ศูนย์ข่าวภูเก็ต -กลุ่มทุนญี่ปุ่นเตรียมขนเงินลงทุนกว่า 2 พันล้านบาท ผุด ดิวตี้ฟรีโซน และเอนเตอร์เทนเมนต์ที่ภูเก็ตบนเนื้อที่ 60 ไร่ รองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติระดับกลาง คาดเริ่มก่อสร้างได้ประมาณต้นปี 2551 เผยที่ผ่านมารัฐ-เอกชนพยายามจะผุดดิวตี้ฟรีโซนแต่ยังไม่เกิดสักที
เมื่อเร็วๆนี้ นายโนบูย่า ไซโตะ กรรมการผู้จัดการบริษัท JSP : Business Associate จำกัด และคณะ เข้าพบนายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อหารือเกี่ยวกับโครงการ " Duty Free Zone" เนื่องจากบริษัท JSP : Business Associate จำกัด สนใจที่จะเข้ามาลงทุนโครงการ Duty Free Zone ที่จังหวัดภูเก็ต
นายโนบูย่า ไซโตะ กรรมการผู้จัดการบริษัท JSP : Business Associate จำกัด กล่าวว่า การเข้าพบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ เนื่องจากบริษัทสนใจที่จะเข้ามาลงทุน Duty Free Zone ที่จังหวัดภูเก็ต โดยขณะนี้ได้จัดหาซื้อที่ดินแล้วจำนวน 60 ไร่ ที่บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต การเข้าพบในครั้งนี้ ยังได้นำแผนผังโครงการมาหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อกฎหมายและขออนุญาตในการก่อสร้างโครงการต่อจังหวัด
"โครงการนี้เริ่มจากที่จังหวัดภูเก็ตได้รับสิทธิพิเศษในการทำโครงการ Duty Free Zone ซึ่งบริษัทก็สนใจและติดต่อมาเพื่อจะดำเนินโครงการดังกล่าว"
นายโนบูย่า ยังกล่าวถึงการลงทุนในโครงการว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจากับผู้ร่วมลงทุนจำนวน 1 ราย และผู้พัฒนาโครงการประมาณ 1 - 2 ราย สำหรับงบประมาณในการลงทุนนั้นขึ้นอยู่กับผู้พัฒนาที่ดินว่า จะใช้งบประมาณในการลงทุนเท่าไร แต่ที่ได้ตั้งงบประมาณไว้ประมาณ 2 พันล้านบาท ซึ่งที่ดินที่จะใช้ในการสร้างจะเป็นที่ดินที่เช่าจากเอกชนในระยะยาว
นายโนบูย่า กล่าวต่อว่า โครงการที่กำลังจะก่อสร้างนี้ เป็นโครงการในเฟสแรก ซึ่งจะใช้พื้นที่ในการก่อสร้าง 60% สำหรับเป็น Duty Free Zone ส่วนในอีก 40% ที่เหลือ ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าว่าจะต้องการในลักษณะใด ในเบื้องต้นคาดว่าจะทำในลักษณะเอนเตอร์เทนเมนต์ที่ครบวงจร คาดว่าโครงการในเฟสแรกนี้จะเริ่มสร้างได้ในต้นปี 2551 และจะแล้วเสร็จภายในอีก 12 - 16 เดือน โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่วางไว้จะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติในระดับกลางที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่าโครงการดังกล่าวเป็นไปได้ เพราะในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่ภูเก็ตจำนวนมาก
ภูเก็ตรอเก้อ Duty Free Zone
สำหรับโครงการดิวตี้ฟรีโซน ที่ภูเก็ต ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสมัยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเคยมีนโยบายที่จะส่งเสริมให้ภูเก็ตเป็นดิวตี้ฟรีโซน ในการดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาภูเก็ต แต่โครงการก็เงียบหายไป ต่อมามีเอกชนจากส่วนกลาง คือ บริษัท "โรยัล สวัสดี จำกัด" ได้เช่าอาคารห้างฯลัคกี้คอมเพล็กซ์ ที่บริเวณสะพานหิน จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ปรับปรุงใหม่เพื่อเปิดเป็นศูนย์การค้าปลอดภาษี "สวัสดี ดิวตี้ฟรี พลาซ่า" บนเนื้อที่ 20 ไร่ เป็นอาคารสูง 6 ชั้น พื้นที่ 2.1 หมื่นตารางเมตร ใช้เงินลงทุน 400 ล้านบาท โดยคาดหวังว่าจะคืนทุนภายใน 5 ปี
โครงการ "สวัสดี ดิวตี้ฟรี พลาซ่า"แบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วน คือ โซนร้านจำหน่ายสินค้า โซนศูนย์แสดงสินค้าไทยส่งออก กลุ่มโอทอป และโซนพื้นที่ร้านค้าปลอดอากร ที่ตั้งเป้ายอดขายไว้ 600 ล้านบาทต่อเดือน โดยคาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาวันละ 10,000 คน แบ่งเป็นต่างชาติ 60% และนักท่องเที่ยวคนไทย 40% แต่ยังไม่ทันได้เปิด ก็เกิดเหตุการณ์สึนามิทำให้โครงการดังกล่าวต้องพับไปอีก เพราะในช่วงนั้นนักท่องเที่ยวเข้าภูเก็ตน้อยลง คนที่จะมาเช่าพื้นที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย จึงต้องปิดตัวโครงการ และคืนอาคารลัคกี้คอมเพล็กซ์ให้แก่อบจ.ภูเก็ต
เมื่อเร็วๆนี้ นายโนบูย่า ไซโตะ กรรมการผู้จัดการบริษัท JSP : Business Associate จำกัด และคณะ เข้าพบนายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อหารือเกี่ยวกับโครงการ " Duty Free Zone" เนื่องจากบริษัท JSP : Business Associate จำกัด สนใจที่จะเข้ามาลงทุนโครงการ Duty Free Zone ที่จังหวัดภูเก็ต
นายโนบูย่า ไซโตะ กรรมการผู้จัดการบริษัท JSP : Business Associate จำกัด กล่าวว่า การเข้าพบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ เนื่องจากบริษัทสนใจที่จะเข้ามาลงทุน Duty Free Zone ที่จังหวัดภูเก็ต โดยขณะนี้ได้จัดหาซื้อที่ดินแล้วจำนวน 60 ไร่ ที่บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต การเข้าพบในครั้งนี้ ยังได้นำแผนผังโครงการมาหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อกฎหมายและขออนุญาตในการก่อสร้างโครงการต่อจังหวัด
"โครงการนี้เริ่มจากที่จังหวัดภูเก็ตได้รับสิทธิพิเศษในการทำโครงการ Duty Free Zone ซึ่งบริษัทก็สนใจและติดต่อมาเพื่อจะดำเนินโครงการดังกล่าว"
นายโนบูย่า ยังกล่าวถึงการลงทุนในโครงการว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจากับผู้ร่วมลงทุนจำนวน 1 ราย และผู้พัฒนาโครงการประมาณ 1 - 2 ราย สำหรับงบประมาณในการลงทุนนั้นขึ้นอยู่กับผู้พัฒนาที่ดินว่า จะใช้งบประมาณในการลงทุนเท่าไร แต่ที่ได้ตั้งงบประมาณไว้ประมาณ 2 พันล้านบาท ซึ่งที่ดินที่จะใช้ในการสร้างจะเป็นที่ดินที่เช่าจากเอกชนในระยะยาว
นายโนบูย่า กล่าวต่อว่า โครงการที่กำลังจะก่อสร้างนี้ เป็นโครงการในเฟสแรก ซึ่งจะใช้พื้นที่ในการก่อสร้าง 60% สำหรับเป็น Duty Free Zone ส่วนในอีก 40% ที่เหลือ ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าว่าจะต้องการในลักษณะใด ในเบื้องต้นคาดว่าจะทำในลักษณะเอนเตอร์เทนเมนต์ที่ครบวงจร คาดว่าโครงการในเฟสแรกนี้จะเริ่มสร้างได้ในต้นปี 2551 และจะแล้วเสร็จภายในอีก 12 - 16 เดือน โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่วางไว้จะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติในระดับกลางที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่าโครงการดังกล่าวเป็นไปได้ เพราะในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่ภูเก็ตจำนวนมาก
ภูเก็ตรอเก้อ Duty Free Zone
สำหรับโครงการดิวตี้ฟรีโซน ที่ภูเก็ต ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสมัยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเคยมีนโยบายที่จะส่งเสริมให้ภูเก็ตเป็นดิวตี้ฟรีโซน ในการดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาภูเก็ต แต่โครงการก็เงียบหายไป ต่อมามีเอกชนจากส่วนกลาง คือ บริษัท "โรยัล สวัสดี จำกัด" ได้เช่าอาคารห้างฯลัคกี้คอมเพล็กซ์ ที่บริเวณสะพานหิน จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ปรับปรุงใหม่เพื่อเปิดเป็นศูนย์การค้าปลอดภาษี "สวัสดี ดิวตี้ฟรี พลาซ่า" บนเนื้อที่ 20 ไร่ เป็นอาคารสูง 6 ชั้น พื้นที่ 2.1 หมื่นตารางเมตร ใช้เงินลงทุน 400 ล้านบาท โดยคาดหวังว่าจะคืนทุนภายใน 5 ปี
โครงการ "สวัสดี ดิวตี้ฟรี พลาซ่า"แบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วน คือ โซนร้านจำหน่ายสินค้า โซนศูนย์แสดงสินค้าไทยส่งออก กลุ่มโอทอป และโซนพื้นที่ร้านค้าปลอดอากร ที่ตั้งเป้ายอดขายไว้ 600 ล้านบาทต่อเดือน โดยคาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาวันละ 10,000 คน แบ่งเป็นต่างชาติ 60% และนักท่องเที่ยวคนไทย 40% แต่ยังไม่ทันได้เปิด ก็เกิดเหตุการณ์สึนามิทำให้โครงการดังกล่าวต้องพับไปอีก เพราะในช่วงนั้นนักท่องเที่ยวเข้าภูเก็ตน้อยลง คนที่จะมาเช่าพื้นที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย จึงต้องปิดตัวโครงการ และคืนอาคารลัคกี้คอมเพล็กซ์ให้แก่อบจ.ภูเก็ต