อุบลราชธานี-พ่อค้าตลาดพรมแดนไทย-ลาว "ช่องเม็ก"รอวันตาย ยอดนักท่องเที่ยวหดรายได้หาย หลังจังหวัดอุบลฯร่วมแขวงจำปาสัก ออกระเบียบเก็บค่าผ่านแดนโหด เข้า-ออกแต่ละครั้งต้องจ่ายเกือบร้อยบาท/คน เผยทุกวันนี้ขายได้500 บาท/วันถือว่าบุญช่วย
ภายหลังจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับแขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว )จัดระเบียบเข้มงวดกระบวนการวิธีผ่านแดนที่ด่านพรมแดนไทย-ลาว ช่องเม็ก อ.สิรินธร ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2550 เป็นต้นมา ส่งผลให้บรรยากาศการท่องเที่ยวและการค้าขาย ที่ด่านพรมแดนดังกล่าวเงียบเหงาอย่างมาก
พ่อค้าแม่ค้าที่ตั้งร้านจำหน่ายสินค้ากล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาจับจ่ายซื้อสินค้าลดลง เพราะอดีตการผ่านแดนฝ่ายลาวจะเรียกเก็บเงินค่าผ่านแดนเพียงรายละ 10 บาท ส่วนฝ่ายไทยไม่ได้เรียกเก็บ ทำให้มีนักท่องเที่ยวทั้ง 2 ฝั่ง เดินทางข้ามไปมาซื้อขายสินค้าระหว่างกันคึกคัก โดยวันปกติร้านค้ามียอดจำหน่ายไม่น้อยกว่า 5,000 บาท ส่วนวันหยุดมียอดขายเพิ่มขึ้นอีก 2-3 เท่าตัว
หลังมีการจัดระเบียบการผ่านแดนใหม่ โดยมีการเรียกเก็บค่าผ่านแดนทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายลาวฝ่ายละ 45 บาท ทำให้นักท่องเที่ยว 1 คน ต้องเสียค่าใช้จ่ายการข้ามแดนถึง 90 บาท ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ตัดสินใจไม่เดินทางมาเที่ยวที่ด่านพรมแดนแห่งนี้
ขณะที่ประชาชนลาวบางส่วนยังมีปัญหาไม่มีเอกสารประจำตัว ทำให้ไม่สามารถขอข้ามแดนเข้ามายังฝั่งไทยได้ จึงทำให้ปริมาณการเดินทางข้ามแดนของนักท่องเที่ยวทั้ง 2 ฝ่ายลดลงอย่างมาก
"ปกติช่วงวันหยุดก่อนการจัดระเบียบใหม่มีรถทัวร์นำนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมวันละกว่าร้อยคัน แต่ทุกวันนี้มีรถมาเพียง 10-20 คัน จึงส่งผลกระทบทำให้ร้านค้าตามพรมแดนมียอดขายลดลงเหลือเพียงวันละ 500 บาท ปัจจุบันร้านค้าที่นี่อยู่ในสภาพรอวันเจ๊งเท่านั้น " พ่อค้ารายนี้กล่าว
ด้านนายพาด จีระนัย อาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างกล่าวว่า ตั้งแต่ที่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเข้า-ออกบริเวณด่านใหม่ อาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างก็ได้รับผลกระทบเรื่องของรายได้ ก่อนหน้านี้มีรายได้สูงถึงวันละ 1,000 บาท แต่ทุกวันนี้รายได้ เหลือแค่ 100-200 บาทเท่านั้น
ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนลาวที่นิยมมารักษาโรคในฝั่งไทย และกลุ่มที่เข้ามาซื้อของเพื่อไปใช้อุปโภค-บริโภค ขณะนี้มีผลกระทบไปทั่วไม่เฉพาะคนขับรถ จักรยานยนต์รับจ้าง หรือร้านค้าฝั่งไทย แม้คนลาวที่ทำอาชีพรับจ้างเข็นรถขนของข้ามไปมาระหว่างแดนก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากผลกระทบของการค้าขายดังกล่าว ทำให้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตลาดช่องเม็กพากันออกมาประท้วงการจัดระเบียบผ่านแดนใหม่ พร้อมยื่นหนังสือให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีรีบเข้ามาช่วยเหลือไปก่อนหน้านี้แล้ว
ต่อมาเมื่อเดือนพฤษภาคม 2550 นายสุธี มากบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้เปิดเจรจาขอแก้ไขข้อตกลงใหม่กับฝ่ายลาว และมีมติเลิกการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการผ่านแดนเกือบทั้งหมด เหลือเพียงค่าถ่ายสำเนาบัตรประจำตัวใช้เป็นหลักฐานผ่านแดนคนละ 5 บาท แต่ก็ยังไม่สามารถกระตุ้นให้มียอดนักท่องเที่ยวกลับมาเหมือนในอดีตได้ และผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดเฉพาะฝ่ายไทย แต่ฝ่ายลาวก็ได้รับผลกระทบอย่างมากเช่นกัน