิดถึงวันตาย แผนที่ที่ว่านี้จะบอกให้เจ้าชะตารู้ว่าจะเดินไปอย่างไร จะไปที่ไหน มีศัตรูและเวรภัยอะไรรออยู่หรือไม่หรือจะไปพบสิ่งดีงามข้างหน้า จากบทเรียนที่ผมได้รับจากดวงก็คือว่าเวลาดวงมันดีทุกอย่างมันจะราบรื่นสะดวกสบายไปหมด ถ้าดวงไม่ดี เวรภัยทุกอย่างมันจะเข้ามา
ครั้งแรกที่ได้รับเชิญไปร่วมกับองค์การเหล่านี้ผมจะต้องเดินทางไปมอสโกที่รัสเซียแน่นอนในทันทีที่เครื่องบินออกจากดอนเมือง ผมก็เป็นแขกขององค์การสันติภาพไปเรียบร้อย ซึ่งเมื่อถึงมอสโกแล้วจะต้องเดินทางโดยรถไฟไปเลนินกราด และพระราชวังฤดูร้อนของพระเจ้าซาร์อีกหลายหนด้วย โดยค่าใช้จ่ายทุกอย่างทางองค์การจะจ่ายให้หมด
เมื่อกลับถึงเมืองไทยครั้งแรกก็พบว่าก่อนออกจากกรุงเทพฯ ผมมีเงินติดตัวไป 15 เหรียญ เพราะมีไม่มากไปกว่านั้น กลับมาถึงสนามบินดอนเมืองเงินที่มีติดตัวไป 15 เหรียญนั้นยังเหลือมาถึง 7 เหรียญหลังจากที่ซื้อวอดก้าบนเครื่องบินเมื่อตอนกลับเมืองไทยมาด้วย
นี่คือชีวิตที่ขึ้นกับดวงชะตา
ผมเขียนเรื่องดวงชะตาทักษิณมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยทราบวันเดือนปีเกิดที่อาจจะไม่ถูกต้องนัก แต่คราวนี้ผมเอามาจากรายงานของพล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์ ซึ่งท่านได้ทราบวันเดือนปีเกิดแน่นอนจากเจ้าของดวงชะตาเองคือเกิดเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2492 เวลา 15.00 น.เศษ ที่เชียงใหม่
เป็นอันว่ามีปัญหาสำหรับการนำมาผูกดวงถูกต้องและสามารถทายได้อย่างไม่ผิดพลาดเวลาเกิด และดวงชะตาของนักคอร์รัปชันคนสำคัญของโลกรายนี้ที่ถูกต้องแน่นอนก็อย่างที่พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์ ใน “ผู้จัดการรายวัน” เขียนลงเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว ดวงของท่านนายกรัฐมนตรีผู้นี้ นักโหราศาสตร์ผู้รอบรู้ของท่านหลายคนกล่าวว่า ลัคนาเกิดสถิตที่ราศีกันย์ และมีราหู (8) เล็งลัคนาหรือเป็น 180 องศาต่อกันอยู่ ซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็นโหรเขมรหรือโหรพม่าเฮงซวยที่ไหนไม่เคยปริปากออกมาเลยว่าถ้าราหูเล็งเป็น 180 องศากับลัคนาเกิดแล้ว มีเงินเป็นแสนๆ ล้านซื้อนักการเมือง และข้าราชการคอร์รัปชันทั่วประเทศมันก็บ้าแล้ว เพราะราหูตัวนั้นไม่ต้องเอาความรู้หรือความเฉลียวฉลาดที่ไหนมาทายเลย เพียงแต่เอากำปั้นทุบดินลงไปที่ไหนมันก็ถูกวันยังค่ำลัคนาดวงชะตานี้ไม่ได้สถิตที่ราศีกันย์
แต่สถิตที่ราศีตุลไม่เกิน 3 องศา 20 ลิปดาซึ่งตรงนี้เป็นนวางค์ที่ให้โทษ โหราศาสตร์ไทยและอินเดียถือว่าให้โทษหนักอาจจะถึงแก่ชีวิตก็เป็นได้
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าลัคนาสถิตราศีกันย์จริง โดยมีราหูเล็งลัคนาเกิดแล้วตำราโหราศาสตร์ตำราไหนก็บอกว่า เสาร์แพ่งเล็งลัคน์แล้ว อสุรา (ราหู) ภุเมศร์ (อังคาร) อัฏฐาว่าไว้ (เป็นแปดหรืออังคารเข้าภพมรณะ) ท่านยืนยันว่า “โทษแท้ประหารหิน”
คำทำนายท่านเขียนไว้ว่าตรงนี้เป็นจุดที่หมายถึงโทษร้ายแรงที่ให้อภัยไม่ได้ ขอให้มันมีลัคนาตรงนั้นอย่างที่ พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์ ท่านผูกดวงเท่านั้นพอ!
คำทำนายในคัมภีร์โหรโบราณเขียนทำนายไว้เป็นพันๆ ปีนั้นมีความว่า
หนึ่งฤกษ์หกราศี เมถุนี, ตุลย์, กุมภา
ชื่อทวาปถมา พฤษภา, มังกร, กันย์้
ชื่อทวาอวสาน หกสถานนี้สำคัญ
นับบาทสิสองนั้น ผิวลัคน์เกาะเคราะห์เบียฬบีฑ์
อันตรายถึงชีวิต อสรพิษจะย่ำยี
เขี้ยวงาพิษอันมี เร่งระมัดประหยัดกาย
คำทำนายเหล่านี้ไม่ต้องแปล ไม่มีอะไรที่จะต้องอธิบาย
ในข้อเขียนของผมและของพล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์ ได้พูดถึงเรื่องราวในดวงชะตาของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ว่าน่าจะไปไม่รอด สิ่งแรกที่เรามีความคิดเห็นตรงกันก็คือพฤติกรรมคอร์รัปชัน และการทำลายบ้านเมืองอันพิลึกพิลั่นของท่านนั้นมันน่าจะมาจากอะไรอื่น นอกจากดวงชะตาและเวลามันจะสิ้นสุดลงเพราะกรรมอย่างที่ว่านั้น ทั้งผมและพล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์ ที่อาจจะเรียนกันมาคนละตำรา แต่มองเห็นความวิบัติฉิบหายในดวงชะตาเหมือนกันก็คือจะต้องเจ๊งแน่ แต่ผมไม่กำหนดวันลงไปว่าวันที่เท่าไร เพราะผมเป็นนักโหราศาสตร์ที่เกลียดการคำนวณรายละเอียด แต่พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์ ท่านได้ใช้หลักวิชาของโหราศาสตร์อาหรับซึ่งแตกต่างจากไทยและสากลไม่มากนัก ท่านว่านับตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคมเป็นต้นไป น่าจะเป็นระยะที่ดวงชะตาของท่านอดีตนายกฯ ท่านนี้น่าเป็นห่วง
สำหรับผมนั้น ผมเคยทำนายไว้ว่านับตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าจะถูกพระผู้เป็นเจ้าองค์ไหนส่งให้ลงมาเกิด วันที่จะชนะหรือหวนกลับมาโกหกประชาชนอย่างเดิมนั้นหมดเวลาแล้ว อุบาทว์นานาชนิดมายืนเคาะประตูรออยู่ตลอด 24 ชั่วโมงทีเดียว
ผมอยากจะเตือนทุกคนที่มีดวงชะตารูปนี้หรือเกิดในวันดับไม่ว่าปีไหน พ.ศ.ไหน จะต้องนึกถึงเวรกรรมไว้ให้มากสักหน่อย ชีวิตมีภัยและอันตรายอยู่รอบด้านถึงแม้ว่าจะกะล่อนพิสดารขนาดไหน โอกาสที่จะเอาตัวรอดนั้นค่อนข้างยาก
อย่าประมาทกับชีวิตอย่างเด็ดขาด
ถึงจะหน้าด้านเปลี่ยนชื่อเป็น แฟรงค์ ซิเนตรา แล้วก็เถอะ! นรกก็ยังรับไม่ได้
ขำว่ะ!!
ในฐานะนักโหราศาสตร์ที่ไม่ถือว่าเป็นอาชีพคนหนึ่ง แต่ได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาโหราศาสตร์มาบ้างแล้วเป็นเวลานานหลายปี ได้รู้ได้เห็นความจริงความเท็จในวิชาโหราศาสตร์ที่ว่านี้มามากพอสมควร และก็ได้ใช้วิชาโหราศาสตร์เป็นแนวทางในการทำมาหากินและการดำเนินชีวิตมา การมีความยากจนประจำตัวชนิดที่เรียกว่าถูกมันกัดติดไม่ยอมปล่อยมาถึงวันนี้ โหราศาสตร์นี่แหละได้ช่วยผมในความสำเร็จพอประมาณ แม้แต่การมีเมียและมีลูกมีบ้านซุกหัวนอนหรือมีกินมีใช้มาถึงทุกวันนี้ ซึ่งคนสิ้นไร้ไม้ตอกอย่างผมไม่มีใครเชื่อว่าผมจะทำได้ มีลูกเกิดมาก็ไม่รู้ว่าผมจะไปเอาเงินที่ไหนมาให้ลูกได้เรียนต่อไป แต่ว่า เมื่อจบมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ถึงสองคนแล้ว ยังส่งไปเรียนที่รัสเซียโดยทุนของรัฐบาลรัสเซียพร้อมด้วยหลานสาวอีกคนหนึ่งเป็นเวลานานถึง 7 ปีและ 9 ปี โดยไม่เคยเสียค่าใช้จ่ายอะไรแม้แต่บาทเดียว พวกเขาจะหาประสบการณ์กันต่อไปในยุโรปตะวันตกและตะวันออกจนแทบจะรู้สึกว่าประเทศเหล่านั้นเป็นสนามหลวงไปแล้วสำหรับพวกเขา
โชคชะตาและดวงนั้น ไม่ให้คุณเพียงแต่ตัวผม แต่มันเลยถึงลูกหลานทุกคนด้วย
ผมเองได้รับเชิญไปต่างประเทศเกือบทั่วโลก ยกเว้นอเมริกา อังกฤษ และจีนแดงเท่านั้นที่ผมไม่ได้ไป เพราะผมแอนตี้ประเทศเหล่านั้น ไปในสมัยผมรับหน้าที่เป็นผู้แทนขององค์การมีชื่อว่า แอปโซ่ (Apso-Asian People Solidariy) และองค์การสันติภาพโลก (World Peace-Council, Finland)
เปล่า, มันไม่ได้วิเศษวิโสอะไรหรอก!
ใครๆ ก็ไปได้ตราบใดที่มีเงิน
แต่สำหรับผม มันเป็นเรื่องที่ผมต้องยอมเชื่อว่าเป็นเรื่องของดวงชะตาจริงๆ
ถึงไม่เชื่อว่าเป็นเพราะดวงชะตาแล้วจะไปเชื่ออะไรที่ไหน?
การเดินทางไปร่วมประชุมกับบุคคลสำคัญของโลกตลอดเวลา 20 กว่าปีที่ผ่านมานี้ เป็นเรื่องผิดปกติสำหรับชีวิตคนอย่างผม บุคคลสำคัญของโลก ไม่ว่าจะเป็นนักปฏิวัติ นักต่อสู้ทั้งในประเทศด้อยพัฒนาทุกซีกโลก ผมได้พบปะรู้จักและคุ้นเคยเป็นอันดี แผ่นดินที่น่าเที่ยวน่าดูทุกแห่งแม้แต่ภูเขาน้ำแข็งที่รู้จักกันว่า “คิริมันจาโร” ในแทนซาเนียที่เคยเห็นแต่ในหนัง ผมสามารถไปถึงที่นั่น หรือไปเที่ยวขี่อูฐเล่นในทะเลทรายซาฮาราก็เที่ยวมาหมด
นักปฏิวัติในแอฟริกาที่มีชื่อเสียงอย่างท่านออกุสโต เนโต แห่งแองโกล่า ผมเคยไปสัมผัสมือและนั่งดื่มกาแฟร่วมกับท่านมาแล้ว หรือแม้แต่ฝามวันดง แห่งเวียดนาม ท่านก็เชิญผมไปพบปะพูดคุยเรื่องการเมืองและสถานการณ์ของโลกกันอย่างเปิดอก
เพราะฉะนั้น ในบางครั้งบางคราวเมื่อมีเรื่องยุ่งๆ ผ่านเข้ามาในชีวิต มีทางออกทางใดอื่นก็ต้องนึกถึงโหราศาสตร์ขึ้นมาทันที
เพราะฉะนั้น ผมจึงคิดว่าจะต้องเขียนเรื่องดวงชะตาต่อไปอีกสักชิ้นหนึ่ง เพื่อตอบปัญหาที่ยุ่งยากของบ้านเมืองในขณะนี้ ที่สำคัญก็คือความพยายามที่จะฮุบประเทศไทยไว้เป็นที่ทำมาหากินของนักปล้นชาติกำลังพูดถึงกันอยู่ ทั้งๆ ที่ปล้นเอาไปมากพอสมควรแล้ว เพื่อหาคำตอบว่า อดีตนายกฯ ผู้ไม่มีเงาหัวท่านนั้นจะทำได้สำเร็จหรือไม่ ทั้งที่มีคนเชื่อว่าท่านเป็นคนฉลาดเกินมนุษย์ เฉพาะอย่างยิ่งพวกเดียรัจฉานทางการเมืองที่ท่านขุนน้ำขุนข้าวมันอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง โดยไม่คิดถึงคนที่ท่านยังซื้อไม่ได้อีก 50 กว่าล้านที่ต้องการรอดูความวิบัติฉิบหายของท่านอยู่อย่างใจจดใจจ่อ เพื่อจะบอกแก่คนไทยทุกวันนี้ ไม่ว่าจะด้วยการคอร์รัปชัน ไม่ว่าท่านจะปล้นชาติขายชาติไปอย่างไรหรือมีสัตว์เลี้ยงที่เก่งกาจเพียงไรก็ตาม ผมอยากจะใช้วิชาโหราศาสตร์ที่ผมเรียนรู้มานี้บอกกล่าวแก่คน 3 จำพวกซึ่งได้แก่ พวกแรกตัวท่านเอง พวกที่สองคือ พวกที่รอการเกาะหางของท่านไปสู่ความสำเร็จในชีวิต พวกที่สามได้แก่ บรรดาสุนัขรับใช้ที่คอยรับจ้างเห่าหอนปลอบขวัญท่านว่า อย่าไปหวังอะไรว่าท่านจะกลับมาเมืองไทยอีก เพราะตามดวงชะตาที่ผมเห็นนั้น ไม่ว่าจะหนาหรือแข็งขนาดไหนก็ไปไม่รอดแน่นอนดึงดันสู้มากไปเท่าใด ก็ฉิบหายมากเท่านั้น
ดวงชะตาของอดีตนายกฯ ท่านนี้ ในวิชาโหราศาสตร์ของผม ท่านจะไม่มีวันได้กลับมาเมืองไทยแน่และท่านจะไม่กล้ากลับเมืองไทยแน่นอนในชีวิตนี้
นอกจากความพ่ายแพ้อย่างยับเยินของดวงชะตาแล้ว สิ่งที่ทำให้ท่านไม่กลับมาก็คือท่านไม่มีความเป็นลูกผู้ชายเหลือติดตัวอยู่เลยแม้แต่น้อย!
ท่านไม่กล้ารับผิด หรือถ้าอะไรที่มันผิดท่านก็ไม่กล้ารับว่ามันผิด
นอกจากตลบตะแลงแก้เกี้ยวไปเรื่อยๆ
นั่นเป็นเพราะในดวงชะตาของท่าน อาทิตย์ (1) และพุธ (4) เป็นดาวที่มีความหมายถึงความกะล่อนโกหกทุกอย่างที่จะทำให้ใครคิดว่าท่านเป็นคนเก่งเพราะวันที่ท่านเกิดนั้นเป็นวันที่ดาวในดวงชะตาของท่านหมดแสงหรือเป็นดาวดับ ตามหลักวิชาโหราศาสตร์ระบบนิรายนะซึ่งการดับของดาวเหล่านี้ในดวงชะตานั้นเป็นดาวที่จะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตที่ท่านมีอยู่ หมาทุกตัวที่ท่านขุนมันมาอย่างเพียงพอแล้วก็น่าจะเห่าหอนต่อไปไม่ได้ (ผู้ที่สนใจความหมายของดวงดาวที่ว่านี้ทุกดวง จะหาอ่านได้จากหนังสือโหราศาสตร์ที่ชื่อว่า “โหราศาสตร์เศรษฐกิจและการเมือง” ที่ผมเขียนไว้โดยละเอียด)
เมื่อพิจารณาดวงเอาเฉพาะลัคนาเกิดที่สถิตในราศีตุลที่พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์ ผูกดวงไว้นั้นก็เหลือกินแล้ว (ผู้จัดการรายวัน 9 กรกฎาคม 2550) จะเห่าหอนกันไปยังไงก็จะไม่สมหวังแน่นอน ถ้าจะเอาให้ฉิบหายน้อยหน่อยก็ควรจะยุติพฤติกรรมสกปรกที่กำลังทำอยู่ในขณะนี้ได้แล้ว!
ดวงชะตาคนนั้น ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จะบันดาลหรือให้คุณให้โทษแก่ใครก็หาไม่ ดวงชะตาเป็นเพียงแผนที่ชีวิตของคนแต่ละคนที่เริ่มตั้งแต่วันเกิดถึงวันตาย แผนที่ที่ว่านี้จะบอกให้เจ้าชะตารู้ว่าจะเดินไปอย่างไร จะไปที่ไหน มีศัตรูและเวรภัยอะไรรออยู่หรือไม่หรือจะไปพบสิ่งดีงามข้างหน้า จากบทเรียนที่ผมได้รับจากดวงก็คือว่าเวลาดวงมันดีทุกอย่างมันจะราบรื่นสะดวกสบายไปหมด ถ้าดวงไม่ดี เวรภัยทุกอย่างมันจะเข้ามา
ครั้งแรกที่ได้รับเชิญไปร่วมกับองค์การเหล่านี้ผมจะต้องเดินทางไปมอสโกที่รัสเซียแน่นอนในทันทีที่เครื่องบินออกจากดอนเมือง ผมก็เป็นแขกขององค์การสันติภาพไปเรียบร้อย ซึ่งเมื่อถึงมอสโกแล้วจะต้องเดินทางโดยรถไฟไปเลนินกราด และพระราชวังฤดูร้อนของพระเจ้าซาร์อีกหลายหนด้วย โดยค่าใช้จ่ายทุกอย่างทางองค์การจะจ่ายให้หมด
เมื่อกลับถึงเมืองไทยครั้งแรกก็พบว่าก่อนออกจากกรุงเทพฯ ผมมีเงินติดตัวไป 15 เหรียญ เพราะมีไม่มากไปกว่านั้น กลับมาถึงสนามบินดอนเมืองเงินที่มีติดตัวไป 15 เหรียญนั้นยังเหลือมาถึง 7 เหรียญหลังจากที่ซื้อวอดก้าบนเครื่องบินเมื่อตอนกลับเมืองไทยมาด้วย
นี่คือชีวิตที่ขึ้นกับดวงชะตา
ผมเขียนเรื่องดวงชะตาทักษิณมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยทราบวันเดือนปีเกิดที่อาจจะไม่ถูกต้องนัก แต่คราวนี้ผมเอามาจากรายงานของพล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์ ซึ่งท่านได้ทราบวันเดือนปีเกิดแน่นอนจากเจ้าของดวงชะตาเองคือเกิดเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2492 เวลา 15.00 น.เศษ ที่เชียงใหม่
เป็นอันว่ามีปัญหาสำหรับการนำมาผูกดวงถูกต้องและสามารถทายได้อย่างไม่ผิดพลาดเวลาเกิด และดวงชะตาของนักคอร์รัปชันคนสำคัญของโลกรายนี้ที่ถูกต้องแน่นอนก็อย่างที่พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์ ใน “ผู้จัดการรายวัน” เขียนลงเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว ดวงของท่านนายกรัฐมนตรีผู้นี้ นักโหราศาสตร์ผู้รอบรู้ของท่านหลายคนกล่าวว่า ลัคนาเกิดสถิตที่ราศีกันย์ และมีราหู (8) เล็งลัคนาหรือเป็น 180 องศาต่อกันอยู่ ซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็นโหรเขมรหรือโหรพม่าเฮงซวยที่ไหนไม่เคยปริปากออกมาเลยว่าถ้าราหูเล็งเป็น 180 องศากับลัคนาเกิดแล้ว มีเงินเป็นแสนๆ ล้านซื้อนักการเมือง และข้าราชการคอร์รัปชันทั่วประเทศมันก็บ้าแล้ว เพราะราหูตัวนั้นไม่ต้องเอาความรู้หรือความเฉลียวฉลาดที่ไหนมาทายเลย เพียงแต่เอากำปั้นทุบดินลงไปที่ไหนมันก็ถูกวันยังค่ำลัคนาดวงชะตานี้ไม่ได้สถิตที่ราศีกันย์
แต่สถิตที่ราศีตุลไม่เกิน 3 องศา 20 ลิปดาซึ่งตรงนี้เป็นนวางค์ที่ให้โทษ โหราศาสตร์ไทยและอินเดียถือว่าให้โทษหนักอาจจะถึงแก่ชีวิตก็เป็นได้
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าลัคนาสถิตราศีกันย์จริง โดยมีราหูเล็งลัคนาเกิดแล้วตำราโหราศาสตร์ตำราไหนก็บอกว่า เสาร์แพ่งเล็งลัคน์แล้ว อสุรา (ราหู) ภุเมศร์ (อังคาร) อัฏฐาว่าไว้ (เป็นแปดหรืออังคารเข้าภพมรณะ) ท่านยืนยันว่า “โทษแท้ประหารหิน”
คำทำนายท่านเขียนไว้ว่าตรงนี้เป็นจุดที่หมายถึงโทษร้ายแรงที่ให้อภัยไม่ได้ ขอให้มันมีลัคนาตรงนั้นอย่างที่ พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์ ท่านผูกดวงเท่านั้นพอ!
คำทำนายในคัมภีร์โหรโบราณเขียนทำนายไว้เป็นพันๆ ปีนั้นมีความว่า
หนึ่งฤกษ์หกราศี เมถุนี, ตุลย์, กุมภา
ชื่อทวาปถมา พฤษภา, มังกร, กันย์้
ชื่อทวาอวสาน หกสถานนี้สำคัญ
นับบาทสิสองนั้น ผิวลัคน์เกาะเคราะห์เบียฬบีฑ์
อันตรายถึงชีวิต อสรพิษจะย่ำยี
เขี้ยวงาพิษอันมี เร่งระมัดประหยัดกาย
คำทำนายเหล่านี้ไม่ต้องแปล ไม่มีอะไรที่จะต้องอธิบาย
ในข้อเขียนของผมและของพล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์ ได้พูดถึงเรื่องราวในดวงชะตาของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ว่าน่าจะไปไม่รอด สิ่งแรกที่เรามีความคิดเห็นตรงกันก็คือพฤติกรรมคอร์รัปชัน และการทำลายบ้านเมืองอันพิลึกพิลั่นของท่านนั้นมันน่าจะมาจากอะไรอื่น นอกจากดวงชะตาและเวลามันจะสิ้นสุดลงเพราะกรรมอย่างที่ว่านั้น ทั้งผมและพล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์ ที่อาจจะเรียนกันมาคนละตำรา แต่มองเห็นความวิบัติฉิบหายในดวงชะตาเหมือนกันก็คือจะต้องเจ๊งแน่ แต่ผมไม่กำหนดวันลงไปว่าวันที่เท่าไร เพราะผมเป็นนักโหราศาสตร์ที่เกลียดการคำนวณรายละเอียด แต่พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์ ท่านได้ใช้หลักวิชาของโหราศาสตร์อาหรับซึ่งแตกต่างจากไทยและสากลไม่มากนัก ท่านว่านับตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคมเป็นต้นไป น่าจะเป็นระยะที่ดวงชะตาของท่านอดีตนายกฯ ท่านนี้น่าเป็นห่วง
สำหรับผมนั้น ผมเคยทำนายไว้ว่านับตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าจะถูกพระผู้เป็นเจ้าองค์ไหนส่งให้ลงมาเกิด วันที่จะชนะหรือหวนกลับมาโกหกประชาชนอย่างเดิมนั้นหมดเวลาแล้ว อุบาทว์นานาชนิดมายืนเคาะประตูรออยู่ตลอด 24 ชั่วโมงทีเดียว
ผมอยากจะเตือนทุกคนที่มีดวงชะตารูปนี้หรือเกิดในวันดับไม่ว่าปีไหน พ.ศ.ไหน จะต้องนึกถึงเวรกรรมไว้ให้มากสักหน่อย ชีวิตมีภัยและอันตรายอยู่รอบด้านถึงแม้ว่าจะกะล่อนพิสดารขนาดไหน โอกาสที่จะเอาตัวรอดนั้นค่อนข้างยาก
อย่าประมาทกับชีวิตอย่างเด็ดขาด
ถึงจะหน้าด้านเปลี่ยนชื่อเป็น แฟรงค์ ซิเนตรา แล้วก็เถอะ! นรกก็ยังรับไม่ได้
ขำว่ะ!!