xs
xsm
sm
md
lg

เชือด"ภูมิธรรม"ทุจริต บทด.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สตง.ลงดาบ"ภูมิธรรม"ทุจริตกรณีจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่าง บทด.กับกลุ่มบริษัทเอกชน พ่วงสภากรรมการบทด. และรักษาการผอ. ติดร่างแหยกกระบิ เปิดโปงพฤติกรรมปล้นกลางแดด ผันสมบัติชาติเข้ากระเป๋ากลุ่มพวกพ้อง วางแผนร่วมมือและแบ่งหน้าที่กันทำอย่างเป็นขั้นตอนต่อเนื่อง บีบบทด.ห้ามแข่งขันกับเอกชน กำหนดสัดส่วนลงทุนจนทำให้ให้สิทธิอำนาจบริหารตกอยู่กับกลุ่มบริษัทเอกชนที่เป็นบุคคลกลุ่มเดียว และถือหุ้นไขว้กันไปมา ทั้งให้โอนสิทธิและผลประโยชน์ทั้งหมดให้บริษัทร่วมทุนก่อนวางหมากกล"แลกหุ้น" เพื่อเขี่ย บทด.ทิ้งในที่สุด แถมสภากรรมการและรักษาการผอ. ยังควักเงินสด 200 ล้าน ลงขันโดยไม่ฟังเสียงท้วงติง

วานนี้ ( 29 มิ.ย.) แหล่งข่าวจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยว่า สตง.ได้สรุปผลการตรวจสอบกรณีการอนุมัติให้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทไทยเดินเรือทะเล จำกัด กับกลุ่มบริษัทเจ้าของเรือไทย พบว่า มีการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อันเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มบริษัทเจ้าของเรือไทย และกรณีการจ่ายเงินชำระค่าหุ้น บริษัท บทด จำกัด ของบริษัทไทยเดินเรือทะเล จำกัด (บทด.) เป็นการกระทำที่มีเจตนาฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2548
 
สำหรับ กรณีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน สตง. เห็นควรให้ ดำเนินคดีกับบุคคลดังต่อไปนี้ 1.นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่รัฐ หรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา

2.สภากรรมการ บทด. ซึ่งประกอบด้วย พลเรือโท นิพนธ์ จักษุตุลย์, นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ, นายเมธี เกียรติก้องขจร, นายสุพจน์ คำภีระ, ดร.รุธิร์ พนมยงค์, นายบวร วงศ์สินอุดม, นายนันทชัย ประภาวัฒน์เวช, พลเรือตรี ทวีชัย บุญอนันต์ และนายสุวภัทร สุวรรณกิจบริหาร ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่บริษัท จำกัด และฐานเป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502

และนายทรงชัย อนุนันตกุล ผู้ช่วยกรรมการและเลขานุการ ในฐานเป็นผู้สนับสนุนพนักงานมีหน้าที่จัดการทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่บริษัท จำกัด และฐานเป็นผู้สนับสนุนพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502

สำหรับกรณีการจ่ายค่าหุ้นให้ บริษัท บทด จำกัด ของบริษัทไทยเดินเรือทะเล จำกัด เห็นควรดำเนินคดีกับสภากรรมการ บทด. ดังรายชื่อข้างต้น ในข้อหาความผิดเดียวกัน และ นายทรงชัย อนุนันตกุล ในข้อหาความผิดเดียวกันเช่นกัน

ในรายงานการตรวจสอบของ สตง. กรณีการจัดตั้งบริษัท บทด จำกัด ระบุการกระทำการทุจริตของกลุ่มบุคคลข้างต้นว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สภากรรมการ บทด. กรรมการและรักษาการผู้อำนวยการ บทด. และผู้ช่วยกรรมการ และเลขานุการสภากรรมการ บทด. ในขณะนั้น ได้มีการวางแผนร่วมมือกันและแบ่งแยกหน้าที่กันทำอย่างเป็นขั้นตอนต่อเนื่อง

โดยเริ่มตั้งแต่การแต่งตั้งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (นายภูมิธรรม) เข้ามาเป็นกรรมการในสภากรรมการ บทด. กำหนดนโยบายในการจัดตั้งกองเรือแห่งชาติ โดยการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่าง บทด. กับกลุ่มบริษัทเอกชน กำหนดกรอบในการจัดทำแผนการจัดตั้งกองเรือพาณิชย์ และมีการจัดทำแผนการจัดตั้งกองเรือพาณิชย์ ซึ่งมีเนื้อหาสาระสำคัญอันเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มบริษัทเจ้าของเรือไทย ทั้งสิ้น

กล่าวคือ 1) กำหนดให้มีการแก้ไขข้อบังคับของ บทด. แต่เพียงฝ่ายเดียว โดยกำหนดให้ บทด.ไม่สามารถประกอบกิจการค้าที่เป็นการแข่งขันกับบริษัทที่ บทด.เข้าไปถือหุ้น
 
2) กำหนดให้มีการจัดตั้งบริษัทระหว่าง บทด. กับกลุ่มบริษัทเจ้าของเรือไทย โดยมีสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 30 : 70 ทำให้อำนาจในการบริหารงานหรือสิทธิอำนวยการในบริษัทร่วมทุนตกไปอยู่กับกลุ่มบริษัทเจ้าของเรือไทย จำนวน 23 บริษัท ซึ่งแต่ละบริษัทล้วนแต่มีความสัมพันธ์กันในลักษณะมีการถือหุ้นไขว้กันไปมาระหว่างกัน และถือหุ้นโดยบุคคลกลุ่มเดียวกัน

3) กำหนดให้บริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งขึ้นเข้าไปซื้อหุ้นเต็มจำนวนในบริษัท คุณนที จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทเจ้าของเรือไทยที่เข้าร่วมทุนกับ บทด. โดยวิธีการแลกหุ้น หากสำเร็จจะทำให้ บทด. เหลือสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทร่วมทุนเพียงร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ในขณะที่กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท คุณนที จำกัด ซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มบริษัทเจ้าของเรือไทยที่เข้าไปร่วมทุนหรือไม่ก็เป็นผู้ถือหุ้นในกลุ่มบริษัทเจ้าของเรือไทย ซึ่งเป็นบุคคลกลุ่มเดียวกัน มีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทร่วมทุนสูงถึงร้อยละ 63

และ 4) กำหนดให้ บทด. ดำเนินการส่งมอบธุรกรรมและโอนสิทธิประโยชน์ในการขนส่งต่างๆ ของ บทด.ให้กับบริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งขึ้น ซึ่งสภากรรมการ บทด. ได้มีมติอนุมัติและเห็นชอบในเรื่องดังกล่าว และเสนอต่อนายภูมิธรรม ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ผู้มีหน้าที่กำกับดูแล บทด. ให้เสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรี ซึ่งนายภูมิธรรม ก็มิได้ทักท้วงหรือสั่งการให้ บทด. พิจารณาทบทวนแต่อย่างใด จนคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนตามที่เสนอ

ต่อจากนั้น จึงมีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้น โดยตั้งชื่อว่า บริษัท บทด จำกัด แล้วสภากรรมกรรมการ บทด. และผู้ที่เกี่ยวข้องก็ได้ทำสัญญาว่าจ้างบริษัท บทด จำกัด ให้เป็นผู้รับจัดการขนส่งสินค้าในทุกขั้นตอนให้แก่ บทด. โดยได้รับค่าจ้างสูงถึงเดือนละ 1,500 ล้านบาท ซึ่งถือได้ว่า บทด. ได้โอนธุรกรรมและสิทธิประโยชน์ในการขนส่งให้แก่บริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งขึ้นโดยปริยายนั่นเอง

ขณะเดียวกัน สภากรรมการ บทด. และผู้เกี่ยวข้องก็ได้ยุติการดำเนินธุรกิจของ บทด. โดยสิ้นเชิง โดยการโอนย้ายพนักงานที่สมัครใจไปทำงานที่บริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งขึ้น ส่วนพนักงานที่ไม่สมัครใจก็ให้ออกจากงานตามโครงการร่วมใจจาก

ส่วนกรณีการจ่ายเงินชำระค่าหุ้น รายงานผลการตรวจสอบของ สตง. พบว่า สภากรรมการ บทด. กรรมการรักษาการผู้อำนวยการ บทด. และผู้ช่วยกรรมการและเลขานุการสภากรรมการ บทด. ได้ร่วมกันดำเนินการเพื่อให้มีการจ่ายเงิน 200 ล้านบาท ชำระค่าหุ้นสามัญ บริษัท บทด จำกัด ทั้งที่เงินสดคงเหลือของบทด.ที่มีอยู่ภายหลังหักค่าใช้จ่ายและภาระผูกพันที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตไม่เพียงพอที่จะลงทุนในบริษัทร่วมทุนได้ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2548

ทั้งที่ได้รับการทักท้วงจากหลายฝ่าย ทั้งพนักงานกองบัญชีและกองการเงิน และผลประโยชน์ซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายโดยตรง รวมทั้งจากที่ปรึกษาระบบบัญชีที่ บทด. จ้างมาให้คำปรึกษาแนะนำ และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน การกระทำดังกล่าวของสภากรรมการ บทด. และพวก จึงเป็นการกระทำที่มีเจตนาฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 พ.ย.2548
กำลังโหลดความคิดเห็น