xs
xsm
sm
md
lg

ที่แท้พวกเขาเป็นขบวนการลิงหลอกเจ้า

เผยแพร่:   โดย: ป.เพชรอริยะ

.
ผู้มีปัญญาโดยธรรมย่อมมองเห็นแนวคิด พฤติกรรมของพวกขบวนการรัฐธรรมนูญ พวกเขามีแนวคิดอันเลวร้ายทำลายชาติคือมรรควิธียกร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นระบอบประชาธิปไตย แต่ในท้ายที่สุดก็เป็นเผด็จการซ้ำรอยเดิมทุกครั้งไป ณ วันนี้พวกเผด็จการโดยรัฐธรรมนูญได้ขัดแย้งแบ่งเป็น 2 ขั้ว อีกไม่นานก็จะได้เห็นความขัดแย้งแย่งอำนาจกันอย่างหนักเป็นมิคสัญญีกลียุคซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะต่างก็ยึดมั่นถือมั่นอย่างแรงกล้าระหว่างรัฐธรรมนูญเผด็จการฉบับปี 2540 ฝ่ายหนึ่ง กับรัฐธรรมนูญเผด็จการฉบับปี 2550 จุดมุ่งหมายสูงสุดของผู้เขียนก็คือการให้สติ ให้ปัญญาโดยธรรมแก่ท่านผู้อ่านทั้งหลาย และหวังให้เกิดความถูกต้องเป็นธรรม โดยมีธรรมเป็นศูนย์กลาง มิใช่ความคิดอันเป็นปรัชญา ทั้งนี้ก็เพื่อความมั่นคงแห่งชาติเป็นสำคัญ โดยมิได้หวังอำนาจทางการเมือง

ทำให้เราระลึกนึกถึงนิทานดึกดำบรรพ์เรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ มีเรื่องเล่าว่าพระมหากษัตริย์หนุ่มพระองค์หนึ่ง ได้ทรงเถลิงถวัลย์ราชย์ขึ้นครองราชสมบัติแทนพระราชบิดาผู้เป็นกษัตริย์ที่มีคุณธรรมอันสูงส่ง และเป็นที่จงรักภักดีของไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินเป็นอันมาก

พระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระเยาว์ก็ได้ทรงอาศัยพระราชชนนีเป็นที่ปรึกษาราชกิจเกี่ยวกับการแต่งตั้ง (นักการเมือง) ข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ พระราชชนนีได้เปรยว่า จากประสบการณ์ในรัชสมัยพระบิดาที่ผ่านมาผลจากการแต่งตั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ (นักการเมือง) ตำแหน่งที่สำคัญๆ ส่วนใหญ่แล้วล้มเหลวตลอดรัชกาล เพราะนักการเมืองจะกี่รุ่นๆ และข้าราชการส่วนใหญ่ต่างก็ร่วมมือกันโกงชาติ ฉ้อราษฎร์บังหลวง พวกเขาถือเอาแต่ประโยชน์ตนและพรรคพวกเป็นใหญ่ บ้างก็ปัญญาอ่อน ดื้อตาใส จนทำให้ประเทศชาติยากจนและล้าหลังลงเป็นอันมาก

วันหนึ่งพระราชชนนีก็รับสั่งกับพระมหากษัตริย์หนุ่มว่า “ลูกอย่าได้ประมาท เราต้องดูให้ละเอียดรอบคอบเลือกแต่งตั้งนักการเมือง ข้าราชการที่เป็นมนุษย์ที่มีคุณธรรมจริงๆ อย่าไปเลือกเอาลิงให้มาทำหน้าที่สูงๆ สำคัญๆ ก็แล้วกัน”

พระราชชนนีทรงอธิบายเพิ่มเติมว่า “อันสัตว์ป่าที่เรียกว่าลิงนั้นมันเป็นเดรัจฉาน เลวร้ายนานาประการ มีสันดานหน้าไหว้หลังหลอก กลับกลอกปลิ้นปล้อนตลบตะแลง เล่ห์เหลี่ยมพลิกแพลงทุจริตไม่ซื่อต่อมิตร คิดคดทรยศต่อชาติ มีโอกาสก็กบฏล้างกษัตริย์ สารพัดที่มันจะเลวร้าย เหลือที่จะอธิบายได้หมดสิ้น”

ในอดีตการปกครองบ้านปกครองเมืองขึ้นอยู่กับบุคคล พระมหากษัตริย์นอกจากจะเป็นประมุขแห่งรัฐแล้ว ยังทรงเป็นองค์รัฐาธิปัตย์ มีอำนาจสิทธิ์ขาดสมบูรณ์โดยพระองค์เดียว แต่ก็มีจุดเด่นอยู่หลายประการ โดยเฉพาะพระมหากษัตริย์ไทย เช่น พระมหากษัตริย์จะดำรงไว้ซึ่งอำนาจโดยธรรม ตามหลักทศพิธราชธรรม10 ประการ อันเป็นหลักธรรมสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย หรือผู้ปกครองอันยิ่งใหญ่ ได้แก่

1. ทาน คือการให้ทั้งวัตถุทาน ธรรมทาน และอภัยทาน แก่พสกนิกร
2. ศีล การละเว้นจากความประพฤติที่ผิดทั้งปวง
3. ปริจจาคะ การบริจาคคือ เสียสละความสุขสำราญ เพื่อประโยชน์สุขของปวงชน
4. อาชชวะ ความซื่อตรงและเข้มแข็ง ที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง มีความจริงใจ
5. มัททวะ ความอ่อนโยน คือมีอัธยาศัยสุภาพต่อคนทั้งปวง
6. ตปะ ความเพียรพยายาม ที่จะเผาผลาญกิเลสที่อาจเกิดขึ้น
7. อักโกธะ ความไม่โกรธ คือ ไม่กริ้วกราด ไม่กระทำสิ่งใดด้วยอำนาจของความโกรธ
8. อวิหิงสา ไม่เบียดเบียนผู้อื่นทั้งทางตรงและทางอ้อม
9. ขันติ ความอดทน อดกลั้น ต่อสิ่งยั่วโลภะ โทสะ โมหะทั้งปวง
10. อวิโรธนัง ความไม่คลาดธรรม คือ วางองค์เป็นหลักแน่นในธรรม

และข้อดีอีกอย่างหนึ่ง คือ องค์พระมหากษัตริย์ ส่วนใหญ่ จะขอคำปรึกษาจากพระผู้ใหญ่ผู้ทรงธรรม ผู้มีปัญญา และในขณะเดียวกัน พระเจ้าอยู่หัว หรือข้าราชการผู้ใหญ่ กระทำการใดๆ ที่ไม่สมควร ไม่เป็นธรรมต่อประชาชน พระสงฆ์องค์เจ้าผู้มีปัญญา ก็สามารถแนะนำทักท้วงเปลี่ยนให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องได้ โดยไม่ยากนัก ทั้งนี้เพราะยังไม่มีรัฐธรรมนูญเป็นตัวยึดมั่นถือมั่น นั่นเอง

ส่วนในยุคปัจจุบันมี การปกครองแบบสมัยใหม่ ต้องสร้างหรือสถาปนาหลักการปกครองหรือระบอบขึ้นมาก่อน หลังจากที่พบว่าความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชนและระหว่างประชาชนด้วยกันเองเป็นไปในทางที่ดี ประเทศชาติมั่นคงดีแล้ว จากนั้นจึงได้ร่างรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาระบอบนั้นๆ ไว้ (พวกผู้ปกครองไทย ทุกชุดในช่วงเวลา 75 ปี พวกเขาไม่เคยมีปัญญาที่จะรู้ได้เลย) ดังกล่าวนี้ไม่ว่าจะเป็นประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา อินเดีย มาเลเซีย หลังจากสร้างประชาธิปไตยตามเอกลักษณ์ของประเทศนั้นๆ จะเห็นว่าประเทศดังกล่าวนี้ไม่เคยมีรัฐประหารเลยสักครั้งเดียว หรือแม้แต่ประเทศลาว หลังจากพรรคคอมมิวนิสต์ลาวได้รับชัยชนะในสงครามขับไล่ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกาเมื่อปี พ. ศ. 2518 จากนั้นก็ลงมือสร้างระบอบคอมมิวนิสต์ที่เหมาะสมกับประชาชนลาว ใช้เวลานานถึง 16 ปี จากนั่นรัฐบาลลาวก็ได้ร่างรัฐธรรมนูญในปี พ.ศ. 2534 เพื่อรักษาระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ลาวนั้นไว้ นับแต่ปี 2518 เป็นต้นมา ประเทศลาวไม่เคยมีรัฐประหาร นี่ก็แสดงให้เห็นว่าผู้ปกครองไทยมันขาดปัญญา สู้ไม่ได้แม้กระทั่งประเทศลาว

วกกลับมาที่นักการเมืองสันดานลิง (หลอกเจ้า) โกหกหลอกลวง บิดเบือน หรือว่าเพราะโง่เขลา เบาปัญญา ประเทศไทยจึงไม่สามารถข้ามพ้นแนวคิดการร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยของพวกผู้ปกครองสันดานลิง 75 ปี นักวิชาการสันดานลิง นักการเมืองสันดานลิง สื่อมวลผู้ขาดการศึกษาสันดานลิง จะได้เห็นได้ยินอยู่บ่อยมากต่างก็พร่ำเพ้อว่า “75 ระบอบประชาธิปไตยไทย” แต่มันก็น่าขำจริงๆ ให้ดิ้นตาย เราจะเห็นได้ว่าไม่ว่ากลุ่มมวลชนไหนๆ ก็ตาม ต่างก็เรียกร้องประชาธิปไตย กันแทบทั้งนั้น

เราเคยเห็นไหม ประเทศที่เขาสร้างระบอบประชาธิปไตยได้สำเร็จจริงๆ เช่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น เป็นต้น สังเกตง่ายๆ กลุ่มมวลชนประเทศเหล่านั้นไม่เคยลุกขึ้นมาเรียกร้องประชาธิปไตยเลย เพราะพวกเขาแก้ปัญหาประชาธิปไตยตกไปนานแล้วนั่นเอง

แต่สำหรับผู้ปกครองไทยนอกจากสันดานลิงแล้ว ยังเป็นทายาทอสูรรับมรดกแนวทางมิจฉาทิฐิ คือร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นระบอบประชาธิปไตย และอวดอ้างว่าเป็นประชาธิปไตยที่สุด ทั้งรัฐธรรมนูญฉบับปี 40 ที่ถูกฉีกไปแล้ว และรัฐธรรมนูญปี 50 ต่างก็บัญญัติบังคับให้ “ผู้สมัคร ส.ส. ต้องสังกัดพรรคอย่างน้อย 90 วัน” แค่นี้มันก็บ่งบอกให้เราทราบว่า แท้จริงมันเป็นระบอบเผด็จการ หมายความว่า “อำนาจอธิปไตยที่แท้จริงเป็นของปวงชน แต่ในทางปฏิบัติมันได้กลายเป็นว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของพรรคการเมือง” ส. ส. กลายเป็นทาสของนายทุนพรรค ต้องทำตามมติพรรค ใครไม่ทำตามถูกไล่ออกจากพรรค แล้วจะทำหน้าที่เพื่อปวงชนได้อย่างไร ในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ 20 นี้ ปวงชนไทยนับแต่ สูงสุดถึงระดับชาวบ้านตาสี ตาสา ยายมี ยายมา ก็ล้วนถูกพวกผู้ปกครองสันดานลิงหลอกเอาอีกแล้ว ท่านจะยอมให้หลอกอย่างซ้ำซากทั้งชีวิตกระนั้นหรือ

ลองคิดง่ายๆ คนโง่เขลาเบาปัญญา อยากได้อะไร พวกเขาก็จะมุ่งไปที่สิ่งนั้น หรือมุ่งไปที่ผล เช่น อยากได้เงิน ใจของคนโง่เขลาเบาปัญญาก็จะมุ่งไปที่เงิน โดยไม่คิดคำนึงว่าจะได้มาด้วยวิธีใดๆ ก็ตาม หรืออยากได้เกรด 4 ใจของคนโง่เขลาเบาปัญญาก็มุ่งไปที่ผล คือเกรด 4 โดยไม่คำนึงว่าจะได้มาด้วยวิธีใดๆ ก็ตาม เป็นต้น

ส่วนคนมีปัญญาต้องการได้เงิน ใจของคนมีปัญญาจะมุ่งไปที่เหตุ คืองานและความขยันมั่นเพียร อยากได้เกรด 4 ใจของคนมีปัญญาจะมุ่งไปที่เหตุ คือการขยันอ่าน ค้นคว้า วิเคราะห์ วิจัย

อีกนัยหนึ่ง ผู้อ่านพิจารณาความสัมพันธ์ตามกฎอิทัปปัจจยตา ต่อไปนี้อย่างแยบยล

1. “เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้ก็มี” หรือเมื่อมีเหตุ ก็ต้องมีผล คือถ้าเหตุดี ผลดี ถ้าเหตุชั่ว ผลชั่ว

2. “เพราะสิ่งนี้เกิดขึ้น สิ่งนี้ก็เกิดขึ้น” หรือ เมื่อเหตุเกิดขึ้น ผลก็เกิดขึ้น คือถ้าเหตุดีเกิดขึ้น ผลดีก็เกิดขึ้น และถ้าเหตุชั่วเกิดขึ้น ผลชั่วก็เกิดขึ้น

อีกนัยหนึ่งเหตุปัจจัยง่ายๆ ดังต่อไปนี้ ดวงอาทิตย์ต้องมาก่อน ดาวเคราะห์, ยุทธศาสตร์ต้องมาก่อน ยุทธวิธี, รัฐศาสตร์ต้องมาก่อน นิติศาสตร์, หลักการปกครองต้องมาก่อน วิธีการปกครอง, จุดมุ่งหมายต้องมาก่อน มรรควิธี, ระบอบต้องมาก่อน รัฐธรรมนูญ, อำนาจอธิปไตยต้องมาก่อน อำนาจการปกครอง, หลักนิติธรรมต้องมาก่อน การออกกฎหมาย, ระบอบการเมืองต้องมาก่อน ระบบเศรษฐกิจ, หลักนโยบายต้องมาก่อน นโยบาย, นโยบายต้องมาก่อน การดำเนินการและปฏิบัติ, พระราชอำนาจต้องมาก่อน อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร อำนาจตุลากร, หลักสัจธรรมต้องมาก่อน หลักปรัชญา วิทยาศาสตร์ ตรรกศาสตร์ ดังกล่าวนี้ ฉันใด

การสร้างการปกครองอย่างถูกต้องโดยธรรม หลักการปกครอง (ระบอบ) ต้องมาก่อน การยกร่างรัฐธรรมนูญ ฉันนั้น (ผู้เห็นด้วย ขอเชิญสมัครเป็นสมาชิกศึกษา สร้างสรรค์ปัญญา เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองโดยธรรม) ที่ Email: p_ariya_@hotmail.com

แต่ผู้ปกครองไทยชุดไหนๆ ใน 75 ปี ที่ผ่านมา พวกเขาล้วนร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นระบอบประชาธิปไตย ดุจเอาหัวเดินต่างเท้า อย่าได้หลงเข้าใจว่าพวกเขาเป็นผู้จงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แท้จริงพวกเขาเป็นเพียงสายพันธุ์ลิงหลอกเจ้า เพื่อประโยชน์ตนเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น