.
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่เรียกกันว่าปี 2550 ที่เพิ่งผ่านการลงมติรับรองจากสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 6 กรกฏาคม 2550 กำลังเป็น “เผือกร้อน” ทางการเมืองในเร็ววันนี้
ผมได้ตรวจสอบแล้ว ยังไม่พบว่ามีประเทศใดในโลก เอาร่างรัฐธรรมนูญมาให้ประชาชนลงประชามติรับหรือไม่รับเลย
ร่างรัฐธรรมนูญไทยฉบับ 2550 นี้ อย่าว่าแต่ชาวบ้านร้านถิ่นและเกษตรกรตามชนบทเลย ชนชั้นกลางในเมืองที่มีการศึกษาดี และชมชอบติดตามการบ้านการเมืองอย่างใกล้ชิด ยังงงเป็น “ไก่ตาแตก” กับรายละเอียดของร่างรัฐธรรมนูญที่มีถึง 309 มาตราเลยครับ
เลขาธิการคณะกรรมการเลือกตั้ง นายสุทธิพล ทวีชัยการ แถลงข่าวเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2550 ถึงการเตรียมการให้ประชาชนที่มีสิทธิลงประชามติ รับและไม่รับร่างรัฐธรรมนูญในวันที่19 สิงหาคม 2550
การจัดให้มีการลงประชามติครั้งนี้ ทาง กกต.จะใช้เงินถึง 1,500 ล้านบาท ให้ผู้มีสิทธิ 46 ล้านคนมาหย่อนบัตร มีคูหาหรือหน่วยเลือกตั้ง 88,000 หน่วย หีบสำหรับใส่บัตรอีก 10,000 ใบ คนที่เกี่ยวข้องกับงานนี้จะต้องผ่านอบรมนับเดือน
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 นี้ ได้กลายเป็นประเด็นใหญ่นำไปสู่การปะทะทางความคิดการเมือง เพราะมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ขยายวงกว้างขวางออกไปเรื่อยๆ
เริ่มจากข่าวอาจารย์คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความเห็นต่างกันเป็นคนละฟาก ฝ่ายหนึ่งจะลงมติไม่เห็นชอบ ด้วยติดว่าบางมาตราในร่างรัฐธรรมนูญนี้ ไปรับรองการรัฐประ
หารของทหาร
แต่อาจารย์อีกฝ่ายกลับเห็นต่าง ว่าไม่ใช่การรับรองทหารอะไรเลย เพราะทหารที่รัฐประหารน่ะ ได้รับการรับรองจากรัฐธรรมนูญชั่วคราว ที่กำลังใช้อยู่ในขณะนี้แล้ว และเห็นว่าน่าจะลงมติเห็นชอบไปก่อน เพื่อให้ทหารกลับกรมกอง ตามด้วยการเลือกตั้ง ก่อนจะให้รัฐบาลจากการเลือกตั้งที่มาใหม่ เป็นผู้แก้ไขปรับปรุงรัฐธรรมนูญครับ
ในด้านพรรคการเมืองนั้น พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย พรรคมหาชน พรรคประชาราช เห็นตรงกันว่า ควรรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ขณะที่พลพรรคการเมืองค่าย “หน้าสี่เหลี่ยมติดหนวด” ผู้มีเงินทั้งมืดและสว่างมากมายมหาศาล กลับลงมติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550
ด้วยการใช้เหตุผล “ข้างๆ คูๆ” หรือ “สุกเอาเผากิน” ว่ารัฐธรรมนูญนี้ถูกร่างโดย ส.ส.ร. ซึ่งตั้งโดยทหารที่ทำการรัฐประหาร ทว่าเหตุผลแท้จริงเป็นความโกรธส่วนตน เพราะจากนายกรัฐมนตรีไทยผู้ยิ่งใหญ่ วันนี้ “แม้ว” ต้องลดฐานะตกรูดลงไปเป็นนายกสมาคมกอล์ฟครับ
เมื่ออดีตนายกฯ ผู้ระเหเร่ร่อนเป็นเจ้าไม่มีศาล ส่งสัญญาณไม่รับร่างรัฐธรรมนูญมาจากลอนดอน พลพรรคหรือบรรดาพวก “ผี (ที่ปล่อยไม่ไป) โม่แป้งได้” ของ “แม้ว” ก็ออกมาขานรับ (เงิน) กันขนานใหญ่ เพราะพวกนี้รู้ว่า..ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ผ่าน คมช.ก็ต้องเอารัฐธรรมนูญปี 2540 มาปรับปรุงภายใน 30 วัน
เรียกว่า..ยังไงๆ ไม่ช้าก็เร็ว ไทยแลนด์แดนสยามต้องมีการเลือกตั้ง ว่างั้นเหอะ!
แม้นหลายคนจะบอกว่า หากให้ คมช. ตั้งคนเพียงไม่กี่คนมาปรับแก้รัฐธรรมนูญ เดี๋ยวรัฐธรรมนูญก็กลายเป็นกฎหมายสืบทอดอำนาจของทหาร แต่บรรดาเกจิการเมืองของพลพรรค “แม้ว” เชื่อว่า
บรรดานายทหารที่ทำรัฐประหารยุคนี้ ไม่กล้าคลอดรัฐธรรมนูญห่วยๆ ออกมาหรอก เพราะสื่อและประชาชนจะรุมประณาม จนไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดหรือเสียผู้เสียคน กระทั่งอาจเสียไปถึงวงศ์ตระกูลเลย
อย่างไรก็ตาม ไหนๆ ประเทศไทย ก็เป็นประเทศ (ทะลึ่ง) แรกที่ให้มีการลงประชามติ รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญแล้ว เราก็น่าจะถือโอกาสนี้ ยกระดับความรู้ในเรื่องกฎหมายรัฐธรรมนูญ ยกระดับความตื่นตัวในสิทธิเสรีภาพระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ให้กับประชาชนกันครั้งใหญ่เสียเลย
โดยรัฐบาล ส.ส.ร. กกต. รวมทั้ง คมช. ต้องใช้สื่อมวลชนประดามีของรัฐ ดำเนินการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนทั้งสังคม ด้วยการเชิญนักวิชาการทุกค่าย ผู้รู้กฎหมายทั้งมวล มาทำการเปรียบเทียบร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 กับรัฐธรรมนูญปี 2540 ว่ามีข้อดีข้อเสียข้อแตกต่างกันอย่างไร?
รัฐธรรมนูญปี 2540 นั้น เป็นรัฐธรรมนูญที่ผ่านการใช้มาแล้วระยะหนึ่ง ผู้คนเห็นว่าค่อนข้างดี เพียงแต่ประเทศไทยโชคร้าย ดันได้นักการเมืองหน้าสี่เหลี่ยมติดหนวด ที่ชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” ซึ่งมีเงินล้นฟ้าและใช้เงินไปกับการ “จ้างสารพัดผีโม่แป้งให้”
“แม้ว” แอบซื้อ “ผี” ฝูงใหญ่ทั้ง ส.ส.และวุฒิสมาชิก ทำเรื่องผิดๆ ด้วยการยกมือให้ตนตามต้องการ ซื้อ “ผี” จำนวนมากแทบทุกองค์กรอิสระ ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบจนกลายเป็นง่อยไปหมด ซื้อ “ผี” ข้าราชการอีกหลายหน่วยงาน ที่ทำให้ทักษิณชนะการเลือกตั้งและคอร์รัปชันกันได้ทั้งโคตร ฯลฯ รัฐธรรมนูญปี 2540 เลยวินาศ
ความรู้ คือ ปัญญา ข้อเปรียบเทียบ-ความแตกต่างในร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 กับปี 2540 จะเป็น “เทียนส่อง” ให้ประชาชนผู้มีสิทธิลงคะแนน ลงมติว่ารับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ไงล่ะครับ
หากรัฐบาล ส.ส.ร. กกต. คมช. ไม่สนใจหรือไม่ใส่ใจเท่าที่ควร จนการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ ในเรื่องรัฐธรรมนูญกับประชาชนดังที่ผ่านมา ระวังนะครับ...ความแตกต่างอาจนำไปสู่ความแตกแยกทางความคิด
นั่นหมายถึง...ร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 จะกลายเป็นระเบิดลูกใหญ่ในปี 2550 ทันที!
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่เรียกกันว่าปี 2550 ที่เพิ่งผ่านการลงมติรับรองจากสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 6 กรกฏาคม 2550 กำลังเป็น “เผือกร้อน” ทางการเมืองในเร็ววันนี้
ผมได้ตรวจสอบแล้ว ยังไม่พบว่ามีประเทศใดในโลก เอาร่างรัฐธรรมนูญมาให้ประชาชนลงประชามติรับหรือไม่รับเลย
ร่างรัฐธรรมนูญไทยฉบับ 2550 นี้ อย่าว่าแต่ชาวบ้านร้านถิ่นและเกษตรกรตามชนบทเลย ชนชั้นกลางในเมืองที่มีการศึกษาดี และชมชอบติดตามการบ้านการเมืองอย่างใกล้ชิด ยังงงเป็น “ไก่ตาแตก” กับรายละเอียดของร่างรัฐธรรมนูญที่มีถึง 309 มาตราเลยครับ
เลขาธิการคณะกรรมการเลือกตั้ง นายสุทธิพล ทวีชัยการ แถลงข่าวเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2550 ถึงการเตรียมการให้ประชาชนที่มีสิทธิลงประชามติ รับและไม่รับร่างรัฐธรรมนูญในวันที่19 สิงหาคม 2550
การจัดให้มีการลงประชามติครั้งนี้ ทาง กกต.จะใช้เงินถึง 1,500 ล้านบาท ให้ผู้มีสิทธิ 46 ล้านคนมาหย่อนบัตร มีคูหาหรือหน่วยเลือกตั้ง 88,000 หน่วย หีบสำหรับใส่บัตรอีก 10,000 ใบ คนที่เกี่ยวข้องกับงานนี้จะต้องผ่านอบรมนับเดือน
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 นี้ ได้กลายเป็นประเด็นใหญ่นำไปสู่การปะทะทางความคิดการเมือง เพราะมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ขยายวงกว้างขวางออกไปเรื่อยๆ
เริ่มจากข่าวอาจารย์คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความเห็นต่างกันเป็นคนละฟาก ฝ่ายหนึ่งจะลงมติไม่เห็นชอบ ด้วยติดว่าบางมาตราในร่างรัฐธรรมนูญนี้ ไปรับรองการรัฐประ
หารของทหาร
แต่อาจารย์อีกฝ่ายกลับเห็นต่าง ว่าไม่ใช่การรับรองทหารอะไรเลย เพราะทหารที่รัฐประหารน่ะ ได้รับการรับรองจากรัฐธรรมนูญชั่วคราว ที่กำลังใช้อยู่ในขณะนี้แล้ว และเห็นว่าน่าจะลงมติเห็นชอบไปก่อน เพื่อให้ทหารกลับกรมกอง ตามด้วยการเลือกตั้ง ก่อนจะให้รัฐบาลจากการเลือกตั้งที่มาใหม่ เป็นผู้แก้ไขปรับปรุงรัฐธรรมนูญครับ
ในด้านพรรคการเมืองนั้น พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย พรรคมหาชน พรรคประชาราช เห็นตรงกันว่า ควรรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ขณะที่พลพรรคการเมืองค่าย “หน้าสี่เหลี่ยมติดหนวด” ผู้มีเงินทั้งมืดและสว่างมากมายมหาศาล กลับลงมติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550
ด้วยการใช้เหตุผล “ข้างๆ คูๆ” หรือ “สุกเอาเผากิน” ว่ารัฐธรรมนูญนี้ถูกร่างโดย ส.ส.ร. ซึ่งตั้งโดยทหารที่ทำการรัฐประหาร ทว่าเหตุผลแท้จริงเป็นความโกรธส่วนตน เพราะจากนายกรัฐมนตรีไทยผู้ยิ่งใหญ่ วันนี้ “แม้ว” ต้องลดฐานะตกรูดลงไปเป็นนายกสมาคมกอล์ฟครับ
เมื่ออดีตนายกฯ ผู้ระเหเร่ร่อนเป็นเจ้าไม่มีศาล ส่งสัญญาณไม่รับร่างรัฐธรรมนูญมาจากลอนดอน พลพรรคหรือบรรดาพวก “ผี (ที่ปล่อยไม่ไป) โม่แป้งได้” ของ “แม้ว” ก็ออกมาขานรับ (เงิน) กันขนานใหญ่ เพราะพวกนี้รู้ว่า..ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ผ่าน คมช.ก็ต้องเอารัฐธรรมนูญปี 2540 มาปรับปรุงภายใน 30 วัน
เรียกว่า..ยังไงๆ ไม่ช้าก็เร็ว ไทยแลนด์แดนสยามต้องมีการเลือกตั้ง ว่างั้นเหอะ!
แม้นหลายคนจะบอกว่า หากให้ คมช. ตั้งคนเพียงไม่กี่คนมาปรับแก้รัฐธรรมนูญ เดี๋ยวรัฐธรรมนูญก็กลายเป็นกฎหมายสืบทอดอำนาจของทหาร แต่บรรดาเกจิการเมืองของพลพรรค “แม้ว” เชื่อว่า
บรรดานายทหารที่ทำรัฐประหารยุคนี้ ไม่กล้าคลอดรัฐธรรมนูญห่วยๆ ออกมาหรอก เพราะสื่อและประชาชนจะรุมประณาม จนไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดหรือเสียผู้เสียคน กระทั่งอาจเสียไปถึงวงศ์ตระกูลเลย
อย่างไรก็ตาม ไหนๆ ประเทศไทย ก็เป็นประเทศ (ทะลึ่ง) แรกที่ให้มีการลงประชามติ รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญแล้ว เราก็น่าจะถือโอกาสนี้ ยกระดับความรู้ในเรื่องกฎหมายรัฐธรรมนูญ ยกระดับความตื่นตัวในสิทธิเสรีภาพระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ให้กับประชาชนกันครั้งใหญ่เสียเลย
โดยรัฐบาล ส.ส.ร. กกต. รวมทั้ง คมช. ต้องใช้สื่อมวลชนประดามีของรัฐ ดำเนินการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนทั้งสังคม ด้วยการเชิญนักวิชาการทุกค่าย ผู้รู้กฎหมายทั้งมวล มาทำการเปรียบเทียบร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 กับรัฐธรรมนูญปี 2540 ว่ามีข้อดีข้อเสียข้อแตกต่างกันอย่างไร?
รัฐธรรมนูญปี 2540 นั้น เป็นรัฐธรรมนูญที่ผ่านการใช้มาแล้วระยะหนึ่ง ผู้คนเห็นว่าค่อนข้างดี เพียงแต่ประเทศไทยโชคร้าย ดันได้นักการเมืองหน้าสี่เหลี่ยมติดหนวด ที่ชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” ซึ่งมีเงินล้นฟ้าและใช้เงินไปกับการ “จ้างสารพัดผีโม่แป้งให้”
“แม้ว” แอบซื้อ “ผี” ฝูงใหญ่ทั้ง ส.ส.และวุฒิสมาชิก ทำเรื่องผิดๆ ด้วยการยกมือให้ตนตามต้องการ ซื้อ “ผี” จำนวนมากแทบทุกองค์กรอิสระ ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบจนกลายเป็นง่อยไปหมด ซื้อ “ผี” ข้าราชการอีกหลายหน่วยงาน ที่ทำให้ทักษิณชนะการเลือกตั้งและคอร์รัปชันกันได้ทั้งโคตร ฯลฯ รัฐธรรมนูญปี 2540 เลยวินาศ
ความรู้ คือ ปัญญา ข้อเปรียบเทียบ-ความแตกต่างในร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 กับปี 2540 จะเป็น “เทียนส่อง” ให้ประชาชนผู้มีสิทธิลงคะแนน ลงมติว่ารับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ไงล่ะครับ
หากรัฐบาล ส.ส.ร. กกต. คมช. ไม่สนใจหรือไม่ใส่ใจเท่าที่ควร จนการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ ในเรื่องรัฐธรรมนูญกับประชาชนดังที่ผ่านมา ระวังนะครับ...ความแตกต่างอาจนำไปสู่ความแตกแยกทางความคิด
นั่นหมายถึง...ร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 จะกลายเป็นระเบิดลูกใหญ่ในปี 2550 ทันที!