xs
xsm
sm
md
lg

โมเดิร์นเทรดส่งโมเดลใหม่อาละวาดเย้ยกฎหมายค้าปลีกไทยเงื้อง่าราคาแพง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน – สำรวจทัพโมเดิร์นเทรด เคลื่อนพล เย้ยกฎหมายค้าปลีกไทยที่ยังเงื้อง่าราคาแพงไปไม่ถึงไหน ปรับตัวพร้อมส่งโมเดลใหม่ๆลงตลาดค้าปลีก ออกอาละวาดไม่หยุด ทั้งเปิดัวแบบใหม่และปรับแบบเดิมให้เปลี่ยนหน้าตาไปอีกแบบ

การพิจารณาของภาครัฐเกี่ยวกับ ร่างพ.ร.บ.ธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง พ.ศ.... ที่กลุ่มธุรกิจค้าปลีกไทยต่างเฝ้ารอ ดูเหมือนว่าจะยังไม่คืบหน้าไปถึงไหน
ขณะที่โมเดิร์นเทรดยักษ์จากต่างประเทศ ก็พยายามที่จะเร่งเครื่องส่งโมเดลใหม่ๆลงสู่สมรภูมิค้าปลีกไทยเต็มที่ ก่อนที่จะถูกตัวบทกฎหมายคุมเข้มในอนาคต
ความคืบหน้าล่าสุดของการพิจารณาพ.ร.บ.ฯนี้ ตามคำกล่าวของ ว่าที่ร้อยเอก จิตร์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการพาณิชย์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ก็ออกมายอมรับทำนองว่า ยังไม่คืบหน้าไปถึงไหนเลย ล่าสุดก็ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของทางกฤษฎีกา ซึ่งเพิ่งจะพิจารณาในประเด็นเดียวคือ มาตรา 4 ที่ระบุถึง คำนิยามธุรกิจค้าปลีกค้าส่งเท่านั้น และก็ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ด้วย
หรือแม้แต่กรณีที่มีหลายจังหวัดที่ยังไม่ให้ความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยที่สั่งการไปยังแต่ละจังหวัดเพื่อให้ส่งร่างประกาศกำหนดหลักเกณฑ์การขยายสาขาของห้างค้าปลีกค้าส่งให้กับกรมโยธาธิการและผังเมืองเพื่อออกเป็นประกาศห้ามใช้ จำนวน 7 จังหวัดคือ ลำพูน นครศรีธรรมราช อยุธยา สระแก้ว ระยอง นครพนม พัทลุง
ตรงนี้เองที่ทำให้หวาดกลัวกันว่า การขยายสาขาของกลุ่มโมเดิร์นเทรดในปีนี้จะมีความรวดเร็วมากกว่าปีก่อนๆ ซึ่งคาดว่าอัตราการขยายตัวจะทะลุ 30% จากเดิมเฉลี่ยอยู่ที่ 28%

“ผู้จัดการรายวัน” สำรวจกลุ่มโมเดิร์นเทรรวมทั้งกลุ่มค้าปลีกรายใหญ่ที่มีความเคลื่อนไหวและเคลื่อนทัพอย่างน่าติดตาม ในห้วงจังหวะที่ กฎหมายค้าปลีกไทยยังไม่ไปถึงไหน
**เทสโก้ซุ่มเปิดโมเดลใหม่
ต้องพุ่งเป้าหมายไปที่ที่เทสโก้โลตัสเป็นรายแรก เพราะถือเป็นค่ายใหญ่ที่แทบจะกุมชะตาธุรกิจโมเดิร์นเทรดในไทยไว้
ประเด็นที่น่าจับตามองคือ ข่าวความเคลื่อนไหวที่เทสโก้โลตัสจะเปิดตัวโมเดลใหม่ในรูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์ ซึ่งถือเป็นเซ็กเมนท์ที่เฟื่องฟูอย่างมากในตลาดค้าปลีกไทยขณะนี้ ซึ่งเทสโก้โลตัสอยู่ระหว่างการศึกษารายะเอียด โดยคาดว่าจะมีพื้นที่ไม่ใหญ่นัก พอๆกับคอมมูนิตี้มอล์ทั่วๆไป ที่เฉลี่ย 2-4 ไร่ และจะเปิดสาขากระจายอยู่ตามย่านชานเมืองก่อนเพื่อเป็นการทดลองตลาด ว่ากันว่าสาขาแรกจะเผยโฉมได้บริเวณรังสิต-นครนายก ซึ่งย่านนั้นก็มีเทสโก้โลตัสซูเปอร์เซ็นเตอร์เปิดแล้วเช่นกัน
รูปแบบดังกล่าวนี้คนในวงการประเมินว่าน่าจะลงทุนไม่ต่ำกว่า 25-30 ล้านบาทต่อสาขา และแน่นอนว่าเทสโก้โลตัสจะต้องนำเอาค้าปลีกของตนเองมาเปิดบริการด้วยคือ เทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรสที่จะเป็นแม่เหล็กผสมผสานกับร้านค้าแบรนด์เนมต่างๆเข้ามาเปิดบริการ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ยากนัก เพราะเทสโก้โลตัสก็มีพันธมิตรอยู่แล้วหลายรายกับแบรนด์เนมชั้นนำจำนวนมากที่เปิดอยู่ในพื้นที่พลาซ่าของเทสโก้โลตัสซูเปอร์เซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ เพียงแต่ว่าจะเลือกรายใดให้เหมาะสมกับตลาดและทำเลเท่านั้นเอง
ปัจจุบันเทสโก้มีธุรกิจหลายรูปแบบในไทยคือ ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ประมาณ 60 กว่าสาขา ร้านคุ้มค่า มีประมาณ 16 สาขา ตลาดสดโลตัสมีประมาณ 20 กว่าแห่ง และเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรสซึ่งมีเกือบ 200 สาขาแล้ว ซึ่งตัวสุดท้ายนี้น่ากลัวที่สุด เพราะขยายสาขาอย่างรวดเร็วมากทั้งสแตนด์อโลนและเปิดในปั๊มพันธมิตรค่ายเอสโซ่
***บิ๊กซีโหมมินิบิ๊กซี
ทางฟากบิ๊กซีคู่แข่งสำคัญ ก็มีความชัดเจนแล้วว่า จะขยายการลงทุนในรูปแบบ มินิบิ๊กซีมากขึ้นควบคู่กับแบบมาตรฐานเดิม หลังจากที่ได้เปิดบริการทดลองสาขาแรกมาแล้วที่ซอยอุดมสุขมาเกือบปี แม้ว่าจะยังอยู่ในช่วงของการทดลองก็ตาม แต่ก็เริ่มมีแนวโน้มที่ดีจากการตอบรับ
นางสาวจริยา จิราธิวัฒน์ รองประธาน ฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวก่อนหน้านี้ว่า บริษัทฯจะปรับร้านลีดเดอร์ไพร์ซบายบิ๊กซีทั้งหมดที่มี 5 สาขา ให้เป็นร้านมินิบิ๊กซี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและเตรียมการทั้งรูปแบบและวิธีการดำเนินงาน เนื่องจากว่า การขยายตัวรูปแบบสาขาขนาดเล็กมินิบิ๊กซีนี้
ทั้งนี้แนวทางแรกคือ การปรับเปลี่ยนร้านลีดเดอร์ไพร้ซ ทั้งหมด 5 สาขาปัจจุบันคือ สาขานวนคร เสนานิคม ประชาสงเคราะห์ สุขุมวิท และวงเวียนใหญ่ ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 1,000 ตารางเมตรต่อสาขา ถือว่าอยู่ในขนาดที่พอดีๆ หลั
ร้านลีดเดอร์ไพร้ซ์ที่บิ๊กซีจะเลิกแล้วแน่นอน หลังจากที่ทดลองทำมานานหลายปี ไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นธุรกิจร้านค้าปลีกจำหน่ายสินค้าเฮาส์แบรนด์ของบิ๊กซีเท่านั้น
แม้ว่าช่วงหลังจะปรับตัวด้วยการนำคำว่า บาย บิ๊กซี มาต่อท้ายชื่อร้าน เพื่อสร้างความมั่นใจและการันตีให้ผู้บริโภครู้ว่าเป็นของใคร อีกทั้งการปรับเปลี่ยนนำเอาสินค้าของซัปพลายเออร์เข้ามาวางขายด้วยแทนจากเดิมที่จำหน่ายแต่เฮาส์แบรนด์ แต่เป็นเพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคคนไทยยังไม่ตอบรับจึงต้องเลิกไปในที่สุด
มินิบิ๊กซีจะเป็นอีกอาวุธใหม่ของบิ๊กซี ที่จะเข้ามาประกาศสงครามในสนามค้าปลีกขนาดย่อมๆที่ต้องมาชนกับ เทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรส หรือ ท็อปส์เดลี่ หรือแม้แต่ ร้าน 999 ของกลุ่มซีพีที่เพิ่งเปิดตัวไม่นานนี้
**คาร์ฟูร์ลดไซส์ชูภาพพรีเมี่ยม
ขณะที่ทางคาร์ฟูร์ ยักษ์โมเดิร์นเทรดไฮเปอร์มาร์เก็ตอันดับสามก็ปรับทิศทางรุกใหม่อีกครั้ง ล่าสุดกับการเปิดตัวโมเดลใหม่ที่สาขาพัทยา
นายฟิลิปป์ โบรยานิโก กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซ็นคาร์ จำกัด ผู้ยีริหารคาร์ฟูร์ เปิดเผยว่า คาร์ฟูร์มีนโยบายปรับเปลี่ยนคาร์ฟูร์ให้เป็นดิสเคาท์สโตร์โฉมใหม่ หรือ “พรีเมียมไฮเปอร์มาร์เก็ต” ด้วยการปรับสินค้า บริการ ดึงแบรนด์เนมร่วมออกร้าน เพื่อดึงดูดลูกค้าและสร้างความแตกต่าง นอกจากนี้ยังปรับเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ไม่ได้สนใจเรื่องราคาอย่างเดียว แต่ต้องการสินค้าและบริการหลากหลายที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ ด้วย
สาขาโฉมใหม่ล่าสุดเปิดที่ชลบุรี เดือนเมษายน 2550 ด้วยงบลงทุนทั้งสิ้น 400 ล้านบาท ซึ่งถือได้ว่าเป็นสาขาต้นแบบของพรีเมียมไฮเปอร์มาร์เก็ต ที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบตามคอนเซ็ปต์ที่ได้วางไว้ โดยมีพื้นที่ 6,000 ตารางเมตร จากขนาดปกติทั่วไปของไฮเปอร์มาร์เก็ตซึ่งพื้นที่อยู่ระหว่าง 8,000 – 10,000 ตารางเมตร แต่มีสินค้าเพิ่มมากขึ้นจากสาขาปกติกว่า 10,000 เอสเคยู ซึ่งสาขาปกติในปัจจุบันมีสินค้าเฉลี่ย 40,000 เอสเคยู
เท่ากับว่าโฉมใหม่ของคาร์ฟูร์จากนี้ไปจะเน้นที่ขนาดกะทัดรัดอย่างที่ชลบุรี แต่เพิ่มประสิทธิภาพในการทำรายได้ต่อพื้นที่ขายได้มากขึ้น และยังเป็นการสร้างภาพพจน์ขึ้นเป็นค้าปลีกระดับบน เพื่อหวังต่อกรกับทางดีพาร์ทเมนท์สโตร์ ซึ่งหลังจากที่เปิดบริการเพียง 2 เดือน พบว่าสาขาใหม่นี้มียอดขายต่อพื้นที่สูงสุดจากสาขาทั้งหมด 25 สาขา
รูปแบบดังกล่าวจะเป็นต้นแบบในการพัฒนาคาร์ฟูร์สาขาใหม่ๆ รวมถึงการนำไปปรับใช้กับคาร์ฟูร์เดิมทุกแห่งด้วย โดยตั้งงบประมาณในการปรับรูปแบบ 15 ล้านบาท ต่อสาขา และสาขาที่เปิดใหม่จะเป็นรูปแบบนิวคอนเซ็ปต์ทั้งหมด โดยมีพื้นที่เฉลี่ย 4,000-6,000 ตารางเมตร ซึ่งสาขาต่อไปจะเปิดที่ถนนพระราม 2 ที่มีพื้นที่ 4,000 ตารางเมตร เป็นสาขาแรกในเดือนพฤศจิกายน นี้ และจะเปิดอีก 2 สาขาใหม่ รวมเป็น 28 สาขา
**กลุ่มซีพีผุดร้านไนน์ไนน์ไนน์
กลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ แม้ว่าจะมีร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเป็นอาวุธที่สำคัญก็ตาม แต่ด้วยการเติบโตที่รวดเร็วของเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรสทำให้ต้องปรับตัวพร้อมหาอาวุธใหม่เข้ามาเสริมทัพอีก นี่คือเหตุผลที่กลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ได้ทำการทดลองเปิดตัว ร้าน999 หรือร้านไนน์ไนน์ไนน์ สาขาแรกเผยโฉมไปแล้วที่บริเวณการเคหะร่มเกล้าเป็นตึกแถว 3 คูหา เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา
รูปแบบของร้านไนน์ไนน์ไนน์นี้ จะเป็นร้านที่เน้นการจำหน่ายสินค้าอาหาร และของใช้ในชีวิตประจำวัน โดยจะเน้นการขายอาหารแช่แข็งและอาหารพร้อมทานแบรนด์ของซีพีเองกับของพันธมิตรด้วย และยังมีที่นั่งทานอาหารด้วยจำนวนหนึ่ง
น่าสังเกตุที่ว่าสาขาแรกนี้ตั้งอยู่ไม่ห่างไกลกับร้านเทสโลตัสเอ็กซ์เพรสเท่าไร ถือเป็นการประกาศนัยๆว่า พร้อมที่จะสู้รบปรบมือกับเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรสแล้ว
กลุ่มเป้าหมายของร้านไนน์ไนน์ไนน์นี้ก็เน้นทั้งเอนด์ยูสเซอร์และผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องการซื้อสินค้าเพื่อนำไปใช้ประกอบธุรกิจ
แม้ว่าผู้บริหารของเครือเจริญโภคภัณฑ์เองก็ยังปิดตัวเงียบไม่เผยความชัดเจนและนโยบายต่อธุรกิจดังกล่าวออกมา แต่ด้วยความที่เป็นเครือข่ายในกลุ่มของซีพี ความน่าสะพรึงกลัวย่อมไม่ธรรมดาแน่ๆ
***จัสโก้ปรับสู่แม็กซ์แวลูลุย24ชั่วโมง
ทางด้านของจัสโก้ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาดูเหมือนจะอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างองค์กรและธุรกิจใหม่ จึงหายเงียบไปนาน ขณะนี้ มีข่าวว่า ทางบริษัท สยามจัสโก้ จำกัด ผู้บริหารจัสโก้ในไทย พร้อมแล้วที่จะเปิดเกมรุก โดยอิงไปกับความแข็งแกร่งของบริษัทแม่คือ อิออนกรุ๊ป เข้ามาเป็นฐานในการสร้างธุรกิจใหม่
สิ่งที่ปรากฎขึ้นคือ มีแนวโน้มว่าทางจัสโก้จะปรับเปลี่ยนจัสโก้ในไทยให้เป็น (MAX VALUE) และเปิดบริการ 24 ชั่วโมงทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมาก็ทดลองเปิด 24 ชั่วโมงและรีโนเวทไปแล้วเช่น ศรีนครินทร์ รังสิตคลอง2 ประชาอุทิศ และเตรียมจะรีโนเวตสาขาเดิมให้เป็นแม็กซ์แวลู เปิด 24 ชั่วโมง อีก 4 สาขาด้วย
กว่าที่กฎหมายค้าปลีกจะออกมาประกาศใช้ แน่นอนว่า ยักษ์ค้าปลีกเหล่านี้ ต้องเคลื่อนพลรบไม่หยุดอีก
กำลังโหลดความคิดเห็น